ธัญญ่ากัดฟันและเหวี่ยงไม้นั้นไปที่ไหล่ของเจตต์ “เธอจะเกาหลังให้ฉันเหรอ?” เจตต์คำราม “เธอคิดว่าการต่อสู้กับแจ็คสันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? หักกระดูกฉันเลย ฉันไม่ได้ช่วยเธอเพื่อให้พวกเราโดนจับได้นะ! เร็วเข้า!”ธัญญ่ารู้ว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูของอเลฮานโดร เจตต์จะต้องตาย กระดูกที่หักเทียบอะไรกับความตายไม่ได้เลย เธอฮึดสู้และตีเจตต์ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีโดยตั้งใจหลีกเลี่ยงหัวเขา “ได้ยัง? คุณเจ็บหรือเปล่า?” เธอตกใจจนอ้าปากค้างและจับที่หน้าท้องของเธอที่เจ็บเล็กน้อยจากการตีนั้น เจตต์ไม่ได้ตอบเธอ เขาคว้ากระปุกออมสินรูปหมูจากบนโต๊ะข้างเตียงของเธอและทุบมันใส่หัวตัวเอง เครื่องลายครามแตกเป็นชิ้น ๆ และหน้าผากของเจตต์ก็เริ่มเลือดออกทันที ธัญญ่าเบิกตากว้างจากความตกใจพลางเอามือปิดปากตัวเองไว้“ไป!”ธัญญ่าสั่นสะท้านจากเสียงคำรามของเจตต์ เธอเดินเซไปที่ประตูอย่างลำบากลำบน ขาของเธอเหมือนจะหมดแรง “คะ-คุณ… โอเคใช่ไหม? หนูจะไปแล้วนะ…” เจตต์โบกมือก่อนจะพิงกำแพงและจุดบุหรี่ธัญญ่ารวบรวมสติตนเองและรีบออกจากคอนโดราวกับว่ากำลังหนีจากความตายเจตต์มองดูผู้ชายสองคนที่นอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ เขาและพ่นควันบุหรี่ เขาโ
แจ็คสันไม่รั้งธัญญ่า ความยุติธรรมถูกกู้กลับคืนมาแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าธัญญ่าจะไปไหน เขาเพียงแต่ถามเธอว่ามีใครได้บังคับให้เธอทำสิ่งนี้ไหมเพราะเขารู้สึกว่ามันยากมากที่เธอจะลงมือทำทั้งหมดนี้อย่างไร้ที่ติคนเดียว แต่ในเมื่อเธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพ่อเด็ก เขาก็จะไม่ถามต่อ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกโล่งอก... ธัญญ่ากลัวเกินกว่าจะกลับบ้าน เธอจึงเดินเถลไถลข้างนอกอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจว่าเธอจะไปพบอเลฮานโดรเอง เธอรู้ว่าหากเธอไม่ทำเช่นนี้ ทั้งเธอและเจตต์คงจะไม่รอด นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงไม่ได้เปิดโปงอเลฮานโดรกับแจ็คสัน เธอจะต้องเก็บเรื่องนั้นไว้เพื่อความอยู่รอด ไม่อย่างนั้นความตายจะต้องมาเยือนเธอแน่นอน มือของเธอสั่นสะท้านเมื่อเธอโทรหาอเลฮานโดร เสียงที่เยือกเย็นดั่งปีศาจของเขาตอบมาว่า “หึ ช่างเป็นเซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง เธอติดต่อฉันเองจริง ๆ ด้วย”“คุณอยู่ที่ไหน?” เธอถามพลางรวบรวมความกล้าทั้งหมดของเธอ “ฉันต้องการพบคุณ”“อยู่ตรงนั้นและอย่าไปไหน” อเลฮานโดรกล่าวอย่างใจเย็น “ฉันจะส่งคนไปรับ”หลังจากที่วางสายธัญญ่าก็นั่งลงกับพื้นพลางสั่นสะท้าน เธอยังคงรวบรวมความกล้าของเธอต่อไป ไหน
ธัญญ่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนล่างของอเลฮานโดรพิการไม่ใช่เหรอ? แสดงว่าเขาหลอกหลวงมาโดยตลอดเลย! ร่างสูงของอเลฮานโดรดูเหมือนจะทำให้ทุกอย่างในห้องยิ่งมืดลง เขาเดินไปหาเจตต์และนั่งลงยอง ๆ “เห็นนั่นไหม? ผู้หญิงตัวเล็กอ่อนแอมาหาฉันเพื่อนาย มันรู้สึกอย่างไรเหรอ? พวกนายไม่ได้จะบอกฉันว่าพวกนายชอบกันใช่ไหม? พวกนายมีอะไรกันแค่สามครั้งเอง ฉันต้องใช้เวลาตั้งสามปีกว่าจะตกหลุมรักทิฟฟานี่ได้”เจตต์หายใจออกพลางส่งกลิ่นของเลือดออกมาด้วย “ผมผิดไปแล้วครับ… นายท่าน…” อเลฮานโดรตบหน้าเจตต์ที่เต็มไปด้วยเลือด “ดีแล้วที่รู้จักสำนึผิดหลังจากที่ทำผิด ไม่ต้องห่วง ชายแก่นั่นส่งนายให้มาคอยเป็นหูเป็นตาให้เขา ฉันจึงฆ่านายไม่ได้ง่าย ๆ หรอก เขาจะไม่มีวันยอมเสียตาของตัวเองแน่นอน บทเรียนนี้คงจะเพียงพอที่จะทำให้นายจำมันขึ้นใจแล้ว ไหนพูดสิธัญญ่า เธอต้องการอะไรจากฉัน? ทำไมฉันควรจะเชื่อว่าเธอจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้? ถ้าทิฟฟานี่รู้เข้าฉันจะเดือนร้อนมากเลยนะ…” ธัญญ่าลูบท้องที่แบนราบของเธอและพูดอย่างระมัดระวังว่า “ฉันสาบานว่าฉันจะไม่มีวันปริปาก ต่อให้ฉันต้องตายฉันก็จะไม่พูดอะไร! ฉันจะให้กำเนิดเด็กคนนี้ ถ้
แอเรียนปฏิเสธที่จะเชื่อว่าทิฟฟานี่ไม่ได้รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย “มีคนเคยพูดว่าต้องการที่จะคืนดีกับแจ็คสันไม่ใช่เหรอ? โอกาสนั้นถูกทำลายเมื่อธัญญ่าหลอกพวกเรา ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก ทำไมเธอถึงไม่คว้าโอกาสนี้ล่ะ? เธอจะรอให้ผู้หญิงคนอื่นมาแย่งเขาไปอีกเหรอ? นี่ ฉันมีลูกชายแล้วนะ ทำไมฝั่งเธอยังเงียบอยู่เลยล่ะ? ฉันหวังว่าเธอจะรีบมีลูกสาวกับแจ็คสัน พวกเราจะได้ให้ลูก ๆ แต่งงานกัน” ทิฟฟานี่ยิ้มและตอบว่า “พักก่อน พวกเทรมอนต์มีอิทธิพลอย่างมาก เธอจะบอกให้ฉันใช้เธอเพื่อเพิ่มฐานะทางสังคมให้ตัวเองเหรอ? ไม่มีใครสามารถรับประกันเรื่องท้องได้หรอก เธอก็บอกให้ลูกชายของเธอรอก่อนสิ! ตอนนั้นฉันยังบ้าบิ่นและหุนหันพลันแล่นอยู่ แต่ตอนนี้ฉันมีเหตุผลมากขึ้นแล้ว ฉันเคยบอกว่าฉันอยากจะกลับไปคบกับแจ็คสันเมื่อไหร่? ฉันต้องหัดสงวนตัวมากกว่านี้ ฉันเป็นผู้หญิงนี้น่า! เอาล่ะ ฉันไม่มีเวลาคุยนานเกินไป ในที่สุดวันนี้ผู้อำนวยการก็มอบหมายงานให้ฉันทำสักที ฉันจะต้องทำงานล่วงเวลา ฉันไม่มีเวลามาจ้อจี้ ไว้คุยกันนะ" เมื่อวางสายแอเรียนก็จ้องไปที่แอริสโตเติลและพึมพำว่า “งั้นเราก็คงต้องรอแล้วแหละ พวกเราเป็นผู้
เสียงน้ำที่กระเซ็นในห้องน้ำทำให้แอเรียนไม่สามารถกลับไปนอนต่อได้ เธอลุกขึ้นนั่งและเริ่มเล่นโทรศัพท์ตัวเอง แอริสโตเติล ซึ่งอยู่ถัดจากเธอ ยังคงหลับสนิท เขามีกระบวนท่านอนที่เกินจินตนาการไปมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าตัวน้อยจึงกินพื้นที่บนเตียงไปเยอะมาร์คออกมาจากห้องอาบน้ำและพบว่าแอเรียนนั่งอยู่บนเตียง “เป็นอะไร? นอนไม่หลับเหรอ?” เขาถามด้วยความประหลาดใจเธอมองเขาแล้วกลับไปเล่นโทรศัพท์ต่อ “อืม เดี๋ยวอีกสักพักฉันค่อยนอนต่อ วันนี้ฉันกับแอริสโตเติลเข้านอนกันเร็วมาก ตอนนี้ฉันเลยไม่ได้ง่วงขนาดนั้น ฉันว่าใกล้จะได้เวลาให้นมสมอร์แล้วด้วย เขาจะนอนไม่ได้ทั้งคืนถ้าเขาเข้านอนเร็วเกินไป ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นระหว่างธัญญ่ากับแจ็คสันเหรอ? ธัญญ่าสามารถทำมันได้อย่างไร้ที่ติได้อย่างไร? และเธอยังสามารถท้องได้จริง ๆ อีก ใครเป็นพ่อเหรอ?”มาร์คส่ายหัว "ฉันไม่แน่ใจ แจ็คสันถามธัญญ่าแล้วแต่หล่อนไม่ยอมบอก ไม่สำคัญหรอกว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกใครตราบใดที่เขาไม่ใช่ลูกของแจ็คสัน คืนนั้นธัญญ่าวางยาแจ็คสัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เธอสบายใจได้แล้ว เลิกกังวลได้แล้ว”เธอจำได้ว่าตอนนั้นจู่ ๆ เฮนรี่ก็เปิดประตูเข้ามาถ
เมื่อพวกเขาเข้าใกล้กันมากขึ้น แอเรียนก็ยอมจำนนอย่างสมบูรณ์ สักวันหนึ่งลูกชายของเธอจะต้องโตขึ้นและครอบครัวที่มีสมาชิกสามคนก็จะไม่สามารถนอนเตียงร่วมกันได้นานเกินไป เธอไม่อยากจะเสียโอกาสที่ได้อยู่ใกล้แอริสโตเติลเร็ว ๆ นี้ ถ้าเธอปฏิเสธเขา มาร์คก็จะพาสมอร์กลับไปที่ห้องของเขาจริง ๆเช้าวันรุ่งขึ้นแอเรียนถูกปลุกโดยมาร์คและแอริสโตเติล คนหนึ่งเตือนเธอว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว ส่วนอีกคนจ้องเธออย่างหิวกระหายพลางขอดื่มนมเธอยังคงง่วงมากเมื่อเธอให้นมลูกชาย แมรี่อุ้มเขาออกไปหลังจากที่เขาดื่มนมรอบเช้าเสร็จแล้ว และในที่สุดแอเรียนก็รู้สึกมีแรงพอที่จะลุกไปอาบน้ำเมื่อคืนเธอไม่ใช่คนที่เมาเสียหน่อย และเธอก็ไม่ใช่คนที่ออกแรงด้วย แล้วทำไมเธอถึงเหนื่อยกว่ามาร์คล่ะ? เธอบ่นในใจเมื่อเห็นว่ามาร์คดูมีพลังราวกับว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้เสียแรงเลยแอเรียนแต่งหน้าเบา ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองดูเหนื่อยเกินไป เธอได้หุ่นเก่าของเธอกลับมาหลังจากที่คลอดลูกแล้ว เธอจึงสามารถกลับมาใส่เสื้อผ้าเก่าของเธอได้อีกครั้ง แอเรียนจ้องมองภาพสะท้อนของเธอในกระจกและรู้สึกพอใจ อย่างน้อยเธอก็เป็นคุณแม่เต็มเวลาที่ไม่ได้ดูโทรมเกินไป เธอจะได้ไม่ถูกวิ
แสงยามเช้าส่องเข้ามายังฟผนังโรงแรม ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสว่างขึ้น อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จากสภาพอากาศในฤดูร้อน ทว่าแสงกลับจางลงเมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม ความร้อนก็ลดลงเช่นกันแอริสโตเติลจามเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในลิฟต์ และแอเรียนก็กอดเขาใกล้ชิดกว่าเดิม “อุณหภูมิในโรงแรมนี้ต่ำเกินไป มันแอบหนาวนิดหนึ่ง”มาร์คตอบกลับทันทีว่า “โรงแรมนี้เป็นของเรา เดี๋ยวฉันจะบอกให้พวกเขาปรับอุณหภูมิใหม่”'นี่เป็นของเราเหรอ?' แอเรียนตกใจ เพียงภายนอกของโรงแรมอย่างเดียวก็ดูค่อนข้างทรงเกียรติเมื่อเธอมาถึงแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว… อืม ตระกูลเทรมอนต์มีธุรกิจมากมายและครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมจริง ๆ เธอคงจะต้องชินกับเรื่องนี้เธอหยุดเดินกลางคันเมื่อพวกเขาก้าวออกจากลิฟต์ “เป็นไปได้ไหมว่าอีธานจะกลับมา? คุณพยายามจะฆ่าเขา ดังนั้นเขาเลยไม่ยอมเลิกสร้างปัญหาให้เรา แล้วแบบนี้เรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่? ตอนนี้เรามีลูกแล้วนะ มันต่างกันกับเมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่อยากให้ชีวิตของพวกเราต้องเสี่ยง…”มาร์คขมวดคิ้วราวกับว่าเขาเองก็กังวลเช่นกัน “อย่ากังวลเลย เธอมีฉันนี่ไง เรายังไม่แน่ใจเลย ดังนั้นอย่าเพิ
’มันไม่สำคัญ’คำตอบของแอเรียนทำให้ความเครียดของมาร์คผ่อนคลายลง เขาต้องการการอภัยจากเธอเพียงคนเดียว คนอื่นไม่สำคัญ เขาสนใจแต่ความคิดเห็นของเธอเท่านั้น แค่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเธอก็ดีเกินพอแล้ว“ไม่ใช่ว่าเราไม่มีจิตสำนึก” โซอี้ค้านอย่างอ่อนแรง “ก็แค่ว่า… คนลักพาตัวคนนั้นบอกว่า… คุณย่าเสียชีวิตหลังจากที่มาร์คไปเยี่ยมเขา และว่า… มาร์คอยู่เบื้องหลังการตายของเขา ฉันเองก็สงสัยอยู่ คุณย่าเป็นแค่โรคปอดบวมและมันไม่ควรทำให้เขาถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ มันช่างบังเอิญเหลือเกิน… ทำไม? เขามีโอกาสที่จะตายตั้งมาก… ฉันไม่ได้พยายามจะสื่อถึงอะไรนะ ท้ายที่สุดฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ฉันยอมรับว่าสามีที่โง่เขลาของฉันเป็นต้นเหตุที่ทำใหคุณย่าป่วย ฉันอยากจะหย่ากับเขามาโดยตลอด แต่ฉันทำไม่ได้… และครั้งนี้ลูกชายของฉันก็ถูกลักพาตัว ฉันถูกทิ้งให้ไม่เหลือทางเลือก ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ส่งจดหมายนั้นเหรอ? พ่อแม่ที่ไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองตาย?”แอเรียนพูดไม่ออก เธอจ้องไปที่โซอี้ สามีของเขาและลูกพี่ลูกน้องของเธอ แล้วเธอก็เงียบไป เขาเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัย เขายังเด็กมาก…ถ้าแอเรียนไม่ได้เป็นแม่
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง