ทิฟฟานี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกครั้งใหญ่ เธอหมดแรงจนต้องพิงกำแพงพลางหน้าซีด เธอรอจนกว่าตัวเองจะสงบสติลงก่อนที่เธอจะเริ่มหากุญแจและเข้าไปในบ้าน “ลูกได้คุยกับใครข้างนอกนั้นหรือเปล่า?” ลิเลียนถามอย่างงงงวย “แม่ได้ยินเสียงคนคุยกันแต่แม่ขึ้นเกียจลุกขึ้นไปดู ลูกคุยกับใครเหรอ?” “แค่บังเอิญเจอเพื่อนร่วมงานเก่าน่ะ เราก็เลยคุยกันนิดหน่อย หนูไปทำกับข้าวก่อนนะ” ทิฟฟานี่อธิบายโดยไม่เต็มใจนักที่คฤหาสน์เทรมอนต์เมื่อแอเรียนกลับไปถึงบ้าน มาร์คกับแอริสโตเติลก็กลับมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่เพิ่งจะพากันอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้เธอดูเหมือนแม่ที่ไร้ประโยชน์มาก มาร์คทั้งสามารถหาเงินและเลี้ยงลูกได้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อย เธอก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกของตนเองได้ “มานี่มาสมอร์ มาให้หม่ามี๊อุ้มหน่อยน๊า”มาร์คหลบเลี่ยงเธอด้วยความรังเกียจ “ไปอาบน้ำก่อน พวกเราเพิ่งอาบเสร็จ วันนี้ร้อนมากและเธอก็เหงื่อออกมาทั้งวันแล้ว…” นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ต่อว่าเธอ เธอเสียความรู้สึก “นี่คุณดุฉันเหรอ?” เขาจ้องเธออย่างใจเย็น “ทำไม? ฉันดุไม่ได้เหรอ? ฉันนึกว่าเธอชินกับมันไปแล้วซะอีก แต่ก่อนฉันดุเธออกจะบ่อย”
มาร์คไม่มีท่าทีว่าจะไปไหนเลย เขาถอดเสื้อของเขาออกก่อนที่จะเอื้อมมือไปนวดหลังที่นุ่มและเปลือยของเธอ “ฉันจะช่วยเธอ… แอริสโตเติลเริ่มหมดความอดทนแล้ว ถ้าฉันช่วยเธอจะได้เสร็จไว ๆ ไง” บรรยากาศในห้องน้ำที่ชื้นนั้นเริ่มเปลี่ยนไป แอเรียนก้มหน้าโดยไม่กล้าสบตาเขา เธอยังคงไม่ชินที่จะต้องยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างโป๊เปลือย โดยเฉพาะเมื่อเธอเพิ่งจะคลอดลูกเมื่อไม่นานมานี้ หุ่นเธอไม่ได้กระชับอย่างที่มันเคยเป็น โดยเฉพาะส่วนหน้าท้อง “ไม่ต้อง ฉันอาบน้ำเร็วมาก คุณออกไปเถอะ ฉันไม่ชินจริง ๆ นะ…”เขาเอื้อมมือไปจับคางเธอและบังคับให้เธอต้องหันหลังมามองเขา “เธอหมายความว่าอะไร? ถ้าเธอยังไม่ชิน เธอก็จะต้องทนจนกว่าเธอจะชิน ฉันเป็นสามีของเธอนะ ทำไมฉันจะมองเธอไม่ได้?” สายตาที่จริงจังของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของแอเรียนและเธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอถูกดึงเข้าไปในภวังค์ ริมฝีปากบางและอ่อนโยนของเขาดูเซ็กซี่และน่าดึงดูดยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในห้องน้ำที่มีหมอก เธอสามารถมองเห็นโครงร่างของกล้ามเนื้อเขาตรงหน้าเธอได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันทำให้จิตใจของเธอพุ่งซานไปครึ่งจังหวะราวกับว่าเธอไม่สามารถใช้งานมันได้ในขณะนั้นเมื่อเธอฟื้นคืนสติ
มาร์คจูบแอเรียนก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบแล้วเลื่อนลงไปจูบที่คอของเธอ เธอไม่สามารถลืมตาได้ เธอจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป ที่น่าเจ็บใจก็คือ สุดท้ายมาร์คก็ได้ในสิ่งที่เข้าต้องการ เธอเริ่มจะส่งสัยแล้วว่าเขาจงใจให้แอริสโตเติลฉี่ใส่เขา...เสียงหอบและเสียงหายใจเริ่มรุนแรงขึ้นท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัว ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก่อนที่ทุกอย่างจะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติแอเรียนหน้าแดงระหว่างที่เธอใส่เสื้อผ้าด้วยความเขินอายเกินกว่าจะสบตามาร์ค“ช่วงนี้อากาศร้อนและในห้องน้ำก็ชื้นมาก เพราะฉะนั้นอย่าอาบน้ำนานเกินไปล่ะ” แมรี่เตือนเธอ “เดี๋ยวจะเป็นลมเอาได้นะ คุณไม่ได้ปั๊มนมทั้งวันเลย เต้านมไม่คัดเหรอ? ไปเถอะ ได้เวลาป้อนนมแอริสโตเติลแล้ว โอ้ คุณเอาเขาไปป้อนนมก่อน ฉันจะไปเตรียมกับข้าว” แอเรียนพยักหน้าและอุ้มแอริสโตเติลไปที่ห้องเขาเพื่อให้นม ตอนแรกเต้านมเธอคัดมาก คัดมากจนเธอเจ็บทุกครั้งเมื่อถูกสัมผัส ทว่าตอนนี้มันกลับไม่ค่อยคัดเท่าไหร่แล้ว...ไม่นานนักมาร์คก็เดินเข้ามาในห้องนอนของลูก เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาหยอกแอริสโตเติลเล่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากความครื้นเครงอย่างรุนแรงในห้องน้ำเมื่อ
แอเรียนถอนหายใจ “ช่างมันเถอะ ทำเป็นไม่รู้ดีกว่า ให้แจ็คสันเขาจัดการเอาเอง จากนี้ไปเธอก็พยายามหลีกเลี่ยงธัญญ่าซะ สิ่งที่หล่อนเจออยู่เป็นเพราะหล่อนทำตัวหล่อนเองทั้งนั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราอยู่แล้ว”น้ำเสียงของทิฟฟานี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “เธอพูดถูก มันไม่ใช่เรื่องของเรา ฉันไม่อยากนึกถึงมันแล้ว แม่แจ็คสันกำลังโทรมา พรุ่งนี้ฉันต้องไปลงชื่อเข้าทำงานที่บริษัทเขาที่เซาธ์ พาร์ก มันไกลมาก แต่นั่นก็หมายความว่าฉันจะไม่ต้องเจอใครที่ทำให้ฉันหงุดหงิด มันจะช่วยให้ฉันลืมเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะ ธัญญ่าน่าจะกลัวเกินกว่าจะไปเจอเธอ แต่ถ้าหล่อนไป เธอก็เมินหล่อนไปได้เลย ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าหล่อนโกหกเรื่องที่หล่อนร่างกายไม่แข็งแรงพอและจะท้องไม่ได้ถ้าหล่อนเอาเด็กออก หล่อนแข็งแรงจะตาย! ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันจะไปนอนก่อนนะ ไว้ฉันโทรหาเมื่อฉันไปถึงที่โน้นและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อ้อ และเดี๋ยวเสาร์อาทิตย์ฉันจะมาเที่ยวหานะ” แอเรียนวางสาย มาร์คมองออกว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงถามว่า “เป็นอะไร? ทำไมไม่กินอะไรเลยล่ะ?”แอเรียนส่ายหัว “ช่างมันเถอะ ถ้าฉันต้องนึกถึงมันอีกมันจะทำให้ฉันยิ่งหงุดหงิดเท
เอมี่เลิกวิจารณ์ทิฟฟานี่ คงอาจเป็นเพราะมันสายมากแล้ว “สำหรับวันนี้เธอก็ไปทำความคุ้นเคยกับที่ทำงานใหม่ของเธอก่อนแล้วกัน เธอจะทำงานกับฉัน โต๊ะของเธอก็พร้อมแล้ว อยู่ข้างหลังเธอ ซ้ายมือ”ทิฟฟานี่หันหน้าไปทางซ้ายเพื่อสำรวจดูแล้วเธอก็แปลกใจมาก ทำไม่หัวหน้าแผนกถึงได้นั่งทำงานกับผู้อำนวยการ? โต๊ะทำงานของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องโดยหันหน้าเข้าหาโต๊ะของเอมี่ และมิหนำซ้ำมันยังถูกตกแต่งเหมือนกับของเอมี่อีกด้วย ในบริษัทเครือนี้หัวหน้าแผนกถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงเหรอ? “เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นหัวหน้าแผนก ตำแหน่งของเธอคือผู้ช่วยผู้อำนวยการ” เอมี่อธิบายราวกับว่าเธอเข้าใจความมึนงงของทิฟฟานี่ “ฉันรู้ว่าเธอยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก ดังนั้นฉันจะช่วยเธอและเป็นที่ปรึกษาให้เธอเอง คุณเวสต์เขาสั่งมาอย่างนั้น” ผู้ช่วยผู้อำนวยการเหรอ? เธอไม่ได้มาเพื่อเป็นหัวหน้าแผนกหรอกเหรอ? ทิฟฟานี่ตื่นตระหนก ถ้าแจ็คสันรู้เข้าว่าเธอได้มาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการที่บริษัทในเครือของเขา เขาจะต้องบ้าคลั่งแน่ ๆ! เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้เก่งพอที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ ทีนี้เธอรู้แล้วว่าซัมเมอร์ได้จัดการทั้งหมดไว้แล้วและเพียงหลอกเธอ
ทิฟฟานี่จ้องมองเพดานและตอบอย่างสงบว่า “หนูขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง มันเป็นความผิดของหนูเอง… มันไม่ใช่ความผิดของแจ็คสันเลยค่ะ” หากเพียงแต่ว่าเธอไปหาแจ็คสันเร็วกว่านั้น ธัญญ่าก็จะไม่เหลือโอกาสได้ทำอะไรเลย ทิฟฟานี่ต่อว่าตัวเองเพราะเรื่องนั้นไม่รู้กี่หนแล้ว ทว่าโชคไม่ดีที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว แล้วแบบนี้เธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ? ซัมเมอร์เป็นคนประเภทที่จะไม่ล้ำเส้นใคร เธอพูดถึงเรื่องนี้เพียงเพราะเธอมั่นใจว่าทิฟฟานี่รู้แล้ว เธอไม่อาจสามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้ได้ เพราะเธอไม่ต้องการรู้สึกเหินห่างกับทิฟฟานี่ “งั้นเราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่า พักผ่อนให้เต็มที่นะ พรุ่งนี้เธอจะได้มีแรงลุยงาน ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาหาฉันได้ตลอดนะ เธอก็เหมือนลูกสาวฉันมาเสมอ หากฉันจะต้องตีเธอหรือแจ็คสัน ฉันจะเลือกตีแจ็คสัน ราตรีสวัสดิ์จ่ะ” หลังจากที่วางสายทิฟฟานี่ก็ส่งข้อความบอกแอเรียนว่าเธอมาถึงโดยสวัสดิภาพแล้ว เธอเหนื่อยมาก คงจะเป็นเพราะเธอออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นเธอจึงไม่สนที่จะทานข้าวเย็นก่อนแต่กลับหลับไปอย่างรวดเร็วณ คฤหาสน์เทรมอนต์แอเรียนสบายใจเมื่อเห็นข้อความของทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ที่หนังหนาและแข็งแกร่งที่
ทนายความยิ้ม “คุณช่างมีวิธีขู่เขิญที่พิเศษจริง ๆ นะครับ ค่อนข้างกล้าเลยนะ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เซ็นสัญญานี้ งั้นผมขอแจ้งขั้นตอนการเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเด็กให้คุณทราบเลยนะครับ ก่อนอื่น คุณจะต้องพิสูจน์ว่าคุณเวสต์เป็นพ่อของลูกคุณจริง ๆ จากนั้นคุณจะต้องยื่นอุทธรณ์ค่าเลี้ยงดูเด็ก ถ้าคุณเวสต์ปฏิเสธ กระบวนการนี้ก็จะยืดเยื้อไป คุณเป็นผู้หญิงที่อยู่คนเดียวตามลำพังและไม่มีรายได้ คุณสามารถผ่านการตั้งครรภ์นี้ไปได้จริงเหรอ? ลองคิดอย่างระมัดระวังดูนะครับ ผมขอตัวกลับก่อน” ธัญญ่ากวาดแก้วบนโต๊ะกาแฟลงบนพื้นอย่างโกรธจัดขณะที่มองดูทนายความเดินจากไป เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้กำเนิดเด็กคนนี้ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเธอจะไม่ได้อะไรจากมันก็ตาม เธออาจจะตัวคนเดียวแต่เธอไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ตราบใดที่เด็กคนนี้ยังอยู่… ตราบใดที่เธอยืนกรานว่าเขาเป็นของแจ็คสัน เวสต์ มันก็จะเป็นหนามในใจทิฟฟานี่ เลนเสมอ ถ้าเธอไม่ได้แจ็คสัน ทิฟฟานี่ก็จะไม่มีวันได้เขาเช่นกัน! การอยู่รอดของธัญญ่าไม่ใช่ธุระกงการอะไรของใคร!นอกจากนี้… ตราบใดที่เธอมีลูกคนนี้ แจ็คสันอาจจะสำนึกได้ในวันใดวันหนึ่งและยอมรับเธอและลูกด้วยความเต็มใจ…ทนายความโทรหาแ
ซัมเมอร์ไปถึงที่พักของธัญญ่า แน่นอนว่าเธอจะไม่แสร้งทำเป็นสงบ เธอเคาะประตูจนกว่าธัญญ่าจะเปิดก่อนจะวางเงินสด $30,000 ต่อหน้าหล่อน “$30,000 นับเอาเอง มันเพียงพอสำหรับค่าเอาเด็กออกและโภชนาการที่เธอจำเป็นต้องได้รับหลังจากนั้นด้วย” ธัญญ่าจ้องไปที่กองเงินบนโต๊ะและรู้สึกราวกับว่าศักดิ์ศรีของเธอถูกดูถูกอย่างมากที่สุด “คนรวยย่อมชอบใช้เงินเพื่อดูถูกคนอื่นจริง ๆ ว่าไหม? หนูอาจจะจน แต่หนูยังมีศักดิ์ศรีอยู่”“โอ้ จริงเหรอ?” ซัมเมอร์ยิ้มเยาะเย้ย “ไหนล่ะศักดิ์ศรีของเธอ? ทำไมฉันถึงไม่เห็นเลยนะ? ผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีจริง ๆ ไม่มีวันไปหาผู้ชายกลางดึกกลางดื่นและจะไม่มีวันฉวยโอกาสจากคนอื่นหรือขู่คนอื่นเพื่อเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเด็กหลังจากที่ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจหรอก ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุและเอาเด็กนั้นออกโดยไม่ลังเลเลย นั่นต่างหากที่เรียกว่าศักดิ์ศรี! ศักดิ์ศรีของเธอไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเธอเลย แล้วแบบนี้เธอจะให้คนอื่นเคารพเธอได้อย่างไร?” “ทำไมคุณถึงมั่นใจนักว่ามันเป็นเพียงอุมัติเหตุ?” ธัญญ่าเถียง “คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าหนูฉวยโอกาสคนอื่น? ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง