แมรี่รู้ตัวว่าได้เวลาที่เธอจะต้องออกไปแล้ว เธอจึงพูดว่า “ฉันจะไปเอาอาหารให้แอริก่อนนะ พวกเธออยู่ต่อและเม้าท์มอยกันเลย และไหน ๆ พวกเธอก็อยู่ที่นี่แล้วฉันฝากดูแอริระหว่างที่ฉันไม่อยู่ด้วยนะ แล้วฉันจะรีบกลับมา” ทิฟฟานี่พยักหน้า “ไม่ต้องห่วงค่ะ ธัญกับหนูจะรออยู่ที่นี่”หลังจากที่แมรี่ไปแล้ว บทสนทนาระหว่างเพื่อนสาวสามคนก็สงบลง ทิฟฟานี่เอื้อมมือออกมาวางบนหน้าอกแอเรียน “ว้าว! แสดงว่าการคลอดลูกก็มีประโยชน์ของมันเองเหมือนกันนะเนี่ย การแตกสาวครั้งที่สองของเธอนี้โหดมาก!” แอเรียนถึงกับพูดไม่ออก “เธอไม่รู้หรอก… คอยดูวันที่เธอมีลูกเองก็แล้วกัน มันแค่ดูใหญ่ขึ้น แต่พอตอนปั๊มนมมันเจ็บราวกับกำลังตกนรกทั้งเป็นเลยแหละ” ทิฟฟานี่ถึงกับต้องหัวเราะคิกคัก เธอดึงเสื้อผ้าทารกชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เธอซื้อมาให้ออกมา “ไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนั้นหรอก ฉันซื้อพวกนี้มาให้ลูกเธอเพื่อที่เขาจะได้ใส่มันหลังจากที่เขาอายุครบหนึ่งเดือนก่อน ถึงตอนนั้นเขาน่าจะใส่มันได้พอดี ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย ฉันก็เลยเลือกสีฟ้าอ่อน น่ารักไหมล่ะ? ตอนแรกฉันคิดว่าเสื้อผ้าเด็กทารกจะต้องราคาถูก แต่จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างแพงเลยแหละ! เด็กทารกมักเติบ
แอเรียนชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “ฟังนะทิฟฟ์ เธอและฉันแตกต่างจากธัญ เรารู้จักกันมายาวนานและผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย เราจึงคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่หล่อนไม่ได้ผ่านมันมาทั้งหมดกับเธอนะ เพราะฉะนั้น เธอจะต้องคำนึงถึงความรู้สึกของหล่อนด้วย เข้าใจไหม? โดยเฉพาะเพราะตอนนี้เธอสองคนอาศัยอยู่ด้วยกัน เธอจะต้องกรองคำพูดตัวเองบ้างนะทิฟฟ์” ทิฟฟานี่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมไปหน่อย “แต่หล่อนก็เป็นเพื่อนสนิทฉันเหมือนเธอเลย เราเคยอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นเพราะเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? ไม่เห็นจะต้องมีกำแพงระหว่างกันขนาดนั้นเลย ถูกไหม? หรือฉันพูดเกินจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา?” แอเรียนไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ว่านั่นคือความจริง แต่เห็นได้ชัดจากปฏิสัมพันธ์ของพวกเธอเมื่อกี้ว่าธัญญ่าไม่มีวันตอบสนองได้เหมือนกับที่แอเรียนจะทำหากเธอเป็นธัญญ่า ตอนนั้นเองที่ประตูห้องของเธอก็ถูกเปิดออกและเผยให้เห็นโครงตรงที่สูงตระหง่านของมาร์ค “พวกคุณคุยเรื่งอะไรกัน?”เขาสวมสูทธุรกิจเช่นเคย แต่เขาก็ยังดูสดใสทุกครั้งที่เขามาปรากฏตัวทิฟฟานี่หัวเราะคิกคัก “แหม ๆ นี่คุณสนใจเรื่องที่ผู้หญิงเขาคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ หืม?” เธอเหน็บ
มาร์คขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยัง เรายังหาพวกเขาไม่เจอ ซึ่งทำให้ข้อสงสัยที่ว่ามีคนอื่นอยู่เบื้องหลังและคอยสั่งการพวกเขาน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะทำให้แน่ใจว่ามันถูกจัดการอย่างดี”แอเรียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม“แล้ว… เราจะทำยังไงเมื่อเจอพวกเขา?”ความกังวลใจของเธอชัดเจนมากจนมาร์คต้องเม้มปากก่อนจะตอบว่า “ทำในสิ่งที่พวกเขาทำทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหลานสาวของพวกเขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ และด้วยเหตุนี้ ก็เลยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง นั่นคือความผิดของพวกเขา ที่แย่ไปกว่านั้น พวกเขาคือลุงและป้าของเธอเรื่องนี้ไม่สามารถให้อภัยได้แม้ว่าพวกเขาจะทำมันภายใต้การถูกข่มขู่ แน่นอนว่าฉันจะไม่ให้อภัยคนคุมหุ่นเชิดที่เข้าใจยากที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้เช่นกัน ตอนนี้ฉันเข้าใจความกังวลของเธอแล้วแอริ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าบทบาทของป้าเธอจะนิ่งเฉยและถูกบังคับ เราอาจจะเชื่อได้ว่าถ้าหากมีโอกาสเขาคงจะเลือกปฏิเสธที่จะทำอย่างนี้ แต่ลุงเธอนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง เขาทำมันได้โดยไม่แม้แต่จะกระพริบตา ฉันจะลงโทษพวกเขาตามความเหมาะสมเอง”แ
เมื่อพวกเขาไปถึงที่โรงแรม เด็กทารกก็ต้องอยู่ในการดูแลของแมรี่เนื่องจากแอเรียนและมาร์คจะต้องเดินทักทายแขกผู้มีเกรียรติทั้งหลายก่อน การฟื้นตัวของแอเรียนหลังจากการตั้งครรภ์นั้นค่อนข้างน่าทึ่ง วันนี้เธอสวมชุดเดรสสีขาวแสนสวยที่ประดับประดาด้วยศิลปะการกระเซ็นของสีดำ มันรัดรูปของเธอมากพอที่จะแสดงถึงความพิเศษและความโค้งมนของรูปร่างเธอ หากแมรี่ไม่ได้อุ้มลูกของแอเรียนและเดินตามเธอในทุกย่างก้าวคงจะไม่มีใครรู้ว่าเธอเพิ่งคลอดลูกแขกส่วนใหญ่เป็นเจ้าสัวและบุคลากรจากธุรกิจต่าง ๆ และไม่มีใครคุ้นเคยกับแอเรียน ทว่าเธอยังคงเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในดวงตาที่ติดตามเธองานแต่งงานของมาร์คกับแอเรียนไม่ได้โอ้อวดอย่างเอิกเกริก แม้ว่าการแต่งงานจะได้รับการเผยแพร่ แต่ผู้คนก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมภรรยาของท่านเทรมอนต์ผู้โด่งดังจึงได้รับความสนใจและเอิกเกริกเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อทารกเกิด ทันใดนั้น ครอบครัวเทรมอนต์ก็ได้จัดงานเลี้ยงอันโอ่อ่าเพื่อเป็นเกียรติแก่ทารกแอเรียนไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาคิดแม้แต่น้อย ด้วยแขนของเธอที่ควงแขนมาร์ค พวกเขาก็เดินรอบงานพลางยิ้มแย้มแจ่มใส่ เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจของเธอ เธอก
ภายในกล่องของขวัญเล็ก ๆ ของทิฟฟานี่มีสร้อยข้อมือทองคำที่ละเอียดอ่อนคู่หนึ่ง ในขณะที่ของธัญญ่ามีจี้ทองคำที่สลักราศีของหนุ่มน้อยผูกไว้กับเชือกสีแดงหลังจากที่ดูของขวัญเหล่านั้นแล้ว แอเรียนก็จิ้มแก้มที่บวมของแอริสโตเติลและพูดออกมาว่า “ขอบคุณคุณน้าทั้งสองสิที่รัก เมื่อโตขึ้นลูกจะต้องจำพวกเขาไว้นะ โอเค้? พวกเขาจะรักลูกมาก ๆ!"วิกกี้ที่สังเกตเห็นความขบขันจึงลุกขึ้นแล้วส่ายก้นของเธอมาทางพวกเขา วันนี้เธอแต่งตัวสวยหรูมาก ตรงกันข้ามกับการแต่งตัวที่เรียบง่ายเมื่อเธอพบกับทิฟฟานี่และธัญญ่าครั้งแรก บัดนี้เธอช่างน่าตื่นตาตื่นใจกับความวิจิตรที่งดงาม“โอ้ พวกคุณมาถึงแล้วเหรอ?… อ่า นี่คงเป็นคุณหญิงเทรมอนต์สินะคะ! ยินดีที่ได้พบคุณ ฉันเป็นแฟนของเอริก! นี่ ริคกี้และฉันซื้อของขวัญชิ้นเล็กชิ้นนี้มาให้ที่รักตัวน้อยค่ะ อุ๊ย ดูสิ เขาน่ารักมาก!”แอเรียนได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับวิกกี้ นาดาลินจากทิฟฟานี่แล้ว ดังนั้นเธอจึงตอบหล่อนด้วยรอยยิ้มที่สุภาพในขณะที่แมรี่รับของขวัญแทนเธอวิกกี้พิจารณามองดูธัญญ่าแล้วเย้ยหยัน “ถามจริง? เธอแต่งชุดอะไรของเธอเนี่ย? เธอไม่ได้คิดว่าเธอกำลังจะออกไปจ่ายตลาดใช่ไหม?”สีหน้า
การมีจำนวนผู้คนในบ้านเพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้คฤหาสน์เทรมอนต์มีชีวิตชีวามากขึ้นเลย แต่กลับกลายเป็นเหมื่อนว่าชีวิตชีวาในบริเวณบ้านได้ถูกดูดหายไปหมดแทนทิฟฟานี่ ซึ่งอยู่ข้างธัญญ่าอย่างมั่นคง ไม่แม้จะพยายามซ่อนความเกลียดชังของเธอที่มีต่อวิกกี้ และเมื่อรวมกับแจ็คสัน ในบ้านจึงเหมือนกับว่ามีความตึงเครียดลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลาวิกกี้ไม่หงุดหงิดแม้แต่นิดเดียว เธอกลับเข้าไปร่วมในกลุ่มของผู้ชายอย่างสบายใจและพูดคุยกับพวกเขาอย่างเพลิดเพลินพลางทำให้ตัวเองดูเหมือนดวงอาทิตย์ในขณะที่คนอื่น ๆ เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวเธอผู้หญิงที่ทำตัวราวกับว่าตัวเองรู้จักทุกคน ทั้งคนแปลกหน้าและเพื่อนของเพื่อน มักจะดึงความโกรธจากบางคนออกมาได้เสมอ แต่วิกกี้กลับแสดงด้านที่ร้ายกาจเป็นพิเศษเมื่อเธอคอยสั่งแมรี่ ซึ่งกำลังดูแลแอริสโตเติลอยู่ ให้ทำโน้นนี้ราวกับว่าเธอเป็นเมียน้อยของบ้าน “ขอโทษนะ แมรี่ แต่ช่วยทำน้ำผลไม้ให้ฉันสักแก้วได้ไหม? ฉันไม่ชอบดื่มชา”แมรี่ยอมทนหล่อนเพียงเพราะเธอเคารพเอริก “ฉันไม่ว่างจ่ะที่รัก ฉันกำลังดูแอริสโตเติลอยู่ แต่ในครัวมีคนอยู่นะ คุณไปขอความช่วยเหลือจากเขาได้เลย อันที่จริง คุณสามารถไปหาน้ำดื่มเ
ทิฟฟานี่เบือนหน้าหนีทั้งน้ำตา แจ็คสันเมินเธอตั้งแต่แรกเริ่มพลางทำตัวสนิทสนมกับแฟนสาวของเพื่อนสนิทแทน! ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็คว้ากระเป๋าถือและพูดกับแอเรียนว่า “แอริ เรายังมีเวลาก่อนอาหารค่ำเหลืออยู่ วันนี้อากาศดีมากด้วย เราไปช้อปปิ้งกันดีไหม? แมรี่ดูแลลูกให้เธอได้ เธอเตรียมน้ำนมไว้อยู่แล้วหนิ”ผู้หญิงทุกคนชอบช้อปปิ้งและแอเรียนก็ไม่ได้ต่างอะไร เธอจึงตกลงอย่างง่ายดาย "นั้นเป็นความคิดที่ดี เธอชวนธัญด้วย ไปรถคันเดียวกันเลยไหม? วันนี้เธอขับรถมาไม่ใช่เหรอ? ไปรถเธอกันเถอะ…”ก่อนที่แอเรียนจะทันได้พูดจบ ทิฟฟานี่ก็ตอบเธออย่างแข็งทื่อ “นั่นไม่ใช่รถฉัน ถึงเวลาที่จะส่งมันคืนเจ้าของจริงของมันแล้ว ให้ฉันยืมรถของสามีเธอส้กคันดีกว่า”รอยยิ้มของแจ็คสันกระตุกวูบ หลังจากที่คบกับทิฟฟานี่มาเป็นเวลานาน เขายังคงรับรู้ได้ทุกครั้งที่ทิฟฟานี่โกรธเขา เธอขับรถของเขามาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และตอนนี้เธอกลับยืนกรานที่จะคืนรถให้เขา นั่นฟังดูไม่ดีเลย…ดูเหมือนแอเรียนจะสังเกตอะไรบางอย่างและพยักหน้าก่อนที่เธอจะขึ้นไปชั้นบนและขอกุญแจรถคันใดคันหนึ่งจากมาร์ค เธอยังถูกบังคับให้พกบัตรเอทีเอ็มติดตัวไปด้วยเมื่อพวกเขาออกไป เอร
ทิฟฟานี่ให้สัญญาณมือว่า "โอเค" "ไม่มีปัญหา ชื่อเล่นของลูกชายเธอควรจะเป็น 'สมอร์' นะ! น่ารักดีออก”สมอร์ ข้าวปั้น ทารกและแมว เจ้าตัวน้อยทั้งสองเป็นผู้กอบกู้ของแอเรียน ตาข่ายดักฝันที่มีขี้เถ้าของข้าวปั้นคอยปกป้องเธอจากฝันร้ายมาตลอด สมอร์ก็น่าจะอ่อนโยนเหมือนกันพวกผู้หญิงไม่เสียเวลาที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อทุกอย่างที่ตนชอบ ไม่นานหลังจากนั้น มือของทั้งสามคนก็เต็มไปด้วยถุงช้อปปิ้งทันใดนั้น โทรศัพท์ของทิฟฟานี่ก็ดังขึ้น เธอตอบมันด้วยมือข้างเดียวอย่างลำบากลำบน "ฮัลโหล?""ช้อปปิ้งอยู่เหรอ?" เสียงแหบแห้งและชัดเจนของอเลฮานโดรตอบเธอ“คุณแอบติดกล้องไว้ที่ฉันหรืออะไร?” ทิฟฟานี่ถามด้วยความตกใจอเลฮานโดรหัวเราะคิกคัก “ฮิฮิ… ไม่เชิง เจตต์กำลังไปซื้อของให้ผมและเห็นคุณที่ห้างสรรพสินค้า ผมได้ข่าวมาว่าเพื่อนของคุณเพิ่งจะจัดงานเลี้ยงครบ 1 เดือนให้ลูกเขา ผมจก็เลยส่งของขวัญไปในนามของคุณ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”ทิฟฟานี่รู้สึกประหลาดใจ “ให้ของขวัญอีกแล้วเหรอ? แต่ฉันไม่เห็นคุณนะ คุณอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า?”“เปล่า ผมไม่ได้ไป” อเลฮานโดรตอบอย่างเป็นกันเอง “ของขวัญจากผมย่อมไม่ด้อยกว่าของขวัญจากแฟนเก่าคุณแ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง