แจ็คสันลูบข้างขมับที่ปวดเมื่อยก่อนจะบ่นว่า “พระเยซูคริสต์ ผมคิดว่าคุณกับผมไม่ได้มีไอคิวเดียวกันจริง ๆ การคุยกับคุณก็เหมือนคุยนโยบายกับเด็กวัยเตาะแตะ ฟังนะ ผมแค่บอกเรื่องนี้กับคุณเพื่อหยุดคุณก่อนที่คุณจะเข้าใจผิด ผมไม่ได้ขอให้คุณเข้ามามีบทบาท คุณทำสิ่งที่คุณทำอยู่เสมอและปล่อยให้ผมจัดการเรื่องนี้เอง ตกลงไหม? สิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือการลากคุณเข้ามาในเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียนนี้”ทิฟฟานี่กลอกตาใส่เขาแล้วโต้กลับ “จ่ะ ขอบคุณที่เตือนว่าฉันโง่เขลาแค่ไหน ได้สิ ตามสบายเลย แต่อย่าเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าฉันเบื่อเรื่องทั้งหมดนี้เต็มทีแล้ว เข้าใจไหม? แบบ แค่คิดว่าผู้ชายของฉันกำลังใช้เงินจ่ายให้กับผู้หญิงคนอื่นก็ทำให้ลำไส้ฉันปั่นป่วนแล้ว! ถ้าเบอร์นาเด็ตต์เป็นลูกสาวของฉันมันก็จะไม่เป็นอะไร พ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกอย่างฟุ่มเฟือยเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่นี่เบอร์นาเด็ตต์คิดว่าเธอเป็นใครกันแน่! ฮึก!!!“แต่โอเค ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร คุณ เจ้าเด็กฉลาด เร่งมือแก้ปัญหานี้ดีกว่า เพราะถ้านังตัวแสบนั่นข้ามเส้นฉันอีกครั้งฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ!”ทิฟฟานี่ไม่กล้าแนะนำให้ไปที่ที่พักของตระกูลเวสต์เมื่อถึงวันหยุดสุดสัป
สีหน้าของแอเรียนเหมือนดั่งกับวลี “ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?” มีชีวิตชีวา“เอ่อ คุณย่า? คุณรู้ใช่ไหมว่าทิฟฟ์มีคู่หมั้นแล้ว? และเขาไม่ใช่แค่ผู้ชายทั่วไป เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมาร์ค นอกจากนี้ทิฟฟ์ไม่ใช่คนแบบนั้นเลย” เธอโต้แย้ง “จริง ๆ นะ คุณย่า อย่าคิดร้ายกับคนอื่นเพียงเพราะลักษณะนิสัยของเธอเลย เข้าใจไหม? คุณไม่รู้ความลึกของความสัมพันธ์ของเรา ทิฟฟ์กับฉันมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกันยาวนาน จะไม่มีฉันในวันนี้หากไม่มีเธอ”หญิงชรายังคงเย้ยหยันอย่างดื้อรั้น “ที่รัก ทุกคนต่างสวมหน้ากาก เราไม่รู้จักใบหน้าที่แท้จริงของเธอหรอก! อีกอย่าง ใครสน? การอยู่คนเดียวกับผู้ชายของเธอในห้องแบบนั้นก็เป็นธงแดงแล้ว!”เมื่อล้มเหลวในความพยายามที่จะโน้มน้าวใจคุณย่าของเธออีกครั้ง แอเรียนจึงยอมแพ้ “ก็ได้ ก็ได้ อะไรก็ได้ ทำไมคุณไม่ลองไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านหรือทำคัพเค้กให้ตัวเองแทนที่จะคิดทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเพื่อนของฉันล่ะ? ฉันไม่อยากให้คุณทำให้ทิฟฟ์กลัวจนไม่อยากมาเยี่ยมฉันอีก…”หลังจากที่เธอแวะไปเยี่ยมคฤหาสน์เทรมอนต์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทิฟฟานี่ก็เชิญชวนธัญญ่าและอายไปช็อปปิ้งอย่างสนุกสนาน หากแอเรียนไม่ถูกบังคับให้อ
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป อายก็เห็นเบอร์นาเด็ตต์และแจ็คสันนั่งอยู่ริมหน้าต่าง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที “ทิฟฟานี่ ฉันคิดว่าเราควรไป…”ทิฟฟานี่ยิ่งสายตาใส่เบอร์นาเด็ตต์แล้วเดินไปหาโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจแล้วนั่งลง “ทำไม? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาสามารถทานอาหารเย็นของพวกเขาได้ เราก็จะทานอาหารของเรา ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย"ธัญญ่าสังเกตว่ามีบางอย่างไม่ผิดปกติ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ?”“คนเจ้าชู้!” ทิฟฟานี่ตอบพร้อมกับจ้องเบอร์นาเด็ตต์ “ฉันไม่เคยเห็นใครที่ไร้ยางอายขนาดนี้ในชีวิตมาก่อนเลย! ไม่ต้องสนใจเธอหรอก”อายมองดูทิฟฟานี่อย่างชื่นชม “เจอแบบนี้เธอยังมีความอยากอาหารอยู่เหรอ? อีกอย่าง… ไม่รู้สึกอึดอัดเลยเหรอ?”ทิฟฟานี่พลิกผมของเธอ “หล่อนยังไม่อายเลย ทำไมฉันต้องอายด้วยล่ะ?”เบอร์นาเด็ตต์สังเกตเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรของทิฟฟานี่และยิ้มให้แจ็คสันขณะที่เธอพูดว่า “ฉันคิดว่าคู่หมั้นของคุณมีปัญหากับฉันนะ”“ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว” แจ็คสันตอบอย่างใจเย็น “ผมก็มีปัญหากับคุณเหมือนกัน ครั้งหน้าถ้าเงินคือสิ่งที่คุณต้องการก็แค่บอกมา ผมไม่มีเวลาเพื่อต้องมาเสียเวลากับคุณและคุณไม่คู่ควรกับเวลาของผมด้วย”รอยยิ้มบนใ
ทิฟฟานี่ใกล้จะเป็นบ้าคลั่ง เธอไม่สามารถเอาชนะเบอร์นาเด็ตต์ได้ ผู้หญิงคนนี้มีความเจ้าเล่ห์สูงเกินไป เธอไม่เคยพบใครที่ทำตัวไร้ยางอายในลักษณะที่โดดเด่นเช่นนี้มาก่อน นั่นอธิบายได้ว่าทำไมแจ็กสันที่เคยชินกับการรับมือกับผู้หญิงจึงไม่มีทางกำจัดเธอได้ เธอน่ากลัวเกินไปด้วย!เบอร์นาเด็ตต์เดินออกจากห้องน้ำและกลับไปที่โต๊ะของเธอตามปกติ “ฉันเพิ่งคุยกับคู่หมั้นของคุณ ฉันคิดว่าเธอค่อนข้างโกรธฉันนะ สำหรับวันนี้ฉันจะปล่อยคุณไป ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ ฉันมีบางอย่างที่ต้องจัดการ ลาก่อน”แจ็คสันมองเธออย่างเย็นชาขณะที่เธอเดินจากไป จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นทันทีและเดินไปหาทิฟฟานี่ที่กำลังตัวสั่นด้วยความโกรธ “บ้าเอ๊ย เธอต้องการวิลล่าด้วย! ผมจะสร้างหลุมศพให้เธอแทน!”อายและธัญญ่ากลัวเกินกว่าจะพูดอะไร ทั้งสองไม่รู้ถึงสถานการณ์แจ็คสันมีสีหน้าลำบากใจ “ผมจะกลับบ้านสักพักนะ อยู่ให้ห่างออกจากเรื่องนี้”ทิฟฟานี่คว้าข้อมือของเขาด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอได้ยินว่าเขากำลังจะกลับบ้าน “คุณ… คุณควรจะใจเย็น ๆ อย่าใจร้อน คุณต้องเก็บอารมณ์ไว้ เข้าใจไหม?"เขาพยักหน้าแล้วออกจากร้านอาหารไปทิฟฟานี่ยังคงกังวล เธอกลัวว่าแจ็คสันจะ
“งั้นก็หมายความว่าคุณมีส่วนร่วมกับเธอจริง ๆ แล้วก็ผลิตลูกกับเธอด้วย!” แจ็คสันกัดฟันกรอด"อะไรนะ? เธอมีลูกเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้!" ใบหน้าของแอตติคัสเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วราวกับสายไฟ LED“คุณไม่รู้เกี่ยวกับบาปที่น่าขยะแขยงที่คุณทำไว้จริง ๆ เหรอ? และคุณยังกล้าที่จะกลับบ้านอีก ผมอยากให้คุณตายไปจากบ้านหลังนี้นานแล้ว! ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ ผมจะฆ่าคุณ!” แจ็คสันคำราม จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและออกจากที่พักของตระกูลเวสต์ไปโดยนำความโกรธเคืองของเขาไปกับเขาด้วย เขาเบื่อหน่ายกับปัญหานี้มานานแล้วและไม่อยากสนใจมันอีกต่อไป เนื่องจากแอตติคัสเต็มใจที่จะจัดการกับมันด้วยตัวเขาเอง แจ็คสันจึงยินดีที่จะให้เขาทำเช่นนั้นแอตติคัสทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างทรุดโทรมขณะฟังรถของแจ็คสันขับออกไป เขาเข้าสู่ความงุนงงชั่วขณะแล้วดึงโทรศัพท์ออกมากดหมายเลข “ขอรายละเอียดการติดต่อของเบอร์นาเด็ตต์ เลกรานด์ด้วย ขอบคุณ"…เวลา 20.00 น. แอตติคัสและเบอร์นาเด็ตต์ได้พบกันที่ร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง มันเป็นการรวมตัวกันระหว่างเพื่อนเก่าแต่ความรู้สึกในอดีตของพวกเขาได้หายไปนานแล้ว เบอร์นาเด็ตต์ไม่ใช่นักเรียนที่อ่อนเยาว์และไร้เดียงสาของแอ
นอกจากความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนั้นและแม้ว่าเขาจะดื่มก็เถอะ เขาจะไม่มีวันหมดสติหลังจากดื่มเพียงแค่แก้วเดียว ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เบอร์นาเด็ตต์ไม่ได้พยายามปิดบังเลย “ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ ฉันจะหวังที่จะได้อยู่กับคุณได้ยังไง? คุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ ดังนั้นฉันจึงต้องผ่านความพยายามอย่างอุตสาหะ มันเหนื่อยมาก ฉันไม่สนใจว่าคุณแต่งงานแล้ว การแต่งงานของคุณเป็นเพียงบัตรสถานที่อยู่ จริง ๆ ฉันไม่ได้ต้องการสถานะที่เป็นทางการด้วย”แอตติคัสรู้ว่าระหว่างเขากับเบอร์นาเด็ตต์จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ในขณะที่เขาหมดสติ ดังนั้นเขาจึงสบายใจมาก “ได้โปรดมีศักดิ์ศรีบ้าง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา คุณยังเด็กอยู่ อย่าทำให้ชื่อเสียงของตัวเองแปดเปื้อนเลย”เบอร์นาเด็ตต์ยิ้มอย่างเงียบ ๆ จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอเปิดประตูพลางสวมเสื้อนอนครึ่งตัวที่โปร่งใส ด้านนอกประตูมีกลุ่มครูและนักเรียน ในขณะนั้นเองที่แอตติคัสรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ได้หลอกเขาหลังจากเหตุการณ์นั้น เขาก็ได้ออกจากเมืองและไม่ทิ้งอะไรไว้ข้างหลังเลย เบอร์นาเด็ตต์ไม่ได้ติดต่อเขาอีกเลย เขาไม่ถูกพบที่ไหนเลย แต่เธอไม่จำเป
ทิฟฟานี่ยังคงไม่ค่อยเข้าใจ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องซุบซิบจากเพื่อนร่วมงาน เธอตรวจสอบข่าวและมองดูบทความต่าง ๆ จิตใจของเธอก็ชาไปทันที เมื่อเธอรวบรวมสติตัวเองได้ แจ็คสันก็ได้หายตัวไปแล้ววันนี้เธอมาถึงที่ทำงานพร้อมแจ็คสัน พอเธอรีบออกไป แจ็คสันก็ได้ขับรถออกไปแล้ว เธอรู้ว่าเขากำลังจะกลับไปที่บ้านตระกูลเวสต์เพื่อเผชิญหน้ากับแอตติคัส แม้ว่าเธอจะกลัว แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยเขาในเวลาเช่นนี้ได้ แจ็คสันสามารถทุบตีผู้ชายจนเสียชีวิตได้เมื่อเขาสูญเสียการควบคุม!เมื่อเธอไปถึงที่พักของตระกูลเวสต์ด้วยรถแท็กซี่ แจ็คสันและแอตติคัสก็ไม่ถูกพบที่ไหนเลย มีเพียงซัมเมอร์ที่เดินไปมาอย่างประหม่าในห้องนั่งเล่นเท่านั้น“แจ็คสันไปไหน? เขาอยู่ที่นี่ไหม?” ทิฟฟานี่ถามซัมเมอร์พยักหน้าทั้งน้ำตา “เขาอยู่ที่นี่ ในห้องทำงานชั้นบน เขาขังตัวเองไว้กับพ่อของเขา ฉันเข้าไปไม่ได้ ฉันกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ฉันขอโทษ ทิฟฟ์ ฉันต้องดูเหมือนตัวตลก…”ทิฟฟานี่จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกได้ยังไง? เธอรีบขึ้นไปชั้นบนแล้วเคาะประตู “แจ็คสัน! เปิดประตู ค่อย ๆ คุยกัน อย่า
เสียงคำรามอย่างกะทันหันของแจ็คสันทำให้ทิฟฟานี่ตกใจจนเธอปล่อยทิชชู่ในมือหล่นลง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตะโกนใส่เธอ เธอรู้สึกลำบากใจแอตติคัสพยุงตัวเองโดยจับโต๊ะแล้วฝืนยิ้ม “ฉันไม่เป็นไร ทิฟฟานี่ เขาไม่ผิด ฉันไม่สมควรได้รับมันจริง ๆ ฉันไม่ควรลากครอบครัวเวสต์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันปัญหาของฉัน แต่ฉันเป็นคนที่หนักแน่นพอ ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด...”ทิฟฟานี่เชื่อว่าแอตติคัสพูดความจริง เธอไม่สามารถเชื่อมโยงชายตรงหน้าเธอด้วยคำว่า 'ทนไม่ได้' ได้ “ฉันเชื่อคุณ… เราไปโรงพยาบาลกันไหม? อย่าโกรธแจ็คสันเลย เขามักจะสูญเสียการควบคุมพลังของเขาเมื่อเขาโกรธ…”แอตติคัสส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร เขาควบคุมความแรงของเขาแล้ว ฉันไม่เป็นไร ฉันจะไม่ตายหรอก เธออยู่กับแม่สามีของเธอเถอะ บอกหล่อนว่าฉันไม่เคยหักหลังหล่อน ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของฉันคือการล้มเหลวในการจัดการกับเรื่องนี้และทำให้ทุกคนในเมืองรับรู้มัน”พอเขาพูดเสร็จแจ็คสันก็พุ่งเข้าหาทิฟฟานี่และลากเธอออกไป “คุณกำลังทำอะไร? คุณสงสารเขาเหรอ? คุณไม่รู้จักที่ของคุณเหรอ? กลับไปที่สำนักงานเดี๋ยวนี้!”ทิฟฟานี่ไม่เคยมีนิ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง