เสียงคำรามอย่างกะทันหันของแจ็คสันทำให้ทิฟฟานี่ตกใจจนเธอปล่อยทิชชู่ในมือหล่นลง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตะโกนใส่เธอ เธอรู้สึกลำบากใจแอตติคัสพยุงตัวเองโดยจับโต๊ะแล้วฝืนยิ้ม “ฉันไม่เป็นไร ทิฟฟานี่ เขาไม่ผิด ฉันไม่สมควรได้รับมันจริง ๆ ฉันไม่ควรลากครอบครัวเวสต์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันปัญหาของฉัน แต่ฉันเป็นคนที่หนักแน่นพอ ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด...”ทิฟฟานี่เชื่อว่าแอตติคัสพูดความจริง เธอไม่สามารถเชื่อมโยงชายตรงหน้าเธอด้วยคำว่า 'ทนไม่ได้' ได้ “ฉันเชื่อคุณ… เราไปโรงพยาบาลกันไหม? อย่าโกรธแจ็คสันเลย เขามักจะสูญเสียการควบคุมพลังของเขาเมื่อเขาโกรธ…”แอตติคัสส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร เขาควบคุมความแรงของเขาแล้ว ฉันไม่เป็นไร ฉันจะไม่ตายหรอก เธออยู่กับแม่สามีของเธอเถอะ บอกหล่อนว่าฉันไม่เคยหักหลังหล่อน ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของฉันคือการล้มเหลวในการจัดการกับเรื่องนี้และทำให้ทุกคนในเมืองรับรู้มัน”พอเขาพูดเสร็จแจ็คสันก็พุ่งเข้าหาทิฟฟานี่และลากเธอออกไป “คุณกำลังทำอะไร? คุณสงสารเขาเหรอ? คุณไม่รู้จักที่ของคุณเหรอ? กลับไปที่สำนักงานเดี๋ยวนี้!”ทิฟฟานี่ไม่เคยมีนิ
หลังจากที่ไตร่ตรองแล้วทิฟฟานี่ก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “ถ้างั้น… ให้ฉันขอให้มาร์คจัดการเรื่องนี้ดีไหม? ฉันเข้าใจดีว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับฉันที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคุณ แต่คุณต่อสู้ผ่านดินสอของศิลปินมาตลอดชีวิตนะคะพ่อ คุณจัดการกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หรอก เมื่อถึงจุดนี้ การเอาคืนเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเพื่อฟื้นชื่อเสียงของคุณ”แจ็คสันสามารถแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน แต่เขาไม่มีวันช่วยแอตติคัส ตอนนี้พ่อและลูกชายได้เป็นศัตรูกันไปแล้วแอตติคัสลังเลใจ ซัมเมอร์จึงตัดสินใจก่อน “ถ้างั้น… ได้โปรดขอความช่วยเหลือจากมาร์คให้หน่อยนะทิฟฟ์ ฉันไม่สามารถจัดการสถานการณ์นี้ได้เช่นกัน ตอนนี้ตระกูลเวสต์เป็นจุดศูนย์กลางในพายุนี้ ฉันเกรงว่าเราจะไม่สามารถจัดการเรื่องอื้อฉาวนี้ได้หากไม่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลเทรมอนต์ ฉันอับอายขายหน้ามากด้วย ฉันซื่อตรงและมีวินัยมาตลอดชีวิต แต่สุดท้ายฉันก็ต้องล้มลงในวัยชราด้วยมือของผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าฉันมากด้วย ฉันจะตบหน้าหล่อนถ้าฉันได้เจอหล่อน!”ทิฟฟานี่รู้สึกแปลกและอึดอัดที่จะต้องถามมาร์คด้วยตัวเอง ตามคำกล่าวที่ว่า อย่าตากผ้าสกปรกของคุณในที่สาธารณะ แต่ตอน
มาร์คยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ฉันจะกลับบ้านแม้ว่านายจะทุบตีฉันจนตายก็ตาม ฉันไม่ได้รู้จักพ่อของนายดีพอ แต่ถ้าทิฟฟานี่ขอความช่วยเหลือจากฉัน แสดงว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์บอก นายจะเพิกเฉยต่อมันก็ได้ แต่ฉันไม่สามารถทำให้คุณหญิงเทรมอนต์และลูกชายของฉันโกรธเคืองได้ นายอยู่ในห้องทำงานของฉันและสงบสติอารมณ์ตัวเองสักพักก่อนก็ได้ นายทุบเขาไปแล้ว ปล่อยมันไปและให้ฉันจัดการที่เหลือดีกว่า”มาร์คมองไปที่ทิฟฟานี่เมื่อเขาไปถึงที่คฤหาสน์เทรมอนต์แล้วนั่งลงข้าง ๆ แอเรียน “ฉันรู้ว่าทำไมเธอถึงขอให้ฉันกลับมาบ้าน แจ็คสันอยู่ข้าง ๆ ฉันตอนที่เธอโทรไป ฉันอาจจะโดนทุบตีได้ถ้าฉันไม่ระวังตัว…”ทิฟฟานี่รู้สึกกลัว “ก็ เราไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ข้าง ๆ คุณ… วันนี้เขาทำให้ฉันกลัวแทบตาย ฉันตบเขาตอนที่อยู่คฤหาสน์เวสต์ด้วย ตอนนี้ฉันรู้สึกเสียใจกับมัน แต่สถานการณ์มันซับซ้อนเกินไป ฉันอยากปลอบเขาเหมือนกัน แต่เขาดื้อมาก… ฉันเข้าไม่ถึงเขาจริง ๆ”มาร์คถอนหายใจ “ไม่ต้องกังวล เขาไม่ได้โกรธคุณ ผมรู้อารมณ์เขาดี เมื่อถึงจุดนั้น การตบเขาคงเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดเขาได้ คุณพูดถูก ผมเกือบจะมีแผนที่จะจัดการกับเรื่องนี้แล้ว ผมจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หญิงชราก็อดไม่ได้ที่จะเบะปาก “ดูสิ สามีของเธอออกไปกับผู้หญิงคนอื่นแล้วเธอก็ยังคงใจเย็นอยู่ อย่าวิ่งมาร้องไห้กับฉันถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะ”แอเรียนส่ายหัว “คุณย่า! พวกเขาแค่กำลังจะไปทางเดียวกันเฉย ๆ อย่าพูดอย่างนั้น มันอาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่กับทิฟฟ์ อย่าคิดกับทิฟฟ์แบบนั้นสิคะ!”ทาบิธาโบกมือขณะเดินออกไปที่สวน แอเรียนถอนหายใจยาว ผู้คนในวัยชราของพวกเขามักจะมีอะไรให้พูดมากขึ้น เธอไม่ได้สนใจขนาดนั้น เมื่อใดที่หญิงชราเข้าใจทิฟฟานี่มากขึ้นเขาก็จะหยุดพูดแบบนั้นเองทิฟฟานี่ตามมาร์คเข้าไปในห้องทำงาน เมื่อเธอเห็นแจ็คสันเธอก็เดินไปคุกเข่าลงข้าง ๆ เขาเพื่อดูมือที่บวมของเขา “เจ็บไหม?”แจ็คสันเบือนหน้าหนีโดยไม่พูดอะไร สิ่งเดียวที่เขาอยากทำตอนนี้คืออยู่เงียบ ๆ และไม่ทำอะไรเลยทิฟฟานี่รู้ว่ามาร์คอยู่ข้างนอกและรอให้เธอพาแจ็คสันออกไป เธอรวบรวมนิสัยที่ดีของทั้งชีวิตของเธอมาใช้ “แจ็คสัน… ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรตบคุณ ตอนนั้นคุณอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ฉันทำไปเพราะฉันกลัวมาก คุณตะโกนใส่ฉันด้วย ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันอาจจะทำเช่นเดียวกัน แต่… พ่อของคุณเป็นผู้บริสุทธิ์
แจ็คสันพึมพำตอบอย่างเฉยเมยก่อนที่จะหลับตาลงและเอนหลังพิงเบาะรถอย่างเงียบ ๆเมื่อพวกเขากลับไปถึงไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่า เขาก็ถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออกแล้วไปอาบน้ำ ทิฟฟานี่หยิบชุดปฐมพยาบาลออกมาและรออย่างเงียบ ๆ เธอต้องการบรรเทาบาดแผลที่รบกวนจิตใจของเขา เธอต้องการให้เขาร่าเริงขึ้นจริง ๆ เธอจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอจู่ ๆ แจ็คสันก็เลื่อนมือของเขาลงเสื้อผ้าของเธอจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ จากนั้นเขาก็ปีนคร่อมตัวเธอ “ผมต้องการคุณ…”พวกเขาไม่ได้ลึกซึ้งกันมาสักพักแล้วเนื่องจากปัญหาของเบอร์นาเด็ตต์ เธอเกือบจะสูญเสียการควบคุมเมื่อเธอได้กลิ่นหอมสดชื่นจากการอาบน้ำบนร่างกายของเขา อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าเขาเพียงแสวงหาการปลอบโยนทางจิตใจและเพียงพยายามจะปลดปล่อยมันออกมาตามนิสัยเช่นเดียวกับอดีตที่ไร้ความปราณีและไร้กังวลของเขา เธอต้องช่วยเขากำจัดนิสัยนี้ เธอเพียงต้องการลึกซึ้งกับเขาในนามของความรักเธอผลักเขาออกไปแล้วดึงก้านแอลกอฮอล์ออกเพื่อทำความสะอาดบาดแผลของเขา “ไม่ ฉันไม่ชอบเวลาที่คุณระบายอารมณ์ไม่ดีด้วยการมีเซ็กส์กับฉัน ฉันแค่ต้องการลึกซึ้งกับคุณเมื่อเราทั้งสองต้องการกันและกัน ฉันรู้ว่
ในไม่ช้าเธอก็พิสูจน์ได้ว่าเขาทำอาหารอยู่จริง ๆ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันแต่ดูเหมือนเขาจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เขาสวมชุดอยู่บ้านที่ทำด้วยผ้าขนสัตว์สีขาวและมีผ้ากันเปื้อนพันรอบเอว เขาดูเหมือนผู้ชายที่ดีจากครอบครัวที่ดี เธอรู้ว่าภาพแห่งความสงบนี้เป็นเพียงเรื่องผิวเผินหัวใจของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล หัวใจของเธอเจ็บไปตามเขา เธอก้าวไปข้างหน้าและโอบแขนของเธอรอบร่างกายอันแน่นหนาของเขาและกดใบหน้าของเธอแนบกับหลังของเขาอย่างแน่นหนา “แจ็คสัน…”แจ็คสันตัวแข็งทื่อและยิ้ม “ทำไมจู่ ๆ ถึงอ่อนไหวแบบนี้? ผมแค่อยากทำอาหารเพราะผมไม่มีอะไรให้ทำ ไปอาบน้ำได้แล้ว อาหารเย็นจะเสร็จในไม่ช้า”เธอบีบเอวเขาอย่างยั่วยุ “ก็ได้ ฉันจะไปล้างตัวให้สะอาด…”บางทีมันอาจเป็นผลจากความพยายามของแจ็คสันที่จะปลอบโยนเพราะตอนนี้ทิฟฟานี่รู้สึกมีความสุขขึ้นมาก เธอฮัมเพลงขณะที่เธอลงไปชั้นล่างหลังจากที่อาบน้ำเสร็จและรออาหารเย็นอย่างเงียบ ๆ เธอจ้องไปที่อาหารที่วาววับและหอมกรุ่นทั่วโต๊ะและเกือบจะน้ำลายไหล “คุณพยายามมากเลยนะแจ็คสัน คุณคงต้องใช้เวลานานในการเตรียมสิ่งเหล่านี้ แต่ที่นี่มีเพียงเราสองคน ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือยขนาดนี้ก็ได้ ถ้าเร
มาร์คดึงบุหรี่ออกจากกล่องบุหรี่ บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบจุดไฟให้เขาเขาพ่นควันออกมาก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ผมเป็นตัวแทนของตระกูลเวสต์ ดังนั้นคุณสามารถพูดได้อย่างอิสระ ผมจะซื่อสัตย์กับคุณนะ ตอนนี้จะไม่มีใครในตระกูลเวสต์มาพบคุณหรอก คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเวสต์เลย ทุกคนรู้เรื่องนี้ คิดเสียว่ามันเป็นวิธีการของเราในการกำจัดปัญหาด้วยเงิน”เบอร์นาเด็ตต์กัดฟัน “แล้วถ้าฉันไม่อยากคุยกับคุณล่ะ?”เขาเงยหน้ามองเธอและยิ้มเยาะ “ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ถ้าคุณไม่พูด คุณก็จะไม่มีวันได้พูดอะไรอีก”นิ้วมือของเบอร์นาเด็ตต์เกร็ง “ก็ได้ ฉันจะพูด ฉันต้องการวิลล่าบนเนินเขาซาน เพเลกรีโน่และเงินสด 15 ล้านดอลลาร์ นี่คือเงื่อนไขของฉัน เงื่อนไขนี้ไม่สามารถต่อรองได้”วิลล่าบนเนินเขาซาน เพเลกรีโน่? และเงินสด 15 ล้านดอลลาร์? มาร์คหัวเราะด้วยแววตาที่เย็นชาและน่ากลัว “เฮ้… คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องสิ่งเหล่านี้? แค่วิลล่าบนเนินเขาซาน เพเลกรีโน่ก็มีราคามากกว่า 15 ล้านดอลลาร์แล้วและคุณยังต้องการเพิ่มอีก 15 ล้านดอลลาร์อีกเหรอ? คุณนี่โลภมากจริง ๆ”“ถ้าฉันไม่โลภมากฉันก็คงไม่เล็งแอตติคัส เวสต์เป็น
“ก็ได้ ฉันจะพูด ฉันต้องการวิลล่าบนเนินเขาซาน เพเลกรีโน่และเงินสด 15 ล้านดอลลาร์ นี่คือเงื่อนไขของฉัน เงื่อนไขนี้ไม่สามารถต่อรองได้”มันเป็นเนื้อหาในการสนทนาของเธอกับมาร์คเมื่อสามวันก่อน ที่ถูกตัดให้เหลือสองสามประโยค เพียงพอที่จะทำให้เรื่องง่ายขึ้น เพียงพอที่จะกำหนดได้ชัดเจนว่าเธอเป็นคนขุดทองที่ชั่วร้าย!การตั้งครรภ์นอกสมรสของเธอก็ถูกเปิดเผยและกลายเป็นเรื่องไก่และวัวโดยชาวเน็ต ชาวเน็ตบางคนได้เผยแพร่หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขประจำตัวของเธอด้วยตอนนี้โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นจากคนที่โทรมาสแปม ทำให้เธอต้องปิดเครื่องไว้ตอนนี้เธอต้องซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมเพราะกลัวเกินกว่าจะก้าวออกไป! ก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอไปพบมาร์ค เธอได้ระมัดระวังคำพูดของเธอมากเพราะเธอกลัวว่าบทสนทนาจะถูกบันทึกไว้ น่าเสียดายที่ความกังวลใจของเธอในกระบวนการนี้คือการล่มสลายของเธอ ...ในขณะนี้ แอตติคัสเผชิญกับการสัมภาษณ์จากสื่อต่าง ๆ อย่างสงบ โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อพิพาทของเขากับเธอ นักเรียนคนก่อน ๆ ของแอตติคัสก็ก้าวออกมาเป็นพยานด้วย เมื่อเธอดูฉากนี้ต่อหน้าเธอทางโทรทัศน์ เธอก็กรีดร้องเหมือนคนบ้าว่า “ฉันไปทำอะไรให้? แอตติคัส เว
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง