ทิฟฟานี่ทนไม่ได้อีกต่อไป เธอดึงมาร์กตาของเธอออก “เร็วสิ พูดดังกว่านี้หน่อย ฉันไม่ได้ยินเธอเลย ฉันแค่ถือกระเป๋าที่ราคาแพงกว่า 10,000$ ใช่ไหม? นั่นมันทำให้ เธอพอจะมีสิทธิ์มาพูดถึงฉันมากกว่าครึ่งค่อนวันจากความอิจฉาริษยาเหรอฮะ? เงินเดือนของเธออาจจะไม่เยอะแต่เธอคงมีปัญญาซื้อได้ ถ้าเธอเก็บเงินสักสองปี ใช่ไหม? ไม่จำเป็นต้องอิจฉาเลย อย่างไรก็ตามแต่ ฉันซื้อกระเป๋านี้ด้วยเงินของฉันเอง ไม่ใช่ของขวัญจากผู้ชายคนไหนทั้งนั้น ฉันมีกระเป๋ากองใหญ่ที่ฉันซื้อมาเมื่อสองสามปีที่แล้ว โดยสรุป กระเป๋าพวกนั้น ราคาพอ ๆ กับเงินเดือนดี ๆ ของเธอสักสองสามปีเลย อิจฉาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หยุดซะเถอะ แล้วอีกอย่าง ฉันจะไปเดินเอกสารให้เธอได้ยังไงถ้าฉันเหนื่อยเกินไป?”เฮเรียตต้าพูดอย่างดูหมิ่น “เนื่องจากครอบครัวของเธอรวยมาก ทำไมไม่อยู่บ้านแล้วหาอะไรสนุกทำในชีวิตอันหรูหราของเธอล่ะ? ทำไมต้องมาเดินเอกสารด้วย? เธอยังไม่สามารถ ทำธุระของเธอได้ถูกต้องเลย นี่เธอกำลังหางานให้พวกเราเพิ่มหรือไง?”โลกเล็ก ๆ ของทิฟฟานี่ใกล้จะระเบิดแล้ว เธอมาที่นี่เพื่อทำงานเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ไม่ใช่เด็กส่งเอกสาร มันแย่มากที่พวกนั้นสั่งเธอตลอดเวลา แต่ต
แจ็คสันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ผู้หญิงของเขาทุกข์ใจภายใต้ฝีมือของใครบางคนและถึงกับเสียน้ำตา นอกจากความเจ็บปวดใจแล้ว เขายังรู้สึกเดือดดาลอีกด้วย “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อย่าร้องนะ คุณอยู่ไหนเหรอ? ผมจะไปหาและรับคุณกลับตอนนี้เลย อยู่ตรงนั้นนะ อย่าย้ายไปไหน โอเคไหม? บริษัทอะไรของพวกเขาน่าเกลียดอย่างนี้? ไม่ต้องไปโกรธ ลืมพวกเขาไปซะ!”ทิฟฟานี่สูดน้ำมูก บอกเขาว่าเธออยู่ที่ไหนและรอเขาที่ข้างถนน อากาศค่อย ๆ เย็นลงและไม่ค่อยร้อนแล้ว บางครั้งสายลมอ่อนพัดผ่านและพาความรู้สึกให้รู้สึกค่อย ๆ สบายใจขึ้นในไม่ช้า รถสปอร์ตสุดหรูจอกที่ริมถนน เมื่อเข้าไปในรถและมองไปที่เขา เธอร้องโฮอีกครั้ง เธอเอนไปซบไหล่เขาและร้องไห้ “ฉันรู้สึกไร้ประโยชน์ ฉันถูกไล่ออก… ฉันรู้สึกโกรธมาก…”แจ็คสันลูบไปที่หลังเธออย่างปลอบโยนขณะเดียวกันก็หันไปทางชั้นสำนักงานที่ไม่ไกลมาก บริษัทนั้นไม่แม้แต่จะได้เลียบูทเขา ทว่าพวกเขากลับทำให้แฟนเขาเศร้าเสียใจ!ระหว่างทางกลับบ้าน เขาถามเธออย่างระมัดระวัง “ถ้าคุณ… ยังต้องการงานอยู่ แล้วถ้ามาทำงานในเครือของบริษัทผมล่ะ? มันแค่ไกลออกไปเล็กน้อยจากเขตทางเหนือ ในเมื่อคุณ ไม่สะดวกใจทำงานที่สาขาใหญ่ สาขาย่อยค
ทิฟฟานี่ตอบกลับอย่างไม่ชัดเจนและวางสายวิดีโอไป แอเรียนโยนโทรศัพท์ไปข้าง ๆ อย่างโมโหหลังจากสองทุ่มผ่านไป หญิงชราโทรหาแอเรียน ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดี “ฉันอยู่ที่คฤหาสน์เทรมอนต์ และทุกอย่างที่นี่ดีเยี่ยมไปหมด ดีกว่ากรงนกของเธออีก ขนาดพอ ๆ กับบ้านหลังเก่าเรา มันสบายมากเลยอยู่ที่นี่ เธอไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องฉันนะ มาร์คเองก็อยู่ที่นี่ด้วย”จากนั้น เธอก็วางสายไป มันดูเหมาะเจาะและเรียบร้อยมากอาการสั่นวิ่งผ่านหัวใจของเธอ หญิงชรารับมือเธอมันไม่ง่ายเลย มาร์คจัดการให้ตัวเขาเองให้คุ้นเคยกันเธอได้ยังไงในระยะเวลาอันสั้น การโน้มน้าวเธอให้กลับไปที่เมืองหลวงอีกด้วย? ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ…มาร์คไม่เคยพบกับหญิงชรามาก่อน เธอตรวจดูประวัติการโทรของเธอและเห็นว่าจริง ๆ แล้ว หญิงชราโทรหาเธอตอนที่เธอกำลังหลับที่ห้องโรงแรมของมาร์ค แน่นอนว่า ไม่ใช่เธอแน่ ๆ ที่เป็นคนรับสายโทรศัพท์ นั่นหมายความว่ามาร์คได้ไปหาเพื่อคอยช่วยเหลือหญิงชราที่คอนโดในขณะที่เธอหลับอยู่ พวกเขาอาจจะพูดคุยกันเกี่ยวกับการย้ายกลับไปอยู่เมืองหลวงระหว่างช่วงเวลานั้น ทำลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน!ทุกอย่างได้ถูกวางแผ
ขณะที่แจ็คสันเดินผ่านโต๊ะทำงานออฟฟิศเธอ เขาตั้งใจแตะที่เธอและพูดว่า “เฮ้ เด็กใหม่ ตังใจทำให้ดีนะ”ทิฟฟานี่ควบคุมอาการไม่ให้ปล่อยหัวเราะออกมา เธอพยักหน้าและโค้งคำนับ “ฉันจะตั้งใจค่ะ คุณเวสต์ ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!”มุมปากของแจ็คสันค่อย ๆ ยกยิ้ม เขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน ไม่ถึงสองนาทีผ่านไป ทิฟฟานี่ได้รับข้อความจากเขา “กล้าเรียกผมว่า คุณเวสต์ ได้ยังไง?”เธอตอบเขากลับด้วยอีโมจิ “ขี้เล่น” และเก็บโทรศัพท์เธอไว้ในกระเป๋า เธออยู่ในระหว่างช่วงเวลางานและมันคงดูไม่เหมาะสมสำหรับเธอที่เล่นแต่โทรศัพท์สภาพแวดล้อมการทำงานในบริษัทใหญ่ตรงข้ามกับบริษัทเล็กของเธอก่อนหน้านี้อย่างสินเชิง นอกจากสภาพแวดล้อมที่เร่งรีบแล้ว ก็ไม่มีการแข่งขันกันไปมามากนั้นโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกต ผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้เดินเข้าในห้องทำงานแจ็คสันอย่างเงียบ ๆ แจ็คสันอยู่ในอารมณ์ดีเป็นพิเศษและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “เธอได้สงสัยอะไรไหม?”หัวหน้าฝ่ายบุคคลรีบตอบทันทีว่า “เธอถาม เธอน่าจะสงสัยครับ แต่ผมจัดการคลายความสงสัยของเธอได้ “ยิ่งผมไม่พอใจดูเหมือนเธอจะยิ่งมีความสุข....”แจ็คสันพยักหน้า “เธอน่าจะยังไม่สงสัย ดีมาก เธอคือนายห
ทิฟฟานี่เกาหัวของเธอ ไม่ประหลาดใจใด ๆ เลยจากเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม แจ็คสันไม่เคยบ่นเมื่อไหร่ก็ตามที่เมื่อเธอไปยืนข้างหน้าเขาหรือจะขี่คอเขา “เข้าใจแล้ว ขอบใจ…” เธอตอบกลับอย่างเหม่อลอยประมาณบ่ายสามโมงหรือราว ๆ นั้น ทิฟฟานี่เริ่มรู้สึกง่วง ในตอนนั้นเองเธอได้ยินเสียงซัมเมอร์ “ทิฟฟ์ เธอมาทำงานกับพวกเราแล้วใช่ไหม? แจ็คสันเพิ่งพูดถึงว่าเธอต่อต้านแค่ไหน ดูเหมือนว่าเธอคิดมาอย่างละเอียดแล้วนะ เหมือนอย่างที่ฉันพูด ที่ดินของคนอื่นจะดีกว่าของเราได้ยังไง? เธอมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่? เธออยากให้ฉัน…”ยังไม่ทันที่เธอจะจบประโยค ทิฟฟานี่กระโดด ยื่นมืออกไป และปิดปากเธอไว้หญิงทั้งคู่ต่างตกใจ ทิฟฟานี่รู้สึกหวาดกลัว เธอทำอะไรลงไป? ปิดปากว่าที่แม่สามีในอนาคตด้วยมือของเธอ เธอยังรู้สึกได้ถึงลิปสติกที่อยู่บนมือเธออีกด้วย ดูเหมือนจะแดงมากด้วยตอนนี้ เธอจบประโยค…“คุณนายเวสต์.... ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพูดอย่างสั่นเทาไปด้วยความกลัว “ฉันได้คุยกันกับคุณเวสต์แล้ว ว่าไม่จำเป้นต้องทำอะไรเพื่อฉัน ฉันทำมันได้ด้วยตัวเอง ฉันไม่อยากได้ช่องทางผ่านเส้นสายน่ะค่ะ”เธอค่อย ๆ ปล่อยมือเธอออกจากปากซัมเมอร์ เมื่อเธอเห็นว่าซัมเมอร์ต
รอยยิ้มที่บดบังริมฝีปากของซัมเมอร์ “แม่รู้ว่าลูกยังห่วงใยแม่อยู่ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ควร ตั้งแต่ที่แม่ลากความเป็นคนเกียจคร้านออกเพื่อเลี้ยงดูลูกให้เป็นชายหนุ่งที่ดีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมแม่อยากให้ลูกทำบางอย่างเพื่อเธอ” เธอพูดอย่างจริงใจ “แม่ขอร้องนะ อย่าทำหน้าบึ้งตึงใส่พ่อ ตกลงไหม? เขามีเปราะบางเหมือนลูก อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับงานหมั้นของลูกกับทิฟฟานี่ อยากให้แม่ช่วยไหม? แค่ถามนะ ลูกน่าจะรู้ ช่วงหลายวันนี้แม่ไม่ค่อยจะมีเวลามากเท่าไหร่”แจ็คสันพยักหน้าเข้าใจและตอบกลับด้วยคำแนะนำของเขา “เมื่อลูกเจอทิฟฟานี่ ต้องมั่นใจว่าลูกได้บอกใบ้อะไรก็ตามที่แม่รู้ให้กับเธอ ตกลงไหม? เธอต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ถ้าเธอรู้ เกี่ยวกับความผิดของฉัน” ซัมเมอร์ตอบอย่างมีชีวิตชีวาและออกจากห้องไป เธอเดินผ่านคอกทำงานของทิฟฟานี่และทักทายเหมือนปกติ “ฉันจะไปแล้ว ขอให้โชคดีกับการทำงานนะ”ทิฟฟานี่ลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอและมองดูซัมเมอร์ออกไป “ขอบคุณค่ะคุณป้า ดูแลตัวเองนะคะ”ช่วงค่ำมาถึง แจ็คสันรับทิฟฟานี่ที่ริมทางเดินหลังเลิกงาน และหมุนพวงมาลัยกลับไปที่คฤหาสน์เวสต์เธอสังเกตเห็นถึงเส้นทางที่ต่างออกไปจากท
การมาถึงของทั้งคู่ที่คฤหาสน์เวสต์ได้รับการต้อนรับโดยการจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่และเกือบทั้งหมดเสิร์ฟอาหารจานโปรดของทิฟฟานีทั้งนั้นในขณะที่ตาของทิฟฟานี่มองไปที่อาหาร เธอก็รู้สึกว่าสนุกกับกับการถูกดูแลจากใครสักคนมากขนาดไหนเวลาผ่านพ้นไป แต่แอตติคัส เวสต์ ยังไม่มา รู้ว่าแจ็คสันพยายามหลีกเลี่ยงคำถาม ทิฟฟานี่ตัดสินใจถามซัมเมอร์ว่า “คุณลุงแอตติคัสอยู่ไหนเหรอคะ คุณป้าซัมเมอร์? ฉันไม่เห็นคุณลุงเลยค่ะ”ซัมเมอร์แอบมองไปที่ลูกชายของเธอ “โอ้ เขาอยู่แถว ๆ นี้ เอาล่ะ… ทุกคนไปรวมกันที่ห้องหนังสือข้างบนนะ เขากังวลว่าแจ็คสันจะอารมณ์เสียเพราะการปรากฎตัวของเขา ดังนั้นชายชราดื้อดึงจึงปิดกั้นตัวเองหลังจากเมินคำแนะนำของฉัน เอาล่ะ หนูทิฟฟ์ หนูพาแจ็คสันไปด้วยและชวนเขาไปทานดินเนอร์ด้วยกันได้ไหม?”แจ็คสันไม่ได้ซ่อนความรู้สึกไม่ชอบของเขาเลย “ไม่ ไม่ทำ ผมไม่ขอร้องให้เขามาทานข้าวด้วยหรอกนะ จะกินหรือไม่กิน ไม่ใช่เรื่องของผม”ทิฟฟานี่กระทุ้งขาเขาด้วยการเหวี่ยงเท้าของเธอใต้โต๊ะ “นี่คุณกำลังพูดอะไร? นี่ไม่ใช่ที่เราสัญญากันตอนเดินทางมาที่นี่หนิ! เรากำลังจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ พร้อม-กัน” แจ็คสันรู้ดีว่ายังไงเขาคงไม่ชนะ เข
มองเขาที่อยู่ในความเงียบราวกับหินอย่างกะทันหันเกิดประกายไฟน่ากลัวลุกโพลงในทิฟฟานี่ ทันใดนั้นเอง เธอก็ดูหมิ่นผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอดูถูกเขามากจนคิดย้อนกลับไปถึง ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทะเลาะกันจนทำให้เธอตัดสินใจที่จะเลิกลามันไม่ใช่ว่าเธอต้องการให้แจ็คสันยอมตามความต้องการของเธอหรือตกนรกเพื่อทำให้เธอมีความสุขหรือแม้กระทั้งให้อภัยกับความผิดของแอตติคัสที่เป็นพ่อที่ขาดคววามรับผิดชอบ ทั้งหมดที่เธอต้องการคือให้แจ็คสันมีความอดทนอดกลั้นสักนิดก็ยังดีเพื่อรวบรวมความกล้าสักหน่อยให้มันเพียงพอ เมื่อเขาต้องอยู่เดียวห้องเดียวกันกับพ่อเขา จะได้ไม่มีใครรู้สึกแย่ในบรรดาพวกเขาทั้งสี่คน ทิฟฟานี่คือคนนอก การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ลำพังก็กังวลหนักมากอยู่พอแล้วจนอาจกลายเป็นความกลุ้มใจได้ง่าย ๆ สิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการคือการติดอยู่กลางสงครามเย็นในขณะที่เป็นส่วนหนึ่งในความอึดอัดนั้นอยู่แล้ว มันทำให้เธอเสียใจและอยากออกมา แล้วไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก อย่างไรก็ตาม เธอคงไม่อาจทำได้ นั่นเพราะผู้ชายตรงหน้าเธอเป็นความรักในชีวิตของเธอ พวกเขากำลังจะแต่งงานกันทิฟฟานี่อยากให้เขาปล่อยภาระและอดีตทั้งหมดที่ยึดต
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง