เธอเดินกลับไปที่ห้องและเขย่าแจ็คสันให้ตื่นขึ้นจากการงีบหลับ “เร็วเข้า ลุกขึ้นแต่งตัวเร็ว พ่อของคุณกลับมาแล้ว!”แจ็คสันสะดุ้ง “อะไรนะ?”เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้โกหก มันเป็นความจริง เขาอยู่ชั้นล่าง รีบลุกและลงไปข้างล่างกับฉัน ฉันตื่นเต้นเกินไปที่จะทำสิ่งนี้คนเดียว”แจ็คสันขมวดคิ้ว เขาเดินไปที่ห้องน้ำอย่างสบาย ๆ และอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขามองไปที่พ่อของเขา เขาไม่ได้ทักทายแต่กลับดึงทิฟฟานี่ไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เขา“ลูกโตขึ้นแล้วนะแจ็คสัน”แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า “ผู้คนมักเติบโต ผมควรจะยังคงเป็นเด็กเหมือนในความทรงจำของคุณเหรอ?”พ่อของเขาหรี่ตาลง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “มันเป็นความผิดของพ่อเองทั้งหมด”ลิเลียนรู้สึกสงสัย แต่มันเป็นเรื่องครอบครัว เธอจึงหุบปากไว้ ความอดทนของซัมเมอร์นั้นช่างน่าตกใจ มองผิวเผินเธออาจดูไม่สบายใจ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคือง ทั้งครอบครัวมีความสงบสุขมากในระหว่างมื้ออาหาร ยกเว้นแจ็คสันที่มีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากทานอาหารเสร็จ ในที่สุดซัมเมอร์ก็ขาดสติและกรีดร้องใส่สามีของเธอเมื่อ
แจ็คสันฝืนยิ้มไม่ได้จริง ๆ เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา “ไม่เป็นไร ผมไม่ได้โกรธคุณสักหน่อย อย่าคิดมากสิ ผมรู้ว่าแม่ของผมโทรหาเขา แต่ผมไม่นึกว่าเขาจะมาจริง ๆ และมาเร็วขนาดนี้ด้วย ลึก ๆ แล้วผมหวังว่าเขาจะไม่กลับมาด้วยซ้ำ ผมทำราวกับว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วเสมอ มันคงจะไม่เลวเลยถ้าเขากลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับแม่ของผมต่อ แต่แม่คงไม่อาจจะรับมือได้ถ้าเขาทิ้งเธอไปอีกรอบ”ทิฟฟานี่พูดไม่ออก “ฉันปลอบใจใครไม่ค่อยเก่ง คุณควรจะใจเย็นก่อน ฉันจะไปเช็ดเครื่องสำอางแล้วอาบน้ำก่อนนะ ในเมื่อคุณไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน คุณควรเข้านอนเร็ว ๆ ฉันยังต้องไปหางานต่อพรุ่งนี้”เธอเพิ่งจะลุกขึ้นยื่นเมื่อแจ็คสันดึงเธอลงไปอีกครั้ง “อาบน้ำด้วยกันเลยก็ได้…”ทิฟฟานี่หน้าแดงจากการพยายามฉวยโอกาสของเขา “อะไร… ฉันไม่ชินแบบนั้น อาบแยกกันเถอะ ฉันอาบแปบเดียวเอง”แจ็คสันไม่ยอม เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ เปิดหัวฝักบัว แล้วดันเธอให้ชิดกับผนังที่เรียบน้ำอุ่นค่อย ๆ ไหลลงจากร่างกายของทั้งสองแล้วลงสู่พื้น ในไม่ช้า หมอกสีขาวพลันปกคลุมกระจกห้องน้ำซึ่งสะท้อนภาพร่างกายที่พัวพันกันของทั้งสอง...เขาไม่เคยพูดกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้
ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา ผงในคริสตัลคือขี้เถ้าของข้าวปั้น บางทีของขวัญชิ้นนี้อาจเทียบไม่ได้กับราคาของขวัญที่เป็นแบรนด์เนม แต่สำหรับเธอมันล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้ เธอไม่เคยคาดคิดว่ามาร์คจะทุ่มเทขนาดนี้เธอแขวนเครื่องดักฝันไว้เหนือเตียงอย่างระมัดระวังก่อนที่จะดึงโทรศัพท์ออกมาและส่งข้อความหามาร์คว่า 'ขอบคุณนะ’มันเป็นเพียงคำง่าย ๆ สองสามคำ แต่มีความรู้สึกเป็นร้อยเป็นพัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกประทับใจกับเขา ท้ายที่สุดชายผู้เย็นชาและห่างเหินคนนี้ก็มีด้านที่อ่อนโยนเหมือนกัน ครั้งนี้เขาได้แสดงให้เธอเห็นว่าเขาห่วงใยเธอจริง ๆ และความห่วงใยนั้นมันไม่เคยหายไปไหนเลยมาร์คไม่ตอบข้อความของเธอแต่โทรไปหาเธอทันที เธอไม่ปฏิเสธสายของเขาและตอบอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญของคุณ ฉันจะเก็บมันไว้ให้ดี”มาร์คนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่มุมริมฝีปากของเขา “ฉันดีใจที่เธอชอบนะ จริง ๆ แล้วฉันขอให้เฮนรี่ทำมันให้เสร็จในขณะที่ฉันยังอยู่ที่นั่น แต่ตอนที่กลับมาฉันก็ไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้สักเท่าไหร่ ดังนั้นฉันจึงออกแบบมันใหม่ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นเธอคงจะได้รับ
นีน่าจ้องแอเรียนอย่างลึกซึ้งขณะที่เธอพูดว่า “เธอยังรักเขาอยู่ใช่ไหม? นั่นเป็นเหตุผลที่เธอพยายามเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ไล่ตามเขา ฉันยั่วยวนเขาออกหน้าออกตามาก แต่ดูเหมือนเธอจะไม่โกรธเลย เธอเกือบจะหลอกฉันได้แล้วจริง ๆ”แอเรียนไม่ได้ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เอาล่ะ ถ้าเธอมาที่นี่เพื่อสนุก ก็ขอให้สนุกนะ ทานให้อร่อยด้วยด้วย ฉันมีงานต้องไปทำ”นีน่าหยุดพูดและเริ่มชิมขนมของแอเรียน แค่กัดคำแรกก็ทำให้เธอตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ “นี่เป็นมาตรฐานของเชฟทำขนมชั้นยอดอย่างชัดเจน! ฉันอิจฉาจัง เธอสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งที่เธอทำ! พ่อของฉันมักจะวิพากษ์วิจารณ์ฉันเพราะฉันขาดความสามารถ ฉันจะต้องขังลืมตัวเองแล้ว!”แอเรียนโผล่หัวออกมาจากห้องครัว “อย่าพูดเกินจริงน่า ฉันจะทำสิ่งที่ดีขนาดนั้นได้อย่างไร? มาร์คให้สูตรจากเชฟขนมชั้นยอดมา ในขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องใจจดใจจ่อตราบใดที่ฉันสามารถทำมันได้ อีกอย่าง จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบฉันจริง ๆ ใช่ไหม?”นีน่าเลียเนยที่มุมปากของเธอแล้วยิ้มอย่างทะลึ่ง “เธอจะพูดอย่างนั้นก็ได้ ฉันมาที่นี่เพื่อยืนยันว่าเธอกับมาร์คเลิกกันจริงหรือเปล่า ฉันเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะเพื่อน
มาร์คไม่ยืนกรานและโบกมือไปทางกล้อง “ราตรีสวัสดิ์”แอเรียนกำหน้าอกของเธอไว้เมื่อสิ้นสุดการโทร เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นกระทบหน้าอกของเธออย่างรุนแรง ตอนแรกเธอคิดว่าเธอไม่ได้บ้าผู้ชายแต่อย่างใดและจะไม่หลงเสียงห้าว ๆ หรือใบหน้าที่เธอจ้องมองมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี เธอบ้าไปแล้วเหรอ?ในความเห็นของมาร์ค ทุกครั้งที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้เขามั่นใจมากขึ้นด้วย ขณะที่เขากำลังจะนอน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง นั่นคือสายจากชาร์ลส์ มอร์แรนผู้ชายคนนี้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเขาจะไม่มีวันติดต่อเขาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ครั้งแรกที่พวกเขาพบกันหลังจากที่เขากลับมาที่ประเทศคือตอนที่ชาร์ลส์ถามเขาว่าเขารู้จักลูกนอกสมรสของพ่อเขาหรือไม่… เขาขมวดคิ้วแล้วรับสาย “ฮัลโหล? ลุงมอร์แรน”ชาร์ลส์ตอบเขาว่า “มาร์ค ฉันได้ยินมาว่าเรื่องระหว่างนายกับแอเรียนตอนนี้ค่อนข้างแย่ ฉันฟุ้งซ่านและคงบคุมเนียไม่ได้ ฉันแน่ใจว่าเธอจะไปเยี่ยมนายในไม่ช้านี้… ขอโทษแทนเธอด้วย นายก็รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับนาย… ฉันรู้ว่าระหว่างนายสองคนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นได้โปรดส่งเธอกลับมาด้วย ฉันไม่
นีน่าดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงของเขาโดยสิ้นเชิง “ฮ่าฮ่า… คุณจะโยนฉันออกไปจริง ๆ เหรอ? ความสัมพันธ์ของเรานั้นตื้นเขินขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันรู้สึกว่าเราสนิทกันมากพอที่จะแบ่งปันกันได้ทุกอย่างนะ ฉันนอนบนเตียงของคุณไม่ได้เหรอ?”มาร์คไม่ได้ให้คำตอบในทันที เขาออกมาจากห้องเสื้อผ้าหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินลงไปข้างล่างทันที คำเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้เธอคือ “ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้สนิทสนมอย่างที่เธอคิด บ้านของฉันกฎของฉัน ฉันจะพูดแบบนี้ครั้งนี้ครั้งเดียว”นีน่ารอจนกว่ารถเขาจะออกจากคฤหาสน์เทรมอนต์ก่อนที่จะปีนออกจากเตียงใบหน้าของเธอดูไม่ธรรมดาและเฉยเมยอีกต่อไป ลึก ๆ ข้างใน เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรจะล้อเล่นด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เธอคลั่งไคล้เขามากยิ่งขึ้น เธอถูกบังคับให้ยอมแพ้เมื่อเห็นว่ามาร์คและแอเรียนรักกันมากแค่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขาได้แยกจากกันในที่สุด เธอปฏิเสธที่จะยอมและต้องการลองอีกครั้งห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ค ซึ่งทำให้เธอเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไปและอยู่กับเขาไปจนวันสุดท้า
ตลอดชีวิตอันยาวนานและเต็มไปด้วยเรื่องราวของชาร์ลส์ มอร์แรนเขาไม่เคยตบหน้าลูกสาวของเขาเลยเสียงที่แหลมคมของมือที่กระทบใบหน้าจางลง เผยให้เห็นนีน่าที่กำลังมึนงงด้วยมือของเธอที่แกว่งไปที่แก้มที่ค่อย ๆ แดงและพองขึ้น ดวงตาของเธอซึ่งจ้องไปที่พ่อของเธอเต็มไปด้วยความงงงวยอย่างจริงจัง“ทำไม… พ่อตีหนูทำไม?! หนูผิดเหรอ?” เธอร้องเรียก “ในห้องนี้มีแค่คนของเรา ทำไมพ่อถึงทำเหมือนกับว่าหนูไม่ควรพูดแบบนั้น?”ชาร์ลส์กลืนยาที่บอดี้การ์ดส่งให้เขา เมื่อความกังวลใจของเขาสงบลงเล็กน้อย เขาตอบว่า “นี่ เป็นคน ๆ เดียวกันกับคนที่ฆ่าน้องชายต่างมารดาของเขาโดยไม่กระพริบตา เธอคิดว่าเธอเป็นใครเขาถึงจะยอมเธอง่าย ๆ? ถ้าเขาชอบเธอ เธอจะกลายเป็นผู้ปกครองหัวใจของเขา มิฉะนั้น จะไม่มีการประนีประนอมใด ๆ ที่จะช่วยเธอให้พ้นจากความโกรธของเขาได้!”“เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของฉัน นีน่า เธอคิดว่าฉันสามารถดูเธอทำลายตัวเองได้เหรอ? แอเรียน วินน์อาจดูเหมือนสาวน้อยตัวเล็กที่ไม่น่าประทับใจและไร้ความหมาย แต่เธอคือคนที่มาร์คเฝ้าดูแลมาเป็นเวลากว่าทศวรรษหรือมากกว่านั้น เธอเป็นใครเมื่อเปรียบเทียบกับแอเรียน? ฟังฉันให้ดีนะนีน่า ตั้งใจหาคู่แต่งงาน
มาร์คหยุดครุ่นคิด “อันที่จริง ไม่ต้องออกไปกินข้าวกันหรอก มันดึกไปหน่อยและมีเพียงแค่เราสองคน เราจะไปที่บ้านของเธอและทำอะไรกินเองเท่าที่มีของ เธอรู้วิธีทำราเม็งไม่ใช่เหรอ?”เขายังจำราเม็งที่เธอทำได้อยู่เหรอ? นั่นเป็นมื้อเดียวที่เธอทำออกมาได้ดีมาก ยิ่งไปกว่านั้น มันอร่อยตามมาตรฐานของเธอเท่านั้นและส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่ามันออกมาดีหรือไม่ “โอเค… มันไม่ได้รสชาติดีขนาดนั้น ดังนั้นคุณจะต้องทนกินมันไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะหาเวลาว่างและซื้ออาหารให้คุณเพื่อขอบคุณสำหรับของขวัญ”มาร์คขมวดคิ้วแต่ไม่ตอบ เขาสัมผัสได้ว่าเธอปฏิเสธที่จะเป็นหนี้เขา สิ่งนี้ทำให้เขาอารมณ์เสีย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจำได้ว่าเธอจะกลับไปหาเขาในหนึ่งปี เขาจึงไม่ได้เล่นลิ้นกับเธอแอเรียนเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเมื่อพวกเขาไปถึงคอนโดของเธอแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที “รอที่นี่นะ ฉันจะทำราเม็งให้คุณ”อย่างไรก็ตาม มาร์คไม่ได้นั่งรอเธอแต่เขาเดินตามเธอเข้าไปในครัวพลางยืนอยู่ข้างหนึ่งและมองดูเธอทำอาหาร “จริง ๆ แล้ว บ้านหลังเล็ก ๆ ของเธอก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านในบางครั้งนะ”หัวใจของแอเรียนเต้นผิดจังหวะไปสองสามจังหวะ เขาพยายามจะสื่อ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง