แอเรียนหรี่ตาลง "คุณพยายามจะสื่ออะไร? ในเมื่อคุณต้องการอยู่กับเขา คุณควรหวังให้เราหย่ากันโดยเร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเป็นเมียน้อยของเขาเพราะมันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณเสื่อมเสียเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ เราจะได้ประโยชน์ทั้งคู่ ถูกไหม? อีกอย่าง ฉันนึกว่าคุณแต่งงานแล้ว? คุณหย่าแล้วเหรอ?"ในขณะนี้ เอลลี่รู้สึกรำคาญ เธอได้ทุ่มเทในบทบาทของเธอในฐานะคนรักของมาร์คในช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่ แต่แอเรียนดึงชีวิตแต่งงานของเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าแอเรียนกำลังชี้ให้เห็นข้อบกพร่องของเธอ “นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว หากคุณไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณก็บอกฉันมาตรง ๆ เลย”แอเรียนยิ้ม "ไม่เลย"เอลลี่กัดฟัน “ในเมื่อคุณไม่ได้รักเขาและเลือกที่จะทิ้งเขา ก็อย่าปล่อยให้เขาต้องรอสิ เลิกขาดกันไม่ดีกว่าเหรอ? จากนั้น คุณทั้งคู่ก็ไม่ต้องเสียเวลาและต่างคนก็ต่างสามารถใช้ชีวิตแยกทางกันได้”แอเรียนหยุดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวเช่นกัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”เอลลี่ไม่ตอบ เธอหันหลังกลับและเดินจากไปด้วยใบหน้าบูดบึ้งโดยละทิ้งของหวานเธอสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งเมื่อมาถึงที่สำนักงา
เธอกำลังจะกรีดร้องเมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู แต่ทว่าก็มีมือใหญ่ ๆ มาปิดปากของเธอพลางทำให้เธอทำโทรศัพท์ตกพื้น ในเวลานี้ตัวเธอแข็งด้วยความกลัว ไฟยังถูกปิดอยู่เธอจึงมองไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้น ทั้งหมดที่เธอรู้คือ ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับการบุกเข้าบ้านมากมายและไม่มีข่าวไหนจบลงโดยดี เธอจำได้ว่าเธอพกเงินไม่มากนัก เธอมีเครดิตสองสามพันในบัตรเครดิตของเธอ แต่เธอไม่อยากมอบมันให้เขา ผู้บุกรุกจะโกรธและฆ่าเธอถ้าเธอปฏิเสธที่จะให้เงินเขาไหม?ชายคนนั้นเหวี่ยงเธอไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์หนัก ๆ บนร่างกายของเขา เธอจับที่หลังโซฟาอย่างหวาดกลัวเพื่อให้ตัวเองมั่นคงและฉวยโอกาสกัดแขนของชายคนนั้น ความเจ็บปวดทำให้เขาต้องปล่อยมือจากปากของเธอและเธอก็ร้องออกมาว่า “ฉันไม่มีเงิน! ปล่อยฉัน! ฉันสามารถให้รหัสบัตรเอมีเอ็มคุณได้และฉันจะไปหายืมเงินส่งให้คุณในวันพรุ่งนี้ อย่าฆ่าฉัน!”น่าแปลกที่ชายคนนั้นไม่ขยับและไม่ตอบเธอ เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะกำลังพิจารณาใหม่อยู่ เขาเลยสงบลง “ผู้หญิงที่อายุเท่าฉันใช้ชีวิตเดือนชนเดือน ฉันจะมีเงินได้อย่างไร? หากคุณกำลังวางแผนที่จะปล้น คุณมาหาผิดคนแล้ว และฉันก็ไม่ได้สวยขนาดน
เธอจะไม่ค้างคืนกับคนเมาที่ไร้เหตุผลแน่นอน ใครจะรู้ เขาอาจจะลองทำอะไรอีกครั้งก็ได้! หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็โทรหาไบรอัน “มารับเขาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนเขาทิ้งที่ถนน หากมีใครเห็นภาพนั้น ครอบครัวเทรมอนต์จะต้องอับอายขายหน้า”จากนั้น เธอก็วางสายทันทีและเดินเข้าไปใกล้มาร์ค อย่างน้อยเขาก็ใส่กางเกงในอยู่ ด้วยวิธีนี้ ไบรอันจะไม่รู้สึกอึดอัดหรือเขินอายเมื่อมาถึงไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู เธอจ้องไปที่ไบรอันที่ยืนอยู่หน้าประตูและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คราวหน้า อย่าปล่อยให้เขาคลาดสายตาเมื่อเขาเมาอีก”ไบรอันดูเขินอายเล็กน้อย เขาก้มศีรษะลงและอธิบายว่า “ผมควบคุมไม่ได้ว่าคุณเทรอมนต์จะไปที่ไหน”เขาพูดถูก แอเรียนไม่รบกวนไบรอันมากนักและยืนอยู่ที่ประตูพลางรอให้เขาอุ้มมาร์คที่หมดสติไป เธอรอจนกว่าพวกเขาจะเดินออกไปก่อนที่จะปิดประตูเธอกลับไปที่ห้องของเธอและนอนลงบนเตียง เธอถอนหายใจยาวพลางรู้สึกเหมือนฝันร้าย ความอึมครึมในใจรบกวนเธอโดยปฏิเสธที่จะปล่อยเธอไปที่แย่ที่สุดคือหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแตก ตอนนี้โทรศัพท์ของเธอมีรอยร้าวขนาดใหญ่สองรอย โชคดีที่มันไม่ได้กระทบการทำง
เฮเลนยังคงมีรูปลักษณ์ของผู้หญิงที่มีตำแหน่งอาชีพสูง เธอแต่งตัวให้เหมาะสมในทุกโอกาส เธอดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าและรักษากริยาท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี ไม่มีช่องโหว่ให้เห็นบนใบหน้าของเธอเลย จึงยากที่จะอ่านอารมณ์ของเธอออก ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงไม่กล้าประเมินเธอต่ำเกินไป เธอวางมือบนโต๊ะและหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “แม่เสียใจมากสำหรับทุกสิ่งที่แอรี่และฌองทำกับลูก แม่คิดว่าแม่รับมือกับมันได้ไม่ดี”“ช่างมันเถอะ” แอเรียนตอบอย่างใจเย็น “พวกเขาไม่ได้รบกวนฉันมาสักพักแล้ว ช่วงนี้ค่อนข้างสงบ แต่เมื่อมีโอกาสฉันจะจัดการกับพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่คุณมาที่นี่เหรอ?”ดวงตาของเฮเลนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในคุก คนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกห้าปีและอีกคนถูกตัดสินให้จำคุกหนึ่งปี แม่เพิ่งรู้ไม่นานมานี้เอง มาร์คเป็นคนทำ แม่แน่ใจว่าลูกคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”แอเรียนตกใจมาก แต่เธอไม่แสดงมันออกมา ในเวลาเดียวกัน เธอเริ่มสงสัยในเหตุผลที่เฮเลนมาเยี่ยมในวันนี้ เนื่องจากเฮเลนได้นำเรื่องที่แอรี่และฌองติดคุกขึ้นมาพูด จึงชัดเจนว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกันเฉย ๆ ณ จุดนี้ แอเรียนทราบถึงส่วน
หลังจากที่ครุ่นคิด แอเรียนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความหามาร์ค “เฮเลนมาหาฉัน ฉันรู้ว่าคุณส่งแอรี่กับฌองเข้าคุก คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ฉันไม่ต้องการติดค้างคุณ ต่อจากนี้ไป ปัญหาของฉันไม่ใช่เรื่องของคุณ”คำตอบตามมาในไม่ช้า “ตราบใดที่เธอเป็นของฉัน ปัญหาของเธอก็จะเป็นเรื่องของฉันเสมอ เธอกล้าที่จะส่งข้อความถึงฉันแทนที่จะบอกต่อหน้าฉันงั้นเหรอ?”เธอปิดโทรศัพท์และตรงไปที่เตียง เธอปฏิเสธที่จะตอบข้อความของเขาและเธอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าเขาด้วย เธอไม่ได้ส่งข้อความนั้นไปเพื่อบอกให้เขาปล่อยแอรี่กับฌอง เธอเพียงต้องการให้เขาเลิกยุ่งกับปัญหาของเธอ เธอจะได้พักจากเขาโดยดีหรือไม่?...เมืองหลวงทิฟฟานี่ต้องเจอกับกำแพงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เธอไปสมัครงานในบริษัทต่าง ๆ จนเธอเริ่มกังวล เธอเพิ่งก้าวเข้ามาในบ้านและสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นจากเครื่องปรับอากาศพลางรู้สึกสดชื่นมากจนเธอรีบเตะร้องเท้าออกจากเท้าและเดินไปที่โซฟาอย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะทันได้นั่งลง ลิเลียนก็หยุดเธอ “อยู่ให้ห่างจากโซฟา ไปอาบน้ำก่อน ฉันเพิ่งซื้อโซฟานี้มา มันแพงมาก อย่าแม้แต่กล้านอนบนมันกับร่างกายที่เหงื่อโซกของเธอ เธอออกไ
แจ็คสันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่และใส่แว่นกันแดดของเขาโดยไม่ตอบสนองต่อเธอ น่าเสียดายที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ตัวต่อพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาโดยสิ้นเชิง เธอเดินไปจับแขนเขา “ฉันโอนเงินให้คุณแล้วนะ คุณได้รับมันหรือยัง? คุณวางแผนที่จะอยู่กี่วัน? ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้ถ้าคุณวางแผนที่จะอยู่เป็นเวลานาน ฉันอยู่ได้เพียงสองวันก่อนที่ฉันจะต้องกลับไปหาทำงานต่อ”แจ็คสันเม้มปากและพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรอผม” หลังจากที่พูดจบเขาก็เดินไปที่บูธขายตั๋วในเวลานี้ ในที่สุด ทิฟฟานี่ก็ตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอวิ่งเข้าไปหาเขา "คุณเป็นอะไร? คุณดูไม่มีความสุขเลย”เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “สำคัญด้วยเหรอว่าผมจะมีความสุขหรือไม่? ตราบใดที่คุณมีความสุขมันก็ไม่สำคัญหรอก”ระฆังเตือนภัยดังขึ้นในหัวของทิฟฟานี่ทันที "เดี๋ยวก่อน! คุณหมายความว่าอะไร? ทำไมมันฟังดูเหมือนฉันทำให้คุณโกรธ? คุณเป็นผู้ชายนะ ทำไมต้องงอแงเหมือนผู้หญิงด้วย? แค่บอกฉันว่ามีอะไรผิดปกติ เราจะได้แก้ไขมัน”แจ็คสันไม่มีอารมณ์ที่จะพูดถึงเรื่องผิดปกติในสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่าน ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ใช่คนที่ชอบทะเล
แจ็คสันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “คุณอยากจะหารค่าโรงแรมกับผมด้วยไหม? ผมไม่ได้ต้องการให้คุณช่วยผมประหยัดเงิน ทำไมคุณต้องคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ผมด้วย? ผมมีเวลามากเกินพอที่จะไปรับคุณจากบ้าน แต่ผมไม่ทำ และคุณก็ไม่โกรธผมด้วย คุณไม่แม้แต่จะถามผมเรื่องนี้ ในความคิดของผม สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคุณไม่สนใจผมเลย” เขาเป็นคนที่ไม่แยแสในความสัมพันธ์มาโดยตลอด มันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย ตอนนี้บทบาทได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร เขาจึงกำลังตื่นตระหนกในที่สุดสมองที่ทำงานช้าของทิฟฟานี่ก็เริ่มทำงานดีขึ้น ในที่สุดเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมาไม่ใช่เพราะเขาเบื่อเธอหรือเสียใจที่เดทกับเธอ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่ไม่สนใจเรื่องนั้น ฉันแค่ไม่ต้องการใช้เงินของคุณก่อนที่เราจะแน่ใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้ ฉันกลัวว่าแม่ของคุณอาจจะคิดว่าฉันตกลงคบกับคุณเพื่อเงิน ฉันรู้ว่าเงินจำนวนเล็กน้อยนี้ไม่สำคัญสำหรับคุณหรอก แต่นี่คือศักดิ์ศรีของฉัน ฉันคิดว่าคุณไม่มารับฉันเพราะคุณมีบางสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ ทำไมฉันต้องงอนเรื่องแค่นี้ด้วย? ไม่ใช่ว่าฉันไม่สนใจคุณ ฉันแค่พยายามจะเข้าใจคุ
ทิฟฟานี่ชะงักก่อนที่จะพูดว่า “เราไม่ได้ทะเลาะกันจริงจัง เพียงแต่ว่าเราทั้งคู่ไม่เห็นตรงกันในบางเรื่อง หลักการของเราแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ฉันไม่ต้องการใช้เงินของเขามากเกินไปในขณะที่เรายังออกเดทกัน และฉันไม่ได้คร่ำครวญเพราะเขาไม่ได้ไปรับฉัน เขาคิดว่านั้นเป็นเพราะฉันไม่สนใจเขาและไม่รักเขา อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าการที่เราจะแบ่งค่าใช้จ่ายให้เท่า ๆ เป็นเรื่องที่ดีเพราะหากในกรณีที่เราเลิกกัน เราจะได้ไม่ติดค้างอีกฝ่ายหนึ่ง ทำไมฉันต้องงอนเพราะเขาไปรับฉันไม่ได้? ถ้าเขายุ่งจริง ๆ และฉันงอนแบบนั้น มันก็จะไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่เหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เรื่องมันกลับกลายเป็นแบบนี้ มันเป็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กลับยุ่งเหยิง ฉันเหนื่อยมาก”แอเรียนมองว่า 'ความยุ่งเหยิง' นี้ไม่ใช่ปัญหา “เมื่อคนสองคนอยู่ด้วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาควรมีความสุข คนหนึ่งจะต้องคอยประนีประนอม ถ้าเธอต้องการให้เขามีความสุข เธอควรปรับให้เข้ากับวิถีของเขา ถ้าเขาใส่ใจเธอมากกว่า เขาจะแคร์เธอ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ต้องกังวล ไปสนุกกันเถอะ เมื่อไม่นานมานี้เราเริ่มทำอาหารกลางวันที่ร้านกัน อยากกินกับเราไหม? หรือเธอจะออกไปทานอาหาร
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง