ทิฟฟานี่หน้าแดงทันที แทนที่จะต่อว่าเขาเธอกลับกระดกไวน์หมดแก้วด้วยความตื่นตระหนก “คุณมันลามกหยาบคาย…”ปฏิกิริยาของเธอทำให้เขาตกตะลึงเป็นเวลาสองวินาที เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพูดติดตลกแบบนี้ในอดีตเธอจะตอบโต้แทนที่จะหน้าแดง...จู่ ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น ทิฟฟานี่รับโทรศัพท์ต่อหน้าเขาโดยไม่ลังเล “อีธาน? ฉันกินข้าวอยู่ข้างนอก ทำไม? ไม่ใช่ใครทั้งนั้น ฉันอยู่กับเพื่อน อะไรนะ? เจอกัน? กว่าฉันจะเสร็จก็น่าจะดึกแล้ว ไว้ค่อยเจอกันพรุ่งนี้ได้ไหม? อีกอย่าง ฉันลาออกแล้วนะ พรุ่งนี้ฉันว่างทั้งวันเลย ตกลง ฉันวางแล้วนะ”หลังจากที่ทิฟฟานี่วางสายเธอก็ดำเนินการทานอาหารต่อ เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่เยือกเย็นของแจ็คสัน หลังจากที่เธอดื่มไวน์ไปอีกหลายแก้ว สีแดงบนหน้าของเธอก็ดูเหมือนจะไม่จางหายอีกต่อไป ปกติเธอจะเป็นคนที่คอแข็ง แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้วเนื่องจากเธอไม่ได้ดื่มมาพักใหญ่แล้ว และเพราะเมื่อกี่เธอดื่มเร็วไปหน่อย แอลกอฮอล์จึงขึ้นหัวเธอได้เร็วพอพวกเขาทานเสร็จ ขวดไวน์แดงนั้นก็เกือบจะหมดขวดเช่นกันแจ็คสันดื่มไปเพียงนิดเดียว เพราะฉะนั้นจึงเป็นเธอที่ดื่มซะส่วนใหญ่ เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี
แอเรียนไม่เคยสงสัยในความตั้งใจของแมรี่ ดังนั้นเธอจึงถือหนังสือของเธอขึ้นไปชั้นบนด้วยความเชื่อฟัง “ได้สิ มันมืดมาก ระวังตอนที่ถอดหลอดไฟด้วยนะ”แมรี่ยิ้มด้วยความดีใจ มาร์คแทบจะไม่ได้กลับบ้านเร็วเลย แมรี่จะไม่ยอมให้แอเรียนเสียโอกาสนี้ไปเมื่อมาร์คกลับมาที่ห้อง เขาก็ไปนั่งหน้าหน้าต่างฝรั่งเศสพลางพลิกดูหนังสือ หนังสือที่เขาอ่านแตกต่างจากหนังสือของแอเรียน พวกมันทั้งหมดเป็นภาษาต่างประเทศ แอเรียนไม่เก่งภาษาต่างประเทศและเธอจะปวดหัวเมื่อพยายามที่จะทำความเข้าใจกับมันเนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลาเพียงสามทุ่ม แอเรียนจึงนอนลงบนเตียงและดำเนินการอ่านหนังสือต่อ ก่อนที่เธอจะทันได้อ่านจบประโยคมาร์คก็ดุเธอ “ใครสั่งใครสอนให้นอนอ่านหนังสือ? เธอต้องการที่จะทำลายสายตาตัวเองหรือไง? ลุกขึ้นนั่งถ้าเธออยากจะอ่านมัน ถ้าไม่งั้นก็ไปนอนซะ”น้ำเสียงของเขาเหมือนพ่อแม่ที่สั่งสอนลูกของตนเอง เธอชินกับมันมานานแล้ว เธอวางหนังสือไว้ข้าง ๆ ด้วยความเชื่อฟังและพยายามที่จะนอนหลับหลังจากนั้นไม่นานไฟในห้องก็ถูกปิด เสียงกรอบแกรบของเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกดังขึ้นในอากาศก่อนที่มาร์คจะเข้ามานอนบนเตียงกับเธอในที่สุดแอเรียนรู้ว่าเขาไม่ไ
แอเรียนไม่รู้ตัวว่าเธอฟังดูเหมือนเด็กขี้อวดคนนึง แต่ทิฟฟานี่ดูออก “โอ้ ๆ ดูเธอสิ! ตอนแรกเธอยังบอกฉันอยู่เลยว่าอยากหย่ากับเขา ทนเขาไม่ไหวแล้ว… แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนมีความรักเลย ใช่ไหม? ฉันว่าหลังจากที่เธออยู่กับเขามาตั้งหลายปีแล้วเธอคงหย่ากันไม่ได้หรอก ถึงพวกเธอจะไม่ได้รักกันอย่างโรแมนติกแต่เธออาจจะผูกพันกันก็ได้ ฉันล่ะอิจฉาพวกเธอจริง ๆ ที่ผูกพันกันและข้ามความรักแบบโรแมนติกไปเลย ไม่ว่ามันจะแย่แค่ไหน พวกเธอจะหายโกรธกันเพียงในพริบตา คนอื่นน่ะแค่ดีดนิ้วก็เลิกกันและหย่ากันได้ง่าย ๆ” แววของรอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของแอเรียนลึกขึ้นเรื่อย ๆ “เงียบไปเลย! ในเมื่อเธอไม่ได้ทำงานแล้ว ดังนั้นตอนเย็น ๆ เธอก็ว่างน่ะสิ ไปดื่มชากันไหม? ตอนนี้ฉันสามารถออกไปข้างนอกได้แล้ว ฉันจะตายด้วยความเบื่อหน่ายนี่อยู่แล้ว!”ทิฟฟานี่ไม่สามารถรอให้ถึงตอนเย็นได้ “ออกมาเดี๋ยวนี้เลย ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ ความคิดของฉันวุ่นวายไปหมด…”แอเรียนได้กลิ่นเรื่องเม้าท์มอยจากคำพูดของเธอทันที “ได้ ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วจะออกไปเลย เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นให้นะ”เมื่อทิฟฟานี่ไปถึงที่คาเฟ่เธอก็มองหาโต๊ะที่ไม่โจ้งแจ้งเกินไปและเล่าความล
”อ๋อ ใช่ เงินและที่ดินที่คุณให้ฉันมา ฉันไม่ต้องการมัน วันนี้ฉันไม่ได้นำเอกสารมาด้วย ฉันจะคืนมันให้คุณในครั้งหน้า” แอเรียนพูดอย่างใจเย็นและห่างเหินรอยยิ้มของเฮเลนจากลง “มันนานมาแล้ว ลูกควรจะรับมันไว้นะ พูดตามตรง แอรี่กำลังอาศัยแม่อยู่ฟรี ทุกอย่างที่เธอมีและใช้เป็นของแม่หมด เธอขอค่าขนมจากแม่ด้วย ถ้าลูกคืนเงินและบ้านให้กับแม่ แอรี่จะเอาทุกอย่างไป แม่ให้เธอมามากแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจึงเสียนิสัยและชอบขอโน้นนี้นั่น แม่จะไม่ให้อะไรเธออีก เก็บมันไว้เถอะนะ” แอเรียนไม่คิดว่าแอรี่จะเป็นปลิงขนาดนี้ แอรี่โตเต็มทีแล้วแต่ยังทำตัวเหมือนเด็กโข่งที่อยู่บ้านแม่ที่หย่าร้างของเธอ เธอช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเฮเลนนั้นสองมาตรฐาน ขณะนี้พวกคินซีย์ถังแตกแล้ว เพราะฉะนั้นแอรี่คงไม่ใช่คนเดียวที่อยู่อาศัยในบ้านเฮเลน ฌองก็น่าจะอยู่ที่นั่นด้วยแอเรียนจิบน้ำผลไม้ของเธอ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะเก็บมันไว้ให้คุณ คุณสามารถมาเอามันคืนได้เมื่อคุณคิดว่าเวลามันเหมาะสม ครอบครัวเทรมอนต์ของเราไม่ได้ขาดสิ่งเหล่านั้น”เฮเลนไม่แปลกใจ สีหน้าของเธอกลับพอใจด้วยซ้ำ “ตอนนี้ลูกเหมือนคุณหญิงเทรมอนต์จริง ๆ มันจะดีนะถ้าลูกทำตัวแบบนี้เป็นครั้ง
มาร์คสูบบุหรี่เต็มปอดก่อนที่จะดับมันทันที “มัน… ก็โอเค… ชงชาให้ฉันหน่อย ขอเข้ม ๆ…” มีใครบอกเขาได้ไหมว่าทำไมรสชาติแปลก ๆ ยังคงอวลอยู่ในปากของเขา? แม้แต่บุหรี่ก็ไม่สามารถกำจัดรสชาติได้ หวังว่าชาคงจะล้างมันออกไปได้หลังจากที่แอรีอานน์กลับขึ้นไปที่ชั้นบนและยื่นชาดำให้มาร์ค เขาก็เป่ามันอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะดื่มอึกใหญ่ เป็นการตัดสินใจที่ไม่ชาญฉลาดเอาเสียเลย เขาจะไม่มีวันลืมว่าการผสมผสานของชากับรสชาติแปลก ๆ ในปากของเขานั้นเป็นอย่างไร คืนนั้นเขาไม่ได้ทานอาหารเย็นเนื่องจากต้องเข้าห้องน้ำทั้งหมด 18 ครั้ง เขาไม่สามารถทนต่อได้และในที่สุดก็ไปโรงพยาบาลในเช้าวันรุ่งขึ้นแอรียนที่ยุ่งมาตลอดบ่ายหลับสนิทโดยไม่รู้ว่ามาร์คต้องทรมาน เธอสังเกตเพียงว่าเขาลุกจากเตียงบ่อยครั้งตลอดทั้งคืน เมื่อเธอไม่เห็นเขาในเช้าวันรุ่งขึ้นระหว่างรับประทานอาหารเช้าเธอก็คิดว่าเขาไปที่สำนักงานแล้วอย่างไรก็ตาม แมรี่สั่งสอนเธอ “นายท่านต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเธอ ท้องของฉันและเฮนรี่ทำจากเหล็ก ดังนั้นเราจึงสบายดี ครั้งต่อไปเราจะต้องชิมอาหารของเธอก่อนว่ามีพิษไหม ขอร้องนะ อย่าทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อนายท่านแบบนี้อีก!”เครื่องหมายคำตอ
แอเรียนไม่ค่อยอยากริเริ่มพูดคุยกับเขาเท่าไหร่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันบ่อยครั้งมากกว่าครึ่งแรกของชีวิตพวกเขาด้วยซ้ำ มาร์คตอบคำถามของเธออย่างสุดความสามารถ “เกี่ยวกับแจ็คสันน่ะ ภาพถ่ายของเขาที่ไนต์คลับถูกถ่ายและโพสต์ลงทางออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร”ดวงตาของแอเรียนเบิกกว้าง “ภาพถ่ายเสื่อมเสียเหรอ? ครั้งที่แล้วคุณก็ไปที่สถานที่เหล่านั้นกับแจ็คสันและเอริกไม่ใชเหรอ? มีคนถ่ายรูปคุณหรือเปล่า?”มาร์คจ้องมองเธอและพูดอย่างร้อนรนว่า “ฉันไปที่นั่นเพื่อดูบรรยากาศ พวกเขาไปที่นั่นเพื่อความสนุกสนาน มันไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะมีใครถ่ายรูปฉันไว้ มันก็จะไม่น่าสนใจอยู่ดี"หลังจากที่ทานอาหารมื้อเย็นเสร็จมาร์คก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาและส่งข้อความหาอีธาน “เป็นฝีมือของนายใช่ไหม?”เขาได้รับคำตอบทันที “มีหลักฐานก่อนแล้วค่อยมาว่าผมนะ”เรื่องนี้ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปติดตามมัน อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่าอีธานจะเป็นผู้กระทำความผิดเพราะเขาถือว่าแจ็คสันเป็นคู่แข่งในเรื่องความรักของเขา สุดท้ายแล้วมาร์คก็ได้แต่เตือนอีธาน “หยุดสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบตัวฉันซะ”เมื่อเวลา
“ไม่… หยุดนะ…”การปฏิเสธของเธอนั้นนุ่มนวล ไม่ก้าวร้าว จึงทำให้มาร์คไม่ได้สนใจจะฟัง ด้วยการพลิกตัวครั้งเดียวเขาก็สามารถกักขังเธอไว้ใต้ร่างของเขาและตรึงแขนที่สะบัดไปมาของเธอ ข้อมือของเธอนั้นบอบบางเขาจึงสามารถจับมันทั้งคู่ไว้ได้ด้วยมือข้างเดียวเมื่อรู้ตัวว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น แอเรียนก็ตื่นตระหนก “มาร์ค! ขอร้องเถอะ อย่า!” เธอพยายามปฎิเสธมันอย่างไร้สติ เธอรู้สึกแปลก ๆ เหมือนเธอกำลังพ่ายแพ้ในขณะที่เขากำลังมัวเมาไปในชั่วขณะ มาร์คพรมจูบของเขาไปทั่วริมฝีปากเธอและถามว่า “ทำไมล่ะ?”ทำไมน่ะเหรอ แอเรียนเองก็ไม่รู้เช่นกัน เธอควรจะตอบเขาว่าอย่างไรดี? พวกเขาทั้งสองแต่งงานกันอย่างถูกต้องและเป็นสามีและภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมาย เรื่องพวกนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติ แถมยังเป็นเรื่องที่ถูกคาดหวังไว้ด้วยซ้ำ แต่ภายในจิตสำนึกเธอก็ยังคงไม่ยอมรับมัน เพราะอะไรกัน?เธอนึกถึงอดีตของเขากับแอรี่และลูกสามคนของตัวเอง ไม่มีคนไหนได้ลืมตาดูโลกเลย ความทุกข์ทรมานที่เธอต้องพบเจอที่โรงพยาบาลนั้นกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้นอย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องในอดีตของเธอที่เธอได้ปิดกั้นมันไว้ด้วย ทั้งเรื่องของวิลและเรื่องของการหาย
ทิฟฟานี่ปฏิเสธอย่างไม่ไยดี “ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขา มันเป็นข่าวเสื่อมเสีย เข้าใจไหม? เสื่อมเสีย! เอ่อ แล้วเรื่องขนมที่เธอทำเป็นไงบ้าง? ฉันได้ยินมาว่ามาร์คเกือบจะเสียชีวิตไปแล้วหลังจากที่กินมัน และเขาถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ?”แอเรียนรู้สึกหดหู่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “ยังไม่พัฒนาไปถึงไหนเลย แค่ฉันสามารถทำให้ขนมหน้าตาดูดีก็ถือว่าพัฒนาแล้วแต่รสชาติมันไม่ยอมดีไปด้วย ขนาดข้าวปั้นยังไม่อยากกินมันเลย ตอนนี้คนที่บ้านวิ่งหนีฉันด้วยความกลัวหมดเวลาที่เห็นฉันทำขนม ฉันกังวลมาก”ทิฟฟานี่หัวเราะออกมาแต่ไม่ได้แซวเธอมากเกินไป ทิฟฟานี่หยุดหัวเราะเมื่อเธอหัวเราะพอแล้ว “แอริ เธออยากไปดูบ้านกับฉันไหม? แม่อยากย้ายบ้านแต่ฉันกลัวว่าแม่จะจู้จี้จุกจิก มาช่วยฉันโน้มนาวเธอหน่อย เมื่อเราดูเสร็จเราจะได้เหลือแค่ตัดสินใจ อย่างน้อยฉันจะได้ไม่ต้องทนเดินดูบ้านกับแม่ทั้งวันเพราะแม่ไม่ยอมพอใจสักที”แอเรียนตกลง เธอไม่มีอย่างอื่นให้ทำอยู่แล้วเมื่อพวกเขาพบเจอกัน ทิฟฟานี่ก็ดึงแอเรียนมาและพูดด้วยเสียงเบาว่า “แม่ฉันต้องไปดูบ้านวิลล่าแน่นอน เธออาศัยอยู่ที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ มานานหลายปี เพราะฉะนั้นเธอน่าจะมีความรู้
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง