เฮเลนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาความสงบ “แน่-แน่นอน... นั่นไม่มีทางที่ฉันจะผิดพลาด ตอนนั้นแอรี่ทะเลาะกับฉันที่บ้านเพราะเธอออกไปข้างนอกดึกและดื่มเหล้า เมื่อคืนก่อนหน้านี้ เป็นเพื่อนของเธอที่ไปส่งเธอที่บ้าน รถสปอร์ตถูกทิ้งไว้กลาวแจ้ง และฉันต้องส่งคนขับรถไปรับมันกลับบ้านในวันต่อมา ฉันไม่คาดคิดว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทาง ฉันมั่นใจมากในความทรงจำของฉัน ไม่ว่าในกรณีใด เรายังคงเป็นฝ่ายผิดเนื่องจากคนขับรถทำงานให้กับครอบครัวคินซีย์ เป็นคำเรียกร้องของคุณเราจะยอมรับการตัดสินใจของคุณ”มาร์คไม่ได้ให้คำตอบกับเธอในทันที เฮเลนมองเขาอย่างใจจดใจจ่อกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงจนเลือดออกในวินาทีต่อมาหลังจากนั้นไม่นานในที่สุดมาร์คก็พูดขึ้น “คุณเป็นแม่ของแอเรียน แอรี่เป็นน้องสาวต่างพ่อของเธอ เหตุการณ์นี้สามารถตัดสินเป็นการส่วนตัวนอกศาลเท่านั้น ผมจะมีคนคอยติดตามและติดตามคุณ ตอนนี้ผมจะกลับแล้ว ผมยังมีเรื่องอื่นต้องทำ”เฮเลนถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก “ได้ค่ะ รบกวนดูแลแอเรียนให้ดีด้วยนะคะ ฉัน… จะไม่... ไปเยี่ยมเธอ…”มาร์คลุกขึ้นและจากไปโดยไม่ให้เธอตอบรับ ริมฝีปากของเขาโค้งงอเป็นเยือกเย็นหลังจากดูแลเรื่
หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วทิฟฟานี่ก็เหนื่อยล้ามากจนไม่อยากขยับเขยื้อนแม้แต่กล้ามเนื้ออีกต่อไป ขณะที่เธอล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโทรหาแม่ของเธอ ทันทีที่ต่อสายติดเธอก็ได้ยินเสียงจากปลายสาย “ไผ่สามลำ! รอ! เกม!"ทิฟฟานี่ไม่จำเป็นต้องเดาด้วยซ้ำเพื่อบอกว่าลิเลียนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอีกครั้งและสิ่งนี้ทำให้เธอเดือดร้อน “แม่หยุดเล่นไพ่นกกระจอกได้ไหม? มันดึกแล้วและแม่ก็ยังไม่กลับอีก”ลิเลียนโต้กลับด้วยความโกรธยิ่งกว่าเดิม “เพราะว่าแกดูเหมือนจะไม่สนใจฉัน ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันพอใจไม่ว่าจะออกไปกินข้าวหรือเล่นไพ่นกกระจอก ฉันจะไม่กลับมาในคืนนี้ ฉันจะเล่นทั้งคืน! ทำในสิ่งที่แกต้องการไปเถอะแล้วปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว!”การวางสายโทรศัพท์ของเธอทำให้ทิฟฟานี่อยากจะกรีดร้องและระบายความโกรธของเธอ ถ้าเธอไม่กังวลว่าจะถูกรายงานว่ารบกวนเพื่อนบ้านเธอคงตะโกนสุดเสียงเต็มปอดเป็นเวลาสิบนาที หากยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้เธอจะเสียสติไม่ช้าก็เร็ว ......สามวันต่อมา แอเรียนออกจากโรงพยาบาลและกลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์จากข้อมูลของพ่อบ้านเฮนรี มาร์คไม่ได้กลับบ้านในช่วงสามวันที่ผ่านมาแอเรียนร
เมื่อสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ค่อนข้างไม่ถูกต้อง แผนกต้อนรับจึงรีบโทรหาเลขาของมาร์ค “เอลลี่ คุณหญิงเทรมอนต์ กำลังตามหาคุณเทรมอนต์ ดิฉันคิดว่าเธอดูก้าวร้าวมาก… เธอมีใครบางคนอยู่ด้วย ดิฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพ่อบ้านหรืออะไรสักอย่าง…”เลขารับทราบข้อมูลแล้ววางสายโทรศัพท์ เธอลุกขึ้นเคาะประตูห้องทำงานของมาร์ค “คุณเทรมอนต์ ภรรยาของคุณอยู่ที่นี่ค่ะ”เธอได้ยินมาร์คฮัมตอบอย่างเย็นชาจากห้องทำงานของเขาลิฟต์มาถึงชั้นสี่สิบหกอย่างรวดเร็ว เอลลี่ อามอร์ ซึ่งรออยู่ที่ประตูลิฟต์แล้วสวมรอยยิ้มแบบมืออาชีพบนใบหน้าของเธอทันทีที่เห็นแอเรียน “คุณหญิงเทรมอนต์ คุณเทรมอนต์อยู่ในห้องทำงานของเขาค่ะ”สายตาของแอเรียนจับไปที่รองเท้าแตะนุ่ม ๆ ที่เท้าของเอลลี่ซึ่งไม่เข้ากับชุดสำนักงานที่เธอสวมใส่ จากนั้นเธอก็จำได้ว่ามาร์คไม่ชอบถูกรบกวนด้วยเสียงเมื่อเขาทำงาน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอยู่บนชั้นนี้อย่างเงียบ ๆ ครั้งสุดท้ายที่แอเรียนอยู่ที่นี่เธอต้องเดินเท้าเปล่าอย่างไรก็ตาม คราวนี้เธอเพียงแค่ผลักเปิดประตูห้องทำงานและเข้าไปโดยไม่ถอดรองเท้า “มาร์ค เทรมอนต์ คุณได้ตรวจสอบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างละเอียดแ
หลังจากความตกใจและอารมณ์ที่แปรปรวน แอเรียนก็ทรุดตัวลงนั่งบนเบาะรถรู้สึกเหมือนเปลือกที่ว่างเปล่า “กลับกันเถอะ” เธอพูดอย่างอ่อนแรงเมื่อนึกถึงสายจากเฮเลนที่เธอปฏิเสธไปก่อนหน้านี้เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรกลับ มีการรับสายอย่างรวดเร็วและนำไปสู่จุดที่ถูกต้อง "คุณรู้ว่ามันเป็นแอรี่ที่ชนฉันใช่ไหม?"เฮเลนสำลักที่ปลายสาย “แอริ… ฉันขอโทษ… มือฉันถูกมัด เธอทั้งคู่มีความสำคัญสำหรับฉันเท่า ๆ กัน แต่ฉันก็มีปัญหาเช่นกัน ... ฉันขอโทษ ... ”แอเรียนหัวเราะเยาะ “แน่นอน ว่าคุณมีปัญหา ฉันสมควรได้รับมัน ฉันสมควรได้รับการแท้งครั้งนี้ ฉันสมควรถูกฆ่าตาย คุณไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากฉันมาก่อนตั้งแต่คุณให้กำเนิดฉันใช่ไหมล่ะ? ฉันเป็นหนี้ชีวิตที่คุณมอบให้ฉันดังนั้นตอนนี้... ฉันได้ชดใช้มันด้วยชีวิตของลูกของฉันแล้ว จากนี้ไปฉันจะไม่เป็นหนี้อะไรคุณอีก เธอวางสายทันทีหลังจากพูดแบบนั้นและบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของเฮเลนในครั้งเดียวหลังจากทำทุกอย่างแล้วเธอก็ถอนหายใจยาวตามที่คาดไว้มาร์คไม่ได้กลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ ในคืนนั้น แอเรียนกลับไปทำงานตามปกติในวันรุ่งขึ้นโดยมีผ้าพันแผลที่หน้าผาก แม้ว่าเธอจะยังอ่อนแอมาก แ
แอรี่มุ่ยใส่เธอ “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยคุณพูดทั้งหมดออกมาเอง… อย่างไรก็ตาม เรื่องอื้อฉาวเมื่อสามปีก่อนเกี่ยวกับรูปถ่ายที่ไม่เหมาะสมของคุณและวิล คุณไม่ควรหลีกเลี่ยงเขาตอนนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณแต่งงานกับพี่มาร์คที่รักแล้วอย่างนั้นเหรอ? เด็กที่คุณเสียไป… เป็นของมาร์คจริง ๆ เหรอ? คุณซื่อสัตย์กับฉันได้ไหมล่ะ?”ในขณะที่พูดทั้งหมดนี้ แอรี่ยังคงกะพริบตาที่ดูไร้เดียงสาของเธอ เธอทำให้ดูเหมือนว่าเธอเผลอพลั้งปากของเธออย่างไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชนคำตอบของแอเรียนสงบลงอย่างน่าประหลาดใจ “ไม่มันไม่ใช่ของเขา คุณพอใจหรือยัง? ตอนนี้คุณโมโหไหมล่ะ?”คำพูดของเธอส่งให้ทุกคนลุกฮือทันที ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะยอมรับอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะว่าเธอนอกใจมาร์ค เทรมอนต์!เอริกก็ตกใจเหมือนกัน “แอเรียน คุณไม่ควรพูดเรื่องไร้สาระนะ! อย่าโกรธเลยน่า เราจะคุยกันหลังเลิกงาน ทำงานของคุณต่อก่อน แอรี่ คุณจะไม่ไปหามาร์คเหรอ? ผมจะไปส่งที่นั่นเอง!”แอรี่ยอมรับข้อเสนอของเอริกพร้อมกับพยักหน้าจากนั้นก็โน้มตัวไปที่หูของแอเรียนและกระซิบให้ดังพอที่เธอจะได้ยิน "แล้วถ้าฉันเป็นคนที่ชนเธอล่ะ? แม่รู้ว่าเป็นฉันและเธอเป็นคนที่ช่วยฉันจ
แทนที่จะกลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ หลังจากออกจากที่ทำงาน แอเรียนส่งข้อความหาวิล 'นายสบายดีหรือเปล่า? ฉันขอโทษที่คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุต ฉันตกเป็นเป้าหมาย’วิลโทรหาเธอโดยตรงทางโทรศัพท์ "ฉันสบายดี มันแค่รอยขีดข่วน แต่… ตอนนี้เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? เธอหมายถึงอะไรที่เธอตกเป็นเป้าหมาย?”แอเรียนไม่ต้องการยัดเยียดเรื่องน่ารังเกียจเหล่านั้นให้กับคนอื่น ๆ เธอจึงไม่ได้บอกอะไรกับวิล “ฉันสบายดี ดังนั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีกต่อไป ฉันดีใจที่นานสบายดีนะ ฉันจะวางสายเดี๋ยวนี้”โดยไม่ให้โอกาสวิลได้พูดอย่างอื่น แอเรียนก็วางสายอย่างรวดเร็วเนื่องจากทิฟฟานี่ทำงานอยู่และแอเรียนก็ไม่อยากรบกวนเธอเช่นกัน เธอจึงหาร้านกาแฟไปเรื่อยเพื่อใช้เวลาของเธอ เธอค่อย ๆ ผ่อนคลายในขณะที่จิบลาเต้ถ้วยที่เธอสั่งในขณะที่มองดูการจราจรที่พลุกพล่านอยู่นอกหน้าต่างทันใดนั้น เธอก็สังเกตเห็นแมวจรจัดตัวหนึ่งเดินผ่านหน้าต่างด้านนอก แม้ว่ามันจะสกปรก แต่แอเรียนสามารถบอกได้ว่ามันมีขนสีขาว แมวมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลราวกับว่ามันเพิ่งค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่แปลกใหม่มุมปากของเธอยกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที
ข่าวดังกล่าวเป็นการกล่าวว่าเธอนอกใจ มาร์ค เทรมอนต์ โดยไม่ระบุชัดเจนในชื่อหลังจากอ่านข่าว แอเรียนก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างใจเย็น “ตอนนี้ฉันได้เห็นแล้ว แล้วไงล่ะ?”มาร์คก้มหน้าลงและดูเหมือนเขากำลังจะเขมือบใครบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่ “แล้วไง?” เขาถามเธอซ้ำด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแอเรียนยักไหล่กลับมาที่เขา "อะไร? คุณขอให้ฉันอ่านข่าวและฉันก็ทำแล้ว แล้วไงล่ะ? คุณไม่ได้บอกว่าเด็กไม่ใช่ของคุณหรือ? ตอนนี้คนทั้งโลกรู้แล้วว่าไม่ใช่ของคุณ มันไม่ดีเหรอ? อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ไม่ต้องรับบทเป็นพ่อ”แม่รี่บังเอิญได้ยินคำพูดของแอเรียน เมื่อเธอถือจานไปที่ห้องนั่งเล่น เธอตกใจมากจนจานหลุดจากการจับของเธอและแตกกระจายลงบนพื้นทันทีพร้อมกับเสียงดัง มาร์คกระโดดขึ้นจากที่นั่งและจับไหล่ของเธอ “พูดอีกครั้งสิ!”แอเรียนมองไปที่ผู้ชายตรงหน้าเธอด้วยความเฉยเมยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในสายตาของเธอ เธอไม่สงสัยเลยว่ามาร์คจะตีเธอเพราะเธอรู้ว่าเธอทำให้เขาโกรธได้สำเร็จถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่กลัวแล้วในตอนนี้ ในที่สุดเธอก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเป็นอย่างไรเมื่อเห็นฉากนั้นแมรี่
แอเรียนกินต่อไปโดยไม่หันไปมองเขา “มันไม่ใช่ ‘สิ่งของ’ ข้าวปั้นเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน”“ฉันไม่สนหรอกว่ามันคืออะไร! กำจัดมันซะ ฉันไม่อยากเห็นมันอีกในเช้าวันรุ่งขึ้น ถ้าเธอไม่ทิ้งมันด้วยตัวเองฉันจะให้คนไปจัดการเอง” มาร์คไม่เหลือที่ว่างสำหรับการเจรจา“คุณเกลียดข้าวปั้นมากกว่าที่คุณเกลียดฉัน แล้วทำไมคุณไม่กำจัดฉันไปก่อนหน้านี้แทนที่จะให้ฉันอยู่ใกล้ ๆ เพื่อเป็นที่รังเกียจของคุณล่ะ? ฉันจะไม่กำจัดข้าวปั้น ในทางกลับกันฉันจะยอมให้คุณเกลือกกลั้วอยู่ที่นั่น ฉันแน่ใจว่าแอรี่ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่คุณคอยอยู่เคียงข้าง มีอะไรผิดปกติที่ฉันเลี้ยงแค่แมวอย่างนั้นเหรอ?” เธอยั่วโมโหเขาอย่างไม่เกรงกลัว“แอเรียน วินน์!” มาร์คระเบิดอีกครั้งในขณะที่เขายืนขึ้นและกระแทกโต๊ะแอเรียนไม่สนใจการระเบิดของเขา เธอค่อย ๆ เคี้ยวอาหารในปากแล้วพูดหลังจากกลืนมันลงไป “ไม่ต้องตะโกน ฉันไม่ได้หูหนวก เพราะคุณไม่ชอบกลับบ้านนี่ ฉันแน่ใจว่ามีที่ว่างมากมายในบ้านหลังใหญ่นี้สำหรับเลี้ยงแมว”คนรับใช้ใน คฤหาสน์ เทรมอนต์ ต่างหวาดกลัวจนแทบจะหายใจไม่ทัน พวกเขาทั้งหมดคิดว่าเรื่องนี้จะลุกลามกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ในคืนนี้ แต่สุดท้ายแล้ว
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง