ความทะเล้นบนใบหน้าของซิลแวงหายไปในทันที “นี่เธอก็คิดว่าฉันเป็นแมงดาที่ต้องเกาะผู้หญิงกินเหมือนกันเหรอ?”โรบินพูดไม่ออก นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด ถ้าเธอปฏิเสธตอนนี้ มันก็คงจะดูเหมือนการเสแสร้ง หลังจากที่เงียบไปสองวินาที เธอก็เปิดปากพูด แต่ซิลแวงพูดแทรกขึ้นมาก่อน “โอเค เธอไม่ต้องตอบก็ได้ ฉันไม่สนใจแล้วว่าคนอื่นจะคิดยังไงหรอกนะ”หลังจากนั้นบรรยากาศก็เริ่มหม่นหมอง โรบินรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกเล็กน้อย เธอจึงลดกระจกลง เพื่อปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเส้นผมของเธอ ทำให้กลิ่นหอมของแชมพูของเธอพัดเข้าไปในรถ มันเป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ จู่ ๆ ซิลแวงก็พูดขึ้นว่า “มัดผมเถอะ”“ฉันไม่มียางมัดผม…” เธอตอบอย่างกระอักกระอ่วนเขาหยิบยางรัดผมออกมาราวกับว่าเสกมันมาได้ “นี่”เธอรับมันและรู้สึกกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม เธอทิ้งยางรัดผมอันนี้เอาไว้ตอนที่เธอไปนอนที่บ้านของเขาครั้งหนึ่ง เธอแปลกใจที่เขายังเก็บมันไว้และ… เอามันไปด้วยทุกที่ที่เขาไป? ขณะที่เธอกำลังวิเคราะห์อยู่นั้น ซิลแวงก็หัวเราะ “เธอคงไม่คิดว่าฉันหวั่นไหวจนต้องเก็บของของเธอไว้ใช่ไหม? เธอคิดว่าฉันทำใจทิ้งมันไม่ได้เหรอ? ฉันตั้งใจจะทิ้งมัน แต่ฉันไม่มี
เธอก้าวเข้าไปในวิลล่าของซิลแวงอีกครั้ง “เจสสิก้าให้หลังนี้กับฉันตอนที่ฉันเป็นตัวแทนของบริษัทในการแข่งขันและได้รางวัลที่หนึ่ง ฉันยอมรับมัน ไม่ใช่เพราะฉันชอบเป็นของเล่นของใคร แต่เป็นเพราะผลประโยชน์ที่ฉันให้เจสสิก้ามันมากกว่ามูลค่าบ้านหลังนี้ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉันชัดเจน ดังนั้นฉันจึงยอมรับมัน”โรบินเดินไปที่โซฟาและนั่งลง “พี่… มีความรู้สึกต่อเจสสิก้าไหม?” เธออยากจะถามคำถามนี้ตั้งแต่ที่เธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจสสิก้าซิลแวงจับตาดูเธออยู่พักหนึ่ง “อยากรู้จริง ๆ เหรอ?”การจ้องมองของเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก “ฉัน… ฉันแค่หาเรื่องคุย ถ้าพี่ไม่อยากพูดถึงมันก็ไม่เป็นไร”ซิลแวงเดินไปที่บาร์และเปิดขวดไวน์ก่อนที่จะรินมันใส่แก้วแล้วยื่นให้เธอ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ และไม่มีอะไรที่จะต้องหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเช่นกัน ฉันเคยชื่นชมหล่อนนะ แต่นั่นมันเมื่อหลายปีก่อน ทุกคนล้วนมีความรักลวง ๆ ในวัยเยาว์ บางคนโชคดีพอที่จะพบคนที่ใช่และได้ตกหลุมรักอย่างเร่าร้อน คนที่ด้อยโอกาสก็กลายเป็นเพียงทางผ่าน ภายหลังฉันถึงรู้ว่าหล่อนไม่ได้ต้องการความสัมพันธ์ที่โรแมนติก หล่อนชอบถูกห้อมล้อมด้
ซิลแวงน่าจะนอนดึกมากเมื่อคืนนี้ เขายังคงหลับอยู่ตอนที่เธอออกมา ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะทิ้งโน้ตไว้ให้เขา อย่างน้อยเธอควรจะบอกเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งว่าเธอไปแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ควรทำตามมารยาทเธอเพิ่งจะถึงที่ทำงานเมื่อแอเรียนดึงเธอไปคุยด้วย “แม่เธอมาที่นี่และถามทุกคนในออฟฟิศว่าเธอได้ทำงานล่วงเวลาทั้งคืนเลยไหม เขาดูโกรธมาก หลังจากที่รู้ว่าไม่มีใครอยู่ที่ออฟฟิศเมื่อคืนนี้ เขากำลังรอเธออยู่ เมื่อคืนนี้เธอไปไหนมา? ฉันก็ส่งเธอขึ้นรถแท็กซี่แล้วไม่ใช่เหรอ? เธอไม่ได้กลับบ้านหรือไง?”ใบหน้าของโรบินถอดสี “พี่แอเรียน… ฉันไม่คิดว่าแม่จะมาถึงที่นี่ ฉันขอโทษ! พี่ต้องช่วยฉันนะ! เมื่อคืนนี้ฉันขึ้นแท็กซี่ก็จริง แต่มีบางอย่างผิดปกติกับคนขับรถ เขาพาฉันไปทางเปลี่ยว ฉันกลัวมาก ฉันเลยโทรหาพี่ซิลแวง แล้วเขาก็มารับฉัน การไปกลับกินเวลาไปมาก ตอนนั้นมันค่อนข้างดึกแล้วและฉันก็ลืมกุญแจบ้านอีก พ่อแม่ของฉันมีนิสัยชอบปิดโทรศัพท์ตอนกลางคืนเวลาเข้านอน และฉันก็กลัวเกินกว่าจะปลุกพวกเขา ฉันก็เลยไปค้างที่บ้านพี่ซิลแวง แม่จะต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ถ้าเขารู้ว่าฉันไปค้างที่บ้านผู้ชาย! พี่แอเรียน…”แอเรียนขมวดคิ้ว “เธอกั
แอเรียนส่ายหน้าอย่างหมดหนทางและกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ความสัมพันธ์ของโรบินกับซิลแวงถือว่าลึกซึ้งกว่าการเป็นเพื่อนกันเล็กน้อย หลังจากทุกอย่างที่เขาประสบมา อนาคตของซิลแวงถือว่าสิ้นหวัง เธอไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ของโรบินกับซิลแวงดี เธอคงจะทำได้เพียงคอยดูอยู่ห่าง ๆเย็นวันนั้นมาร์คมารับเธอหลังเลิกงาน ทั้งคู่มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลพร้อมกับผลไม้เต็มถุง อย่างที่เธอคาดไว้ ทิฟฟานี่เจ็บปวดเกินกว่าจะลุกจากเตียงได้ หล่อนทรมานยิ่งกว่าเธอตอนที่แอเรียนคลอดลูก หล่อนควรจะลงจากเตียงได้ในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด ปริมาณของน้ำเกลือที่หล่อนได้รับทำให้หล่อนต้องไปเข้าห้องน้ำสองสามครั้ง ทิฟฟานี่จะคร่ำครวญทุกครั้งที่เธอต้องเข้าห้องน้ำ เสียงร้องของเธอทำให้แจ็คสันที่ต้องพยุงเธอตลอดทางเหงื่อแตกพลั่กทิฟฟานี่น้ำตาไหลเมื่อเห็นแอเรียนและมาร์คมาถึง “แอเรียน” เธอสะอื้น “ฉันน่าจะฟังเธอและเลือกการเกิดตามธรรมชาติแทน ฉันเจ็บมาก…”แอเรียนช่วยเธอนอนลงและปอกกล้วยให้เธอ “ไม่มียาแก้สำหรับความเสียใจ การคลอดตามธรรมชาติก็เจ็บเหมือนกันและใช้เวลานานกว่าด้วย เธอจะต้องใช้เวลาสองสามวันตั้งแต่เริ่มปวดท้องจนถึงตอนคลอด ในระหว
ลิเลียนเห็นด้วย “ทิฟฟ์ อย่าดื้อได้ไหม? ทั้งหมดนี้มันจะดีต่อเธอนะ การอยู่บ้านระหว่างที่พักฟื้นก็จะเป็นภาระคนรอบข้างในทางอ้อมนะลูก นั่นรวมถึงแจ็คสันและคุณแม่ของเขาด้วย ฟังนะ เธอจะอ่อนแอไม่แพ้กับลูกของเธอในช่วง 1 เดือนแรก เพราะฉะนั้นมันจะดีต่อเราทุกคน ถ้าเธอได้รับการดูแลจากมืออาชีพที่ศูนย์พักฟื้นหลังคลอด ถูกไหม? อีกอย่าง เราจ่ายไหว การที่จะใช้เงินกับอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ไม่นับว่าเปลืองนะลูก แล้วก็เลิกบ่นว่ามันไม่ปลอดภัยได้แล้ว ยังไงแจ็คสันก็อยู่กับเธอตลอดนี่”ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วและเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่ว่าใครจะพูดอะไรเธอก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ในที่แปลกที่ 1 เดือนเต็ม ๆ ไม่ว่าที่นั่นจะหรูหราเพียงใดก็ตาม อย่างไรมันก็จะไม่สบายตัวเท่าอยู่ที่บ้าน ขนาดอยู่ที่โรงพยาบาลทุกวันนี้เธอยังแทบจะเป็นบ้าเลย ทุก ๆ วันเธอจะขอพรให้ได้กลับบ้านเร็ว ๆแจ็คสันที่สังเกตเห็นสีหน้าของเธอจึงรีบตอบ “ไม่เป็นไรครับแม่ ให้ทิฟฟ์เขาตัดสินใจอีกดีกว่านะครับ ตราบใดที่เธอมีความสุขก็จะไม่เป็นภาระใคร ผมเองก็ดูแลลูกได้และทำอาหารเก่ง ถ้าผมไม่ไหวผมค่อยจ้างพี่เลี้ยงก็ได้ ไม่เป็นปัญหาเลยครับ อีกอย่าง… ผมว่าอาหารที่ผมทำก็ไม่แพ้อาหาร
แอเรียนมองมาร์คโดยสัญชาตญาณ ในความเป็นจริงแล้ว แอเรียนไม่ได้เป็นคนเงียบโดยธรรมชาติเลย ก่อนที่เธอจะอายุแปดขวบ วัยเด็กของเธอทั้งมีความสุขและเธอก็เป็นคนที่ชอบเล่นตลกโดยเฉพาะตอนที่เล่นกับเพื่อน เหตุผลเดียวที่ทำให้เธอเงียบก็เพราะเธอได้มาจากมาร์ค กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ สมอร์เป็นเด็กเงียบ ๆ เพราะเขาได้พ่อ และเมื่อยื่งเขาโตขึ้น ความคล้ายคลึงก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นตอนกลางคืน เมื่อทั้งคู่นอนข้างกัน แอเรียนก็ถามว่า “มาร์ค เทรมอนต์ คุณเย็นชาและแข็งทื่อแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วหรือเปล่า? เพราะสมอร์เหมือนคุณตอนเด็กเลย ใช่ไหม?”มาร์คบีบสันจมูกเธอ “เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ? ทำไมได้ยินไม่เข้าหูเลย” เธอสะบัดมือเขาออก “ก็เรียกชื่อของคุณไง มันแปลกตรงไหน? อยู่ ๆ จะให้ฉันเรียกคุณว่า ‘ที่รัก’ หรือไง? นี่คุณจะงี่เง่าเพียงเพราะฉันเรียกชื่อคุณจริง ๆ เหรอ? ถ้าจะไม่ให้เรียกชื่อคุณแล้วคนเราจะมีชื่อไปเพื่ออะไรกันล่ะคะ? อีกอย่าง ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ! คุณเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า?”มาร์คดึงนิ้วมือที่เรียวของแอเรียนมาเล่น “ไม่นะ ส่วนใหญ่เป็นเพราะการเลี้ยงดูแหละ” เขาตอบ “ครอบครัวเทรมอนต์เมื่อก่อน… แตกต่างกับตอ
เมื่อมาร์คดมกลิ่นผมของแอเรียน ลมหายใจของเขาก็ถี่ขึ้นในขณะที่ความง่วงของเขาที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาค่อย ๆ ลดน้อยลงเขากัดติ่งหูเธอเบา ๆ “ฉันต้องการเธอ เดี๋ยวนี้”ลมหายใจของแอเรียนชะงักพลางขยับตัวออกจากเขาเล็กน้อย “แต่คุณง่วงไม่ใช่เหรอ?”ลมหายใจที่ร้อนผ่าวกระทบหูของเธอ“ไม่ ไม่แล้ว”…ถึงแม้ว่าจะเป็นวันเสาร์ แต่มาร์คก็ยังตื่นเช้าทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องไปทำงาน เขาจึงมาเล่นกับสมอร์แทนแอเรียนเบื่อและไม่มีอะไรให้ต้องทำ สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจที่จะไปหาทิฟฟานี่ขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาลและกำลังรอลิฟต์ แอเรียนก็ได้พบกับเจตต์โดยบังเอิญ ผิดจากกล่องข้าวเหมือนเมื่อวันก่อน วันนี้แขนของเขาเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก เห็นได้ชัดว่าความขาดประสบการณ์ในการเป็นพ่อคนของเขา รวมถึงการที่ผู้ชายทั่วไปมักจะไม่มีความรู้เรื่องการเป็นแม่คนอยู่แล้ว จึงทำให้เจตต์ซื้อของที่ไม่จำเป็นสองสามอย่าง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ซ้ำ ๆ กันและนมผงที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดแอเรียนอดไม่ได้ที่จะเตือนเขา “บางอย่างที่คุณซื้อมามันผิดนะ ไม่ใช่ทุกอย่างในถุงนั้นจะจำเป็น และคุณก็ลืมของที่จำเป็น ๆ บางอย่างด้วย ลูกคุณเก
แอเรียนเลือกที่จะปล่อยเรื่องนั้นผ่านไปและเปลี่ยนเรื่องแทน “เมลานีก็ท้องได้สองสามเดือนแล้วใช่ไหม? อีกไม่นานเธอก็คงจะคลอดเหมือนกัน”เจตต์จ้องตาแอเรียนเบา ๆ ก่อนที่จะตอบ “ใช่ครับ คุณเมลานีท้องอยู่ แต่ผมลาพักร้อนเพื่อที่จะได้อยู่ดูแลธัญญ่ามาสักพักแล้ว ผมเลยไม่ได้ทำงานให้ตระกูลสมิธมาสักพักแล้วด้วย ถ้าคุณต้องการจะรู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขา ผมคงจะช่วยอะไรคุณได้ไม่มาก”แอเรียนต้องยอมรับว่าเจตต์ไม่ใช่คนธรรมดา เขาทั้งรอบคอบและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเธอเม้มปาก “นี่ ที่ฉันช่วยคุณวันนี้ไม่ใช่เพราะฉันจะหลอกถามคุณนะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ อีกอย่าง ถ้าฉันอยากจะรู้อะไรจริง ๆ ฉันก็มีทางของฉันที่จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ” เธอกล่าว “เอาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว ฝากดูแลธัญญ่าด้วยนะ”หลังจากนั้นเธอก็ไปที่ห้องของทิฟฟานี่ทันทีและระหว่างที่คุยกันเธอก็เล่าให้ทิฟฟานี่ฟังเรื่องการคลอดของธัญญ่า ทิฟฟานี่กำลังให้นมลูกชายในขณะนั้นแต่เมื่อเธอได้ยินข่าวนั้นเธอก็กระพือปาก “โธ่ แค่ไม่กี่วันหลังจากฉันเองเหรอ หึ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนจะคลอดไม่กี่วันหลังจากฉันและยังเลือกโรงพยาบาลเดียวกันอีก! หึ แค่คิดว่าลูกของหล่อนเกือบจะถูกรับเป็นลูกของแ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง