เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราว แอเรียนก็ถามว่า “คุณจะบอกว่าเจสสิก้าตั้งใจส่งซิลแวงมาเล่นงานฉันเพื่อแก้แค้นคุณอย่างนั้นเหรอ?”มาร์คพยักหน้า “เธอมีเหตุผลที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ? ตอนแรกที่บริษัทก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ? พอซิลแวงเขามา เธอก็ลงเอยด้วยการถูกวางยา”แอเรียนใจหาย “นั่นสมเหตุสมผลดี เพียงแต่ว่าคืนนั้นโรบินก็ดื่มแชมเปญที่ซิลแวงใส่ยาไว้ด้วย โรบินเลยเดือดร้อนไปด้วย ฉันไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดซิลแวง ฉันถามเขาแล้ว แต่แน่นอนว่าเขาจะต้องปฏิเสธ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เจสสิก้าจะเป็นคนคอยสั่งเขา ฉันน่าจะเป็นเป้าหมายของเขา แต่โชคดีที่คืนนั้นฉันไม่ได้กลับกับเขา สุดท้ายเขาก็เลยฉวยโอกาสโรบิน… และที่ตลกที่สุดคือ ตอนนี้เขากำลังเดตกับโรบิน เขาน่าจะมีแรงจูงใจบางอย่าง เขาแค่เล่นกับเธอแน่นอน”ก่อนหน้านี้ เธอเชื่อว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของซิลแวงและโรบิน แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เธอต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโรบินกับซิลแวง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโรบินถูกหลอกล่ะ? มันก็จะเป็นความผิดของเธอ ในเมื่อซิลแวงมาด้วยแรงจูงใจที่ซ่อนเร้น สุดท้ายเขาก็จะต้องกลับไปหาเจสสิก้าและหนีไปประเทศอื่
มาร์คดึงเอกสารเพิ่มเติมออกมาให้เธอดู “เธอคิดว่าซิลแวงมีหน้าที่การงานที่ดีและราบรื่นขนาดนี้ด้วยตัวของเขาเองเหรอ? จริงอยู่ว่าเขามีความสามารถ แต่วิธีการไต่เต้าในหน้าที่การงานของเขาไม่ค่อยน่าภูมิใจนัก ฉันไม่รู้เบื้องลึก แต่เขาและเจสสิก้ามีความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยกันอยู่ ชีวิตส่วนตัวของเจสสิก้าเละเทะจนน่ากลัว เธอค่อนข้างเป็นที่รู้จักในเรื่อง… อย่างว่า”ตอนนั้นเองที่แอเรียนตระหนักว่า “หมายความว่า เธอแก้แค้นเพราะเธอชอบคุณเหรอ?”มาร์คไม่ตอบอะไร แต่ดูจากความรังเกียจในสายตาของเขา การคาดเดาของเธอน่าจะถูกต้อง แอเรียนขนลุก สำหรับเธอ เจสสิก้าไม่ได้สวยตั้งแต่แวบแรกแล้ว ในความเป็นจริง หล่อนออกจะโลเลด้วยซ้ำ แม้ว่าหล่อนจะแต่งตัวมีสไตล์ แต่หล่อนก็ไม่ใช่คนแบบที่มาร์คจะชอบอย่างแน่นอน การที่ผู้หญิงแบบนี้มาชอบเขาเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลยคืนนั้นแอเรียนนอนไม่หลับ เธอรู้สึกผิดไปหมด ก่อนหน้านี้ทิฟฟานี่ต้องเคราะห์ร้ายก็เพราะเธอ ตอนนี้โรบินกำลังประสบกับสิ่งที่คล้ายกัน เธออาจดูเหมือนโชคดี แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนกับว่า คนรอบข้างกำลังโชคร้ายแทนเธอในตอนเช้า เธอรีบไปที่บริษัททันที โรบินและซิลแวงพากันสายอีกแล้ว โรบินยัง
มาร์ครู้ดีว่าเธอพูดถึงเรื่องอะไร “ฉันวางแผนที่จะไปต่างประเทศวันมะรืนนี้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง เจสสิก้ามีเส้นสายที่ต่างประเทศเยอะ เรื่องนี้คงจะไม่ง่ายเลย แต่ฉันจะพยายามจัดการเรื่องนี้ให้ยุติธรรมที่สุด ไม่อย่างนั้น เธอคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะ… รุนแรงหน่อย?”แอเรียนรู้ดีว่าเขาสามารถโหดร้ายได้แค่ไหน “ฉันไม่ว่าหรอก คุณทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดแล้วเลย ตอนนี้ฉันยิ่งหงุดหงิดไปใหญ่ โรบินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นแพะรับบาปแทนโดยไม่มีเหตุผล ถ้าฉันรู้เรื่องเร็วกว่านี้นะ ฉันจะไม่ใจดีกับเจสสิก้าตั้งแต่ตอนที่เจอเธอตอนนั้นเลย!”มาร์คจับไหล่เธอ “เอาล่ะ ใจเย็น ๆ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ มันไม่ใช่ความผิดของเธอทั้งหมด อย่าโทษตัวเองเลย”แอเรียนเจ็บปวดหัวใจเมื่อเธอเห็นความเหนื่อยล้าในสายตาเขา “ค่ะ คุณไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเถอะ หลัง ๆ นี้คุณพักผ่อนน้อยมาก ฉันจะเลิกบ่นแล้ว”มาร์คจุ๊บหน้าผากเธอและเดินไปทางห้องน้ำระหว่างที่ถอดเสื้อ “เธอก็รีบนอนนะ”วันต่อมา ไบรอันไปส่งแอเรียนที่บริษัทเนื่องจากมาร์คออกไปตั้งแต่เช้าแล้ววันนี้โรบินไปถึงที่บริษัทตามเวลาปกติของเธอ เธอเห
แอเรียนรับรู้ได้ว่าโรบินจริงจังเรื่องซิลแวง “ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าใครอยู่เบื้องหลังซิลแวง? เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกันยังไง? ลองคิดดูดี ๆ นะ ซิลแวงไม่ได้ต้องการเงิน หรือชื่อเสียง เพราะเขามีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรล่ะ ที่ทำให้เขายอมรับงานนี้ได้? เธอยังไร้เดียงสาเกินไป ฉันไม่อยากให้เธอต้องมารับรู้เรื่องสกปรกพวกนี้ด้วยซ้ำ แต่… มันก็คือความจริง”แววตาของโรบินเผยความเหลือเชื่อและสงสัย “อะไร… พี่รู้เหรอ? บอกฉันเถอะ ฉันรับได้”หลังจากที่ลังเลเล็กน้อยแอเรียนก็บอกทุกอย่างที่เธอรู้มา “ก่อนที่เขาจะมาทำงานกับเรา เขาทำงานให้บริษัทของเจสสิก้าที่ต่างประเทศ เขาเป็นดีไซเนอร์ส่วนตัวหล่อนด้วย หล่อนไม่มีความรู้เกี่ยวกับแฟชั่นมากนัก แต่เธอหลงใหลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ ความสำเร็จของเขาส่วนใหญ่เขาก็ได้มาจากการ 'อุปถัมภ์' ของหล่อน เส้นทางอาชีพของเขาจึงเรียบง่าย เจสสิก้าไม่พอใจมาร์ค และหล่อนกำลังตอบโต้ ชีวิตส่วนตัวของหล่อนขึ้นชื่อเรื่องอื้อฉาว หล่อนมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับพนักงานชายหลายคนในบริษัทของหล่อน เธอน่าจะพอเดาได้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนแล
ครั้งนี้มาร์คได้นำบอดี้การ์ดของเขาไปด้วย ขณะที่บอดี้การ์ดของเขากำลังจะมีเรื่องกับรปภ. ของเธอ ซิลแวงก็ออกมา “มาประกาศสงครามเหรอครับ? คุณเดินทางเร็วมากนะ เจสสิก้าสั่งการไว้แล้ว พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยคุณเข้าไปทันที เธอเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คุณก็แบนเธอไม่ให้เข้าบริษัทคุณเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”มาร์คมองเขาอย่างดูถูก “เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าจะห้ามไม่ให้ฉันเข้าไปได้?”ซิลแวงยิ้มอย่างหมดหนทาง “เธอโง่ แต่ผมไม่” จากนั้นเขาก็โบกมือให้เหล่า รปภ. พวกเขาหลีกทางทันทีมาร์คนำเหล่าบอดี้การ์ดของเขาเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าตาย เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างซิลแวงและเจสสิก้ามากกว่าแค่ “ไม่เหมาะสม” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่สามารถทำอะไรก็ได้ในบริษัทแบบนี้ มันน่าจะพิเศษซะด้วยซ้ำซิลแวงตามมาร์คขึ้นลิฟต์ไปอย่างสบาย ๆ “คุณคิดจะทำอะไร?”มาร์คไม่ได้ตอบ เขาเพียงแต่แสยะยิ้มเล็กน้อยซิลแวงกระเดาะลิ้น “คุณนี่แข็งทื่อจริง ๆ แอเรียนทนขอนไม้อย่างคุณได้ยังไงนะ?”การเยาะเย้ยของเขาไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากมาร์คได้ เขาจึงเลือกที่จะเงียบเมื่อพวกเขาไปถึงที่ห้องทำงานของเจสสิก้า เหล่าบอดี้การ์ดของมาร์คก็บุกเข้าไปทันท
เจสสิก้าบิดตัวด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน “โอ๋ น่าสงสาร ฉันอยากรู้จังว่าคุณจะจัดการกับฉันยังไง? ถ้าจะให้พูดตรง ๆ คุณก็แค่นอนกับฉัน ปัญหาทั้งหมดนี้จะจบลงทันที ถึงอย่างนั้น ผู้ชายก็มักจะทำเรื่องที่ง่ายดายให้วุ่นวาย จิตใจของเพศตรงข้ามนั้นยากที่จะเข้าใจจริง ๆ”มาร์คทนการหยอกล้อที่ไร้มารยาทของเธอต่อไปไม่ไหว เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นและประกาศว่า “ถ้าเราตกลงกันไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะคุยกันต่อแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าผมจะจัดการกับคุณยังไง… คุณจะได้รู้เองในอีกไม่ช้า”จากนั้นเขาก็หมุนตัวแล้วเดินออกไปแววตาที่โหยหาของเจสสิก้าไล่ตามหลังเขาที่เดินห่างออกไปจนกระทั่งเขาหายไปในระยะไกล จากนั้น เมื่อเธอกลับมาสนใจสิ่งรอบข้าง เธอก็แอบมองซิลแวงข้างเธอด้วยความครุ่นคิด“ฉันสงสัยจัง ฉันเสนอตัวให้กับผู้ชายคนอื่นต่อหน้านายแท้ ๆ” เธอหยอก “แต่นายดูไม่หึงเลย”มุมปากของซิลแวงขดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “ขอร้องล่ะ ถ้าผมจะต้องหึงผู้ชายของคุณทุกคน ผมคงจะไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว ถูกไหม? อีกอย่าง ผมก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งในหลาย ๆ คนของคุณ ผมคงจะไม่จำเป็นต้องหึงพวกเดียวกันเองหรอก” เขาตอบ “แต่ผมจะขอแนะนำคุณด้วยความหวังดีจากคนที่
เขาผูกมัดตัวเองกับชื่อเสียงและความคาดหวังของการเป็น “ดีไซเนอร์แฟชั่นที่มีชื่อเสียง” เขารู้ดีว่าเจสสิก้าสามารถทำลายเขาได้อย่างง่ายดาย มันถึงเวลาแล้วที่ซิลแวงจะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้เจสสิก้าพังทลายไปคนเดียวหรือว่าเขาจะจบไปพร้อมกับเธอ เขาอาจจะยังคงสวมหน้ากากอันโอ่อ่าสง่างามในที่สาธารณะ แต่เขารู้ดีกว่านั้น ชีวิตปัจจุบันของเขาส่งผลให้เขาไม่มีแรงบันดาลใจในการออกแม้แต่นิดเดียว และเขาไม่ได้สร้างผลงานพิเศษใด ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปีแล้ว เขากลายเป็นเพียงปรสิตไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงคนหนึ่งเจสสิก้าสงสัยแรงจูงใจในการกลับไปของเขาถูกแล้ว ใช่ เพราะโรบิน ค็อกซ์ หญิงสาวที่มีชื่อที่เหมาะกับตัวเธอมากที่สุด เธอเป็นเหมือนนกโรบินที่มีความสุข ร้องเจื้อยแจ้วในวันที่แดดสดใส เมื่อใดก็ตามที่ซิลแวงอยู่กับเธอ เขาจะรู้สึกได้ว่าตัวตนของเขาถูกยอมรับ เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังฟื้นคืนชีพอย่างช้า ๆ และความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่ถูกยับยั้งมานานครึ่งปีก็เริ่มส่งสัญญาณของการมีชีวิตสิ่งหนึ่งที่ซิลแวงต้องการมากที่สุดคือ การพิสูจน์ว่า แม้จะไม่มีเจสสิก้า เขาก็ยังเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าที่โลกรู้จัก แม้ไม
แทนที่จะโกรธจนเดือดและทำลายโทรศัพท์ มาร์คเพียงแต่วางมือของเขาลงบนเอกสารและตอบอย่างสบายใจว่า “อ๋อ อย่างนั้นเหรอ? คุณแน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าผมจะขุดความลับของคุณไม่เจอ?”เจสสิก้ามั่นใจว่าความลับของเธอถูกกุมไว้ดี “ฉันดูเหมือนกังวลอะไรไหมล่ะ? สรุปว่า พวกเราจะเจอกันไหม?”ริมฝีปากของมาร์คขดเป็นรอยยิ้ม “ผมว่าไม่ล่ะ ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”หลังจากนั้นเขาก็วางสาย สำหรับมาร์คแล้ว ผู้ชนะในศึกครั้งนี้ชัดเจนแล้ววันต่อมาเริ่มต้นด้วยการที่เว็บไซต์ของสื่อต่างประเทศรายใหญ่หลายแห่งเปิดเผยภาพถ่ายส่วนตัวระหว่างเจสสิก้ากับผู้ชายหลายคน ทุกคนต่างพากันตกตะลึง สื่อเหล่านั้นกลายเป็นไวรัลทั้งในและนอกประเทศทันทีจากนั้นข่าวทั้งหลายก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนเว็บไซต์สื่อชื่อดังหลายแห่งได้เซนเซอร์รายละเอียดก่อนที่เจสสิก้าจะสามารถควบคุมความเสียหายได้ด้วยตัวเองเสียอีก น่าเสียดายที่การเซนเซอร์ช่วยข่าวที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไม่ได้เลย ดังนั้นตอนนี้ชาวเน็ตทุกคนจึงจับจ้องไปที่เรื่องอื้อฉาวนี้เพื่อเพิ่มความเสียหาย ที่อยู่ส่วนตัวของเจสสิก้ายังถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้บ้านของเธอถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงนักข่าว
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง