เธอบ่นว่า "วันนี้ใครจะเป็นคู่ของคุณเหรอ? คุณบอกฉันได้ไหม? ในเมื่อเธอจะเป็นคู่ของคุณ คุณก็จะต้องมีการโดนเนื้อต้องตัวกันแน่นอน อย่างน้อยเธอก็ต้องจับแขนคุณ… ดังนั้นฉันควรมีสิทธิ์ที่จะถามใช่ไหม?”มาร์คพูดอย่างหมดหนทาง “การจับแขนมันก็เป็นเพียงมารยาทไม่ใช่เหรอ? อย่าคิดมาก ฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสในทุกรูปแบบให้ดีที่สุด ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าใครคือคู่ของฉัน เพราะฉันปล่อยให้แจ็คสันเป็นคนจัดการ ฉันเดาว่าหล่อนน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่แค่ต้องการเงินจากงานพาร์ทไทม์เล็ก ๆ ดังนั้นมันควรจะเป็นการแลกเปลี่ยนง่าย ๆ และยุติธรรม ฉันไม่มีอะไรจะบอกเธอจริง ๆ เพราะฉันไม่รู้จักหล่อนด้วยซ้ำ แจ็คสันเป็นคนที่นิยมในหมู่ผู้หญิงมากที่สุดมาโดยตลอด”แอเรียนส่งเสียงเยาะเย้ยโดยไม่พูดอะไรมาร์คส่งเธอที่ประตูบ้านและขับรถออกไปใหม่ ตอนนั้นเป็นเวลาช่วงบ่ายสามนิด ๆ เธอกำลังคิดว่าเธอควรจะโทรหาทิฟฟานี่ดีหรือไม่ เมื่อจู่ ๆ แมรี่ก็มาปรากฏตัวเพื่อต้อนรับเธอ “นายหญิง คุณแม่ของคุณอยู่ที่นี่ หล่อนนั่งรออยู่ได้สักพักใหญ่แล้ว”แอเรียนอุ้มสมอร์เข้าไปในบ้าน ฝีเท้าของเธอแอบเร็วขึ้นเล็กน้อย เธอถามอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเห็นเฮเ
แอเรียนถามว่า “เธอพูดถึงเรื่องนี้จริงเหรอคะ?”เฮเลนไม่ปิดบังความจริงและกล่าวว่า “ใช่ ฉันถึงเตือนเธอ ไม่ว่าจะอย่างไรหล่อนก็คือลูกสาวของฉัน แต่หล่อนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ดังนั้นเธอไม่ต้องอ่อนโยนกับหล่อน”อันที่จริงแล้วแอเรียนชอบนิสัยของเฮเลนนะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถแยกแยะสถานการณ์ทุกด้านได้ชัดเจนเท่าเธอ เฮเลนมีข้อดีหลายอย่างที่น้อยคนจะมี นอกจากจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง และเป็นอิสระแล้ว เธอยังสวยอีกด้วย ลักษณะที่โดดเด่นเหล่านั้นทำให้เธอมีเสน่ห์มาก ไม่อย่างนั้นพ่อของแอเรียนคงจะไม่หลงใหลในตัวเธอทางมาร์ค ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น มาร์คมาถึงงานเลี้ยงสุดหรูซึ่งที่หน้างานเป็นงานเลี้ยงใหญ่ที่ถูกจัดโดยคนคุ้นเคย ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือทุกคนแต่งกายอย่างสุภาพบุรุษและสง่างามมากขึ้น แน่นอนว่าความสง่างามนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผินเนื่องจากที่นี่มีผู้หลอกลวงมากมาย มาร์คไม่เคยชอบเข้าร่วมงานแบบนี้มาก่อน ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็ตรวจดูทุกคนในห้องแต่กลับไม่พบอเลฮานโดรในนั้น แต่แหล่งข้อมูลของเขาไม่เคยผิดพลาดแจ็คสันมาถึงหลังจากมาร์คประมาณสิบนาที พวกเขาต้องแยกกันมาเพราะแจ็คสันต้องไปรับผู้หญ
หลังจากที่ได้หมายเลขห้องมา แจ็คสันก็สลัดเจนิซทิ้งด้วยความกระตือรือร้นและรีบไปที่ห้องนั้น เขาส่งข้อความแจ้งมาร์คระหว่างทางก่อนหน้านี้อเลฮานโดรต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้านเพราะขาของเขา แจ็คสันจึงไม่ได้มีโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับเขา ครั้งนี้แจ็คสันจะไม่ยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่!แจ็คสันเปิดประตูเข้าไป ทั้งห้องเงียบลง นอกจากอเลฮานโดรและผู้ชายที่รูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งยังมีบอดี้การ์ดสองคนและผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อยอยู่ในห้องสองสามคน แจ็คสันมองอเลฮานโดร “บอกให้พวกเขาออกไป ไม่งั้นเดี๋ยวก็รู้”อเลฮานโดรมองแจ็คสันด้วยความใจเย็น เขาสะบัดมือ บอดี้การ์ดและพวกผู้หญิงลุกขึ้นและออกไปจากห้อง เมื่อชายผู้อ้วนท้วมเห็นอย่างนั้นเขาก็ตามไปติด ๆ“สายของคุณใช้ได้เลยนะ คุณคงจะรอผมอยู่ใช่ไหมล่ะ? ทิฟฟานี่รู้หรือเปล่าว่าคุณพาคนอื่นมาเป็นคู่ของคุณ?” อเลฮานโดรรินไวน์ให้ตัวเองอย่างสบายอกสบายใจแจ็คสันกำหมัดแน่น “นายก็รู้ว่าฉันจะต้องมาหานายแน่ ๆ แล้วนายยังจะมาทำไม? ลินน์ไม่ได้ลื่นตกเขาตายแน่ ๆ นายเป็นคนทำใช่ไหม? เธอทำงานให้ฉัน ทำไมนายไม่เล่นงานฉันแทน? นายเป็นผํู้ชายยังไงถึงได้ทำผู้หญิงแบบนั้น?”“คุณโกรธได้ขนาดนี้ทั้ง
“ผู้หญิงที่เลอค่าของคุณเคยรักผมหัวปักหัวปำเป็นเวลาสามปี” อเลฮานโดรตอบอย่างใจเย็น “ผมได้ครองเธอก่อนคุณอีก กาลครั้งหนึ่งผมเคยเป็นคนเดียวในสายตาเธอ แต่ตอนนี้คุณเป็นคนเดียวในสายตาของเธอ ผมแค่รับไม่ได้ ตอนนั้นผมยังเด็กและโง่เขลา และการแก้แค้นเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดได้ ผมไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่ผมร่วมเตียงด้วยเท่าไหร่ อาจจะเพราะความเสียใจผมก็เลยต้องการที่จะชดเชย มันก็คงจะไม่ผิดอะไรใช่ไหม?”คำว่า “ผู้หญิงที่ผมร่วมเตียงด้วย” ทำให้แจ็คสันเดือดดาลอีกครั้ง นี่อเลฮานโดรไม่ได้กำลังจะตอกหน้าเขาหรอกเหรอว่าเคยมีผู้ชายคนอื่นนอนกับภรรยาของเขามาก่อน? เรื่องนี้คงจะไม่ได้เลวร้ายอะไรหากมันไม่ถูกพูดถึง แต่การได้ยินแบบนั้นทำให้เขาไม่พอใจ “ชดเชยเหรอ? หึ! นายคิดว่านายควรจะได้รับโอกาสนั้นเหรอ? ทิฟฟ์และฉันอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันหากไม่เป็นเพราะนายทำลายครอบครัวของและฆ่าพ่อของเธอด้วยซ้ำ สำหรับเธอแล้ว มันคงจะดีที่สุดหากนายไม่ไปให้เธอเห็นหน้าอีก แต่นายก็ยังกล้าพอที่จะคิดชดเชยเธอ นายไม่ขยะแขยงตัวเองบ้างเหรอ? ฉันไม่สนหรอกว่าระหว่างนายกับเธอในอดีตจะเป็นมายังไง แต่ตอนนี้ ถ้านายกล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวเธอ!”ดวงตาของอเล
อเลฮานโดรหยิบแก้วไวน์มาใหม่และรินไวน์ให้มาร์ค “นั่งก่อนสิ”มาร์คเหลือบมองแจ็คสันขณะที่เดินไปนั่งด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า “มาร์ค เขาคืออีธาน เขายอมรับแล้ว เขาฆ่าลินน์ด้วย” แจ็คสันกล่าวอเลฮานโดรไม่ได้ต้องการที่จะอธิบายอะไรมากมาย อีกอย่าง มันไม่สำคัญสักหน่อยว่าเขาหรือดอนที่ฆ่าลินน์ สุดท้ายมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี “พวกคุณสองคนมาเพื่อไถ่บาปให้ผมหรือไง?”“นายโชคดีมาก ๆ เลยนะอีธาน” มาร์คพูดอย่างใจเย็น “นายยังกล้าได้กล้าเสียด้วย ในเมื่อนายยังมีชีวิตอยู่ นายก็ควรจะเก็บหางของตนเองและอยู่ให้พ้นสายตาของพวกเราซะ นายกลับมาทำไม? อยากตายอีกเหรือไง? หรือนายคิดว่า ฉันจะทำอะไรนายไม่ได้เพราะตอนนี้นายอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลสมิธ?”อเลฮานโดรส่งเสียงเยาะเย้ย “ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย อย่างไรก็ตาม ตัวตนของอเลฮานโดรทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับผมและยังหยุดพวกคุณสองคนไม่ให้ทำกับผมตามอำเภอใจด้วย ถูกไหม? ผมไม่ได้กลับมาเพราะคุณหรอกมาร์ค ถ้าผมตายไปตอนนั้นก็คงจะเป็นอีกเรื่อง แต่ผมกลับรอดมาได้ ถ้าคุณทำร้ายผมอีก คุณคิดว่าแอเรียนจะคิดยังไง? คุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนนะกว่าที่จะดูเป็นคนดีในสายตาเธอ? ทั้งหมดมันจะส
มาร์คเห็นความมุ่งมั่นของอเลฮานโดรแล้ว เขาผิดหวัง “ฉันไม่ยุ่งไม่ได้หรอก แจ็คสันคือเพื่อนรักฉัน ฉันจะไม่อยู่นิ่งแน่นอนถ้ามันเกี่ยวข้องกับเขา ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้นก็อย่ามาโทษฉันล่ะ ฉันจะเอาชนะนายด้วยความเห็นดีของแอเรียน”งานจัดเลี้ยงยังไม่สิ้นสุดแต่แจ็คสันและมาร์คกลับกันก่อน พวกเขาจ่ายเงินให้เจนิซและผู้หญิงอีกคนก่อนที่จะบอกให้พวกเธอเรียกรถกลับบ้านกันเองวันนี้ไม่ได้เปล่าประโยชน์จนสิ้นเชิง อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าอเลฮานโดรคืออีธาน แต่น่าเสียดายที่อเลฮานโดรเตรียมตัวมาดีเกินไปและทำให้พวกเขาไม่สามารถได้หลักฐานเพื่อมัดตัวตัวเองและโดนส่งเข้าคุกได้ สงครามนี้จะต้องยาวนาน และมันเพิ่งจะเริ่มขึ้นแจ็คสันโมโหสุดขีด “มันต้องการอะไรกันแน่วะ? มันจะแย่งผู้หญิงของฉันไปเหรอ? ไม่มีทาง!”มาร์คถอนหายใจ “เขาจะไม่ทำอะไรจนกว่าทิฟฟานี่จะคลอด ตอนนี้นายควรจะใจเย็น ๆ ก่อน นี่ก็เริ่มดึกแล้ว กลับบ้านเถอะ พยายามเก็บเรื่องที่อเลฮานโดรคืออีธานเป็นความลับไปก่อน อย่าให้ทิฟฟานี่รู้ล่ะ ถ้านายเก็บมันจากเธอไม่ได้ก็แก้ไขสถานการ์ณเฉพาะหน้าไปก่อน อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่”แจ็คสันพิงรถตัวเองและจุดบุหรี่พลางรู
แอเรียนรู้เรื่องงานเลี้ยงของคืนนี้ดี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เฮเลนกลับไปเธอก็ยังไม่ทันได้มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่น เธอยังค่อนข้างจะใจเย็นก่อนที่จะเห็นรูป แต่พอเธอเห็นมาร์คประคองเจนิซในรูปเธอก็ตัวแข็งทื่อ เธอไม่รู้มาก่อนว่าคู่ในคืนนี้ของมาร์คจะเป็นเจนิซ ดูจากรูปแล้วพวกเขาอยู่บนบันไดในมุมที่อับ พวกเขาอยู่กันตามลำพังและท่าทางของพวกเขาก็ดูช่างสนิทสนม…เธอรีบปลอบตัวเองว่าเธอจะต้องไว้ใจมาร์ค เขาบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะฉะนั้นเธอก็ไม่ควรที่จะสงสัยเขา… แต่ทำไมต้องเป็นเจนิซด้วย? เธอพอจะรู้พื้นหลังของเจนิซคร่าว ๆ หล่อนเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจะยากจนและเพิ่งจะได้สัมผัสกับโลกภายนอก อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าที่หล่อนสวมใส่ราคาไม่ถูกแน่นอน จากฐานะทางการเงินของหล่อนแล้วหล่อนไม่น่าจะซื้อเองได้ แอเรียนเริ่มไม่สบายใจอย่างไรก็ตาม ทิฟฟานี่กำลังตั้งครรภ์อยู่เพราะฉะนั้นแอเรียนจะต้องสงบสติอารมณ์หล่อนและทำเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ “ทิฟฟ์ เราจะใช้รูปภาพตัดสินว่าพวกเขาได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าไม่ได้หรอกนะ ไว้พวกเขากลับมาแล้วเราค่อยถามพวกเขาดีกว่า เธอท้องอยู่นะ อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำเธอ มันจะไม่ดีต่อเด็ก เอาอย่างนี
ทิฟฟานี่เดือดดาลจนเกือบจะน้ำตาไหลขณะที่มองมาร์คเดินไปข้างบน “นี้คือท่าทีของเขาเวลาที่เขาอธิบายอะไรอย่างนั้นเหรอ? เธอเชื่อสายตาตัวเองไหมแอริ? นี่มันก็เลยห้าทุ่มแล้วแต่เขากลับบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อเลฮานโดรมีเหตุผลอะไรที่จะต้องหวังร้ายด้วย? ทำไมแจ็คสันต้องปิดบังฉันที่เขาต้องไปออกงานกับผู้หญิงคนอื่น? ยังไงฉันก็ต้องเข้าใจดีว่าเขาไม่สามารถพาฉันไปได้เพราะว่าฉันท้อง แต่เธอล่ะ? ทำไมมาร์คถึงไม่ได้เอาเธอไปด้วยเหมือนกัน? เขาช่วยโกหกเนียนกว่านี้ไม่ได้หรือไง?”ความคิดของแอเรียนเองก็ตีกันเหมือนกัน เธอคงจะไม่คิดมากเช่นนี้หากเจนิซไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มันเป็นเพียงความบังเอิญจริง ๆ เหรอ? แต่ก่อนที่เธอจะได้รับมือกับปัญหาจิตใจตนเองเธอก็ต้องรวบรวมสติและโยนความสงสัยของตนทิ้งไปเพื่อปลอบทิฟฟานี่ “ทิฟฟานี่ มาร์คไม่โกหกหรอก แจ็คสันเองก็คงจะมีเหตุผลที่ต้องโกหกเธอ รอให้เขามาและถามเขาดีกว่านะ ตกลงไหม? ใจเย็น ๆ ก่อน อย่าโมโหเลย นี่มันก็ดึกแล้ว เธอนอนพักก่อนดีไหม?”ทิฟฟานี่นอนลงบนโซฟาด้วยดวงตาที่แดงก่ำของเธอและพูดอย่างอ่อนแอ “จะให้ฉันหลับลงได้ยังไง? ฉันกังวลมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มทับฉัน ฉันสงสัย
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง