แอเรียนรู้เรื่องงานเลี้ยงของคืนนี้ดี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เฮเลนกลับไปเธอก็ยังไม่ทันได้มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่น เธอยังค่อนข้างจะใจเย็นก่อนที่จะเห็นรูป แต่พอเธอเห็นมาร์คประคองเจนิซในรูปเธอก็ตัวแข็งทื่อ เธอไม่รู้มาก่อนว่าคู่ในคืนนี้ของมาร์คจะเป็นเจนิซ ดูจากรูปแล้วพวกเขาอยู่บนบันไดในมุมที่อับ พวกเขาอยู่กันตามลำพังและท่าทางของพวกเขาก็ดูช่างสนิทสนม…เธอรีบปลอบตัวเองว่าเธอจะต้องไว้ใจมาร์ค เขาบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะฉะนั้นเธอก็ไม่ควรที่จะสงสัยเขา… แต่ทำไมต้องเป็นเจนิซด้วย? เธอพอจะรู้พื้นหลังของเจนิซคร่าว ๆ หล่อนเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจะยากจนและเพิ่งจะได้สัมผัสกับโลกภายนอก อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าที่หล่อนสวมใส่ราคาไม่ถูกแน่นอน จากฐานะทางการเงินของหล่อนแล้วหล่อนไม่น่าจะซื้อเองได้ แอเรียนเริ่มไม่สบายใจอย่างไรก็ตาม ทิฟฟานี่กำลังตั้งครรภ์อยู่เพราะฉะนั้นแอเรียนจะต้องสงบสติอารมณ์หล่อนและทำเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ “ทิฟฟ์ เราจะใช้รูปภาพตัดสินว่าพวกเขาได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าไม่ได้หรอกนะ ไว้พวกเขากลับมาแล้วเราค่อยถามพวกเขาดีกว่า เธอท้องอยู่นะ อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำเธอ มันจะไม่ดีต่อเด็ก เอาอย่างนี
ทิฟฟานี่เดือดดาลจนเกือบจะน้ำตาไหลขณะที่มองมาร์คเดินไปข้างบน “นี้คือท่าทีของเขาเวลาที่เขาอธิบายอะไรอย่างนั้นเหรอ? เธอเชื่อสายตาตัวเองไหมแอริ? นี่มันก็เลยห้าทุ่มแล้วแต่เขากลับบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อเลฮานโดรมีเหตุผลอะไรที่จะต้องหวังร้ายด้วย? ทำไมแจ็คสันต้องปิดบังฉันที่เขาต้องไปออกงานกับผู้หญิงคนอื่น? ยังไงฉันก็ต้องเข้าใจดีว่าเขาไม่สามารถพาฉันไปได้เพราะว่าฉันท้อง แต่เธอล่ะ? ทำไมมาร์คถึงไม่ได้เอาเธอไปด้วยเหมือนกัน? เขาช่วยโกหกเนียนกว่านี้ไม่ได้หรือไง?”ความคิดของแอเรียนเองก็ตีกันเหมือนกัน เธอคงจะไม่คิดมากเช่นนี้หากเจนิซไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มันเป็นเพียงความบังเอิญจริง ๆ เหรอ? แต่ก่อนที่เธอจะได้รับมือกับปัญหาจิตใจตนเองเธอก็ต้องรวบรวมสติและโยนความสงสัยของตนทิ้งไปเพื่อปลอบทิฟฟานี่ “ทิฟฟานี่ มาร์คไม่โกหกหรอก แจ็คสันเองก็คงจะมีเหตุผลที่ต้องโกหกเธอ รอให้เขามาและถามเขาดีกว่านะ ตกลงไหม? ใจเย็น ๆ ก่อน อย่าโมโหเลย นี่มันก็ดึกแล้ว เธอนอนพักก่อนดีไหม?”ทิฟฟานี่นอนลงบนโซฟาด้วยดวงตาที่แดงก่ำของเธอและพูดอย่างอ่อนแอ “จะให้ฉันหลับลงได้ยังไง? ฉันกังวลมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มทับฉัน ฉันสงสัย
ข้อความต่อไปจากมาร์คมีความดื้อรั้นแอบแฝงอยู่ “ถ้าเธอไม่มา ฉันจะไปหาเธอเอง”แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่สามารถปล่อยให้เขาเข้ามาที่ห้องนอนแขกเพราะนั่นจะทำให้ทิฟฟานี่ตื่น เธอจึงทำได้เพียงย่องเบา ๆ ออกจากห้องนอนแขกไปที่ห้องของมาร์คอย่างหมดหนทาง “มีอะไรคะ?”ขณะที่เธอพูดเธอก็ถูกคว้าและโยนลงบนเตียงโดยมีมาร์คคร่อมเธออย่างควบคุม เธอกลัวว่าสมอร์จะตื่นขึ้นมาเพราะเสียงพวกเขา เธอจึงไม่ได้ดิ้นรนและเพียงแต่แอบโมโหเล็กน้อย เธอบ่นและถามว่า “นี่คุณจะทำอะไร?!”มาร์คดูเหมือนจะต้องการปลดปล่อยความหงุดหงิดของเขาและพูดว่า “ก็เธอสงสัยฉันไม่ใช่เหรอ? หืม? จะมีอะไรเป็นหลักฐานได้ดีกว่านี้อีก? เธอยังสงสัยว่าฉันไปทำอะไรกับคนอื่นมาอีกไหม?”เธอกัดปากตนเองและเงียบไป เธอคาดไว้ว่าเขาจะอธิบายทุกอย่าง แต่ใครจะไปรู้ว่า สุดท้ายมันจะจบลงเหมือนเดิมแบบนี้เธอทำได้เพียงยอมจำนน “ฉันเชื่อคุณ…”หลังจากนั้นไม่นานเพลงระบำก็จบลงมาร์คจูบปากเธออย่างอ่อนโยน “เป็นไงบ้าง? เหมือนเดิมพอไหม? ฉันดูเหมือนฉันไปทำอะไรหลับหลังเธอมาหรือเปล่า?”แอเรียนหน้าแดง เธอไม่สามารถสู้ความตรงไปตรงมาของเขาได้ “ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าฉันเชื่อคุณ… นี่คุณจะไม่เลิกพู
ดูเหมือนว่าคืนนั้นจะไม่มีใครได้นอนหลับเต็มอิ่มเลย โดยเฉพาะแจ็คสันที่ไม่สามารถข่มตานอนได้เลยเมื่อไม่มีทิฟฟานี่อยู่ข้าง ๆเช้าวันรุ่งขึ้น เขานึกว่าทิฟฟานี่ได้กลับมาบ้านแล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู เขาแอบดีใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูเขากลับพบกับซัมเมอร์ ความผิดหวังเล็กน้อยแวบผ่านแววตาของเขา “แม่มาทำอะไรที่นี่?”ซัมเมอร์ถืออาหารเสริมสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์มากมาย ใบหน้าของเธอผ่องใสและเธอดูค่อนข้างจะมีความสุข “แน่นอนว่าแม่ก็ต้องมาเยี่ยมลูกสะใภ้และหลานของแม่น่ะสิ ทิฟฟานี่อยู่ไหนล่ะ? เธอยังไม่ตื่นเหรอ? พวกเธอไม่ได้ไปเยี่ยมแม่สุดสัปดาห์นี้ แม่ก็เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องมาเองไงล่ะ”มีอะไรที่โชคร้ายได้มากกว่าการที่ซัมเมอร์จะมาเมื่อทิฟฟานี่ไม่อยู่พอดีอีกไหม?แจ็คสันกดดันเล็กน้อยเมื่อเขากล่าวว่า “เธอไม่อยู่ครับ เธออยู่กับแอเรียน”ซัมเมอร์รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติจากสีหน้าและน้ำเสียงที่อ่อนเพลียของแจ็คสัน “พวกเธอทะเลาะกันเหรอ? ทิฟฟานี่ไม่อยู่ทั้งคืนแล้วเหรอ? แจ็ค ลูกนี่หาเรื่องจริง ๆ เลยนะ ลูกทะเลาะกับผู้หญิงที่กำลังท้องอยู่ได้ยังไง? ลูกเป็นผู้ชายนะ เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ไม่เข้าใจเลยเหรอ?
ดอน สมิธโกรธมากจนใบหน้าของเขาแดงก่ำ “ถ้าแกไม่ทำให้เธอโกรธ เธอจะไปไหม? แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกกำลังตั้งใจจะทำอะไรอยู่? เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เพราะฉะนั้นแกจะต้องฟังฉันต่อให้แกจะไม่ต้องการก็ตาม!”เขาพูดถูก อเลฮานโดรตอบกลับด้วยความประชดประชัน “คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าทำไมเธอถึงไป? เธอคิดว่าผมเป็นคนฆ่าลินน์ไง ผู้หญิงที่เธอช่วยชีวิตไว้ไม่ได้อยู่เห็นแสงตะวัน เธอจึงคิดว่าผมโหดเหี้ยม ก็แค่นั้น คุณอยากให้ผมไปรับเธอและบอกเธอว่าคุณเป็นคนที่ฆ่าหล่อนอย่างนั้นเหรอ? แบบนั้นภาพพจน์ของคุณปู่ที่ใจดีแบบที่เธอเห็นคุณอยู่จะไม่เสียเหรอ? หืมม?”ดอนพูดไม่ออกและเงียบไม่ชั่วครู่ “มีแค่นั้นจริง ๆ เหรอ?”อเลฮานโดรเลิกคิ้วหนึ่งข้างและไม่ได้ตอบอะไร ดอนถอนหายใจ “ฉันจะโทรหาเธอ”ไม่นานนักสายก็ถูกเชื่อมต่อ ชายชราเปิดลำโพงและอเลฮานโดรก็ได้ยินเสียงของเมลานีอย่างชัดเจน “มีอะไรหรือเปล่าคะคุณปู่?”ดอนสวมด้านที่ใจดีของเขา เสียงของเขานุ่มนวล “เมลานี หนูไปตั้งหลายวันแล้ว เมื่อไหร่จะกลับมาเหรอ? อาเลน่ะพูดไม่เก่ง เขาเลยพูดจาหวาน ๆ ไม่เป็น ฉันเพิ่งจะคุยกับเขาเลยรู้ว่าพวกเธอมีปัญหาอะไรกัน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด อาเล
ใบหน้าที่สง่างามของเมลานีถอดสี “เราคุยกันเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ฉันจะไม่เอาเด็กออก ถ้าคุณไม่อยากมีลูกจริง ๆ ฉันจะประกาศออกสื่อเองว่านี่ไม่ใช่ลูกของคุณ สุดท้ายก็จะเป็นคุณที่ดูเหมือนตัวตลกที่ถูกภรรยานอกใจแทนที่จะยอมรับว่านี่คือลูกของคุณ!”เขาหมุนรถเข็นและมองหน้าเธอ “ทำไมคุณต้องยืนหยัดที่จะเอาเด็กไว้ด้วย? ผมยังไม่อยากมีลูกตอนนี้ เรื่องนี้เอาไว้ก่อน”เมลานียืนหยัด “นี่เป็นลูกคนแรกของฉัน ฉันจะต้องเก็บเขาไว้ คุณไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจเพียงคนเดียว คุณควรที่จะถามความคิดเห็นของฉันด้วยไม่ใช่เหรอ? คุณเลิกเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหม? นี่มันชีวิตชีวิตหนึ่งเลยนะ นี่มันลูกของเรา คุณจะเอาเขาออกเพียงเพราะคุณไม่ต้องการเขาอย่างนั้นเหรอ?” เธอสำลักเมื่อพูดจบ น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเธอหวังไว้ว่าอเลฮานโดรจะสามารถมอบความอบอุ่นที่เธอต้องการให้กับเธอ แม้มันจะเล็กน้อยก็ตาม เธอไม่เข้าใจจริง ๆ เขาโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดที่จะฆ่าเลือดเนื้อของตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักมันก็ตามได้อย่างไร? เธอรับการกระทำทุกอย่างที่เขาทำกับเธอได้ แต่เธอผิดหวังกับความโหดเหี้ยมที่เขามีต่อลูกแท้ ๆ ของตัวเองอย่างมากอเลฮานโดรมองไปที่หน้
ทิฟฟานี่ม้วนตัวเป็นก้อนกลม ๆ ขณะที่เธอกอดเข่าตัวเองอยู่บนโซฟาและเหลือบมองแจ็คสันจากด้านข้าง “นี่มันผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ แล้ว คุณตื่นแล้วเหรอ? นึกคำพูดเพื่อง้อฉันได้แล้วเหรอ? เมื่อวานคุณยังไม่ยอมตอบฉันอยู่เลยที่คุณไปแอบสนุกมากับคนอื่น ถ้าคุณยอมพูดความจริงเราก็คุยกันได้ แต่ถ้าคุณยังคิดที่จะโกหกก็ลืมมันไปได้เลย”แจ็คสันมองแอเรียนอย่างอ้อนวอน แอเรียนยักไหล่พลางสื่อว่าเธอเองก็หมดหนทางแล้วเหมือนกัน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยอมจำนน “ผมเปล่านะ จริง ๆ เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่ผมพาคนอื่นไปออกงาน เราไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย ผมไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ เธอเป็นเพียงเด็กเอ็นที่เพื่อนผมช่วยหามาให้ในนาทีสุดท้าย ผมไม่ได้แลกเบอร์กับเธอด้วยซ้ำ มาร์คกับผมต่างจ้างเด็กมาคนละคน ถ้าคุณไม่เชื่อผมหรือมาร์คเพราะคิดว่าเรารวมหัวกันคุณจะไปถามผู้หญิงคนนั้นก็ได้ เธอชื่อเจนิซ เบลล์และทำงานอยู่ที่บริษัทของมาร์ค ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ไปถามเธอได้เลย มาร์คกลัวว่ามันจะอึดอัดเกินไป เจนิซจึงได้กลายมาเป็นคู่ของผม ผู้หญิงข้าง ๆ ผมนั้นคือคู่ของมาร์ค จริง ๆ นะ! ตอนที่ไปถึงที่งานผมกำลังนำทางพวกเธอสองคน ตอนนั้นผมยัง
แจ็คสันหัวเราะอย่างไม่คิด “นี่นายเป็นคนประเภทที่กลัวภรรยาจริง ๆ เหรอ? ฉันกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ทำไมฉันจะสูบบุหรี่ไม่ได้? นายค่อยฉีดน้ำหอมหรืออะไรทำนองนั้นก็ได้นี่”สุดท้ายมาร์คก็ไม่ได้ดับบุหรี่ของแจ็คสัน เขายังจุดบุหรี่ให้ตัวเองด้วยซ้ำเนื่องจากไม่มีใครคอยดูอยู่ “จัดการได้แล้วหรือยัง? ทิฟฟานี่ไม่ได้ฉีกนายเป็นชิ้น ๆ หรอกเหรอ?”แจ็คสันพ่นคสัน “ไม่ ฉันว่า ฉันน่าจะโชคดี แขนขาของฉันยังอยู่ครบด้วย ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์นี่อารมณ์ร้ายจริง ๆ แต่ก่อนฉันยังคุยกับเธอได้เดี๋ยวนั้นเลย แต่ตอนนี้ฉันต้องรอหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ เพื่อให้เธอใจเย็นพอ แล้วฉันถึงมาหาได้ เธอกำลังตั้งครรภ์และฉันก็ต้องทรมานไปด้วย หลังจากที่เธอคลอดทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น”มาร์คผู้มีประสบการณ์ส่ายหัวอย่างมั่นใจ “ไม่เลย หลังจากที่เธอคลอดมันจะยิ่งแย่ลง เชื่อฉัน”มุมปากของแจ็คสันกระตุก เขาดับบุหรี่ “อย่าทำให้ฉันกลัวสิ เอ่อ แล้วเรื่องของอเลฮานโดร นายไม่ลังเลเลยเหรอ? เขาคืออีธาน น้องชายของนายนะ”สีหน้าของมาร์คเย็นชา “เขาสมควรได้รับการเห็นใจเหรอ? ฉันไม่เคยมองเขาเป็นคนของครอบครัวเทรมอนต์อยู่แล้ว เราเคยมีโอกาสที่จะได้อยู่กันอย่างเป็
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง