เธอกัดปากตนเองและหัวเราะคิกคัก “ถ้าคุณพูดมาแบบนั้นแล้ว ฉันก็จะไม่ปฏิเสธค่ะ เจนิซ เบลล์ เธอยังอยู่ที่นี่ไหม?”มาร์คหรี่ตาลง ก้มตัวลงและขยับเข้าไปใกล้เธอ เขาวางแขนไว้บนไหล่เธอราวกับว่า เขาพร้อมที่จะกดเธอลงได้ทุกเมื่อ “หล่อนน่าจะอยู่แถวนี้แหละ ทำไม? เธอหึงเหรอ?”แอเรียนเลิกคิ้วหนึ่งข้าง “ฉันก็แค่ถามเฉย ๆ คุณคิดมากไปหรือเปล่า? ไปทำงานต่อสิคะ เสร็จแล้วเราจะได้กลับบ้านกัน”เขาไม่ปล่อยเธอและยังคงมองเธออย่างหลงใหล เขาขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น ๆ ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน เขาสามารถเห็นแก้มอันบอบบางของเธอได้อย่างชัดเจน ผิวของเธอใสมากจนเขาสามารถมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวใต้ผิวหนังของเธอ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาก็เลื่อนต่ำลง คอที่เนียนของเธอปล่อยกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลที่ดึงเขาเข้าสู่ภวังค์อย่างต่อเนื่องเมื่อตระหนักว่าสถานการณ์ของพวกเขาเร่าร้อนเกินไป แก้มของแอเรียนก็ร้อนผ่าว เธอยกมือขึ้นวางไว้บนหน้าอกตัวเองแล้วถอยกลับ "คุณจะทำอะไร? ถ้ามีคนมาเห็นเข้า ชื่อเสียงของคุณจะเสียไปเลยนะ”เขาจับมือที่อ่อนโยนของเธอมาวางไว้ที่ริมฝีปากของเขาแล้วจูบมัน “ไม่มีใครกล้าเข้
แอเรียนตกตะลึง การที่เขาบอกเธอล่วงหน้าทำให้เขาสามารถพาผู้หญิงคนอื่นไปเป็นคู่ของเขาได้อย่างนั้นเหรอ? ถึงแม้ว่าจุดประสงค์เขาจะชัดเจน แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น? ใครจะไปรู้ว่าเขาจะไม่ดื่มเยอะจนเกินไป หรือมีความสุขเกินไปจนบางอย่างจะเกิดขึ้นเพราะสิ่งนั้น? ไม่ว่าเธอจะคิดเท่าไหร่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี“ทิฟฟานี่ไปไม่ได้เพราะเธอท้อง แต่ฉันไปได้ ฉันไม่ได้กลัวอันตรายซะหน่อย ต่อให้อเลฮานโดรจะเป็นอีธาน เขาก็ไม่ได้ทำอะไรฉันตอนที่พวกเราเจอกันสองต่อสองไม่ใช่เหรอ? ฉันควรจะไปดูแจ็คสันให้ทิฟฟานี่ด้วย ฉันกลัวว่าแจ็คสันอาจจะหักห้ามใจตนเองไม่ได้…”มาร์คถูคางของเขาด้วยมือข้างเดียวและหัวเราะ “เห็นได้ชัดว่าเธอเองนั่นแหละที่กังวล แต่เธอก็ยังจะใช้เพื่อนสนิทของเธอเป็นข้ออ้างและอ้างว่าเธอจะไปช่วยดูสามีของเพื่อน ฉันพาเธอไปด้วยไม่ได้จริง ๆ ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเสี่ยงแม้แต่นิดเดียว เชื่อฟังฉัน ฉันทำงานก่อน เธอรอตรงนี้นะ”แอเรียนสามารถบอกได้เลยว่าเธอไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจเขาได้ ผู้ชายมองว่า การที่ผู้หญิงของพวกเขาเข้าไปพัวพันกับปัญหาที่ซับซ้อนด้วยเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอย่างนั้นเหรอ นั่นคือเหตุผล
น้ำจากฝักบัวไหลลงมาสู่ร่างชายหญิงไม่ขาดสาย เสื้อผ้าที่เปียกของเธอถูกถอดไปหมดแล้ว เธอไม่สามารถลืมตาขึ้นสักพักเพราะน้ำเข้าตา ตอนนั้นเอง ที่เธอไม่ได้รู้สึกว่าความเคอะเขินสำคัญอะไรอีกต่อไป เธอเพียงแค่ต้องการผ้าเช็ตตัวเพื่อเช็ดหน้าของเธอเนื่องจากเธอจะรู้สึกวิตกกังวลในเวลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้เธอเอื้อมมือออกไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่เธอจำได้ว่าอยู่ตรงนั้นแต่มาร์คคว้ามือของเธอไว้ได้ก่อนและทำให้ความตั้งใจของเธอไม่สำเร็จ เธอไม่กล้าที่จะผลักเขาออกเพราะพื้นลื่นมาก เธอจึงขอร้องเขาด้วยความกังวล “น้ำเข้าตา ขอผ้าเช็ดหน่อยค่ะ… ฉันมองไม่เห็น…”เขาก้มหัวลงและกระซิบข้างหูเธอ “ถ้ากลัวก็จับฉันไว้สิ…”เธอรู้ว่าเขาตั้งใจแกล้งเธอ เธอจึงตอบเขาด้วยความร้อนรนเล็กน้อย “เลิกเล่นก่อน ฉันไม่สบายตัวจริง ๆ รีบเอาผ้ามาให้เช็ดหน้าก่อนค่ะ!”ไม่นานนักก็มีผ้าเช็ดตัวถูกวางลงบนมือเธอ เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบเช็ดหน้าตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัวเธอก็ถูกดันจนติดกำแพงไปแล้ว เธอรู้ความตั้งใจของเขาตั้งแต่ที่เขาชวนเธอมาอาบน้ำพร้อมกันแล้วเมื่อพวกเขาออกมาจากห้องน้ำ แมรี่ก็พูดจากข้างนอกประตูห้องนอนของพวกเขาในขณะที่อุ้
แอเรียนพบว่ามันทั้งน่าหงุดหงิดและตลก เธอสงสัยว่าระหว่างเธอกับสมอร์มันเกิดอะไรขึ้น เธอได้เห็นแล้วว่าต้นต่อคือมาร์คมาโดยตลอด เธอจำได้ว่าเธอไม่ได้ป้อนนมสมอร์เมื่อคืนนี้ นั่นเป็นเพราะมาร์คแอบใช้นมผงป้อนสมอร์สินะ ทำไมสมอร์ไม่สงสัยรสชาติบ้างเลย! เขาถูกพ่อของเขาล้างสมองแล้ว!เธอบุกเข้าไปในห้องอย่างโกรธเกรี้ยว สมอร์ตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไร้เดียงสา เขายิ้มเล็กน้อย แอเรียนไม่มีเวลาสนใจสมอร์เพราะเธอรีบไปคว้าหมอนก่อนจะใช้มันตีมาร์ค "คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันว่าแล้วว่าฉันไม่ควรปล่อยให้สมอร์อยู่กับคุณตามลำพัง! ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าคุณจะฉลาดแกมโกงได้ขนาดนี้?!” เธอกล่าวมาร์คที่เห็นแล้วว่าตัวเองถูกจับได้พูดหน้าตายว่า “ฉันแค่กลัวว่าเขาจะติดเธอมากเกินไปและจะทำให้เธอเหนื่อยเปล่า ๆ น่ะ วิธีของฉันอาจไม่ถูกต้อง แต่อย่างน้อยผลลัพธ์มันก็เป็นอย่างที่ต้องการ ถูกไหม? ดูสิ ฉันกำลังป้อนนมผงอุ่น ๆ และพยายามจะกล่อมเขาเข้านอน เธอไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นเธอสามารถนอนหลับสนิทจนถึงวันพรุ่งนี้ได้เลย เธอไม่รู้สึกว่าภาระของเธอถูกแบ่งเบาบ้างเหรอ?”แอเรียนพูดไม่
เธอบ่นว่า "วันนี้ใครจะเป็นคู่ของคุณเหรอ? คุณบอกฉันได้ไหม? ในเมื่อเธอจะเป็นคู่ของคุณ คุณก็จะต้องมีการโดนเนื้อต้องตัวกันแน่นอน อย่างน้อยเธอก็ต้องจับแขนคุณ… ดังนั้นฉันควรมีสิทธิ์ที่จะถามใช่ไหม?”มาร์คพูดอย่างหมดหนทาง “การจับแขนมันก็เป็นเพียงมารยาทไม่ใช่เหรอ? อย่าคิดมาก ฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสในทุกรูปแบบให้ดีที่สุด ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าใครคือคู่ของฉัน เพราะฉันปล่อยให้แจ็คสันเป็นคนจัดการ ฉันเดาว่าหล่อนน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่แค่ต้องการเงินจากงานพาร์ทไทม์เล็ก ๆ ดังนั้นมันควรจะเป็นการแลกเปลี่ยนง่าย ๆ และยุติธรรม ฉันไม่มีอะไรจะบอกเธอจริง ๆ เพราะฉันไม่รู้จักหล่อนด้วยซ้ำ แจ็คสันเป็นคนที่นิยมในหมู่ผู้หญิงมากที่สุดมาโดยตลอด”แอเรียนส่งเสียงเยาะเย้ยโดยไม่พูดอะไรมาร์คส่งเธอที่ประตูบ้านและขับรถออกไปใหม่ ตอนนั้นเป็นเวลาช่วงบ่ายสามนิด ๆ เธอกำลังคิดว่าเธอควรจะโทรหาทิฟฟานี่ดีหรือไม่ เมื่อจู่ ๆ แมรี่ก็มาปรากฏตัวเพื่อต้อนรับเธอ “นายหญิง คุณแม่ของคุณอยู่ที่นี่ หล่อนนั่งรออยู่ได้สักพักใหญ่แล้ว”แอเรียนอุ้มสมอร์เข้าไปในบ้าน ฝีเท้าของเธอแอบเร็วขึ้นเล็กน้อย เธอถามอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเห็นเฮเ
แอเรียนถามว่า “เธอพูดถึงเรื่องนี้จริงเหรอคะ?”เฮเลนไม่ปิดบังความจริงและกล่าวว่า “ใช่ ฉันถึงเตือนเธอ ไม่ว่าจะอย่างไรหล่อนก็คือลูกสาวของฉัน แต่หล่อนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ดังนั้นเธอไม่ต้องอ่อนโยนกับหล่อน”อันที่จริงแล้วแอเรียนชอบนิสัยของเฮเลนนะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถแยกแยะสถานการณ์ทุกด้านได้ชัดเจนเท่าเธอ เฮเลนมีข้อดีหลายอย่างที่น้อยคนจะมี นอกจากจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง และเป็นอิสระแล้ว เธอยังสวยอีกด้วย ลักษณะที่โดดเด่นเหล่านั้นทำให้เธอมีเสน่ห์มาก ไม่อย่างนั้นพ่อของแอเรียนคงจะไม่หลงใหลในตัวเธอทางมาร์ค ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น มาร์คมาถึงงานเลี้ยงสุดหรูซึ่งที่หน้างานเป็นงานเลี้ยงใหญ่ที่ถูกจัดโดยคนคุ้นเคย ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือทุกคนแต่งกายอย่างสุภาพบุรุษและสง่างามมากขึ้น แน่นอนว่าความสง่างามนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผินเนื่องจากที่นี่มีผู้หลอกลวงมากมาย มาร์คไม่เคยชอบเข้าร่วมงานแบบนี้มาก่อน ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็ตรวจดูทุกคนในห้องแต่กลับไม่พบอเลฮานโดรในนั้น แต่แหล่งข้อมูลของเขาไม่เคยผิดพลาดแจ็คสันมาถึงหลังจากมาร์คประมาณสิบนาที พวกเขาต้องแยกกันมาเพราะแจ็คสันต้องไปรับผู้หญ
หลังจากที่ได้หมายเลขห้องมา แจ็คสันก็สลัดเจนิซทิ้งด้วยความกระตือรือร้นและรีบไปที่ห้องนั้น เขาส่งข้อความแจ้งมาร์คระหว่างทางก่อนหน้านี้อเลฮานโดรต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้านเพราะขาของเขา แจ็คสันจึงไม่ได้มีโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับเขา ครั้งนี้แจ็คสันจะไม่ยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่!แจ็คสันเปิดประตูเข้าไป ทั้งห้องเงียบลง นอกจากอเลฮานโดรและผู้ชายที่รูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งยังมีบอดี้การ์ดสองคนและผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อยอยู่ในห้องสองสามคน แจ็คสันมองอเลฮานโดร “บอกให้พวกเขาออกไป ไม่งั้นเดี๋ยวก็รู้”อเลฮานโดรมองแจ็คสันด้วยความใจเย็น เขาสะบัดมือ บอดี้การ์ดและพวกผู้หญิงลุกขึ้นและออกไปจากห้อง เมื่อชายผู้อ้วนท้วมเห็นอย่างนั้นเขาก็ตามไปติด ๆ“สายของคุณใช้ได้เลยนะ คุณคงจะรอผมอยู่ใช่ไหมล่ะ? ทิฟฟานี่รู้หรือเปล่าว่าคุณพาคนอื่นมาเป็นคู่ของคุณ?” อเลฮานโดรรินไวน์ให้ตัวเองอย่างสบายอกสบายใจแจ็คสันกำหมัดแน่น “นายก็รู้ว่าฉันจะต้องมาหานายแน่ ๆ แล้วนายยังจะมาทำไม? ลินน์ไม่ได้ลื่นตกเขาตายแน่ ๆ นายเป็นคนทำใช่ไหม? เธอทำงานให้ฉัน ทำไมนายไม่เล่นงานฉันแทน? นายเป็นผํู้ชายยังไงถึงได้ทำผู้หญิงแบบนั้น?”“คุณโกรธได้ขนาดนี้ทั้ง
“ผู้หญิงที่เลอค่าของคุณเคยรักผมหัวปักหัวปำเป็นเวลาสามปี” อเลฮานโดรตอบอย่างใจเย็น “ผมได้ครองเธอก่อนคุณอีก กาลครั้งหนึ่งผมเคยเป็นคนเดียวในสายตาเธอ แต่ตอนนี้คุณเป็นคนเดียวในสายตาของเธอ ผมแค่รับไม่ได้ ตอนนั้นผมยังเด็กและโง่เขลา และการแก้แค้นเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดได้ ผมไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่ผมร่วมเตียงด้วยเท่าไหร่ อาจจะเพราะความเสียใจผมก็เลยต้องการที่จะชดเชย มันก็คงจะไม่ผิดอะไรใช่ไหม?”คำว่า “ผู้หญิงที่ผมร่วมเตียงด้วย” ทำให้แจ็คสันเดือดดาลอีกครั้ง นี่อเลฮานโดรไม่ได้กำลังจะตอกหน้าเขาหรอกเหรอว่าเคยมีผู้ชายคนอื่นนอนกับภรรยาของเขามาก่อน? เรื่องนี้คงจะไม่ได้เลวร้ายอะไรหากมันไม่ถูกพูดถึง แต่การได้ยินแบบนั้นทำให้เขาไม่พอใจ “ชดเชยเหรอ? หึ! นายคิดว่านายควรจะได้รับโอกาสนั้นเหรอ? ทิฟฟ์และฉันอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันหากไม่เป็นเพราะนายทำลายครอบครัวของและฆ่าพ่อของเธอด้วยซ้ำ สำหรับเธอแล้ว มันคงจะดีที่สุดหากนายไม่ไปให้เธอเห็นหน้าอีก แต่นายก็ยังกล้าพอที่จะคิดชดเชยเธอ นายไม่ขยะแขยงตัวเองบ้างเหรอ? ฉันไม่สนหรอกว่าระหว่างนายกับเธอในอดีตจะเป็นมายังไง แต่ตอนนี้ ถ้านายกล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวเธอ!”ดวงตาของอเล
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง