แอเรียนไม่เคยคิดถึงเฮเลนมากเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกของเธอจึงปะปนไปด้วยความเกลียดชังเมื่อเกือบจะแปดโมงเช้า แจ็คสันและทีมงานก็มาถึงและจอดรถที่ชั้นล่าง หลาย ๆ ขั้นตอนถูกข้ามไปเนื่องจากการตั้งครรภ์ของทิฟฟานี่โดยไม่ต้องการทำให้มันยากสำหรับเธอ ดังนั้นแจ็คสันจึงเข้ามาในบ้านโดยไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ และอุ้มทิฟฟานี่ไปขึ้นรถด้วยตัวของเขาเองแอเรียนควรจะดูแลทิฟฟานี่อย่างใกล้ชิด ดังนั้นเธอจึงขึ้นรถไปกับพวกเขาโดยนั่งข้างคนขับในขณะที่คู่บ่าวสาวนั่งด้านหลัง ลิเลียนขึ้นไปในรถคันที่สองหลังจากที่พวกเขานั่งรถไปเกือบครึ่งเมืองแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงที่โรงแรมหลังสิบเอ็ดโมงแอเรียนสังเกตเห็นชายหนุ่มรูปงามที่อุ้มเด็กอยู่ในอ้อมแขนได้ง่ายดาย ดังนั้นเธอจึงเห็นมาร์คที่กำลังอุ้มสมอร์อยู่ท่ามกลางฝูงชนขณะที่เธอเข้าไปในห้องรับรองของโรงแรมทันที เธอกลัวว่าสมอร์จะงอแงหากเขาเห็นเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะยังไม่ไปพบปะกับพวกเขาห้องจัดงานได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดีและไม่เกินจริงหากจะบอกว่ามันถูกประดับประดาไปจนถึงเพดานด้วยช่อดอกไม้สีขาวทุกหนแห่งโดยเฉพาะบริเวณที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวจะต้องเดินผ่าน ทางเดินยังถูกตกแต่งด้วยกลี
ในขณะนั้นทิฟฟานี่ไม่กล้าที่จะหายใจแรงเกินไปเพราะกลัวว่าน้ำตาของเธอจะทำลายเครื่องสำอางของเธอบางหลวงมองมาที่เธอและถามว่า “คุณเลน คุณจะรับคุณเวสต์เป็นสามีที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเขาทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในยามที่ป่วยและในยามที่สบายดี และว่าจะรักเขาและให้เกียรติเขาตลอดชีวิตของคุณหรือไม่?”ทิฟฟานี่สำลักและพูดอย่างหนักแน่น “รับค่ะ!”บาทหลวงยิ้มอย่างอ่อนโยน “เชิญคู่บ่าวสาวสวมแหวนได้ครับ”เจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างหยิบแหวนและสวมมันให้กันและกัน ก่อนที่บาทหลวงจะทันได้พูดให้แจ็คสันจูบเจ้าสาวได้ แจ็คสันก็รีบจูบทิฟฟานี่อย่างหมดความอดทน นอกจากรสชาติของลิปสติกแล้วเขายังสามารถลิ้มรสริมฝีปากของเธอได้ ในที่สุดเธอก็เป็นของเขาเสียงเชียร์ของซัมเมอร์ดังที่สุดท่ามกลางแขกรับเชิญด้านล่างเวที เธอไม่สนมารยาทในการเป็นภรรยาของเศรษฐีและปรบมืออย่างตื่นเต้น น้ำตาแห่งความปิติตกจากดวงตาของเธอ เธอมองไปที่แอตติคัสซึ่งอยู่ข้าง ๆ เธอและพูดว่า “ความพยายามทั้งหมดที่ฉันทุ่มเทให้กับการเลี้ยงดูเขาตลอด 30 ปีที่ผ่านมาในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงแล้ว ช่างเป็นการเดินทางที่วิเศษจริง ๆ!”เพื่อนของเธ
“ถ้าอย่างนั้นฉันออกไปก่อนนะ พวกเธอจะได้คุยกัน” ซัมเมอร์กล่าวเมื่อซัมเมอร์จากไปบทสนทนาของทั้งคู่ก็เป็นกันเองขึ้นเนื่องจากทิฟฟานี่ไม่จำเป็นต้องห่วงภาพพจน์ของตนเองอีกต่อไป แต่หากซัมเมอร์อยู่เธอจะต้องสงวนตนเองเสมอ “แอริ ทำไมเธอไม่ขอให้มาร์คจัดงานแต่งบ้างล่ะ? ฉันตะลึงมากตอนที่เดินเข้างาน พวกเขาไม่ยั้งมือเลยจริง ๆ มันเหมือนความฝันเลย แต่เมื่อนึกภาพตอนที่พวกเขาต้องเก็บทุกอย่างหลังจากที่งานเลิกมันก็ดูน่าเสียดายมาก งานนี้คงจะใช้เงินไปไม่น้อย และฉันไม่แม้แต่จะต้องกระดิกนิ้วด้วยซ้ำ ครอบครัวเวสต์ช่างใส่ใจฉันจริง ๆ ฉันรู้สึกสำคัญมากเลย เหมือนเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ฉันนี่โชคดีจริง ๆ…” แอเรียนยักไหล่ “มาร์คและฉันแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว ทำไมเราจะต้องมาจัดงานแต่งเอาตอนนี้ล่ะ? แบบนี้เราก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร บางทีฉันก็แอบเสียดายแหละ แต่มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น มนุษย์เราควรจะรู้จักเพียงพอ อีกอย่าง เราจัดงานเลี้ยงครบรอบ 1 เดือนให้ลูกชายไปแล้ว ถ้าขืนเราจัดงานแต่งตอนนี้มันจะดูตลกนะ”“ฉันไม่คิดเหมือนเธอเลย ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเสียดายมากจนไม่สามารถข่มตานอนได้เลยแหละ เขาจะต้องจัดงานแต่งใหม่ให้ฉัน ฉันเห็นมาร์คอุ้
“พอได้แล้วคุณ เห็นได้ชัดว่าคุณก็ต้องการที่จะนอนเหมือนกัน แต่คุณแค่ใช้ลูกในท้องเป็นข้ออ้าง” แจ็คสันอุทานอย่างหัวเสีย “ตกลง เราจะไปนอนด้วยกัน แต่ห้ามแตะตัวผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะนอนหลับไม่สนิท แล้วพอเราตื่นตอนกลางคืน… คุณอยากจะทำอะไรก็ตามใจคุณเลย”…ยามกลางคืนที่คฤหาสน์สมิธเจตต์ขับรถพาอเลฮานโดรกลับจากโรงพยาบาลและพยุงเขาขึ้นรถเข็น เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่การแสดงอีกต่อไปดอน สมิธได้ขัดขวางไม่ให้อเลฮานโดรได้รับการรักษาทางแพทย์สำหรับขาของเขาที่โรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงสามารถกลับบ้านได้ก่อนกำหนด จากนี้ไปแพทย์ประจำตัวคนหนึ่งจะมาที่คฤหาสน์เพื่อให้ยาทางเส้นเลือดแก่อเลฮานโดรสำหรับการลดการอักเสบของแผลไฟไหม้เจตต์ขวัญเสียจนไม่ส่งเสียงตลอดทาง เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าในระหว่างที่เขาไม่อยู่เพียงไม่กี่วันเรื่องราวจะเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ ตัวตนที่แท้จริงของอเลฮานโดรไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพียงแต่ว่าดอน สมิธยังไม่ทันได้มีเวลามาคุยกับเขา เขาอยู่ข้างอเลฮานโดรมาตั้งนาน เพราะฉะนั้นการที่เขาจะบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้เลยก็คงจะฟังไม่ขึ้น ตอนนี้เจตต์เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเองระหว่างที่เขาเข็นรถขอ
เจตต์ยังคงก้มหน้าและตอบว่า “ผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ เขาระวังตัวตลอดที่เวลาอยู่กับผม เขาไม่เคยปล่อยให้ผมได้ใกล้ชิดจนเกินไปเลยด้วยครับ”ชายชราที่แน่นอนว่าจะไม่เชื่อเขาแสดงความคิดเห็นว่า “ฉันโปรดแกมาโดยตลอดนะเจตต์ หวังว่าแกจะไม่โกหกฉัน ตอนนี้แกไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ แต่ก่อนแกตัวคนเดียว แต่ตอนนี้แกมีครอบครัวที่จะต้องเลี้ยงดู…”เจตต์ขมวดคิ้ว “ท่านครับ ผมไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ นะครับ และผมไม่เคย… หักหลังท่านด้วย”เมลานีชะงักไปสองวินาทีเมื่อได้ยินดังนั้นก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า “คุณปู่คะ หนูขอคุยด้วยแบบส่วนตัวได้ไหมคะ?”สีหน้าของดอน สมิธเปลี่ยนเป็นมิตรทันทีที่เขาเห็นเมลานี “ได้สิ มา ๆ เจตต์ แกไปได้แล้ว”เจตต์เหลือบมองเมลานีด้วยความขอบคุณก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไปเมลานีแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่จะเข้าประเด็นทันที“คุณปู่คะ จริงอยู่ว่าพี่อเล็กซ์ไม่น่าแกล้งทำเป็นพิการและโกหกคุณปู่ แต่คนที่บอกเขาเรื่องแผนการที่คุณปู่จะฆ่าทิฟฟานี่คือหนูเอง พราะหนูไม่ต้องการให้เขาเสียใจ หนูผิดเองค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะหนูพี่อเล็กซ์คงจะไม่เป็นแบบนี้ เขาเป็นหลานคนเดียวของคุณปู่และทายาทคนเดียวของตระกูลสมิธ ได้โปร
ทันใดนั้นทิฟฟานี่ก็พุ่งตัวขึ้นราวกับว่าถูกทำให้ตกใจ ส่งผลให้ทั้งคู่มองหน้ากับพลางกุมหน้าผากตนเองด้วยความเจ็บปวด แจ็คสันไม่คาดคิดว่าทิฟฟานี่จะประมาททั้ง ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่และรีบพุ่งตัวขึ้นมาอย่างนั้นจนหน้าผากของเขากระแทกกับหน้าผากของเธอ เขาไม่ทันได้มีโอกาสที่จะหลบเธอด้วยซ้ำทิฟฟานี่เกือบจะน้ำตาซึมจากความเจ็บปวด “คุณทำอะไรของคุณเนี่ย? โอ๊ย เจ็บ…”เขาทั้งไร้เดียงสาและทำตัวไม่ถูก “คุณคิดอะไรของคุณ? ผมแค่ขึ้นมาปลุกคุณไปทานข้าว คุณลุกเบากว่านี้ไม่ได้เหรอ? ทั้งชีวิตผม ผมไม่เคยเจอผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ประมาทเท่าคุณมาก่อนเลย เอาล่ะ ลุกได้แล้ว ไม่อย่างนั้นกับข้าวจะเย็นก่อน”ทิฟฟานี่เหม่อลอยก่อนที่จะกลับมาได้สติอีกครั้ง “ฉันฝันว่าเราเลิกกันอีกแล้ว แต่แล้วฉันก็ได้ยินคุณเรียกฉันไปทานข้าว ฉันเลยจำได้ว่าเราแต่งงานกันแล้วและจะไม่มีวันเลิกกันอีก แต่ตอนนั้นฉันยังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ ฉันเลยแยกไม่ออกว่าอันไหนความฝัน อันไหนความจริง ฉันแค่อยากรู้ว่าอันไหนความจริงให้เร็วที่สุด แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณอยู่ใกล้ฉันขนาดนั้น ฉันเลยชนคุณเต็ม ๆ เลย แต่คุณก็ยังล้อฉันที่ฉันสมองช้า”แจ็คสันอมยิ้มขณะที่ยื่นมือออกไปลูบห
ทิฟฟานี่เชิญพวกเขาเข้าไปในบ้าน “คุณแม่ คุณพ่อ มาทำอะไรดึกดื่นอากาศเย็น ๆ แบบนี้คะ? ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อผ้าให้หนากว่านี้หน่อย เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะคะ”ซัมเมอร์สำรวจทุกซอกทุกมุมของบ้านขณะที่เธอเดินเข้าไป ในที่สุดสายตาของเธอก็จบลงที่โต๊ะอาหาร “ฉันเป็นห่วงเธอก็เลยต้องมาดูสักหน่อยน่ะสิ และอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด แจ็คสันเพิ่งจะได้ทำมื้อเย็นให้เธอทาน เอาจริง ๆ เขาไม่เคยช่วยทำให้ฉันเลิกเป็นห่วงได้เลย ฉันว่าเธอย้ายไปอยู่บ้านฉันยังจะดีกว่า แบบนั้นฉันจะสบายใจขึ้นเยอะเลย”แจ็คสันหูชาจากคำบ่นของเธอ แน่นอนว่าสีหน้าของเขาจะต้องเปลี่ยนไปด้วย “เธอเพิ่งจะตื่นเองครับแม่ ผมไม่ได้ปล่อยให้เธอหิวสักหน่อย หยุดเป็นห่วงพร่ำเพรื่อได้แล้วครับ ผมรักเธอมากกว่าที่แม่รักเธออีก”“ใช่แล้วซัมเมอร์” แอตติคัสแทรกขึ้น “คุณไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องครอบครัวพวกเขาขนาดนี้ ตอนแจ็คสันยังเล็กคุณไม่เห็นจะเป็นห่วงเขามากขนาดนี้เลย… อีกอย่าง มันไม่เหมาะสมที่จะมาดึกดื่นป่านนี้…”นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอตติคัสถึงได้ดูกระอักกระอ่วนขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาได้ทำให้ซัมเมอร์ไม่พอใจ “ใช่ ตอนที่แจ็คสันเด็กฉันอาจจะไม่ได้เป็นห
แจ็คสันมองทิฟฟานี่ด้วยความใจเย็น นิ้วมือที่เรียวยาวของเขาเคาะโต๊ะราวกับว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง ทันใดนั้นซัมเมอร์ก็ตวาดขึ้นมา“แกจะปล่อยให้ทิฟฟานี่ล้างจานได้อย่างไร? นั่นมันเป็นหน้าที่ของแม่บ้านซึ่งก็ไม่ได้แพงอะไรมากมายด้วย เลิกไร้สาระแล้วอ้างว่าไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามายุ่งเกี่ยวในบ้านสักทีได้ไหม? ข้ออ้างทั้งนั้น แกควรจะเปลี่ยนความคิดของแกแล้วไปจ้างแม่บ้านมาได้แล้วนะแจ็ค!”ทิฟฟานี่คาดไม่ถึงว่าซัมเมอร์จะตอบสนองรุนแรงขนาดนี้แจ็คสันรีบเดินไปหยิบถ้วยที่เธอถืออยู่ในมือและกล่าวว่า “เห็นไหม? นี่คุณตั้งใจหาเรื่องให้แม่ดุผมหรืออะไร? ปกติก็ไม่เห็นคุณจะอยากทำงานบ้านอะไร แต่พอแม่ผมอยู่ คุณกลับอยากทำอย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวผมทำเอง คุณไปพักเถอะ ผมไม่อยากเห็นคนแปลกหน้ามายุ่งกับบ้านผม”ทิฟฟานี่กุมมือตนเองด้วยความที่ทำตัวไม่ถูกพลางพึมพำว่า “โทษที…”ซัมเมอร์ดูเหมือนจะพอใจเมื่อเห็นแจ็คสันเดินเข้าไปในครัว “มานี่มาทิฟฟานี่ เรามาคุยกันเถอะ”ทิฟฟานี่ยิ้มขณะที่เธอเดินไปหาซัมเมอร์และนั่งลงข้าง ๆ หล่อนที่โซฟาก่อนที่จะอธิบายว่า “จริง ๆ แจ็คสันเป็นคนทำงานบ้านเองทั้งหมดนะคะ ตั้งแต่ก่อนที่เราจะแต่งงานกันอีก ห
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง