แชร์

บทที่ 763

ผู้เขียน: สาวน้อยจับปลา
ขณะที่ฉู่เฉินรู้สึกหนักใจและสับสนจากการขัดขืน เขาก็ได้ยินเสียงที่ไม่ชัดเจนดังขึ้นมา มีคนตำหนิเขาด้วยความโกรธ: "เจ้าได้เจอกับเทพเจ้าองค์นี้แล้ว ทำไมเจ้ายังไม่คุกเข่าลงอีก หากเจ้ายอมคุกเข่าลง เจ้ามีเงินทอง สตรีงาม หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ แม้ว่าเจ้าจะอยากให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในพริบตาก็สามารถทำได้”

ฉู่เฉินทำตามหัวใจ และพูดออกไปอย่างไม่ลังเล: "ตลอดชีวิตนี้ ฉันคุกเข่าให้กับแค่ฟ้าและดิน และผู้อาวุโสของฉันเท่านั้น ฉันจะไม่คุกเข่าให้ใครนอกเหนือจากนี้"

“เจ้ารู้ไหมว่า เจ้าต้องเสียอะไรไป? เจ้าแน่ใจกับการตัดสินใจของตัวเองแล้วรึ?” เสียงนั้นล่อลวงเขาอีกครั้ง

แต่ฉู่เฉินไม่ลังเล ต่อต้านอย่างดื้อรั้นและปฏิเสธที่จะคุกเข่าลง

ยึดมั่นอยู่หน้ารูปปั้นจนหมดสติไป

……

เส้นทางของโปเปียวก็เหมือนกัน ที่ปลายทางก็มีคล้ายกับสิ่งที่ฉู่เฉินได้เห็น วิหารและรูปปั้นแบบเดียวกัน ความแตกต่างก็คือ เมื่อรัศมีของรูปปั้นแผ่ออกมาเป็นครั้งแรก โปเปียวก็แทบจะต้านทานไม่ไหว แต่เมื่อเผชิญกับสิ่งล่อใจ ก็ตัดสินใจเลือกสิ่งนั้นแทน

เขาเลือกที่จะคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้น ทันใดนั้น โปเปียวก็รู้สึกว่าความแข็งแกร่งได้พุ่งสูงขึ้นอย่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 764

    เพราะโจวเล่ยที่จงใจปล่อยให้มีชีวิตอยู่ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เดินไปหาคนคนนั้น และเมื่อเธอเข้าไปใกล้ร่างกายของคนนั้นเหมือนกับถูกค้อนทุบลงมาอากาศ จากนั้นกระดูกก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดไหลออกจากปากของเขา และผิวหนังก็ค่อยๆ หายไป เห็นได้ชัดว่าโจวเล่ยเกลียดคนๆ นี้เข้ากระดูกดำ ซึ่งไม่ต้องการให้เขาตายอย่างรวดเร็ว แต่ต้องการทรมานคนคนนี้ทีละนิดจนตายโจวเล่ยสนุกไปกับความยินดีที่ได้ล้างแค้น กับเรื่องที่ฝังใจมาโดยตลอดของเธอในทำนองเดียวกัน เฉินเหนิงลัวก็ไม่ต้านทานสิ่งล่อใจได้เช่นกัน เขายอมจำนนต่อความปรารถนาในส่วนลึกของจิตใจ เพลิดเพลินกับข้อเสนอที่จูงใจและพลังของนักสู และทำให้สูญเสียตัวตนไปในระหว่างนั้นไปดูเหมือนว่าในฐานะนักสู้อิสระ การมีชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยความงุนงงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฉู่เฉินจึงค่อยๆ ตื่นขึ้นมา วิหารที่อยู่ตรงหน้าได้หายไป ราวกับว่ารูปปั้นและวิหารที่เห็นเป็นเพียงภาพลวงตา เหลือเพียงลูกบาศก์สีเทาที่ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น ลูกบาศก์นั้นมีสีเข้มและดูธรรมดาแต่ฉู่เฉินรู้อยู่ในใจว่า สถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างแน่นอน และสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ฉู่เฉิ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 765

    คำพูดนี้ ทำให้ฉู่เฉินจึงเข้าใจทันที ปรากฎว่าความต่อสู้ก่อนหน้านี้ของเขาได้ผ่านการทดสอบแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนชายชราหนวดเคราสีเทาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ "แต่ข้ายังคงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย พวกเราคนแก่ทั้งหลายได้เข้าสู่ดินแดนเร้นลับนี้ โดยหวังว่าจะพบโอกาสในการก้าวผ่านจิตก่อนที่อายุขัยจะสิ้นสุดลง แต่กลับไม่พบอะไรเลยและเสียชีวิตลงทั้งหมดที่นี่"“ในที่สุดดินแดนเร้นลับนี้ก็เหลือไว้ให้ลูกหลานอย่างพวกเจ้ามาสำรวจ เอาล่ะ เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ แล้วมาเข้าเรื่องสำคัญกันดีกว่า”“ข้าคิดว่าคนที่นำเจ้ามาที่นี่ อาจไม่ได้บอกความจริงกับเจ้าหรือบางทีพวกเขาเองก็อาจจะไม่รู้ ดินแดนเร้นลับนี้เดิมทีไม่ได้อยู่ที่นี่ ในยุคสมัยของพวกเรา มีวันหนึ่งได้มีเหรียญตรามากมายร่วงลงมาจากท้องฟ้า "“เหรียญตราเหล่านั้นเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่ดินแดนนี้ พวกเรารู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการบำเพ็ญเพียรมากกว่าต้าเซี่ย ดังนั้นจึงใช้กลอุบายบางอย่างเพื่อบุกเข้ามา แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเข้ามาแล้ว จะไม่สามารถออกไปได้ ท้ายที่สุดพวกเราทุกคนก็ตายที่นี่ บางคนเสียชีวิตจากความชรา บางคนก็ถูกฆ่าตาย และไม่มีใครรอดสัก

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 766

    ในทางตรงกันข้าม โจวเล่ยนั่งอยู่คนเดียวบนเนินเขาอย่างเงียบๆ รู้สึกถึงความอ้างว้างและเงียบงัน เมื่อมองไปรอบๆ มันต่างเต็มไปด้วยการนองเลือด ทำให้ภาพเบื้องหน้านี้น่าเศร้ายิ่งขึ้นฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองโจวเล่ยเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ และยอมอดทนคำสาปแช่งที่หยาบคายเพียงเพื่อปกปิดความจริงไว้ในใจ จริงๆ แล้วเธอเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งขณะที่ฉู่เฉินยังคงสังเกตภาพลวงตาของโจวเล่ยต่อไป ทุ่งหญ้าสีเขียวก็ค่อยๆ หดตัวลง ไม่นานนัก ทุ่งหญ้าก็หายไปทั้งหมด ถูกแทนที่ด้วยกำแพงปราสาท โถงปราสาท และในที่สุด ตัวปราสาทก็หายไป มีคนห้าคนปรากฏตัวขึ้นที่ท่ามกลางทรายสีเหลืองอันไร้ขอบเขตทั้งห้าคนค่อยๆ ตื่นขึ้น โดยที่ฉู่เฉินเป็นคนแรกที่ตื่น เมื่อเห็นตัวเองและคนอื่นๆ เปลือยกายอยู่ในทรายสีเหลืองอันกว้างใหญ่ และไม่มีร่องรอยทุ่งหญ้าเขียวขจีและปราสาท ฉู่เฉินก็ตระหนักได้เช่นเดียวกับที่ชายชราเคราหงอกพูดไว้ และตอนนี้ชายชราได้หายตัวไปเรียบร้อยแล้วในขณะที่อีกสี่คนยังไม่ตื่นเต็มที่ ฉู่เฉินรีบนำสิ่งที่เรียกว่าผลึกประกายศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในเมืองลับแลมังกรโจวเล่ยเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นกา

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 767

    นึกถึงเรื่องนี้ หลายคนก็เหงื่อแตกพลั่ก“ใครเป็นคนตื่นคนแรก?” ฉินหยวนไถไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้จึงถามอีกครั้ง“ดูเหมือนว่าจะเป็นเขา” โจวเล่ยไม่ได้ปิดบังและชี้ไปที่ฉู่เฉินนี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถปกปิดได้ แม้ว่าเธอจะไม่พูด เพราะเดี๋ยวก็จะมีคนเดาออกมาได้“ฉู่เฉิน แกอีกแล้ว บอกมาตามตรงซะ แกได้อะไรเข้ามาจากข้างในปราสาทโบราณนี้บ้าง?” ฉินหยวนไถข้อสงสัยอย่างชัดเจน“ฉินหยวนไถ อย่ามาล้ำเส้น ฉันแค่เป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นมา”“ฉันจะเอาอะไรได้ ถ้าเจออะไรจริง ๆ ถึงฉันจะตื่นมาคนแรก แล้วฉันก็ได้ทำอะไรพวกนายเลยหรือยัง?”“หรือฉันจะออกไปก่อนก็ย่อมได้ นายมีสมองไว้กั้นหูอย่างนั้นเหรอ?” ฉู่เฉินโต้กลับด้วยความรู้สึกพูดไม่ออกในใจ ชายคนนี้ฉลาดเป็นกรดจริงๆ แถมยังสงสัยตัวเขาเร็วมาก“นั่นเป็นเพราะความฉลาดของแก ถ้าแกออกไปก่อน พวกเราคงจะตามไล่แกแน่ เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยให้ตัวเอง ดังนั้นนายจึงอยู่ที่นี่ เอามันออกมาซะ เอาออกมาให้ฉันดู” ฉินหยวนไถยืนกราน ไม่ว่าจะจากการสังหรณ์ใจหรือเดา แต่เขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างอีกสามคนที่ไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่กลับค่อยๆ เชื่อคำพูดของฉินหยวนไถและล้อมรอบฉู่เฉินเอาไว้ตรงกล

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 768

    “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็หยุดพูดไร้สาระแล้วมาลุยด้วยกันดีๆดีกว่า ท้ายที่สุดแล้วการพล่ามไปก็ไม่มีประโยชน์ มันขึ้นอยู่กับพลังในกำปั้น” ฉู่เฉินเริ่มพูด“ถ้าอย่างนั้นอย่าโทษพวกเราที่รุมแก” ฉินหยวนไถเป็นคนแรกที่ลงมือ ภาพลวงตาหายไป และความแข็งแกร่งของทุกคนก็กลับคืนมา วรยุทธของฉินหยวนไถอยู่ในขั้นเก้าของอระดับมหากาฬก็ระเบิดออกมา และเขาก็พุ่งตัวไปที่ฉู่เฉิน ทันทีโปเปียว เฉินเหนิงลัว และโวเล่ยก็ไม่รอช้าเช่นกัน พวกเขาก็เคลื่อนไหวและสร้างวงล้อมสี่มุมร่วมกับฉินหยวนไถ ในขณะเดียวกันก็โจมตีฉู่เฉินด้วยนักสู้ระดับมหากาฬนั้นธรรมดาตั้งแต่เมื่อไหร่? นอกเหนือจากโปเปียวที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อย เฉินเหนิงลัวและโจวเล่ย ต่างก็อยู่ในขั้นแปดของระดับมหากาฬ และไม่จำเป็นต้องพูดฉินหยวนไถที่อยู่ในขั้นเก้าในทางกลับกัน ฉู่เฉินซึ่งถูกล้อมไว้ตรงกลางก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย แม้ว่าจะโดนการโจมตีจากทั้งสี่คนพร้อมกัน ฉู่เฉินก็ไม่ได้เอาอาวุธออกมาเพียงแค่อาศัยการเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หากต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว และยังไงฝึกฝนกับเหยาหลิงเฉินมาก่อน ฉู่เฉินอาจจะทำอะไรไม่ถูกแต่ต่อมา จวินหวู่หมิงก็

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 769

    เมื่อเห็นเช่นนี้ โปเปียวก็ตะโกน: "เป่ยเอ๋อ ช่วยพวกเราด้วย ไม่งั้นพวกเราจะไม่รอดแน่!"หากฉินหยวนไถจากตระกูลฉินตาย ดังนั้นนักสู้มหากาฬชั้นแปดที่เหลืออีกสองคนและโปเปียวต่อสู้กับฉู่เฉิน ซึ่งจะทำให้พวกเขาจะจบลงด้วยความตายเท่านั้นดังนั้นโจวเล่ยจึงรีบลงมือ แสงสีแดงกระพริบไหว ปลดปล่อยคลื่นแห่งความสับสนออกมาจนกระทั่งเฉินเหนิงลัวก็เข้าร่วมด้วย ทั้งสี่คนจึงสามารถป้องกันการโจมตีได้“ในเมื่อพวกนายทุกคนป้องกันการโจมตีของฉันได้ งั้นครั้งนี้ฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย แล้วคราวหน้าฉันจะไม่แสดงความเมตตาอีก”หลังจากพูดเช่นนี้ ฉู่เฉินก็หันหลังกลับและหายตัวไปในทันที และจากไปโดยไม่หันกลับมามอง“ฉันไม่ได้คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของฉู่เฉินจะน่ากลัวขนาดนี้” หลังจากที่ฉู่เฉินจากไป เห็นได้ชัดว่าโปเปียวกลัวและกังวลว่าการเดิมพันครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ เขาจะไม่แปรพักตร์แน่การเผชิญหน้ากับฉู่เฉิน อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฉู่เฉินแข็งแกร่งกว่ามาก แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะมีพลังล้นหลามขนาดนี้ และความแข็งแกร่งที่รวมกันของพวกเขาทั้งสี่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 770

    ตามคาด มันได้ผลเหมือนเวทมนตร์เมื่อได้ยินว่าฉู่เฉินเป็นนักล่าจากชนเผ่าที่พลัดหลงจากกลุ่มของเขา ชายคนนั้นก็ไม่ได้ถามคำถามมากเกินไป ไม่ว่าจะด้วยความเห็นอกเห็นใจหรือสงสาร เขาเพียงแต่ถามชื่อฉู่เฉินก่อนจะจัดที่นอนให้เขา และให้เขาพักผ่อนโดยเร็วเมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ชายคนนั้นก็เชิญฉู่เฉินมาทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างอบอุ่น ซึ่งมีต้นขาของสัตว์ประหลาดไม่ทราบชนิดได้ถูกย่างบนไฟฉู่เฉินไม่สามารถต้านทานความกระตือรือร้นของชายคนนั้นได้ จึงเดินตามเขาไปที่กองไฟข้างกองไฟ มีชายเจ็ดหรือแปดคนรออยู่แล้ว เมื่อพวกเขาเห็นฉู่เฉินเข้ามาใกล้ พวกเขาก็รีบจัดแจงหาที่วางให้เขานั่งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ฉู่เฉินจึงหยิบเหล้าสองขวดออกจากประเป๋าหลุดดำออกมาเพื่อแบ่งปันฉู่เฉินไม่เคยตระหนี่กับผู้ที่แสดงความมีน้ำใจต่อเขาเมื่อได้ฟังผู้ชายพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าสนใจจากทั่วทุกมุมโลก ฉู่เฉินก็มีความสุขมากเช่นกัน และในไม่ช้าก็เข้าร่วมวงสนทนาด้วยและสนุกสนานอย่างกลมกลืนสักพักทุกคนก็เริ่มคุ้นเคยกันยามที่เจอกับฉู่เฉินเป็นคนแรกกกล่าวว่า "ข้าอิจฉาเจ้าจริงๆ น้องฉู่เฉิน เจ้าอายุน้อยมากและมีฝีมือมาก ช่วยเผ่าของเจ้าล

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 771

    แม้จะเป็นสถานที่รกร้าง แต่พลังวิญญาณที่นี่ก็มีมากมายไม่น้อยไปกว่าในเมืองนลับแลมังกร ฉู่เฉินเริ่มดึงพลังงานเข้าสู่สภาวะสมาธิ แม้ว่าผลกระทบของการดูดซับพลังวิญญาณจะมีเพียงเล็กน้อยสำหรับเขา แต่การบำเพ็ญเพียรก็จะค่อยๆ สะสมพลังงานเอาไว้ ดังนั้นจะไม่เป็นการก้าวกระโดดไปอีกขั้นในทันทีในช่วงครึ่งหลังของคืน ฉู่เฉินตื่นขึ้นด้วยความหนาวเย็น เขาแผ่จิตสมผัสศักดิ์สิทธิ์และตรวจดูไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่สังเกตเห็นสัญญาณแปลกๆ ใดๆอย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะละสายตาก็เห็นเต็นท์ด้านหลังเขา เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียวครึ่งหนึ่งและริมฝีปากสีแดงเลือดรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นสะดุดตามากที่ข้างเต็นท์เหนือดินแดนรกร้างแห่งนี้ และเมื่อฉู่เฉินมองไป ผู้หญิงคนนั้นก็จ้องมองตรงมาที่เขา ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป และด้วยท่าทางที่แข็งทื่อนั้น เหมือนว่ากำลังมองที่ฉู่เฉินอยู่ฉู่เฉินยืนขึ้นโดยตั้งใจที่จะเมินเฉยผู้หญิงคนนั้นขณะที่เขากำลังจะไปแจ้งเตือนคนในเต็นท์ ก็พบว่าไม่เห็นเตียงใต้เท้าแล้ว ฉู่เฉินจึงก้าวเท้าออกไปและมองลงไปตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นเตียงหายไป ถูกแทนที่ด้วยบ่อเลือดจากนั้น โครงกระดูกก็โผล่ออกมาจากบ่อเลือด และเผยให

บทล่าสุด

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1155

    “ไสหัวไปซะ!” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและตะโกน สายตาของเขาเย็นชา และเผยจิตสังหารออกมา“อะไร? แกกำลังไล่พวกเรางั้นเรอะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ดูประหลาดใจและสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิด“ไอ้ขี้เหร่ แกกล้าอวดดีขนาดนั้นเลยเหรอ แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก”ทันใดนั้น ทุกคนก็โกรธฉู่เฉินอย่างมากแม้ว่านี่จะเป็นเมืองหลวง แต่พวกเขาก็เป็นสมาชิกของตระกูลหวัง พวกเขาข่มเหงผู้ที่อ่อนแอและข่มเหงคนหนุ่มสาวเป็นประจำทุกวัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะหยิ่งผยองลำพองใจ พวกเขาคุ้นเคยกับแววตาหวาดกลัวและยอมจำนนของคนอื่น ๆ มาเป็นเวลานานคำพูดของฉู่เฉินทำให้พวกเขาโกรธมาก จนอยากจะถลกหนังเขาและหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ!“ฉันจะพูดอีกครั้ง ไปให้พ้น! ไม่เช่นนั้นจะฆ่าอย่างไม่ปราณี!“ สายตาเย็นชาของฉู่เฉินกวาดไปทั่ว เต็มไปด้วยจิตสังหาร“ฆ่าอย่างไม่ปราณี?”“ฮ่า ๆ แกทำให้ฉันขำเป็นบ้า แกคิดว่าแกตัวเองคู่ต่อสู้ของพวกเราได้จริงเหรอ?”ชายหนุ่มหลายคนในชุดสูทมองขึ้นมาและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของพวกเขาเยาะเย้ย ไม่สนใจเขาเลยฉู่เฉินส่ายหัวและถอนหายใจ คนพวกนี้มีสมองเอาไว้กั้นหูเท่านั้น เขาเพิ่งให้โอกาสพวกเขาไปเมื่อ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1154

    ……ภายในเมืองหลวงที่คึกคัก บนถนนที่กว้างและราบเรียบกลุ่มบุคคลที่โดดเด่นเดินไปมาในเมือง โดดเด่นเหมือนฝูงนกยูงรำแพนหาง และดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นมากมายอย่างไรก็ตาม เครื่องแต่งกายของพวกเขาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โดยที่เย่ชิงชานสวมชุดสีขาวล้วน ดูบอบบางและงดงามเฉียวหานอวี้สวมชุดยาวสีม่วงแดง แสดงออกถึงท่าทางที่กล้าหาญและมั่นใจหนิงชิงเสว่ที่ยังเยาว์วัยและสวยงามในชุดสีน้ำเงิน ฉู่เหมิงเหยาผู้บริสุทธิ์และสวยงาม อ่อนโยนและเงียบขรึมมีเพียงฉู่เฉินที่สูงใหญ่และสง่างามในชุดสีดำเท่านั้นที่โดดเด่นออกมา ใบหน้าที่คมคายและเฉียบคมของเขาส่งออร่าของความเฉยเมยที่ทำให้เขาดูไม่เข้ากับคนอื่น ๆ“หนุ่มหล่อคนนั้นเป็นใคร? ทำไมเขามากับผู้หญิงมากมายขนาดนั้น?” พฤติกรรมของทั้งกลุ่มดึงดูดความสนใจของบางคนได้อย่างชัดเจนคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราและเครื่องประดับสีสันสดใส บ่งบอกถึงภูมิหลังครอบครัวมีฐานะ“ผู้ชายคนนั้นดูอ่อนแอมาก แต่ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ เขาแจ่มเป็นบ้า” คนที่รู้จักฉู่เฉินกระซิบเตือน ไม่เต็มใจที่จะก่อเรื่องฉู่เฉินเดินไปข้างหน้าคนเดียว โดยไม่สนใจคนร

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1153

    “อืม พวกเราจะไม่ทอดทิ้งนายแน่นอน!”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของกลุ่มสาว ๆ ทำให้ฉู่เฉินหมดหนทาง แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา“เสี่ยวซือโถว เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเรามาเตรียมพร้อมกันเถอะ ฉันอยู่เฉย ๆ มาหลายวันแล้ว”เฉียวหานอวี้ถูกำปั้น และกระตือรือร้นที่จะพยายามทำอะไรสักอย่างพี่สาวคนอื่น ๆ ก็ตื่นเต้นเช่นกัน ราวกับว่าพวกเธอเห็นภาพของคนหลายคนที่เข้ามาในเมืองหลวงเป็นกลุ่มสถานการณ์นี้ทำให้ฉู่เฉินตกตะลึง“พี่ ๆ ได้โปรดรอก่อน เรื่องนี้ต้องดำเนินการทีละขั้นตอน และฉันกำลังจะทำสำเร็จในไม่ช้า ยังไม่สายเกินไปที่จะดำเนินการเมื่อฉันทำสำเร็จ และอีกอย่าง... ฉันไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดของคุณจริง ๆ” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและพูดความเกลียดชังของคน ๆ หนึ่งต้องได้รับการจัดการด้วยตัวเองในที่สุด และไม่ให้พี่ ๆ มาเกี่ยวข้องได้ เพราะพวกเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องนี้“จะเป็นอะไรถ้านายไม่ใช่น้องของฉัน? นายเติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกับพวกเราตั้งแต่ยังเด็ก และแม้ว่านายไม่ใช่น้องร่วมสายเลือดของฉัน แต่พวกเราก็ปฏิบัติกับนายเหมือนเป็นน้องชายของพวกเรา”เฉียวหานอวี้เอื้อมมือไปจับแขนเสื้อข

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1152

    “ประสบการณ์ของฉันก็เรียบง่ายมาก ในกองไฟของสถานรับเลี้ยงเด็ก ฉันได้รับการช่วยเหลือจากชายชราคนหนึ่ง หลังจากนั้น ฉันก็ติดตามชายชราไปฝึกวรยุทธ หลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกฝน ฉันก็ออกมาเพื่อล้างแค้นให้กับคุณปู่ผู้อำนวยการและทุก ๆ คน ฉันได้ติดตามเบาะแสทีละขั้นตอนไปจนถึงเมืองหลวง และนั่นคือทั้งหมด”ฉู่เฉินกางมือออกกว้าง แสดงให้เห็นว่าพูดจบแล้ว“แค่นั้นหรือ ไม่มีอะไรเลยเหรอ? เสี่ยวซือโถว นายปฏิบัติกับเราเหมือนคนนอกและปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเรา”เฉียวหานอวี้พูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ เหล่าพี่สาวได้ใช้สายตากดดัน โดยหวังจะเกลี้ยกล่อมให้ฉู่เฉินเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่คิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะพูดเพียงไม่กี่คำพวกเธอรู้สึกเหมือนว่าแผนของพวกเธอล้มเหลว“เสี่ยวซือโถว ถ้านายไม่พูด พวกเราก็รู้กันดี แล้วก็รู้ว่าตระกูลฉู่ เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงในอดีต เป็นตระกูลเดิมของนาย นายตั้งใจไม่บอกความจริงกับพวกเรา เพราะไม่อยากทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนใช่ไหม? ”หลินอีนัวจ้องมองฉู่เฉินและพูด“ถ้าไม่เคยรู้มาก่อน ก็คงจะดีกว่า เพราะถ้ารู้แล้ว แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และจะกลายเป็นภาระสำ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1151

    ในคฤหาสน์หนานหวาง มีเสียงหัวเราะดังครึกครื้น พี่สาวทั้งห้าคนมารวมตัวกันและสนุกสนานกัน ฉู่เฉินก็สนุกเช่นกัน ในขณะนี้ คนทั้งหกคนอยู่ในลานบ้าน ชิมอาหารที่ฉู่เหมิงเหยานำมา และพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาเริ่มจากพี่สาม เฉียวหานอวี้ เธอได้พบกับหมอเทวดาหลี่ซ่างได้อย่างไร ทำไมถึงได้รับเป็นลูกศิษย์ได้ ทักษะทางการแพทย์ของเธอพัฒนาขึ้นอย่างไรหลังจากนั้น เธอช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไรบ้าง เธอได้พบกับฉู่เฉินตอนไหน แล้วอะไรทำให้จดจำกันได้ และพูดถึงทุกอย่างอย่างละเอียด“ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเจ็ดความจำเสื่อม พี่สามคงจะไม่ได้เจอเรา”หลังจากฟัง หลินอีนัวก็ถอนหายใจ“ใช่แล้ว พูดได้แค่ว่าโชคชะตาเล่นตลกกับผู้คน โอเค ฉันพูดจบแล้ว ถึงตาเธอแล้วนะ น้องห้า”เฉียวหานอวี้ส่งต่อบทสนทนาไปยังหลินอีนัวหลินอีนัว ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตระกูลหลินพาตัวไป เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร พบกับฉู่เฉินตอนไหน ทำไมถึงมาแสดงหนังร่วมกันอีก และสุดท้ายทำอีท่าไหนถึงเข้าร่วมนิกายเมียวหยินได้หลังจากที่หลินอีนัว พูดจบ พี่สาวหลายคนก็ถอนหายใจว่าประสบการณ์ของหลินอีนัวนั้นค่อนข้างทรหด จากนั้นพวกเธอก็

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1150

    “เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เย่ชิงชาน หลินอีนัว และเฉียวหานอวี้ขึ้นรถคันที่สองไปแล้วด้วยความมึนงงชั่วขณะเมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงชิงเสว่จึงรีบเข้าไปดึงฉู่เฉินอย่างสบาย ๆ“เสี่ยวซือโถว มานั่งด้วยกันเถอะ”“อืม”ฉู่เฉินตอบกลับ แล้วขึ้นรถที่อยู่ข้างหน้าเขา“ไปกันได้แล้ว” เมื่อมองไปที่เยว่ฟู่หลงที่ยังคงจ้องมองเขาอย่างซื่อบื้อ ฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูด“โอเค อาจารย์”เยว่ฟู่หลงเหยียบคันเร่งและรถออฟโรดสีดำ ก็พุ่งออกไปเหมือนสัตว์ร้ายที่คำรามภายในสนามบินเมืองหลวงฉู่เหมิงเหยาลงจากเครื่องบิน หยิบสัมภาระของเธอ และเห็นฉู่เฉินรออยู่ที่นั่น ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินคือผู้หญิงที่สวยงามสี่คน“พี่หก ทางนี้”ก่อนที่ฉู่เฉินจะพูด หนิงชิงเสว่ก็ตะโกนออกไปอันที่จริง แม้ว่าหนิงชิงเสว่จะไม่ตะโกน แต่ฉู่เหมิงเหยาก็คงจะเห็นแล้วเธอก้าวเท้าและเดินไปข้างหน้าเมื่อรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับพี่สาวคนอื่น ๆ ฉู่เฉินกังวลว่าอาจจะเกิดความอึดอัด ฉู่เฉินจึงรีบแนะนำทุกคนทันที“พี่หก นี่คือพี่สาม เฉียวหานอวี้ ศิษย์โดยตรงของหมอเทวดา หลี่ซ่าง นี่คือพี่สี่ หลินอี้นัว ศิษย์สายตรงของหัวหน้านิกายเมียวห

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1149

    “แกเป็นใคร?” จ้าวฟางเซียงถามโดยไม่รู้ตัว“ฉันชื่อฉู่เฉิน”เดิมทีฉู่เฉินคิดว่าในฐานะสมาชิกตระกูลจ้าวในเมืองหลวง จ้าวฟางเซียงต้องเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง และเมื่อรู้ว่าเป็นเขา อีกฝ่ายก็จะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้บ้างโดยไม่คาดคิด หลังจากพูดชื่อของเขา จ้าวฟางเซียงก็หัวเราะออกมา“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ก็แค่ไอ้หน้าอ่อน แกยังกล้าประกาศชื่อของแกต่อหน้าฉัน มั่นหน้ามั่นโหนกจริง ๆ แต่น่าเสียดาย เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน จ้าวฟางเซียง แกไม่ได้มีโอกาสที่จะหยิ่งยโส แก….”จ้าวฟางเซียงยังคงพูดไม่หยุดเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังจ้าวฟางเซียงในตอนแรก มีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อของฉู่เฉินจริง ๆ แล้วเขาคือฉู่เฉิน ฉู่เฉินผู้ทำลายล้างตระกูลฉินเพียงลำพัง!ในบรรดาตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ฉู่เฉินกลายเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับตระกูลฉู่ชายชราเดินไปหาจ้าวฟางเซียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ขัดจังหวะการพูดของเขา และกระซิบที่หูของเขา“นายน้อย เขาคือฉู่ซวนหวู่ ฉู่ซวนหวู่ที่ฆ่าล้างบางตระกูลฉิน!”เมื่อได้ยินแล้วจ้าวฟางเซียงก็รู้ว่าฉู่เฉินเป็นใครไม่น่าแปลกใจ ที่จะฟังดู

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1148

    เมื่อได้ยินเยว่ฟู่หลงกับเว่ยอิงลั่ว เรียกตัวเองเช่นนี้สำหรับหนิงชิงเสว่นั้นไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็เคยได้ยินคำพูดที่สนิทสนมกว่านี้มาก่อนคนที่เหลืออีกสามคน ไม่ว่าจะเป็นเย่ชิงชาน หลินอีนัว หรือเฉียวหานอวี้ต่างก็หน้าแดงแจ๋ฉู่เฉินพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“พี่สาว อย่าไปสนใจพวกเขา พวกเขาเคยพูดจาไร้สาระ ไปคุยกันต่อบนรถดีกว่า”“อืม”ทั้งสามคนไม่คัดค้าน แต่ทุกคนรีบวิ่งไปที่รถที่อยู่ข้างหลังพวกเขา“หยุด!”เสียงเย็นชาดังขึ้น ทำให้ฉู่เฉินหยุดชะงัก ร่างหนึ่งก้าวมาข้างหน้าเฉียวหานหยู่ ขวางทางของเธอฉู่เฉินเดินเข้าไปและมองไปที่ชายคนนั้น“พี่สาม คุณรู้จักเขาไหม?”“ไม่รู้จักเลย” เฉียวหานอวี้ตอบพร้อมเอียงหัวอย่างไม่ใส่ใจ“งั้นก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ขึ้นรถกันเถอะ”ฉู่เฉินจับมือเธอเบา ๆ ช่วยประคองเธอขึ้นรถ ขณะที่เขาเปิดประตูค้างไว้การเห็นตัวเองถูกเมินอย่างซึ่ง ๆ หน้า ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับจ้าวฟางเซียง เขาไม่เพียงแต่เคยคิดจะใช้เงินห้าสิบล้านหยวนเพื่อเอาชนะใจเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับถูกเมินอย่างสิ้นเชิง และที่แย่ไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าและหล่อกว่าคนนี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอี

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1147

    “คุณหนูเฉียว คุณจะไปไหน ฉันจะพาคุณไปส่งเอง”จ้าวฟางเซียงไม่รู้ว่า มั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหน จึงเอื้อมมือไปหามือหยกอันบอบบางของเฉียวหานอวี้ เพื่อจับมือเธอเฉียวหานอวี้เบี่ยงตัวและหลบไป“นายจะทำอะไร?”“เฮ้ ๆ ทำอะไรอยู่ เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะไปส่งคุณกลับบ้าน ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น แต่รวมถึงพวกคุณทุกคนด้วย”เมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้สามารถหลบมือของตัวเอง ได้อย่างง่ายดายจ้าวฟางเซียงไม่ได้สนใจ และยื่นมือเของเขาออกไปอีกครั้ง“นายบ้าไปแล้วหรือไง ตอนกลางวันแสก ๆ ฉันสามารถแจ้งความอนาจารนายได้!”เฉียวหานอวี้หลบอีกครั้งและพูดจาเย็นชา“บอกฉันสิ? ดูเหมือนว่าคุณยังไม่เข้าใจน้ำหนักของคำว่าตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวง ใครในเมืองนี้ที่กล้าเข้ามายุ่งกับฉัน จ้าวฟางเซียง!”จ้าวฟางเซียงพูดจาเย่อหยิ่งเมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้หลบได้อีกครั้ง จ้าวฟางเซียงก็รู้ว่า แม้เขาจะโง่แต่ผู้หญิงคนนี้คือวรยุทธ ถึงจะไม่สามารถรับรู้ระดับวรยุทธของผู้หญิงคนนี้ได้ แต่ระดับวรยุทธของเธอก็อาจจะเท่ากับเขา คาดว่าผู้หญิงคนนี้ได้ฝึกฝนวิชามาเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงหลบเลี่ยงเขาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากเข้าใจแล้ว จ้าวฟางเซียงก็พูดอย่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status