"อะไรนะ?"คำพูดนั้นทำให้จางซินรู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาใครซื้อบ้านแล้วย้ายเข้าวันเดียวกันบ้าง? คุณคิดว่ากำลังเล่นขายของอยู่? “ท่านครับ ไม่มีบริการดังกล่าว เร็วที่สุดคงใช้เวลาสองสามวัน” จางซินตอบอย่างสุภาพ“โอ้ งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันเสียเถอะ” ฉู่เฉินพูดและยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามกำลังจะหันหลังกลับและจากไป จางซินก็โกรธจัดทันทีผู้ชายคนนี้เขามาที่นี่เพื่อสร้างความสนุกให้ตัวเองเหรอ? กำลังเคลิ้มหลับอยู่เลย แต่กลับโดนก่อความวุ่นวาย จึงทำให้โกรธมากในใจ จู่ๆ ก็นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งขึ้นมาทันที ดังนั้นจึงพูดออกไป“ท่านครับ มีบ้านที่คุณสามารถย้ายเข้าได้ทันที แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะมีเงินพอหรือไม่” จางซินพูดอย่างเย็นชาในเมืองหลวง แค่เป็นบ้านในสวน ใครจะไม่รู้ว่าราคามันเกือบจะสูงเท่าท้องฟ้าเมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เฉินก็เริ่มสนใจทันทีจึงถามอย่างรวดเร็วว่า"คุณกำลังบอกว่ามีบ้านที่ฉันสามารถซื้อและย้ายเข้าไปอยู่คืนนี้ได้ใช่ไหม?"“ครับท่าน แต่เพียงว่าบ้านหลังนี้มีราคาแพงไปสักหน่อย ดังที่คุณทราบ บ้านในเมืองหลวงสามารถเป็นเจ้าของได้เฉพาะผู้ที
บ้านหลังนี้ขายออกได้สักทีค่านายหน้าก็ต้องมา!แม้จะน่าเศร้าที่ได้เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เดียว แต่ก็ยังเป็นโชคลาภสำหรับเขาจางซินตบหน้าอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้คำมั่น และมอบกุญแจบ้านให้“แล้วทำไมมัวยังยืนอยู่ตรงนี้ล่ะ” ฉู่เฉินรับกุญแจไป พร้อมยิ้มและพูดออกมา“ครับ ผมจะดำเนินการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเองครับ” จางซินเข้าใจทันที จึงหยิบการ์ดดำแล้วรีบออกไป“เอาล่ะ จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นบ้านของฉันในเมืองหลวง เชิญนั่งก่อน พี่เจ็ด บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น?” พวกเขาทั้งสามคนนั่งลง และฉู่เฉินก็ถามอย่างกระตือรือร้น“เสี่ยวเฉิน อาการบาดเจ็บของนายล่ะ?” หนิงชิงเสว่ไม่ได้อธิบาย เพียงแค่มองไปที่ฉู่เฉินที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดและถามด้วยความกังวล"ไม่เป็นไร หายดีแล้ว" ฉู่เฉินไม่ได้โกหก นับตั้งแต่ดูดซับพลังงานลึกลับนั้นในนิกายแพทย์ เขาก็ตระหนักว่าความเร็วในการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของเขาไปถึงระดับที่น่ากลัวแล้วหนิงชิงเสว่ ค่อยๆ เล่าเรื่องราวคนทั้งสองหลังจากได้แยกจากกันในครั้งก่อนเดิมทีชายชราจากลัทธิแม่มดกู่ไม่ได้โกหก อูเจียงใกล้จะตายแล้วจริงๆแตกต่างจากนิกายอื่น ๆ ก่อนตายที่จะอูเจียงไม่เพียงแต่สอนหนิงชิ
“เล่นไม่ซื่อยังไง?” หนิงชิงเสว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลฉินเมื่อได้ยินเช่นนี้ แก้มของฉินปิงเยว่ก็แดงระเรื่อ และเธอก็กระซิบข้างหูของหนิงชิงเสว่อย่างรวดเร็ว“ตระกูลฉินนั่นน่ารังเกียจจริงๆ” หนิงชิงเสว่อุทานออกมา หลังจากได้ยินเรื่องราวของฉินปิงเยว่ จากนั้นเธอก็หันกลับมาถามว่า "ยังไงก็ตาม เธอมีกายาทิพย์แบบไหนกันที่สามารถช่วยให้นักสู้เพิ่มโอกาสในก้าวผ่านจิตได้"ฉินปิงเยว่พูดตะกุกตะกัก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”หนิงชิงเสว่ไม่ได้กดดัน และเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พูดกับฉินปิงเยว่ “เสี่ยวเฉินจะเข้าสู่ดินแดนเร้นลับในวันพรุ่งนี้ เอางี้…”“ยังไงนะ?” ฉินปิงเยว่ถามโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็เสียใจทันทีแน่นอนว่าสิ่งที่ หนิงชิงเสว่พูดต่อ ทำให้ฉินปิงเยว่รู้สึกเขินอายอย่างยิ่ง“ก็ใช้โอกาสนี้ในบ้านหลังใหม่ เพื่อดองกับเสี่ยวเฉิน?”ทันทีที่พูดเช่นนี้ ฉู่เฉินก็รู้สึกอายและไอซ้ำแล้วซ้ำเล่า “แค่กๆ พี่เจ็ด กำลังพูดไร้สาระเรื่องอะไร?”“โอ้ นายไม่เต็มใจเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเหมือนน้องสาวของฉัน ฉันคงไม่ยกเธอให้นายหรอก ไม่ต้องห่วง คนอื่นๆ ฉันอาจไม่รู้ แต่ฉันรู้จักปิงเยว่ดี เธอบอกฉันมากกว่าหนึ่งคร
“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะยกเขาให้เธอนะ” หนิงชิงเสว่หัวเราะเบา ๆ"’งั้นเธอหมายความว่า?" จู่ๆ ฉินปิงเยว่ก็ถามอย่างสงสัย“เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ชอบฉู่เฉินเหรอ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ฉันยังมีพี่สาวอีกหกคน พวกเราได้สัญญากันไว้ตั้งแต่ยังเด็กว่า พวกเราทุกคนจะแต่งงานกับเสี่ยวเฉิน”ทันทีที่คำพูดจบ ฉินปิงเยว่ก็ตาโตทันที“คนเจ็ดมีสามีคนเดียวกัน นี่... เป็นไปได้ยังไง…” ฉินปิงเยว่ตกตะลึงมากจนพูดไม่ออก“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ปิงเยว่ แม้ว่าเธอจะเป็นคนธรรมดา แต่เธอได้เห็นความสง่างามของพวกนักสู้ เธอควรเข้าใจว่าคนอย่างเสี่ยวเฉินไม่สามารถใช้กฏสามีเดียว-ภรรยาในทางโลกได้”คำพูดของหนิงชิงเสว่ทำลายมุมมองของฉินปิงเยว่ทันทีใช่แล้ว ปรมาจารย์ฉู่เป็นคนเช่นนี้ ดังนั้นจะมองในมุมมองของเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?เมื่อเข้าใจสิ่งนี้ ฉินปิงเยว่ก็ตระหนักว่าหนิงชิงเสว่หมายถึงอะไร และถามด้วยน้ำเสียงลังเล: "เธอหมายถึง เธออยากให้ฉันเป็นภรรยารองเหรอ?"จิตใจของฉินปิงเยว่เต็มไปด้วยภาพจากละครโบราณในโทรทัศน์“ฮ่าๆ ปิงเยว่ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น ฉันแค่หมายความว่าหากพวกเราทุกคนจะแต่งงานกับคุณฉู่ ก็ยังคงเป็นพี่น้องกันอยู่
ฉู่เฉินคิดเป็นพันครั้ง คาดไม่ถึงว่าฉินปิงเยว่จะพูดคำเช่นนี้ต่อหน้าเขาเช่นเดียวกับที่ฉู่เฉินยังต้องเรียบเรียงคำพูด และเตรียมคิดหาวิธีตอบฉินปิงเยว่ฉินปิงเยว่ไม่เพียงแต่เดินเข้าไปหาฉู่เฉินเท่านั้น แต่ยังถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นอีกด้วย“คุณหนูฉิน อย่าทำแบบนี้เลย” ฉู่เฉินรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา แล้วอามาคลุมให้ฉินปิงเยว่“คุณฉู่ คุณจะปฏิเสธฉันเหรอ?” ใบหน้าของฉินปิงเยว่เปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะที่เธอมองฉู่เฉินอย่างเขินอาย"ไม่ ผม..."“ในเมื่อคุณฉู่ไม่ได้รังเกียจฉัน ตราบใดที่ร่างกายของฉันสามารถช่วยคุณฉู่ได้ ฉัน... ฉันก็เต็มใจ”ฉินปิงเยว่ก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปากแน่น กลัวที่จะจ้องเข้าไปในดวงตาของฉู่เฉิน“ยิ่งกว่านั้น ปรมาจารย์ฉู่ ฉันหลงรักคุณตั้งแต่คุณมาที่ตระกูลฉิน หลังจากรู้ว่าคุณหมั้นกับชิงเสว่ ฉันก็เสียใจมาตลอด”“ต่อมาฉันได้ยินมาว่าคุณหย่าง ฉันเลยรู้ว่าฉันมีโอกาส เมื่อกี้ชิงเสว่ก็บอกฉันว่าเธอไม่รังเกียจถ้าจะมีฉันเพิ่มมาอีกสักคนด้วย ดังนั้นฉู่เฉิน ฉันชอบคุณ ฉันชอบคุณมานานมากแล้ว คุณชอบฉันไหม?”ฉินปิงเยว่คว้ามือของฉู่เฉินซึ่งกำลังเอาเสื้อผ้าไว้มาคลุมร่างของเธอ และระบายความรู้สึกของเธอ
เมื่อฉู่เฉินและชิงหลงมาถึงทางเข้าดินแดนเร้นลับแล้ว ก็พบว่ามีคนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่สมาชิกจากตระกูลใหญ่ๆ ของเมืองหลวงที่ตั้งใจจะเข้าสู่ดินเเดนเร้นลับก็มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ทั้งหมด ฉู่เฉินจำใบหน้าได้สองสามหน้าในหมู่ฝูงชน รวมถึงฉินหยวนไถจากตระกูลฉินและเหยียนอู๋ซวงจากตระกูลเหยียน นอกจากนี้ยังมีนักสู้อิสระจำนวนมาก แต่ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ ล้วนแต่เป็นระดับมหากาฬ ซึงไม่มีใครที่อยู่ในระดับปรมาจารย์เลย ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ในวัยสามสิบกันทั้งนั้นเมื่อเห็นการมาถึงของชิงหลงและฉู่เฉิน ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในขณะนี้ ฉู่เฉินได้สวมหน้ากากที่เหยียนอู๋ซวงมอบให้ เพื่อซ่อนตัวจากจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้ และเขายังเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เรียบง่ายและไม่เป็นจุดสนใจอีกด้วยแน่นอนว่าไม่มีใครจำเขาได้ ยกเว้นเหยียนอู๋ซวง ซึ่งดูเหมือนจะรู้ถึงตัวตนของฉู่เฉิน และพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยฉู่เฉินตอบกลับอย่างลับๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง แสงก็ส่องขึ้นมาจากขอบฟ้าทันใดนี้น ร่างทั้งสี่ร่างก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า คนลึกลับสี่คนลอยอยู่ในอากาศ เปล่งรัศมีที่อธิบายไม่ได้ออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาม
สามัคคีกันไว้ ฉู่เฉินอยากจะหัวเราะเมื่อได้ยินเข้า ถ้าสามัคคีกันได้ ก็คงทำกันไปนานแล้วถ้าไม่ได้ต่อสู้กันจนตัวตายอยู่ข้างใน ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อได้สัญญาณให้เข้าไป คนส่วนใหญ่ลังเลและมองซ้ายมองขวาไม่ได้สนใจคนที่อยู่รอบข้าง ฉู่เฉินก้าวเท้าออกมาเป็นคนแรกเข้าสู่หลุมดำ โดยเชื่อว่าดินแดนเร้นลับที่ถูกเปิดโดยบุคคลที่แข็งแกร่งทั้งสี่ ไม่ใช่อะไรที่เป็นการหลอกลวงแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกังวลขณะที่ท้องฟ้าหมุนไปรอบๆ เมื่อฉู่เฉินลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็อยู่ในโลกใบเล็กอีกใบหนึ่งแล้วสถานที่อันเงียบสงบ คลื่นทรายลอยซัดขึ้นมา และเป็นเวลาพลบค่ำพอดี ฉู่เฉินมองไปรอบๆ และข้างหลังเขานั้น จู่ๆ ชิงหลงก็ปรากฏตัวขึ้น ดูเหมือนว่าชิงหลงจะตามเขาเข้าไปในหลุมดำ จึงพยักหน้าไปทางชิงหลงเและทั้งสองก็มองไปรอบๆ ด้วยกันโลกนี้ที่นี่มีขนาดใหญ่จนน่าประหลาดใจ แตกต่างอย่างมากจากดินแดนเร้นลับที่ฉู่เฉินเคยได้สัมผัสมาก่อนแม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยฝุ่นและความแห้งแล้ง แต่พลังจิตวิญญาณก็หนาแน่นมากกว่าในดินแดนเร้นลับทั่วไปมาก หากผู้ใดมาบำเพ็ญเพียรที่นี่เป็นระยะยาว จะพัฒนาเร็วกว่าในดินแดนลี้ลับของนิกายแพทย์ซวนเทียนเสียอีก พลังจ
"ฮะ?"ฉู่เฉินสัมผัสอย่างระมัดระวังมีหนึ่งตนที่ดูเกือบเหมือนจะเป็นมนุษย์ ยกเว้นหูที่แหลมยาว หน้าตาหล่อเป็นพิเศษและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา รายล้อมไปด้วยกลุ่มคน ตาคนอื่นๆ ดูเหมือนคนดึกดำบรรพ์ ซึ่งลากสัตว์ป่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหลายตัวด้วยเกวียนไปข้างหลังฉู่เฉินซ่อนกลิ่นอาย ทำตัวเหมือนคนธรรมดา ขณะที่หยุดอยู่ริมถนนไม่นานนัก กลุ่มนี้ก็เข้ามาใกล้ฉู่เฉิน และเมื่อเห็นเขา พวกเขาก็กระซิบกันเอง คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำ ก็เดินเข้ามาและพูดด้วยภาษามนุษย์“น้องชาย ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? ในเวลากลางคืน จะมีอสูรออกเดินเตร่ ดูจากระดับวรยุทธของเจ้าแล้ว เจ้าดูไม่เหมือนปรมาจารย์เลยนะ ข้าขอแนะนำให้เจ้ากลับไปที่เผ่าของเจ้าตั้งแต่เนิ่นๆ เถอะ” เขาแนะนำอย่างใจดีที่แท้ก็เป็นพวกชนเผ่า!เป็นไปได้ไหมว่าโลกนี้ยังอยู่ในยุคหินใหม่?ฉู่เฉินคิดแผนการในใจก่อน จากนั้นพูดว่า: "พูดตามตรง ข้าออกไปล่าสัตว์กับพวกพี่ชาย และถูกลมพัดมาที่นี่อย่างอธิบายไม่ได้ สงสัยว่าข้าจะหลงทางเสียแล้ว" ฉู่เฉินมองไปที่ขบวนซึ่งส่วนใหญ่มีอุปกรณ์ของนักล่า“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง เจ้ามาจากไหนล่ะน้องชาย เจ้าเป็นคนเผ่าไหนกัน?” ชาย