แชร์

บทที่ 707

ผู้เขียน: สาวน้อยจับปลา
ทันทีที่ชายร่างกำยำ อาเชียงได้ประกาศออกไป ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์เริ่มกระซิบกระซาบกัน

“อาเชียงเริ่มรังแกคนอีกแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นเจ้าของสถิติการยกน้ำหนักที่ยิมนี้”

“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าอาเชียงได้รับเชิญเป็นพิเศษให้เข้าร่วมทีมจากทีมยกน้ำหนัก”

“เจ้าเด็กคนนี้มีแต่กระดูก จะต้องไม่กล้ารับคำท้าแน่อน”

อาเชียงฟังเสียงซุบซิบรอบตัวเขาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

ไอ้หนังหุ้มกระดูกที่อยู่ตรงหน้าเขา คงจะถอนตัวจากคำท้ายและจ่ายค่าเสียหายให้อย่างแน่นอน

การยกน้ำหนัก?

ฉู่เฉินยิ้มและมองชายร่างกำยำตรงหน้า ด้วยท่าทางราวกับว่ากำลังมองคนโง่

“ไอ้หนู แกกล้าแข่งขันกับฉันไหม? จากคำพูดตรงๆ ของลูกผู้ชาย หากแกไม่กล้า ฉันจะไม่เรียกร้องอะไรมาก แค่จ่ายให้ฉัน 50,000 บาท” ชายร่างกำยำพูด

“จะแข่งกันก็ได้ แต่มาเปลี่ยนวิธีการเดิมพันกันเถอะ หากนายชนะ ฉันจะให้นาย 50,000 บาท ถ้านายแพ้ฉันจะไม่เอาเงินของนาย นายแค่ต้องขอโทษฉันต่อสาธารณชนก็พอ” ฉู่เฉินยิ้มอ่อน

ฉู่เฉินตอบตกลงทันที ชายร่างกำยำไม่เพียงรู้สึกประหลาดใจ แต่ทุกคนในที่นี้ก็ประหลาดใจมากเช่นกัน

บางคนถึงกับเอ้ยปากเตือนด้วยซ้ำ

“น้องชาย นายไม่เห็นกล้ามเนื้อของเขาเหรอ? พวกม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 708

    มีคนตบหน้าตัวเองด้วยฝามือชายร่างกำยำไม่เชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า และตบหน้าตัวเองให้ตื่นความเจ็บปวดบนใบหน้าบ่งบอกชัดเจนว่า ไม่ได้กำลังฝันไปขณะที่ฉู่เฉินวางบาร์เบลลงแล้วเดินไป ชายร่างกำยำก็ถอยหลังกลับไป“นายต้องขอโทษเดี๋ยวนี้!” ฉู่เฉินพูดเบา ๆ“ขะ... ขอโทษ ฉันเข้าใจนายผิดไป” ชายร่างกำยำรู้ดีว่า ถ้าไม่ขอโทษ คนที่แข็งแกร่งคนนั้น แค่ปล่อยหมัดออกมาส่งๆ เขาอาจจะตายหรือได้รับบาดเจ็บสาหัดก็ได้ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดที่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับคนคนนี้ แต่ตอนนี้รู้ว่าความคิดนั้นโง่เขลาเพียงใดฉู่เฉินเห็นว่าชายร่างกำยำได้ขอโทษแล้ว ก็เลยไม่ได้บีบคั้นไปกว่านี้ ยังไงซะที่นี่ยังคงเป็นร้านเฉินเฟยอวิ๋น ฉู่เฉินเดินจากทุกคนไปและเดินออกไปจากที่นี่เมื่อเดินไปตามถนน บางครั้งมีคนมองมาที่เขา และฉู่เฉินก็ตระหนักว่านี่ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว และเขาก็สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นมาตลอด ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าบนร่างกายของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสื้อผ้าที่เก็บไว้ในจี้มังกรหยกด้วยคงถึงเวลาไปห้างสรรพสินค้าเพื่อช็อปปิ้งแล้วสินะโบกแท็กซี่มาหนึ่งคัน หลังจากนั้นไม่นาน แท็กซี่ก็พาฉู่เฉินไปยังห้างสรรพสินค้า

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 709

    ทันทีที่พนักงานขายได้ยิน ดวงตาก็เป็นประกายวิบวับขึ้น ตราบใดที่เธอดูแลคนนี้อย่างดี ค่าคอมมิชชันจากการขายเธอในวันนี้ก็จะมากมายมหาศาลดังนั้นจึงเริ่มเคลียร์ร้านทันทีการเคลียร์ร้านหมายความว่านอกจากพวกเขาทั้งคู่แล้ว ก็มีคือฉู่เฉินอีกคนพนักงานขายที่ดูแลคุณหนูฉีเดินตรงไปหาฉู่เฉิน “คุณคะ ร้านถูกจองแล้ว กรุณาออกไปก่อนค่ะ”ก่อนที่ฉู่เฉินจะพูดได้เสี่ยวเหวินซึ่งอยู่ข้างๆ เขาเอ่ยขึ้น “พี่ซ่ง สุภาพบุรุษท่านนี้ได้เลือกชุดนี้แล้ว ให้เขาขอลองก่อนออกไปได้ไหม?” เสี่ยวเหวินอ้อนวอนพี่ซ่งเหลือบมองชุดในมือของเสี่ยวเหวิน แล้วมองฉู่เฉินหัวจรดเท้า จากนั้นก็พูดอย่างเหยียดหยาม: “ไม่ต้องลองใส่หรอก ชุดนี้ราคาหกหมื่นบาท ยาจกคนนี้ไม่มีเงินจ่ายหรอก เสี่ยวเหวิน ฉันช่วยเธอไว้และให้เธอฝึกงานที่นี่ด้วย ดังนั้นรีบพาเขาออกไปเลย หรือถ้าคุณหนูฉีโกรธ ฉันคงปกป้องเธอไม่ได้”เมื่อได้ยินชื่อของคุณหนูฉี เสี่ยวเหวินก็เริ่มสับสนแต่ยังคงรวบรวมความกล้าที่จะขอร้อง “พี่ซ่ง ก็แค่ลองชุดเดียว ใช้เวลาไม่นานหรอก”หากขายชุดนี้ไป เธอก็สามารถได้รับค่าคอมมิชชันเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่เธอได้แจ้งราคาให้ลูกค้าทราบแล้ว และเขาย

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 710

    แม้แต่พนักงานขายทั้งสองคนก็ยังอิจฉาอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้แค่พาไปงานวันเกิดด้วย ก็ได้สามารถรับของได้ขนาดนั้น ใครบ้างล่ะที่จะไม่อิจฉา?เรื่องสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา"ไปให้พ้น"ทันทีที่คำพูดพูดออกไป ฉีอันน่าก็ช็อคทันทีพนักงานขายสองคนก็ตกใจเช่นกันผลประโยชน์มหาศาลอยู่ตรงหน้า แต่เขากลับเลือกที่จะปัดมันทิ้งผู้ชายที่อยู่ข้างๆ คุณหนูฉีตะโกนด้วยเสียงที่แหบเหมือนเป็ด: "เจ้าหนู แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกกำลังคุยกับใครอยู่ ท่านนี้คือลูกสาวที่สามของตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง และมีฐานะไม่เหมือนคนธรรมดา ซึ่งด้วยฐานนะนี้คนธรรมดายังไม่กล้าสบตาด้วยเลย กล้าดียังไงมาดูหมิ่นเธอขนาดนี้ แกยังอยากมีชีวิตรอดอยู่ในเมืองหลวงอยู่หรือเปล่า?”ชายคนนั้นดูโกรธมากกว่าฉีอันน่า“นี่มันไร้สาระ หากนายต้องการลดตัวลงมา นั่นก็เป็นเรื่องของนาย อย่าคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนนาย” ฉู่เฉินพูด โดยไม่ให้โอกาสทั้งสองคนโต้ตอบ แค่เดินผ่านพวกเขาและไปหาพนักงานขายเสี่ยวเหวิน“เอาแค่เสื้อผ้าแบบนี้ ใส่ถุงมาสิบชุด”"ฮะ!"เสี่ยวเหวินรู้สึกสับสน“มีไม่พอเหรอ?” ฉู่เฉินถามด้วยความงุนงง“มีค่ะ… ฉันจะเตรียมให้คุณ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 711

    เมื่อกลับมาที่โรงฝึก เฉินเฟยอวิ๋นก็กลับมาแล้ว ตอนที่เห็นฉู่เฉินก็รีบเชิญเขาขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็วด้วยความเคารพบนชั้นสอง ลูกศิษย์สองคนของเฉินเฟยอวิ๋นก็ได้สติกลับมาแล้ว แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะยังคงฟกช้ำอยู่ แต่กำลังภายในของพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแสดงการพัฒนาขึ้น ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อฉู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเห็นเขา ไม่เพียงแต่เรียกเขาด้วยความเคารพว่า ปรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังเสิร์ฟชาให้เขาอย่างไม่เขินอาย“พูดมา นายเป็นอย่างไรบ้าง” ฉู่เฉินไล่ศิษย์ทั้งสองคนออกไป แล้วถามเฉินเฟยอวิ๋นเฉินเฟยอวิ๋นดูละอายใจและลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดตามความจริง“ปรมาจารย์ฉู่ วันนี้ฉันได้ไปที่ตระกูลเหยียน แต่ก่อนที่ฉันจะเข้าไปได้ ตระกูลเหยียนก็ขังฉันไว้ข้างนอก หลังจากนั้นก็ถูกตระกูลเหยียนขับไล่ออกมา”เมื่อมาถึงจุดนี้ เมื่อเห็นใบหน้าของฉู่เฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชา เฉินเฟยอวิ๋นก็รีบพูดเพิ่มเติมเข้ามาว่า“แม้ว่าวันนี้ฉันจะเข้าประตูตระกูลเหยียนไม่ได้ แต่ฉันก็ได้รับคำเชิญไปงานเลี้ยงของตระกูลฉีในวันพรุ่งนี้”เฉินเฟยอวิ๋นมีท่าทางภาคภูมิใจ หยิบการ์ดเชิญที่มีลายนูนสีทองออกมา"ฉั

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 712

    การมาถึงของฉู่เฉินไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนในงาน เขาหยิบแก้วไวน์ถาดของพนักงานเสิร์ฟ แล้วเดินไปที่มุมหนึ่งเพื่อรอการมาถึงของพระเอกในงานเลี้ยงอย่างเงียบ ๆขณะที่ฉู่เฉินต้องการเก็บตัวเงียบๆ แต่คนอื่นไม่คิดเช่นนั้น“ไม่คาดคิดว่าแกจะแอบเข้ามาด้วย เมื่อวานแกดูถูกเหยียดหยามไว้มากไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมวันนี้แกถึงเสนอหน้ามาอยู่ที่นี่อย่างหน้าด้านๆ ได้ล่ะ?”กลุ่มชายสามคน คนหนึ่งสังเกตเห็นฉู่เฉินและพูดจาถากถางเขาเสียงดังฉู่เฉินหันกลับไปและเห็นว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่เจอในห้างสรรพสินค้าเมื่อวานนี้ฉู่เฉินไม่อยากสนใจ และเตรียมที่จะเดินจากไป“พี่หมิง เขาคือใครกัน ถึงจู่ๆ ต้องไปสนใจเขาด้วย?”“ใช่แล้ว พี่หมิง ตอนนี้พี่รับการไว้วางใจคุณหนูฉีและอนาคตของพี่ก็โรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว หากพี่ได้ดิบได้ดีแล้ว อย่าลืมพวกน้องๆ นะ”เมื่อเห็นเช่นนี้ พรรคพวกสองคนก็ก้าวไปข้างหน้า เพื่อขวางทางฉู่เฉินทันที“ไอ้หนู พี่หมิงกำลังคุยกับแกอยู่ รีบตอบเร็วเข้า”ฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุด คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม : "นายไม่ได้บอกพวกลูกกระจ๊อกของนายเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้? ฉันอยู่ที่นี่นายก็ยังไม่

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 713

    "ไปให้พ้น!"ฉู่เฉินหลบและพูดสองคำนี้อย่างไม่แยแสท่าทางนี้ได้ทำให้รอยยิ้มออกจากใบหน้าของฉีอันน่าทันที ซึ่งจากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ "นายไม่มาหาฉันเหรอ?"“เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันถึงมาที่นี่เพราะเธอ หยุดเพ้อเจ้อสักที”เมื่อเห็นว่าฉีอันน่ายังคงพยายามเกาะแกะ ฉู่เฉินจึงเตรียมที่จะเดินผ่านเธอไป“รู้ไหมว่านี่คือที่ไหน เมื่อวานอยู่ที่ห้าง วันนี้ฉันอยู่บ้าน กล้าดียังไงมาทำให้ฉันขายหน้าแบบนี้? นายกำลังมองหาที่ตายเหรอ?” หญิงสาวถามด้วยสีหน้าเหลือเชื่อเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เฉินเสียงของฉีอันน่าดึงดูดความสนใจของแขกหลายๆ ในงานทันทีชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ฉีอันน่าก่อนหน้านี้ก็รีบเข้ามา“เด็กน้อย การได้รับความสนใจจากน้องสามถือเป็นโชคครั้งใหญ่สำหรับแกแล้ว ฉันแนะนำให้แกอย่าเล่นตัวและทำตามที่น้องสามต้องการซะ”ใบหน้าของชายคนนั้นมีสีหน้าสบายๆ โดยทราบดีถึงความชอบของน้องสามจากคำพูดของชายคนนั้น ฉู่เฉินก็ยืนยันว่านี่คือพระเอกของงานเลี้ยง ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉี ฉีอันปังมองไปที่ชายในวัยสามสิบต้นๆ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับความแกร่งกล้าของตระกูลฉี โดยที่คนรุ่นเยาว

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 714

    เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมสามครั้งดังก้อง และเมื่อทุกคนคิดว่าจัดการฉู่เฉินเสร็จแล้วฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา: “ในเมื่อนายมีเรื่องที่ต้องจัดการตอนนี้ ฉันก็จะกลับมาทีหลัง”หลังจากจบแล้ว เขาก็หันหลังกลับพร้อมที่จะออกไป"ฮะ?"ตอนนั้นเองที่ทุกคนสังเกตเห็นว่าไม่ใช่ฉู่เฉินที่ล้มลงกับพื้น แต่เป็นคนของตระกูลฉีทั้งสามคนพวกเขาทั้งหมดหันศีรษะไปมอง“ไอ้หนู แกเป็นใครกันแน่?” ในที่สุดฉีอันปังก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติและกระโดดไปข้างหน้า ขวางทางของฉู่เฉินเอาไว้“แกทำให้คนของตระกูลฉีบาดเจ็บและยังมีหน้าจะออกไปอีก? คิดว่ากำลังเล่นตลกอยู่สินะ”พูดจบ ฉีอันปังก็ตะปบไปที่เอวของฉู่เฉินด้วยกรงเล็บ“นายน้อยฉีลงมือด้วยตัวเอง เด็กคนนี้จบสิ้นแล้ว”“ใช่แล้ว ในเมืองหลวง ใครจะไม่รู้ว่ากรงเล็บมังกรของนายน้อยฉีนั้นไร้เทียมขนาดไหน แม้ว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเอาชนะนักสู้สามคนระดับทะลวงเส้นลมปราณได้ แต่เขาอาจไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่กระบวนท่าของคนระดับปรมาจารย์ได้”ในขณะที่ทุกคนสงสัยว่าฉู่เฉินสามารถเอาชนะนักสู้ระดับทะลวงเส้นลมปราณสามคนได้อย่างไร เมื่อเห็นนายน้อยฉีลงมือ พวกเขาก็มองที่ฉู่เฉินราวกับว่ามองคนตายร่

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 715

    ฉู่เฉินที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน และมีสีหน้าเย็นชาในตอนแรก ฉู่เฉินคิดว่าการมาที่นี่เพื่อถามคำถามนั้นค่อนข้างจะกะทันหัน แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาใจดีเกินไปในขณะนี้ ฉีอันปังก็โจมตีอีกครั้งแววตาของฉู่เฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชา แทนที่จะหลบ เขากำหมัดแน่น เมื่อกรงเล็บของฉีอันปังเข้ามาถึงใบหน้า ฉู่เฉินก็สวนหมัดออกไป กระแทกไปที่ฝ่ามือของฉีอันปังโดยตรงสำหรับคนดู เหมือนว่าฉีอันปังจับกำปั้นของฉู่เฉินด้วยกรงเล็บ“เด็กคนนี้เสร็จแล้ว การถูกจับด้วยมือกรงเล็บมังกรของนายน้อยฉี มือของเขาต้องถูกทำร้ายไปแล้วแน่”“ใช่แล้ว แต่เด็กคนนี้ควรจะรู้สึกภูมิใจที่นายน้อยฉี ใช้ถึงสามกระบวนท่าเพื่อจัดการเขา”“แต่เขาต้องเอาชีวิตรอดก่อนถึงจะอวดเรื่องนี้ได้ เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของนายน้อยฉีแล้ว การเอาชีวิตรอดไม่น่าจะเป็นไปได้”นายน้อยหลายคนทั่วทั้งบริเวณกำลังพูดคุยกันเรื่องนี้กันมีเพียงไม่กี่คนในระดับมหากาฬที่สามารถเห็นบางสิ่งผิดปกติ และกำลังจะบินขึ้นไป เพื่อพิสูจน์ความจริงมีลมกระโชกแรงพัดมาแขนของฉีอันปังสลายไปกับสายลมภาพนี้ทำให้ทุกคนตะลึง“อ๊ะ! กล้าดียังไงมาหักแขนฉัน แกตาย แกต้องตาย

บทล่าสุด

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1155

    “ไสหัวไปซะ!” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและตะโกน สายตาของเขาเย็นชา และเผยจิตสังหารออกมา“อะไร? แกกำลังไล่พวกเรางั้นเรอะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ดูประหลาดใจและสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิด“ไอ้ขี้เหร่ แกกล้าอวดดีขนาดนั้นเลยเหรอ แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก”ทันใดนั้น ทุกคนก็โกรธฉู่เฉินอย่างมากแม้ว่านี่จะเป็นเมืองหลวง แต่พวกเขาก็เป็นสมาชิกของตระกูลหวัง พวกเขาข่มเหงผู้ที่อ่อนแอและข่มเหงคนหนุ่มสาวเป็นประจำทุกวัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะหยิ่งผยองลำพองใจ พวกเขาคุ้นเคยกับแววตาหวาดกลัวและยอมจำนนของคนอื่น ๆ มาเป็นเวลานานคำพูดของฉู่เฉินทำให้พวกเขาโกรธมาก จนอยากจะถลกหนังเขาและหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ!“ฉันจะพูดอีกครั้ง ไปให้พ้น! ไม่เช่นนั้นจะฆ่าอย่างไม่ปราณี!“ สายตาเย็นชาของฉู่เฉินกวาดไปทั่ว เต็มไปด้วยจิตสังหาร“ฆ่าอย่างไม่ปราณี?”“ฮ่า ๆ แกทำให้ฉันขำเป็นบ้า แกคิดว่าแกตัวเองคู่ต่อสู้ของพวกเราได้จริงเหรอ?”ชายหนุ่มหลายคนในชุดสูทมองขึ้นมาและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของพวกเขาเยาะเย้ย ไม่สนใจเขาเลยฉู่เฉินส่ายหัวและถอนหายใจ คนพวกนี้มีสมองเอาไว้กั้นหูเท่านั้น เขาเพิ่งให้โอกาสพวกเขาไปเมื่อ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1154

    ……ภายในเมืองหลวงที่คึกคัก บนถนนที่กว้างและราบเรียบกลุ่มบุคคลที่โดดเด่นเดินไปมาในเมือง โดดเด่นเหมือนฝูงนกยูงรำแพนหาง และดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นมากมายอย่างไรก็ตาม เครื่องแต่งกายของพวกเขาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โดยที่เย่ชิงชานสวมชุดสีขาวล้วน ดูบอบบางและงดงามเฉียวหานอวี้สวมชุดยาวสีม่วงแดง แสดงออกถึงท่าทางที่กล้าหาญและมั่นใจหนิงชิงเสว่ที่ยังเยาว์วัยและสวยงามในชุดสีน้ำเงิน ฉู่เหมิงเหยาผู้บริสุทธิ์และสวยงาม อ่อนโยนและเงียบขรึมมีเพียงฉู่เฉินที่สูงใหญ่และสง่างามในชุดสีดำเท่านั้นที่โดดเด่นออกมา ใบหน้าที่คมคายและเฉียบคมของเขาส่งออร่าของความเฉยเมยที่ทำให้เขาดูไม่เข้ากับคนอื่น ๆ“หนุ่มหล่อคนนั้นเป็นใคร? ทำไมเขามากับผู้หญิงมากมายขนาดนั้น?” พฤติกรรมของทั้งกลุ่มดึงดูดความสนใจของบางคนได้อย่างชัดเจนคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราและเครื่องประดับสีสันสดใส บ่งบอกถึงภูมิหลังครอบครัวมีฐานะ“ผู้ชายคนนั้นดูอ่อนแอมาก แต่ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ เขาแจ่มเป็นบ้า” คนที่รู้จักฉู่เฉินกระซิบเตือน ไม่เต็มใจที่จะก่อเรื่องฉู่เฉินเดินไปข้างหน้าคนเดียว โดยไม่สนใจคนร

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1153

    “อืม พวกเราจะไม่ทอดทิ้งนายแน่นอน!”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของกลุ่มสาว ๆ ทำให้ฉู่เฉินหมดหนทาง แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา“เสี่ยวซือโถว เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเรามาเตรียมพร้อมกันเถอะ ฉันอยู่เฉย ๆ มาหลายวันแล้ว”เฉียวหานอวี้ถูกำปั้น และกระตือรือร้นที่จะพยายามทำอะไรสักอย่างพี่สาวคนอื่น ๆ ก็ตื่นเต้นเช่นกัน ราวกับว่าพวกเธอเห็นภาพของคนหลายคนที่เข้ามาในเมืองหลวงเป็นกลุ่มสถานการณ์นี้ทำให้ฉู่เฉินตกตะลึง“พี่ ๆ ได้โปรดรอก่อน เรื่องนี้ต้องดำเนินการทีละขั้นตอน และฉันกำลังจะทำสำเร็จในไม่ช้า ยังไม่สายเกินไปที่จะดำเนินการเมื่อฉันทำสำเร็จ และอีกอย่าง... ฉันไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดของคุณจริง ๆ” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและพูดความเกลียดชังของคน ๆ หนึ่งต้องได้รับการจัดการด้วยตัวเองในที่สุด และไม่ให้พี่ ๆ มาเกี่ยวข้องได้ เพราะพวกเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องนี้“จะเป็นอะไรถ้านายไม่ใช่น้องของฉัน? นายเติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกับพวกเราตั้งแต่ยังเด็ก และแม้ว่านายไม่ใช่น้องร่วมสายเลือดของฉัน แต่พวกเราก็ปฏิบัติกับนายเหมือนเป็นน้องชายของพวกเรา”เฉียวหานอวี้เอื้อมมือไปจับแขนเสื้อข

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1152

    “ประสบการณ์ของฉันก็เรียบง่ายมาก ในกองไฟของสถานรับเลี้ยงเด็ก ฉันได้รับการช่วยเหลือจากชายชราคนหนึ่ง หลังจากนั้น ฉันก็ติดตามชายชราไปฝึกวรยุทธ หลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกฝน ฉันก็ออกมาเพื่อล้างแค้นให้กับคุณปู่ผู้อำนวยการและทุก ๆ คน ฉันได้ติดตามเบาะแสทีละขั้นตอนไปจนถึงเมืองหลวง และนั่นคือทั้งหมด”ฉู่เฉินกางมือออกกว้าง แสดงให้เห็นว่าพูดจบแล้ว“แค่นั้นหรือ ไม่มีอะไรเลยเหรอ? เสี่ยวซือโถว นายปฏิบัติกับเราเหมือนคนนอกและปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเรา”เฉียวหานอวี้พูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ เหล่าพี่สาวได้ใช้สายตากดดัน โดยหวังจะเกลี้ยกล่อมให้ฉู่เฉินเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่คิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะพูดเพียงไม่กี่คำพวกเธอรู้สึกเหมือนว่าแผนของพวกเธอล้มเหลว“เสี่ยวซือโถว ถ้านายไม่พูด พวกเราก็รู้กันดี แล้วก็รู้ว่าตระกูลฉู่ เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงในอดีต เป็นตระกูลเดิมของนาย นายตั้งใจไม่บอกความจริงกับพวกเรา เพราะไม่อยากทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนใช่ไหม? ”หลินอีนัวจ้องมองฉู่เฉินและพูด“ถ้าไม่เคยรู้มาก่อน ก็คงจะดีกว่า เพราะถ้ารู้แล้ว แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และจะกลายเป็นภาระสำ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1151

    ในคฤหาสน์หนานหวาง มีเสียงหัวเราะดังครึกครื้น พี่สาวทั้งห้าคนมารวมตัวกันและสนุกสนานกัน ฉู่เฉินก็สนุกเช่นกัน ในขณะนี้ คนทั้งหกคนอยู่ในลานบ้าน ชิมอาหารที่ฉู่เหมิงเหยานำมา และพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาเริ่มจากพี่สาม เฉียวหานอวี้ เธอได้พบกับหมอเทวดาหลี่ซ่างได้อย่างไร ทำไมถึงได้รับเป็นลูกศิษย์ได้ ทักษะทางการแพทย์ของเธอพัฒนาขึ้นอย่างไรหลังจากนั้น เธอช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไรบ้าง เธอได้พบกับฉู่เฉินตอนไหน แล้วอะไรทำให้จดจำกันได้ และพูดถึงทุกอย่างอย่างละเอียด“ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเจ็ดความจำเสื่อม พี่สามคงจะไม่ได้เจอเรา”หลังจากฟัง หลินอีนัวก็ถอนหายใจ“ใช่แล้ว พูดได้แค่ว่าโชคชะตาเล่นตลกกับผู้คน โอเค ฉันพูดจบแล้ว ถึงตาเธอแล้วนะ น้องห้า”เฉียวหานอวี้ส่งต่อบทสนทนาไปยังหลินอีนัวหลินอีนัว ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตระกูลหลินพาตัวไป เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร พบกับฉู่เฉินตอนไหน ทำไมถึงมาแสดงหนังร่วมกันอีก และสุดท้ายทำอีท่าไหนถึงเข้าร่วมนิกายเมียวหยินได้หลังจากที่หลินอีนัว พูดจบ พี่สาวหลายคนก็ถอนหายใจว่าประสบการณ์ของหลินอีนัวนั้นค่อนข้างทรหด จากนั้นพวกเธอก็

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1150

    “เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เย่ชิงชาน หลินอีนัว และเฉียวหานอวี้ขึ้นรถคันที่สองไปแล้วด้วยความมึนงงชั่วขณะเมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงชิงเสว่จึงรีบเข้าไปดึงฉู่เฉินอย่างสบาย ๆ“เสี่ยวซือโถว มานั่งด้วยกันเถอะ”“อืม”ฉู่เฉินตอบกลับ แล้วขึ้นรถที่อยู่ข้างหน้าเขา“ไปกันได้แล้ว” เมื่อมองไปที่เยว่ฟู่หลงที่ยังคงจ้องมองเขาอย่างซื่อบื้อ ฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูด“โอเค อาจารย์”เยว่ฟู่หลงเหยียบคันเร่งและรถออฟโรดสีดำ ก็พุ่งออกไปเหมือนสัตว์ร้ายที่คำรามภายในสนามบินเมืองหลวงฉู่เหมิงเหยาลงจากเครื่องบิน หยิบสัมภาระของเธอ และเห็นฉู่เฉินรออยู่ที่นั่น ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินคือผู้หญิงที่สวยงามสี่คน“พี่หก ทางนี้”ก่อนที่ฉู่เฉินจะพูด หนิงชิงเสว่ก็ตะโกนออกไปอันที่จริง แม้ว่าหนิงชิงเสว่จะไม่ตะโกน แต่ฉู่เหมิงเหยาก็คงจะเห็นแล้วเธอก้าวเท้าและเดินไปข้างหน้าเมื่อรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับพี่สาวคนอื่น ๆ ฉู่เฉินกังวลว่าอาจจะเกิดความอึดอัด ฉู่เฉินจึงรีบแนะนำทุกคนทันที“พี่หก นี่คือพี่สาม เฉียวหานอวี้ ศิษย์โดยตรงของหมอเทวดา หลี่ซ่าง นี่คือพี่สี่ หลินอี้นัว ศิษย์สายตรงของหัวหน้านิกายเมียวห

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1149

    “แกเป็นใคร?” จ้าวฟางเซียงถามโดยไม่รู้ตัว“ฉันชื่อฉู่เฉิน”เดิมทีฉู่เฉินคิดว่าในฐานะสมาชิกตระกูลจ้าวในเมืองหลวง จ้าวฟางเซียงต้องเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง และเมื่อรู้ว่าเป็นเขา อีกฝ่ายก็จะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้บ้างโดยไม่คาดคิด หลังจากพูดชื่อของเขา จ้าวฟางเซียงก็หัวเราะออกมา“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ก็แค่ไอ้หน้าอ่อน แกยังกล้าประกาศชื่อของแกต่อหน้าฉัน มั่นหน้ามั่นโหนกจริง ๆ แต่น่าเสียดาย เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน จ้าวฟางเซียง แกไม่ได้มีโอกาสที่จะหยิ่งยโส แก….”จ้าวฟางเซียงยังคงพูดไม่หยุดเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังจ้าวฟางเซียงในตอนแรก มีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อของฉู่เฉินจริง ๆ แล้วเขาคือฉู่เฉิน ฉู่เฉินผู้ทำลายล้างตระกูลฉินเพียงลำพัง!ในบรรดาตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ฉู่เฉินกลายเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับตระกูลฉู่ชายชราเดินไปหาจ้าวฟางเซียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ขัดจังหวะการพูดของเขา และกระซิบที่หูของเขา“นายน้อย เขาคือฉู่ซวนหวู่ ฉู่ซวนหวู่ที่ฆ่าล้างบางตระกูลฉิน!”เมื่อได้ยินแล้วจ้าวฟางเซียงก็รู้ว่าฉู่เฉินเป็นใครไม่น่าแปลกใจ ที่จะฟังดู

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1148

    เมื่อได้ยินเยว่ฟู่หลงกับเว่ยอิงลั่ว เรียกตัวเองเช่นนี้สำหรับหนิงชิงเสว่นั้นไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็เคยได้ยินคำพูดที่สนิทสนมกว่านี้มาก่อนคนที่เหลืออีกสามคน ไม่ว่าจะเป็นเย่ชิงชาน หลินอีนัว หรือเฉียวหานอวี้ต่างก็หน้าแดงแจ๋ฉู่เฉินพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“พี่สาว อย่าไปสนใจพวกเขา พวกเขาเคยพูดจาไร้สาระ ไปคุยกันต่อบนรถดีกว่า”“อืม”ทั้งสามคนไม่คัดค้าน แต่ทุกคนรีบวิ่งไปที่รถที่อยู่ข้างหลังพวกเขา“หยุด!”เสียงเย็นชาดังขึ้น ทำให้ฉู่เฉินหยุดชะงัก ร่างหนึ่งก้าวมาข้างหน้าเฉียวหานหยู่ ขวางทางของเธอฉู่เฉินเดินเข้าไปและมองไปที่ชายคนนั้น“พี่สาม คุณรู้จักเขาไหม?”“ไม่รู้จักเลย” เฉียวหานอวี้ตอบพร้อมเอียงหัวอย่างไม่ใส่ใจ“งั้นก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ขึ้นรถกันเถอะ”ฉู่เฉินจับมือเธอเบา ๆ ช่วยประคองเธอขึ้นรถ ขณะที่เขาเปิดประตูค้างไว้การเห็นตัวเองถูกเมินอย่างซึ่ง ๆ หน้า ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับจ้าวฟางเซียง เขาไม่เพียงแต่เคยคิดจะใช้เงินห้าสิบล้านหยวนเพื่อเอาชนะใจเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับถูกเมินอย่างสิ้นเชิง และที่แย่ไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าและหล่อกว่าคนนี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอี

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1147

    “คุณหนูเฉียว คุณจะไปไหน ฉันจะพาคุณไปส่งเอง”จ้าวฟางเซียงไม่รู้ว่า มั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหน จึงเอื้อมมือไปหามือหยกอันบอบบางของเฉียวหานอวี้ เพื่อจับมือเธอเฉียวหานอวี้เบี่ยงตัวและหลบไป“นายจะทำอะไร?”“เฮ้ ๆ ทำอะไรอยู่ เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะไปส่งคุณกลับบ้าน ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น แต่รวมถึงพวกคุณทุกคนด้วย”เมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้สามารถหลบมือของตัวเอง ได้อย่างง่ายดายจ้าวฟางเซียงไม่ได้สนใจ และยื่นมือเของเขาออกไปอีกครั้ง“นายบ้าไปแล้วหรือไง ตอนกลางวันแสก ๆ ฉันสามารถแจ้งความอนาจารนายได้!”เฉียวหานอวี้หลบอีกครั้งและพูดจาเย็นชา“บอกฉันสิ? ดูเหมือนว่าคุณยังไม่เข้าใจน้ำหนักของคำว่าตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวง ใครในเมืองนี้ที่กล้าเข้ามายุ่งกับฉัน จ้าวฟางเซียง!”จ้าวฟางเซียงพูดจาเย่อหยิ่งเมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้หลบได้อีกครั้ง จ้าวฟางเซียงก็รู้ว่า แม้เขาจะโง่แต่ผู้หญิงคนนี้คือวรยุทธ ถึงจะไม่สามารถรับรู้ระดับวรยุทธของผู้หญิงคนนี้ได้ แต่ระดับวรยุทธของเธอก็อาจจะเท่ากับเขา คาดว่าผู้หญิงคนนี้ได้ฝึกฝนวิชามาเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงหลบเลี่ยงเขาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากเข้าใจแล้ว จ้าวฟางเซียงก็พูดอย่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status