ฉู่เฉินหันหน้าไปและเห็นร่างที่คุ้นเคยหลายคนเดินมาหาเขาพวกเขาคือหวังซวี่ ถังรั่วเวยและคนอื่นๆถังรั่วเวยมองเขาด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า "คุณมาที่นี่ได้ยังไง?"“รั่วเวย มันยังจำเป็นที่จะต้องถามอีกเหรอครับ?” หวังซวี่ก้าวไปข้างหน้าและมองดูฉู่เฉินอย่างเหยียดหยาม “คงเป็นเพราะไอ้หนูคนนี้ที่ไม่ยอมแพ้ และแอบตามเรามาน่ะสิ”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ แววตาของรั่วเวยก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาและเธอก็พูดด้วยความรังเกียจอย่างมากว่า "ฉู่เฉิน คุณหยุดรบกวนฉันเหมือนเห็บหมัดบนตัวสุนัขซักทีจะได้ไหม? คุณรู้ไหมว่าพฤติกรรมของคุณทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจคุรมากขึ้นแค่ไหน?"“ผมไม่ได้ตามพวกคุณมาซักหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าไม่แยแส “อันที่จริง ผมไม่รู้ว่างานปาร์ตี้ที่พวกนายจะมานั้นเป็นงานวันเกิดเพื่อนของผม ไม่อย่างนั้นผมก็คงไม่มา”"เพื่อนของคุณ?" กัวรุ่ยที่อยู่ด้านหลังหวังซวี่อดไม่ได้ที่จะถาม "นายบอกฉันได้ไหมว่าเพื่อนของนายคือใคร?""ฉินปิงเยว่!" ฉู่เฉินพูดเรียบเรียบทันทีที่คำพูดออกไป ทั้งกลุ่มก็เงียบลงทันทีหวังซวี่ซึ่งเป็นคนแรกที่โต้ตอบ พร้อมหัวเราะทันทีและพูดว่า "ฉันได้ยินถูกหรือเปล่า คุณหนูฉินคือเพื่อนของ
“นายน้อยหวัง เขาเป็นกันเหรอใครคะ?” เฉินย่ามองไปที่ฉีเฟิงที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความสงสัย“แม้แต่เขา คุณก็ไม่รู้จัก?”หวังซวี่พุดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เขาคือฉีเฟิง เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉีในตระกูลที่ร่ำรวยหนานเจียง เขาเป็นทายาทที่แท้จริงของตระกูลที่ร่ำรวย และไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา! "พวกเขาทั้งสามสูดลมหายใจเข้าลึกทันทีกัวรุ่ยอุทานด้วยความประหลาดใจ "ดูสิ ดูเหมือนเขาจะเดินไปหาไอ้บ้าฉู่เฉิน"ทุกคนรีบมองและเห็นฉีเฟิงเดินไปทางฉู่เฉินแบบสบายๆ “ฉู่เฉินรู้จักฉีเฟิงหรือเปล่า?” สีหน้าของหวังซวี่เปลี่ยนไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสายตาของคนอื่นๆ ในงานก็หันไปมองฉู่เฉินด้วย“หนุ่มคนนั้นคือใคร?”“ไม่รู้สิ ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากแวดวงของเรา”“หรือว่านายน้อยฉีรู้จักเขาหรือเปล่า? ไม่น่าจะใช่นะ ดูไอ้หนุ่นนั้นสิเสื้อผ้าทั้งหมดของเขามีมูลค่ารวมกันไม่เกินห้าพันบาท นายน้อยฉีจะไปรู้จักคนแบบนี้ได้ยังไง?”สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ ฉีเฟิงก็เดินมาถึงฉู่เฉิน และพูดว่า "แกคือฉู่เฉิน?"“ฉันเอง มีอะไรเหรอ?” ฉู่เฉินยังคงนั่งนิ่งๆ สีหน้าธรรมดา“ฮึฮึ ให้ฉันแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อฉีเฟิง” ฉีเฟิงยิ้มด้วยรอ
ขณะที่ฉีเฟิงพูดจบทันใดนั้นทั้งห้องโถงก็เงียบลง และทุกคนก็รู้สึกหนาวสั่นอย่างรุนแรง“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉู่เฉินคนงี่เง่าคนนี้หัวเราะเยาะฉันมามาก ตอนนี้เขากำลังจะได้ตายแล้ว”หวังซวี่ไม่พอใจฉู่เฉินมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกมีความสุขอย่างมากในใจในสายตาของเขา ฉู่เฉินเป็นคนที่กำลังจะตายไปแล้วและเฉินย่ากับกัวรุ่ยมีความคิดแบบเดียวกันกับเขา โดยเฉพาะเฉินย่าที่หันหน้าไปมองถังรั่วเวยและพูดว่า:“รั่วเวย ฉันได้พูดไว้นานแล้วนะ ไอ้คนคนนี้ไม่ได้เป็นแค่คนบ้านนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวปัญหาอีกด้วย ไม่ช้าก็เร็วเขาจะเล่นจนตัวเองตาย ตอนนี้มันกลายเป็นจริงแล้วใช่ไหมเนี่ย?”เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของถังรั่วเวยดูซับซ้อนและหวาดกลัว: "ผู้ชายคนนี้สร้างปัญหามามากเกินไป โชคดีที่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ไม่งั้นฉันเกรงว่าฉันจะโชคร้ายไปด้วยแน่ๆ!"ริมฝีปากของฉีเฟิงยกขึ้นเล็กน้อย และแผ่รังสีอาฆาตพลุ่งพล่านในดวงตาของเขา ขณะที่เขามองไปที่ฉู่เฉิน “ยินดีด้วย แกทำให้ฉันโกรธได้สำเร็จแล้ว” เขาพูด"เมื่ออายุแปดขวบ ฉันถูกส่งไปฝึกกองทัพทหารรับจ้างในต่างประเทศ เมื่ออายุได้สิบห้าปี ฉันเอาชนะกองทัพทหารรับจ้างที่ว่ากันว่าอยู
คนที่ตกตะลึงที่สุดคือถังรั่วเวย เพราะเธออดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา และพบว่าฉีเฟีงดูเหมือนจะถูกฉู่เฉิน……ตบจนปลิวกระเด็นออกไปการตบเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้คนๆ หนึ่งบินไปไกลกว่าสิบเมตรได้เลยหรอ? นี่มันไม่น่าเชื่อเกินไปแล้วเธอมองดูใบหน้าที่น่ารังเกียจของฉู่เฉินอีกครั้ง และทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าเธออาจจะประเมินชายคนนี้ต่ำไปมาโดยตลอดเขาไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียวสายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมามาที่พวกเขา ฉีเฟิงค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้นขณะนี้ เขาเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากของเขาและมองไปที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าขุ่นเคือง: "ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ไอ้ขยะอย่างแก! นี่มันเป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!"“ราชาแห่งทหารรับจ้าง?” ฉู่เฉินหัวเราะอย่างสนุกสนานและพูดคำแทงใจดำอีกฝ่าย “แล้วไง แต่ก็ยังสู้ไม่ได้!”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของฉีเฟิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที รู้สึกเพียงความอัปยศที่พลุ่งพลานอยู่ในใจ“ฉันไม่เชื่อ!”“ฉันไม่เชื่อ!”“ไอ้บ้านี่ ตายซะ!”เขาส่งเสียงคำราม กำหมัดของเขาอีกครั้ง และรีบวิ่งไปหาฉู่เฉินด้วยเจตนาที่จะฆ่าให้ตายฉู่เฉินยังคงนิ่งเฉย ในขณะที่เขาเข้ามาหาตัวเองนั้น เขาก็ทำเพียงแค่เอ
ในขณะเดียวกัน ห้องบนชั้น 4 ของวังสีขาวก็ตกแต่งด้วยของตกแต่งที่ดูอบอุ่นบนเตียงน้ำอันกว้างขวาง ฉินปิงเยว่และหนิงชิงเสว่เปลือยร่างเปล่าครึ่งหนึ่ง และกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน“ฮิฮิ ชิงเสว่ ฉันเพิ่งเจอเธอครั้งสุดท้ายเพียงไม่กี่วันมานี้เอง ผิวของเธอดูนุ่มขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย บอกฉันหน่อยสิว่าเธอใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอะไร…”“ไม่เพียงแค่นั้น แต่ฉันยังรู้สึกได้ว่าขนาดตรงนั้นของเธอก็ใหญ่ขึ้นอีกด้วย…”“ไม่มีทาง อย่ามาพูดไร้สาระน่ะ ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนมันก็ไม่ใหญ่เท่าของเธอหรอก”“ฉันไม่เชื่อ เว้นแต่เธอจะให้ฉันสัมผัสมัน...”“โอ๊ย อย่ามากวนสิ...”หลังจากเล่นกันอย่างสนุกสนานไปสักพัก ทั้งสองก็เหนื่อยจนหายใจไม่ทันและนอนข้างๆกันบนเตียงน้ำฉินปิงเยว่พูดอย่างสงสัย “ชิงเสว่ บอกความจริงมาซะ ฉู่เฉินเป็นคู่หมั้นของเธอจริงๆ เหรอ?”“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณปู่คิดยังไง แต่เขาหมั้นกับฉันจริงๆ ฉันรำคาญแทบบ้า”หนิงชิงเสว่ถอนหายใจแรง ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความหดหู่และหมดคำจะพูด“ฉันคิดว่าเธอคงเกลียดฉู่เฉินมากเลยสินะ ฉันคิดว่าเขาเป็นคนดี เขาหล่อและรู้วิธี...” ฉินปิงเยว่กระพริบตาที่มีน้ำตาไหลอยู่ก่อนท
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หนิงชิงเสว่ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ "ฉันเห็นว่าเธอกำลังถูกผู้ชายคนนั้นทำให้หลงหัวปักหัวปำแล้วจริงๆ แทบไม่ต้องพูดถึงหนึ่งเดือน ฉันจะให้เวลาฉู่เฉินไปตลอดชีวิต อย่างมากเขาอาจจะกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะดี "ฉินปิงเยว่หัวเราะเบา ๆ และอดไม่ได้ที่จะแอบโจมตีหน้าอกของเธอด้วยความรู้สึกภูมิใจ “เธอแค่บอกว่า เธอรับเดิมพันกับฉันได้หรือไม่ได้” เธอพูดสิหนิงชิงเสว่รีบปกป้องหน้าอกของเธอและพูดไปแบบไม่ติดตลก “ได้ แล้วเธอจะพูดเรื่องพนันอะไร?”“อย่างที่ฉันพูดไปแล้ว ถ้าฉู่เฉินกลายเป็นคนสำคัญในหนานเจียงภายในหนึ่งเดือน ฉันก็จะชนะ”“ฉู่เฉินจะเป็นผู้ชายของฉัน เธอจะไม่สามารถแข่งขันกับฉันได้ และเธอก็ไม่สามารถเอาเรื่องของเขามาส่งผลต่อความสัมพันธ์ของเรา”“ตรงกันข้าม ถ้าฉันแพ้ฉันจะซักผ้าให้เธอฟรีไปหนึ่งปีเลย เธอคิดว่ายังไง?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉินปิงเยว่ก็กระพริบตาโตอันสวยงามของเธอเมื่อเห็นการแสดงออกที่มั่นใจของเธอ หนิงชิงเสว่ก็รู้สึกตื่นเต้นกับความสามารถในการแข่งขันของเธอและพูดทันทีว่า "เอาล่ะ ฉันจะเดิมพันกับเธอ แต่ต้องมีข้อแม้ไว้ก่อน เธอไม่สามารถใช้ทรัพยากรของเธอหรือแม้แต่ขุมกำลัง
คนของตระกูลฉีได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!หัวใจของทุกคนได้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ ชายร่างใหญ่หลายสิบคนสวมชุดสูทสีดำและถืออาวุธก็รีบเข้ามาจากด้านนอกประตูทันทีที่คนเหล่านี้ปรากฏตัว ทั้งห้องจัดเลี้ยงก็เต็มไปด้วยพลังชั่วร้ายอันไม่มีที่สิ้นสุด!ใช่แล้ว มันเป็นแค่พลังงานชั่วร้าย!เนื่องจากชายร่างใหญ่หลายสิบคนเหล่านี้เป็นอันธพาลระดับสูงที่ตระกูลฉี ได้คัดเลือกมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็เป็นอาชญากรที่ต้องการตัวจากต่างประเทศ และบางคนก็เป็นคนโหดเหี้ยม ที่เคยเห็นแม้แต่เลือดในหมัดดำใต้ดินหลังจากนั้น ชายวัยกลางคนที่มีรัศมีทรงพลังก็ค่อยๆเดินเข้ามาในขณะนั้นทุกคนก็ได้ตัวสั่นเทาและไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะคนที่มาคือฉีหงเทา!ลูกชายคนโตของฉีเทียนเหอ พ่อของฉีเชาและฉีเฟิง แถมก็ยังเป็นหัวหน้าของตระกูลฉีอีกด้วย!เมื่อเห็นการปรากฏตัวของฉีหงเทา ชายร่างใหญ่ที่ถือชุดสูทของฉีเฟิงก็พูดทันทีว่า "นายท่าน แขนขาและกระดูกสันหลังของนายน้อยเฟิงหักทั้งหมดครับ ... "ฉีหงเทาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บฉีเฟิง และใบหน้าของเขาก็กระตุกอย่างรุนแรงในทันทีรู้ไหมว่าเขาเห
"ครับ!"พร้อมกับเสียงอึกทึก บอดี้การ์ดเจ็ดถึงแปดคนที่เธอพามายืนอยู่ตรงหน้าฉู่เฉินทันที และเผชิญหน้ากับอันธพาลนับสิบที่นำโดยฉีหงเทาชั่วขณะหนึ่งทั้งห้องก็ไร้เสียงการกระทำของฉินปิงเยว่ทำให้ทุกคนในที่นี้ช็อค ด้วยสีหน้าตกใจคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน จะปกป้องไอ้คนแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?ในขณะเดียวกัน สีหน้าของฉีหงเทาเปลี่ยนไปมืดมนอย่างยิ่ง: "ปิงเยว่หลานสาว นี่หมายความว่าอะไรกัน? ไอ้คนที่อยู่ข้างหลังเธอได้ทำร้ายฉีเฟิง ลูกชายของฉัน เธอต้องการจะปกป้องเขาอย่างงั้นเหรอ?"ทุกคนมองไปที่ฉินปิงเยว่อย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาคิดว่าฉินปิงเยว่จะถอยออกมา หลังจากรู้ความจริงใครจะรู้ว่าประโยคถัดไปของ ฉินปิงเยว่ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก“ปกป้องแล้วมันยังไงกันคะ?”ฉินปิงเยว่เอียงหัวของเธอและยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "คุณลุงฉี ถ้าคุณอยากแตะต้องคนที่หลานสาวของคุณชอบ คุณจะไม่อนุญาตให้หนูปกป้องเขาเหรอคะ?"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้กล่าวออกมา ทุกคนก็ต่างเกิดความโกลาหลขึ้นพวกเขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? คุณหนูฉินอยู่ๆ ก็พูดว่าไอ้หนุ่มคนนี้คือคนที่เธอชอบ?ใครจะไปรู้ว่า คุณหนูใหญ่ฉินปิงเยว่แห่งตระกูลฉิน และเป็นหนึ่งในสี่ส