ในขณะเดียวกัน ห้องบนชั้น 4 ของวังสีขาวก็ตกแต่งด้วยของตกแต่งที่ดูอบอุ่นบนเตียงน้ำอันกว้างขวาง ฉินปิงเยว่และหนิงชิงเสว่เปลือยร่างเปล่าครึ่งหนึ่ง และกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน“ฮิฮิ ชิงเสว่ ฉันเพิ่งเจอเธอครั้งสุดท้ายเพียงไม่กี่วันมานี้เอง ผิวของเธอดูนุ่มขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย บอกฉันหน่อยสิว่าเธอใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอะไร…”“ไม่เพียงแค่นั้น แต่ฉันยังรู้สึกได้ว่าขนาดตรงนั้นของเธอก็ใหญ่ขึ้นอีกด้วย…”“ไม่มีทาง อย่ามาพูดไร้สาระน่ะ ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนมันก็ไม่ใหญ่เท่าของเธอหรอก”“ฉันไม่เชื่อ เว้นแต่เธอจะให้ฉันสัมผัสมัน...”“โอ๊ย อย่ามากวนสิ...”หลังจากเล่นกันอย่างสนุกสนานไปสักพัก ทั้งสองก็เหนื่อยจนหายใจไม่ทันและนอนข้างๆกันบนเตียงน้ำฉินปิงเยว่พูดอย่างสงสัย “ชิงเสว่ บอกความจริงมาซะ ฉู่เฉินเป็นคู่หมั้นของเธอจริงๆ เหรอ?”“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณปู่คิดยังไง แต่เขาหมั้นกับฉันจริงๆ ฉันรำคาญแทบบ้า”หนิงชิงเสว่ถอนหายใจแรง ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความหดหู่และหมดคำจะพูด“ฉันคิดว่าเธอคงเกลียดฉู่เฉินมากเลยสินะ ฉันคิดว่าเขาเป็นคนดี เขาหล่อและรู้วิธี...” ฉินปิงเยว่กระพริบตาที่มีน้ำตาไหลอยู่ก่อนท
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หนิงชิงเสว่ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ "ฉันเห็นว่าเธอกำลังถูกผู้ชายคนนั้นทำให้หลงหัวปักหัวปำแล้วจริงๆ แทบไม่ต้องพูดถึงหนึ่งเดือน ฉันจะให้เวลาฉู่เฉินไปตลอดชีวิต อย่างมากเขาอาจจะกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะดี "ฉินปิงเยว่หัวเราะเบา ๆ และอดไม่ได้ที่จะแอบโจมตีหน้าอกของเธอด้วยความรู้สึกภูมิใจ “เธอแค่บอกว่า เธอรับเดิมพันกับฉันได้หรือไม่ได้” เธอพูดสิหนิงชิงเสว่รีบปกป้องหน้าอกของเธอและพูดไปแบบไม่ติดตลก “ได้ แล้วเธอจะพูดเรื่องพนันอะไร?”“อย่างที่ฉันพูดไปแล้ว ถ้าฉู่เฉินกลายเป็นคนสำคัญในหนานเจียงภายในหนึ่งเดือน ฉันก็จะชนะ”“ฉู่เฉินจะเป็นผู้ชายของฉัน เธอจะไม่สามารถแข่งขันกับฉันได้ และเธอก็ไม่สามารถเอาเรื่องของเขามาส่งผลต่อความสัมพันธ์ของเรา”“ตรงกันข้าม ถ้าฉันแพ้ฉันจะซักผ้าให้เธอฟรีไปหนึ่งปีเลย เธอคิดว่ายังไง?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉินปิงเยว่ก็กระพริบตาโตอันสวยงามของเธอเมื่อเห็นการแสดงออกที่มั่นใจของเธอ หนิงชิงเสว่ก็รู้สึกตื่นเต้นกับความสามารถในการแข่งขันของเธอและพูดทันทีว่า "เอาล่ะ ฉันจะเดิมพันกับเธอ แต่ต้องมีข้อแม้ไว้ก่อน เธอไม่สามารถใช้ทรัพยากรของเธอหรือแม้แต่ขุมกำลัง
คนของตระกูลฉีได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!หัวใจของทุกคนได้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ ชายร่างใหญ่หลายสิบคนสวมชุดสูทสีดำและถืออาวุธก็รีบเข้ามาจากด้านนอกประตูทันทีที่คนเหล่านี้ปรากฏตัว ทั้งห้องจัดเลี้ยงก็เต็มไปด้วยพลังชั่วร้ายอันไม่มีที่สิ้นสุด!ใช่แล้ว มันเป็นแค่พลังงานชั่วร้าย!เนื่องจากชายร่างใหญ่หลายสิบคนเหล่านี้เป็นอันธพาลระดับสูงที่ตระกูลฉี ได้คัดเลือกมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็เป็นอาชญากรที่ต้องการตัวจากต่างประเทศ และบางคนก็เป็นคนโหดเหี้ยม ที่เคยเห็นแม้แต่เลือดในหมัดดำใต้ดินหลังจากนั้น ชายวัยกลางคนที่มีรัศมีทรงพลังก็ค่อยๆเดินเข้ามาในขณะนั้นทุกคนก็ได้ตัวสั่นเทาและไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะคนที่มาคือฉีหงเทา!ลูกชายคนโตของฉีเทียนเหอ พ่อของฉีเชาและฉีเฟิง แถมก็ยังเป็นหัวหน้าของตระกูลฉีอีกด้วย!เมื่อเห็นการปรากฏตัวของฉีหงเทา ชายร่างใหญ่ที่ถือชุดสูทของฉีเฟิงก็พูดทันทีว่า "นายท่าน แขนขาและกระดูกสันหลังของนายน้อยเฟิงหักทั้งหมดครับ ... "ฉีหงเทาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บฉีเฟิง และใบหน้าของเขาก็กระตุกอย่างรุนแรงในทันทีรู้ไหมว่าเขาเห
"ครับ!"พร้อมกับเสียงอึกทึก บอดี้การ์ดเจ็ดถึงแปดคนที่เธอพามายืนอยู่ตรงหน้าฉู่เฉินทันที และเผชิญหน้ากับอันธพาลนับสิบที่นำโดยฉีหงเทาชั่วขณะหนึ่งทั้งห้องก็ไร้เสียงการกระทำของฉินปิงเยว่ทำให้ทุกคนในที่นี้ช็อค ด้วยสีหน้าตกใจคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน จะปกป้องไอ้คนแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?ในขณะเดียวกัน สีหน้าของฉีหงเทาเปลี่ยนไปมืดมนอย่างยิ่ง: "ปิงเยว่หลานสาว นี่หมายความว่าอะไรกัน? ไอ้คนที่อยู่ข้างหลังเธอได้ทำร้ายฉีเฟิง ลูกชายของฉัน เธอต้องการจะปกป้องเขาอย่างงั้นเหรอ?"ทุกคนมองไปที่ฉินปิงเยว่อย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาคิดว่าฉินปิงเยว่จะถอยออกมา หลังจากรู้ความจริงใครจะรู้ว่าประโยคถัดไปของ ฉินปิงเยว่ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก“ปกป้องแล้วมันยังไงกันคะ?”ฉินปิงเยว่เอียงหัวของเธอและยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "คุณลุงฉี ถ้าคุณอยากแตะต้องคนที่หลานสาวของคุณชอบ คุณจะไม่อนุญาตให้หนูปกป้องเขาเหรอคะ?"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้กล่าวออกมา ทุกคนก็ต่างเกิดความโกลาหลขึ้นพวกเขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? คุณหนูฉินอยู่ๆ ก็พูดว่าไอ้หนุ่มคนนี้คือคนที่เธอชอบ?ใครจะไปรู้ว่า คุณหนูใหญ่ฉินปิงเยว่แห่งตระกูลฉิน และเป็นหนึ่งในสี่ส
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน หญิงสาวคนหนึ่งในชุดเดรสยาวสีขาวเหมือนกับหิมะก็ได้เดินเข้ามาเธอสูงและมีหน้าตาที่งดงาม เมื่อมองจากที่ไกลๆ เธอเหมือนกับดอกกล้วยไม้หิมะสีขาวดอกหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้หญิงจำนวนนับไม่ถ้วนในที่นี้หน้าซีดกันไปเลยทีเดียวคุณหนูใหญ่หนิงนั่นเอง!รูม่านตาของทุกคนหดตัวลงอย่างแรงฉีหงเทามองเธอด้วยสีหน้าที่มืดครึ้มและพูดว่า "เป็นหลานสาว ชิงเสว่นี่เอง เธอหมายถึงอะไรกับประโยคที่พูดเมื่อกี้น่ะ?"“คุณลุงหงเทา วันนี้เป็นวันเกิดของปิงเยว่ คุณพาคนมาเพื่อจะหักแขนหักขาคนอื่น นี่คงจะดูไม่ค่อยดีนะคะ?”หนิงชิงเสว่ยิ้มอย่างอบอุ่นและพูดฉีหงเทา หึ ออกมาอย่างเย็นชา และชี้ไปที่ฉู่เฉินแล้วพูดว่า “ไอ้คนคนนี้เป็นคนที่ทำร้ายฉีเฟิงลูกชายของฉัน ในฐานะพ่อ ฉันมาเพื่อขอคำอธิบายจากเขา”“ตราบใดที่คุณมอบไอ้คนนี้ให้ฉัน ฉันจะนำคนออกไปทันที และจะไม่รบกวนพวกเธออีก”“แล้วถ้าเราไม่ส่งเขาให้คุณล่ะคะ?” หนิงชิงเสว่ยังคงพูดเรียบเรียบเมื่อได้พูดคำนี้ออกไปแล้วทุกคนต่างตกตะลึงและพูดไม่ออกวันนี้ลูกสาวของสองตระกูลที่ร่ำรวย ยืนหยัดด้วยกันเพื่อปกป้องฉู่เฉินอย่างงั้นน่ะหรอ?หนุ่มคนนี้มีความสามา
"นี่เป็นเรื่องธรรมดา"“คุณหนูฉิน อย่าได้กังวลไป!”“……”“……”ทุกคนพยักหน้าอย่างเร่งรีบ แม้ว่าไม่ใช่เพราะคำพูดของฉินปิงเยว่ พวกเขาก็ไม่กล้าออกไปพูดเรื่องไร้สาระ มิฉะนั้น ตระกูลฉีจะไม่ปล่อยพวกเขาไว้อย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วมันเกี่ยวข้องถึงภาพลักษณ์ของตระกูลฉีอีกด้วย“เอาล่ะ ตอนนี้ฉันจะประกาศเริ่มงานวันเกิดอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ”เมื่อคำพูดของฉินปิงเยว่จบลง บรรยากาศทั้งห้องก็จุดประกายขึ้นมาทันทีมีคนหยิบของขวัญที่บรรจุอย่างประณีตหลายกล่องออกมาทันทีและพูดว่า "คุณหนูฉิน นี่คือเครื่องสำอางค์ที่ฉันมอบหมายให้ใครสักคนนำกลับมาให้คุณจากต่างประเทศ มันไม่แพงเลย เพียงไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น ฉันหวังว่าคุณจะไม่ว่าอะไรนะคะ .. "“คุณหนู ฉันได้ยินมาว่าร่างกายของผู้เฒ่าฉินเพิ่งจะฟื้นตัว นี่คือโสมป่าอายุหนึ่งศตวรรษที่ฉันใช้จ่ายไปมากกว่า 40 ล้านบาทในการซื้อ โปรดยอมรับมันไปพร้อมด้วยรอยยิ้ม…”"คุณหนูฉิน จี้เพชรนี้เรียกว่า 'น้ำตานางฟ้า' ซึ่งฉันได้เชิญอาจารย์ด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียงมาสร้างให้คุณเป็นพิเศษ มีมูลค่า 65 ล้านบาท ... "เป็นอยู่พักครึ่ง ทุกคนตามทยอยกันมา และนำของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา
เธอไม่ได้โลภมาก เธอแค่อยากรู้เกี่ยวกับของขวัญที่ฉู่เฉินเตรียมมาไว้ให้ก็เท่านั้นยังไงซะ เธอก็ไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมองของขวัญราคาแพงที่ทุกคนให้มาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำในสายตาของทุกคน ฉู่เฉินหยิบสร้อยข้อมือออกจากร่างกายของเขาแล้วมอบให้ฉินปิงเยว่และพูดว่า "ผมทำมันเองกับมือ แม้ว่ามันจะดูน่าเกลียดไปสักหน่อย แต่ก็สามารถปกป้องคุณได้ถึงหกครั้งเลยล่ะ"หลังจากเห็นสร้อยข้อมืออย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเพราะมันเป็นเชือกสีแดงเส้นหนึ่ง ประดับด้วยเม็ดหยกที่มีเนื้อหยาบหกเม็ด มันดูหน้าตาขี้เหร่มากและดูเหมือนว่าจะถูกหยิบขึ้นมาจากถังขยะไปซะด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันมองไม่ผิดใช่ไหม? นี่คือของขวัญที่คนคนนี้เตรียมไว้ให้คุณหนูฉิน?”“ไอ้หนุ่มคนนี้ซกมกเกินไปแล้ว แม้ว่าคุณจะไม่มีเงินซื้อของขวัญราคาแพง แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถใช้เงินหลักร้อยซื้อของจากช่างฝีมือได้นี่นา อย่างน้อยมันก็ดูไม่น่าเกลียดขนาดนี้”“มันก็เป็นแค่ขยะ แม้แต่คนที่ตั้งแผงลอยริมถนนก็ยังเขินอายเกินกว่าจะเอาไปขาย เขากล้าที่จะใช้มันเป็นของขวัญ”“……”“……”ทั่วบริเวณนั้นระเบิดเสียงหัวเราะ และทุกคนก็มองไปที่ฉู่เฉิน
ครู่ต่อมาเห็นฉินปิงเยว่ค่อยๆ เดินไปหาฉู่เฉิน โดยยื่นแขนที่ขาวเปล่งปลั่งไปหาเขา และเธอก็จ้องมองอย่างเร่าร้อนขณะที่เธอก็ได้พูดว่า "คุณฉู่เฉินคะ ฉันขอเชิญคุณมาเต้นรำกับฉันได้ไหมคะ?"ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบลงทุกคนมีสีหน้าคล้ำหมองบนใบหน้าคุณหนูฉินปฏิเสธคำเชิญมากมายจากผู้มีความสามารถรุ่นเล็ก แต่กลับเป็นฝ่ายที่จะเชิญหนุ่มคนนั้นอย่างงั้นเหรอ?ในขณะนั้นเองซูหมิงและคนอื่น ๆ ใบหน้าดูไม่ได้เลย ราวกับว่าพวกเขากำลังกินอุจจาระอยู่ซะอย่างงั้นความอัปยศ!น่าอดสูยิ่งนัก!พวกเขาเทียบไม่ได้กับขอทานอย่างงั้นเหรอ!อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ฉู่เฉินขมวดคิ้วและพูดว่า "ขอโทษนะครับ ผมเต้นรำไม่เป็นครับ"ทั้งห้องโถงอยู่ในความโกลาหลทำได้ดีนี่ เขาปฏิเสธคำเชิญของคุณหนูฉินจริงๆ!ใบหน้าของซูหมิงเริ่มแสดงอาการไม่พอใจมากขึ้นตัวเองไม่สนใจว่าคนอื่น ๆ จะฝันถึงอะไร นี่ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรงในขณะนี้ สายตาของหลาย ๆ คนเต็มไปด้วยเจตนาไม่ดีเอาซะเลย และต้องการอยากจะฟันฉู่เฉินออกเป็นชิ้น ๆ อย่างนับไม่ถ้วน!หลังจากที่เห็นว่าตัวเองถูกปฏิเสธ ฉินปิงเยว่ก็ไม่โกรธเช่นกัน