หน้าหลัก / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๑ เทพยดาเกี้ยวพาราสี (๒)

แชร์

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๑ เทพยดาเกี้ยวพาราสี (๒)

ผู้เขียน: Madam Hangover
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 04:31:34

ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด เธอชอบสุวรรณราพณ์มากขนาดนี้จนยอมพลีกายพลีใจให้ ยอมตั้งครรภ์ให้เขา แต่สุดท้ายชายคนนั้นก็เพียงแค่เห็นเธอเป็นเครื่องมือในการสร้างบุตรแฝด เผื่อเจตจำนงที่มีต่อเจ้าของร่างคนเก่าเท่านั้น

ใช่ เจ้าจันทร์คือคนที่เขารัก

แล้วเธอไม่ใช่คนหรือยังไง? ทำไมต้องทำร้ายใจเธอขนาดนี้

“คุณปู่ปลา หนูจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน หนูตายแล้วใช่มั้ย” เธอถาม ดวงหน้าหวานแนบอิงกับแผ่นอกของชายหนุ่มรูปงาม เธอรู้สึกสบายใจที่อีกฝ่ายมีจิตใจที่อบอุ่นจนสัมผัสได้ เขาพยายามคุ้มครองเธอ อาจจะด้วยฐานะอะไรก็ไม่รู้ได้ “หนูตายเพราะมีเซ็กซ์กับยักษ์จนตายหรือเปล่า”

วลีนั้นดูติดตลกเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าหมองในน้ำเสียง เทพยดาหนุ่มลูบผมเธออย่างอ่อนโยน แนบปลายจมูกโด่งกับกระหม่อมสวย

“น้องมิได้ตาย พี่เพียงนำดวงจิตเจ้าขึ้นไปบนสวรรค์ เพื่อที่เราจักได้ตกลงปลงใจ คุยกันอย่างเรียบร้อย”

“... เรื่องอะไรเหรอคะ”

“เรื่องที่พี่มีใจมั่นคงต่อเจ้า อยากให้เจ้าร่วมเสวยสุขจากเมืองสวรรค์กับพี่ พี่มาสู่ขอเจ้านะ อาจจักเป็นพิธีรีตองตามแต่ท่านจักทรงโปรด”

“ท่านที่คุณปู่หมายถึงคือใครหรือคะ”

“สมเด็จท่านท้าววสวัตตีเทวราช อธิบดีแห่งสรวงสวรรค์ชั้นป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๑ เทพยดาเกี้ยวพาราสี (๓)

    “ข้ามิอยากรู้ คู่ชะตากระไรกัน ข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว เจ้ามิมีสิทธิ์พรากข้าจากผู้ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอมนุษย์ต่ำช้าเช่นเจ้า” นางตั้งทิฐิกับชายตรงหน้า ตามที่ว่าว่านางนั้นมีคนที่นางหลงรักอยู่แล้ว นั่นคือขุนพิทักษ์เทพมิตรสหายของพระบิดาในวังอันแสนสุขุมอ่อนโยน เขาเคยเป็นแค่ชายชาวบ้านธรรมดา แต่เพราะความหาญกล้าในการรบจนชนะ จึงตีต้นขึ้นมาเป็นขุนในวัง แลหัวใจนางจักรักมั่นแค่เพียงเขาผู้เดียวเท่านั้น “พาข้ากลับไปที่เมืองจันทร์เถิด ข้ามิได้นึกใคร่รักเจ้าเลยแม้แต่นิด”สุวรรณราพณ์นั้นแสนเจ็บปวดดวงใจ เขานั้นรู้ดีว่านางมีใจใฝ่รักในขุนพิทักษ์เทพที่ในวันที่เขาพากองทัพยักษามาตีเมืองจันทร์ ชายผู้นั้นได้ไกล่เกลี่ยไพร่พลยักษ์อย่างชาญฉลาด แต่เมื่อพูดคุยกันมิได้ เลยตั้งการทำการสงครามจนมีพรรคพวกของเขาจำนวนหนึ่งล้มตายไป แม้นสุดท้ายจักชิงเจ้าจันทร์มาจากตาแก่ที่เห็นแก่ตัวนั้นได้อยู่ดี เนื่องจากมนุษย์ก็คือมนุษย์ แม้นมีคาถาอาคม ก็สู้กับคนที่มีพลังมิได้รู้ดีว่านางรักมั่นต่อชายผู้นั้น จนมิมีแม้แต่ใครในดวงใจอีกต่อไปหากแต่ในเพลานี้ นางเป็นของเขา นางตั้งครรภ์บุตรชายแลบุตรสาวของเขาคงปล่อยนางให้กลับไปมิได้“อย่างไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๑ เทพยดาเกี้ยวพาราสี (๔)

    มธุรสผงะไป นี่มันยูนิเวิร์สไหนกันแน่ อีกอย่างเธอไม่เข้าใจเลย สมัยที่ยังมีชีวิตในฐานะมธุรส เธอไม่เคยเชื่อเรื่องชาติก่อนหรือชาตินี้ รวมถึงนรกหรือสวรรค์ด้วย เพราะตั้งแต่เกิดมาก็มีแต่นรกที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวันแค่ที่วาร์ปมาในยุควรรณคดีก็ว่าเชื่อยากแล้ว ยิ่งตอนนี้ถูกดึงขึ้นไปบนวิมานสวรรค์อีก“ได้อย่างไรคะ” เธอถามออกไป ใจหนึ่งก็อยากรู้ แต่อีกใจก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี“ชาตินั้นเราครองรักกันบนสวรรค์ชั้นฟ้า นามน้องคือนางอัปสรนามว่ามธุรสวดี ส่วนพี่นั้นครองรักน้อง เสพสุขมาช้านาน จนกระทั่งมีอสุราน่าเกลียดน่ากลัวตนหนึ่งลากเจ้าไปย่ำยี”“...”“เจ้าตรอมใจมิแสวงบุญอีกต่อไป เลยตกระกำลงมาเกิดเป็นมนุษย์หน้าตาอัปลักษณ์ แลตายตกไปตามยักษ์ตนนั้น มิว่าเกิดมากี่ภพ พี่ก็จักถูกแย่งน้องอยู่ร่ำไป”“...”“จนภพชาตินี้ มันก็ยังมาแย่งน้องไปจากพี่ แลเสพสุขจากกายน้องต่อหน้าพี่ในบึงอีกต่างหาก”“...”“หยามเกียรติกันเช่นนี้ พี่จักมิปล่อยน้องให้กลับไปหาไอ้ยักษาชั่วช้าผู้นั้นอีกต่อไป”แรกเริ่มเดิมทีนั้น มธุรสเป็นนางอัปสรสวรรค์นามว่ามธุรสวดีที่อยู่เคียงกายเทวดาองค์นี้ แต่มักต้องมีชะตาให้พลัดพรากกันอยู่เรื่อยไป เนื่อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๑ เทพยดาเกี้ยวพาราสี (๕) จบตอน

    “... มาหาพี่ถึงที่ มิกลัวหรือ” เสียงทุ้มทวนถาม ดวงตาสีครามราวกับท้องฟ้ายามเช้าสบตากับหล่อน พาลให้หัวใจสั่นระรัว เทวดาหนุ่มหยัดกายลุกขึ้น เมื่อขยับมาก็ชิดใกล้กันเกินจำเป็น“คะ... คุณปู่” เสียงหวานสั่นระริก ทำไมต้องหน้าตาดีขนาดนี้ก็ไม่รู้ ถึงไม่รักก็จริง แต่ใกล้ขนาดนี้เป็นใครก็หวั่นไหว“เลิกเรียกว่าคุณปู่ได้หรือไม่ ถึงอายุอานามกว่าพันปี แต่พี่ก็มีรูปกายดังหนุ่มสาว”“...”“ลืมมันผู้นั้นได้แล้วหรือ” เธอกลั้นก้อนสะอึกลงคอ พลางสั่นหน้าไหวๆ“ถึงลืมไม่ได้ ก็ต้องลืมไม่ใช่หรือคะ”“แล้วหากมิว่าทำเช่นไรน้องก็ยังลืมมิได้ จักทำอย่างไรต่อ” เทพยดาหนุ่มต้องการล่วงรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของมธุรสของเขา หากแต่นางกลับสั่นหน้าไปมาอีกครั้ง เธอตกหลุมรักสุวรรณราพณ์ไปเต็มใจอย่างมิต้องสงสัย “จักมิมีคำตอบให้พี่เลยหรือ”หยาดน้ำตาใสรื้นขึ้นบนดวงตากลมโต มธุรสสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น“หนูไม่รู้ว่ารักเขาขนาดนี้ได้อย่างไรเลยค่ะ”“...”“มันตลกร้ายดีนะคะ ทั้งที่คุณปู่ปลาดีกับหนูทุกอย่าง แต่ใจหนูกลับเรียกหาแต่คนที่ใจร้ายกับตัวเอง” เธอว่าอย่างอดสู ทั้งๆ ที่คนตรงหน้าเพียบพร้อมเสียขนาดนี้ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับนึกถึงแต่หน้ายั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๒ กรรณิกาอัปสร (๑)

    นางว่าพลางท้าวคางมองเขาจากขอบสะพานริมบึงบัว ยั่วเย้ากษัตริย์ยักษาอย่างมิรู้ตัว สุวรรณราพณ์ห้ามใจตนเองไม่ให้เอื้อมมือไปสัมผัสกายที่ขาวสุกเปล่งปลั่งของนาง ทั้งที่ในใจนั้นราวกับถูกคาถาคลุ้มคลั่งดึงดูดราวกับผูกพัน คุ้นเคยกับนางอัปสรตนนี้เหลือเกิน“เจ้าชื่อกระไร ใยข้าคุ้นเคยดวงหน้าเจ้ายิ่งนัก” เขาถามหล่อนก่อน รักษาระยะห่างเนื่องจากมิรู้ว่านางผู้นี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ ถ้าไม่ถือศีลไม่กินเนื้อ คงได้ฉวยแม่นางฟ้านี้กลืนลงท้องเป็นแน่“ข้าชื่อ...” เธอทำท่าจะเอ่ยชื่อของตนออกมา หากแต่ก็เม้มกลีบปากสีเรื่อ เปลี่ยนแปลงชื่อตนเองทันควัน “ข้าชื่อกรรณิกา เป็นนางอัปสรจากสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีเจ้าค่ะ”ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิสวรรค์ชั้นสูงที่เขาคุ้นเคย เพราะถึงขั้นเคยขึ้นไปชิงเมียรักกลับมาอยู่ในอ้อมอกอย่างไรเล่า“เจ้าต้องการกระไรจากข้า ที่นี่คืออาณาเขตวังมรกตของกรุงยักษา มิกลัวยักษ์เช่นข้าหรือ”“ถ้ากลัว คงมิมาพูดคุยกับท่านเช่นนี้เจ้าค่ะ องค์พระสุวรรณราพณ์”“เจ้ารู้ชื่อข้า?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อนางเอ่ยนามของเขาอย่างถูกต้อง นางอัปสรนามว่ากรรณิกาพยักหน้าน้อยๆ เธอเอื้อมมือที่เปียกน้ำนั้นมาแตะต้องที่ปลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๒ กรรณิกาอัปสร (๒)

    เพราะเมื่อได้รู้ว่าเขาจำเธอที่เป็นคู่ชะตาที่รักมากไม่ได้ เธอก็ไม่อยากรีบเฉลยตนให้เขาได้รู้ และได้รับความรักอย่างไม่เป็นธรรมมาเธอจะทำให้เขาลุ่มหลง และบอกทุกสิ่งทุกอย่างออกมา หลอกเขาว่าเธอเป็นคนอื่น ให้เขาได้รู้ซึ้งว่าความเจ็บปวดที่ถูกหลอกมันเป็นอย่างไรพระสุวรรณราพณ์นั้นผละอ้อมแขนออกจากนางโดยทันที หลังจากที่นางอัปสรสวรรค์คิดที่จะเข้ามาแทนที่เจ้าจันทร์ที่เขารัก“อย่าคิดเผยอตนนักกรรณิกา เจ้าก็เป็นแค่หนึ่งเมียที่ทำให้ข้าได้รู้ว่าข้าได้กระทำกระไรพลาดพลั้งลงไป”“ข้าเพียงเอ่ยตามที่อธิบดีท่านเคยตรัสไว้ อาจจักเป็นท่านเองก็ได้ที่มิได้รู้กระไรเลย”“ข้าจักต้องทำตามบัญชาเจ้าเท่านั้นรึ เจ้าที่เป็นเพียงแค่นางอัปสร” เขาเหยียดหยันเธอ หากแต่ในใจนั้นเริ่มสั่นไหว สมเด็จท่านท้าวปรินิมมิตสวัสตีเทวาธาชต้องการจักให้นางมาบอกกระไรเขากันแน่ ไฉนถึงส่งนางลงมา ไฉนนางถึงทำให้เขารู้สึกผูกพัน“ข้าลงมาตามคำสั่งของท่านสมเด็จ ถ้าท่านมิต้องการความจริง ข้าจักกลับไป” นางว่าอย่างมีเชิง กำชับผ้าแพรบางเบานั้นแนบทรวงที่เปียกชุ่ม พลางทำท่าจะโบยบินไปบนนภาลัย หากแต่พระสุวรรณราพณ์รั้งชายสไบของนางไว้“ประเดี๋ยวก่อน”“ว่ากระไรเจ้าค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๒ กรรณิกาอัปสร (๓) จบภาค 1

    “น้องเป็นของพี่มาไม่รู้กี่คราแล้วเจ้าจันทร์” ยักษ์หนุ่มว่า พลางเดินไปต่อหน้าหล่อน คว้าปลายคางมนขึ้นมาสบตาด้วย “หรือว่าเจ้ากับขุนพิทักษ์เทพ จักเป็นผัวเมียกันแล้วหรือไร ถ้ามิใช่ พี่ก็มีสิทธิ์ในตัวเจ้า”“หยาบช้าเหลือเกิน ข้าจักมีหรือมิมี เจ้าก็มิสมควร...”“เจ้ารักมนุษย์หรือ มนุษย์ที่เคยเข่นฆ่าเจ้าตายตกไปตามพี่ในอดีตชาติ เจ้ารักสิ่งมีชีวิตเช่นนั้นลงหรือ”“... เจ้าพูดกระไร”“เจ้าคือคู่ชะตาของพี่ เจ้าเป็นเมียพี่มาทุกภพทุกชาติ กาลก่อนที่เจ้าเป็นอัปสรนามมธุรสวดี เจ้าครองรักกับพี่ที่เป็นอสุรกายรูปชั่ว หากแต่เทพยดารังเกียจเผ่าพันธุ์ของพี่ เทวดานามว่านิมมานเทพพรากเจ้าไปจากอกพี่ แลเจ้าก็ฆ่าตัวตายด้วยหอกของมัน ยามเมื่อไอ้เทวดาตนนั้นต้องการขืนใจเจ้า”“...”“นิมมานเทพเป็นเทพยดาที่เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มันรักเจ้าแต่เจ้าเป็นของพี่ มิรู้ว่ามันพยายามบิดเบือนความคิดเจ้าหรือไม่ เพราะมันเคยชี้ชะตาให้เจ้าตายมาครั้งหนึ่งหลังจากเจ้าลงไปเกิดเป็นสาวชาวบ้าน”“...”“เจ้าเข้าใจพี่หรือไม่ พี่เพียงต้องการคู่ชะตาของพี่กลับคืนมา แม้นน้องจักเป็นของใคร พี่ก็ยอมได้”“...”“พี่ทำทุกอย่างเพื่อเจ้า พี่ยอมอดเนื้อมนุษย์เพื่อรอเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๓ ให้ข้าเป็นเมียหนึ่งเดียว (๑)

    ด้านพระสุวรรณราพณ์นั้นมิรู้ว่าตนเองนั้นทำถูกหรือไม่ ทั้งที่ย้ายเรือนนอนมาอยู่คู่กัน หากแต่เจ้าจันทร์กลับยังคงหมางเมินเขา ทั้งที่ก่อนหน้าที่ทำพิธีดื่มสุราเพื่อยกนางเป็นมเหสี ทั้งที่รู้ว่าอาจจะถูกหลอก แต่ยักษ์หนุ่มก็มิสนพระทัย คำทำนายกำลังทำให้ยักษาหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักตาบอดอย่างมิต้องสงสัยค่ำคืนนี้พระแท่นนั้นร้างลาจากความอบอุ่น เจ้าจันทร์หันหลังให้เขาจนสุดปลายฟูก แล้วนอนอย่างรังเกียจรังงอน ฝ่ายยักษ์หนุ่มทานทนความอึดอัดนี้ไม่ไหว จึงได้แต่หยัดกายใหญ่มหึมานั้นลุกขึ้นจนฟูกยวบลงไป แลก้าวออกมา ท่องคาถาเคลื่อนย้ายตนไปยังสระบัวเขาพบว่าปลาบู่เผือกชราตัวนั้นไม่อยู่ในบึงอีกต่อไป ว่าจักมาเป่าปี่ให้มันฟังแลพูดคุยกันเสียหน่อย น่าจักหมดอายุขัยแล้วไปแสวงบุญที่ชาติภพอื่นแล้วสินะกษัตริย์อสุราพ่นลมหายใจหนัก เริ่มยกปี่ชวาขึ้น เป่าเพลงเศร้าท่ามกลางความมืดมิดของคืนเดือนดับ เขาแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้า เห็นดวงดารามากมาย สว่างไสวราวกับจักเยาะเย้ยความอาภัพรักของยักษ์หนุ่ม ที่ไม่ว่าจักกี่ภพกี่ชาติ ก็มักโดนพรากเมียไปที่ไหนสักแห่งอยู่ร่ำไปวาบหากแต่ระหว่างที่เป่าปี่ชวาอย่างเศร้าหมอง ก็ได้กลิ่นหอมหวานพร้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๓ ให้ข้าเป็นเมียหนึ่งเดียว (๒)

    มันเป็นหน้าที่ที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ เมียที่ถูกฆ่าตายในทุกชาติ เขาตามหาเธอจนเจอในที่สุด จึงมิอยากเสียเธอไป แม้ว่าจักต้องบังคับขู่ใจให้เป็นเมียก็ตาม“ข้าจักมิร่วมรักกับใครอื่น นอกเสียจากเจ้าจันทร์อีกแล้ว” กายใหญ่หยัดลุกขึ้นยืนท่ามกลางความตัดสินใจที่มืดบอด ท่ามกลางความเย็นเยียบของหมอกเที่ยงคืน เขาทำเพียงแค่ถอยห่างออกจากกรรณิกาอย่างเย็นชา “ข้าได้เลือกนางเป็นมเหสี แลข้ามิอยากทรยศจากคนที่ข้ารัก”“... ที่ท่านทำอยู่ มิได้ถูกต้องเลยสักนิด” กรรณิกาอัปสรโพล่งขึ้นมา เธอน้อยเนื้อต่ำใจที่เขายังคงตามืดบอดอยู่เรื่อยไป ไม่ว่าจะชาติไหนๆ “เมียสิบเอ็ดคน มิได้จำเป็นต่อท่านเลยเพียงนิด ไยท่านถึงมองมิเห็นความหวังดีจากข้า”“ดวงใจข้ามอบให้เพียงมธุรสวดีอัปสร อีขวัญ แลเจ้าจันทร์”“...”“ข้าอาจจักพลาดพลั้งไปเสียบ้าง เนื่องจากข้ามีถึงสองดวงจิตในร่างเดียว สังวรีราพณ์มักออกมาในคราวที่ข้าอ่อนแอ แต่บัดนี้ข้าเข้มแข็ง แลข้าเลือกแล้ว”“...”“เจ้าเป็นเพียงแค่... สิ่งของที่ท่านสมเด็จส่งมาเป็นของรางวัล มิว่าท่านจักตลบตะแลงข้าด้วยวิธีใด ข้าเชื่ออยู่เสมอ...” ท้ายประโยคมือหยาบใหญ่กำหมัดแน่น ใยถึงเจ็บปวดที่ได้เห็นแววตาสีมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๒)

    อ้อมกอดแห่งครุฑสีชาตินั้นทำให้นางยากจักถอนกายออก ความอบอุ่นที่ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เลือกนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด กรรณิกาอัปสรไม่คิดหวังให้ท้าวไกรสิงห์ใฝ่รักใฝ่หานาง หล่อนหมดหวังไปตั้งแต่พระสวามีคนก่อนแล้วสุวรรณราพณ์มองกรรณิกาที่อยู่ในร่างของเจ้าจันทร์เป็นเพียงแค่ตัวแทนหญิงที่ห่างกายเขาไปเมื่อนานมาแล้ว เขามักตัดพ้อรำพันทุกค่ำคืนว่าหญิงในอดีตชาตินั้นร้างรักเขาเนื่องจากเป็นอสูรรูปชั่ว แม้นมียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นคือบ่วงกรรมที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเผชิญ ฝ่ายท้าวไกรสิงห์นั้นไม่สามารถระลึกชาติก่อนได้ แต่เขามีสะพานกรรมที่ต้องวนเวียนชดใช้ อดีตชาติของท้าวไกรสิงห์ก่อนจักมาเกิดเป็นครุฑนั้น คืออดีตพรานบุญที่หลงรักมธุรสวดี อัปสราสาวที่ลงมาล้อเล่นน้ำอาบแสงจันทร์กลางป่าหิมพานต์ในสระอโนดาต แลเสพสมกับหล่อนกลางสระงาม โดยที่หล่อนเมามายรสน้ำเงาจันทร์ ทำให้หลงลืมคิดว่าพรานบุญนั้นคือสามีของตนเฉกเช่นทศกุมภัณฑ์เมื่อทศกุมภัณฑ์มาพบการก่อกบถเข้า จึงทำการฆ่าพรานบุญคนนั้นจนตายในชาติก่อน ชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก พรานบุญนั้นสาปแช่งก่อนตายตกว่าชาติ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๑)

    ก่อนพบรักกับอัปสรมธุรสวดี ทศกุมภัณฑ์เคยมีภรรยาเป็นยักษีรูปร่างงดงามสะสวย นางเสวยทิพย์มิกินเนื้อคนต่างจากเขาผู้เป็นสวามี นางถูกตบแต่งกับเขาเพียงเพื่อสานไมตรี ทศกุมภัณฑ์อัปลักษณ์หากแต่มียศศักดิ์บริวารมาก ตระกูลยักษ์ฝั่งนั้นจึงส่งนางปารตีเป็นเมียกำนัล การตบแต่งที่มิได้เริ่มต้นด้วยความรัก สุดท้ายทศกุมภัณฑ์กลับหลงรูปโฉมอัปสราจนทิ้งนางน้ำตาตกในตลอดมานางยักษ์ปารตีเองก็มิได้เหลียวแลเนื่องจากสวามีนั้นโหดเหี้ยมทานแต่เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์เนื้อมนุษย์ไม่ขาดปาก นางที่เป็นยักษ์เสวยทิพย์ชั้นสูง จึงตีตนออกห่าง จนเป็นช่องโหว่ให้อีกฝ่ายนั้นไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย อยู่ของนางดีๆ ก็ต้องมารับรู้ว่าสวามีของตนนั้นได้ลิ้มรสเชยชมนางอัปสรชั้นสูง พร้อมกับเอานางอัปสรมธุรสวดีเข้ามากกกอดถึงในรังนอนนิมมานเทพเองต้องการดวงตาของนางยักษ์ปารตี เนื่องจากดวงตาของนางเป็นดวงตาที่สาม สามารถเปิดโลกแห่งความตายทั้งปวงได้ การมีดวงตาของนางเอาไว้ในครอบครอง มิว่าจักเป็นนรกภูมิหรือสรวงสวรรค์ เขาจักเป็นชายผู้มากศักดาจนมีแต่คนอยากคบหาพาที เขาจึงส่งนางอัปสรมธุรสวดีเข้าหาทศกุมภัณฑ์หวังยั่วยวนหาโอกาสฆ่าชิงดวงตาที่สามของนางปารตี แต่นางอั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๕) จบตอน

    “เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ พ่อจักบอกทุกอย่าง อดทนรอแล้วทำตามที่พ่อเอ่ยได้หรือไม่” แน่นอนว่าพระสุวรรณราพณ์รู้ดีถึงพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของบุตรแฝด แต่เนื่องจากอินมุกแลจันทร์ดายังมิมีวุฒิภาวะหรือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตน เขาจึงอยากรอให้ลูกทั้งสองเติบโตมากกว่านี้ก่อน“ไม่! ท่านควักดวงตาแม่แท้ๆ ของข้า แลยังขับไสไล่ส่งแม่ที่แท้จริงของพวกเราไปไกลบ้านไกลเมือง หากมิรักใคร่เนื่องจากพวกเราเป็นสายเลือดมนุษย์ ท่านพ่อก็บอกข้ามาตามตรงเถิด!” จันทร์ดาได้ฟังพี่ชายว่าเช่นนั้นก็ใจตกไปอยู่แทบตาตุ่ม ยืนร่ำไห้กอดอินมุกที่หยัดยืนสู้ตัวน้อยๆ ประจันหน้ากับกษัตริย์เมืองยักษ์ที่ถือเป็นบิดาแท้ๆ ของตน ตั้งแต่เกิดมาบิดาไม่เคยพูดดีด้วยนอกเสียจากมองเขาเป็นตัวปัญหา แม้นจักเป็นลูกของสตรีที่มิได้รัก แต่ก็มีหัวจิตหัวใจเช่นกัน“ควักดวงตา? หมายความว่าเช่นไร” สีหน้าของพระสุวรรณราพณ์นั้นสับสน ชวนให้สองเด็กแฝดชะงักไป“พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๔)

    “ไสหัวไปเสีย ก่อนที่กูจักบั่นคอมึงให้ดับดิ้นอยู่ตรงนี้” พอได้ยินอีกฝ่ายตีฝีปากกลับอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นอสุราหนุ่มยิ่งพิโรธเหลือ เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่หล่อนลงมาแลแปลงกายเป็นอัปสรเพื่อเข้ามาเป็นสนมคนที่สิบสาม แต่เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงช่วงที่นางดำรงอยู่บนสรวงสวรรค์กับนิมมานเทพ มิอาจรู้ได้ว่ามันได้เป่าหูกระไรนางไว้บ้าง“อย่าลืมเสีย สุวรรณราพณ์... ไม่สิ ไอ้ทศกุมภัณฑ์เอ๋ย”“...!”“มธุรสวดีจักไม่มีวันตกเป็นของมึง แม้นชาตินี้หรือชาติไหน กูจักตามราวีมึงทุกชาติไป เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่กูหมายครอง”ไวกว่าความคิด พระสุวรรณราพณ์เขวี้ยงดาบทมิฬตรงไปยังร่างตรงหน้าหวังฟาดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธสุดกำลัง แต่ร่างนั้นกลับสลายหายไปเป็นเพียงไอหมอกเย็นเยียบโอบล้อมรอบดาบดำมืดก่อนที่จักถึงตัว พระสุวรรณราพณ์เรียกดาบทมิฬกลับมาสู่ฝ่ามือใหญ่ กวาดสายตามองไปรอบๆ พลางขบฟันกรอดอย่างขัดเคืองมาทั้งที ก็ทิ้งเพลิงกัลป์ไว้เลยสิหนา“ทะ... ท่านพ่อ ข้า...” อินมุกมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อผู้เป็นพ่อหมุนตัวใหญ่โตหันกลับมา ดวงตาสีชาดหรี่ลงมองบุตรชายที่ยืนตัวสั่น พระสุวรรณราพณ์ทำได้เพียงเดินนำหน้าลูกไปเท่านั้น“ตามพ่อมา อิ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๓)

    “พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว่ากรรณิกา”“!!!” ทั้งอินมุกแลจันทร์ดาเบิกตากว้าง เป็นจริงดั่งสัญชาตญาณที่ว่ามารดาของตนนั้นไม่อยู่ที่นี่ ตัวจริงนั้นอยู่เมืองจันทร์ ส่วนตัวปลอมที่แปลงเป็นมารดาของพวกเขานั้นคือหนึ่งในสนมที่เป็นนางสวรรค์แต่ยิ่งหดหู่ใจไปกว่านั้น... คือเรื่องที่บิดาเลือกที่จะควักลูกตาของพระมารดาไป เนื่องจากไม่เป็นที่โปรดปรานดั่งเช่นสนมที่เป็นนางอัปสร มันช่างน่าเศร้านัก นี่ท่านพ่อไม่มีความรักต่อแม่เราเลยหรือ“... ว่าต่อได้หรือไม่” ท้ายที่สุดเด็กชายก็อดรนทนไม่ได้ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวของแม่ที่แท้จริงจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเมื่อครู่“จงมอบความเชื่อใจให้แก่ข้าเสียก่อน จึงจักเล่าต่อได้” นิมมานเทพถือโอกาสออกกลอุบายดึงบุตรของพระสุวรรณราพณ์มาเป็นพวกด้วยค่าของเรื่องราวของหญิงที่เขามินึกใส่ใจอย่างธิดาเจ้าจันทร์“ข้าแลน้องสาวจักเชื่อใจเจ้า”“อินมุก... เจ้ามิรักพระบิดาหรือ เจ้าเชื่อใจข้ามากกว่าพระบิดาหรือ ทั้งๆ ที่มันอาจจักเป็นคำโก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๒)

    มิรู้ดอกว่าแปลงกายมาหลอกพ่อด้วยเหตุอันใด แต่จักมิยอมญาติดีกับแม่อัปสรสวรรค์นั่นเด็ดขาด“ข้ามิพูดคุยหรือทำดีต่อนาง ยัยนั่นมิใช่แม่ของข้า แม่ของข้าชื่อเจ้าจันทร์ ข้าจำกลิ่นไอของแม่ข้าได้ดี!”“อินมุก จริงๆ แล้วแม่ของเจ้า...”“เลิกพยายามจักโป้ปดข้า หาความดีความชอบมาสู่นังอัปสรนั่นเสียที ท่านพ่อรักหลงนางจนมิเห็นหัวข้าแลน้องจันทร์ดาเลยด้วยซ้ำ!” ว่าพลางก็กัดฟันข่มความรู้สึกโกรธแค้นนางอัปสรนั่น ฉุดแขนจันทร์ดาที่ยืนมองท่านพ่อกับพี่ชายต่อล้อต่อเถียงกันและวิ่งตามแรงจับจูงของพระเชษฐาไปอย่างว่าง่ายอินมุกวิ่งมาจนถึงบึงบัว กำหมัดแน่นในข้างที่ไม่ได้จูงฝ่ามือเล็กของน้องสาว จันทร์ดาเอียงคอมองพี่ชายฝาแฝดที่บัดนี้น้ำตาหยดลงสู่ผิวแก้มสุกปลั่ง“พี่อินมุก โอ๋ โอ๋ พี่อินมุกอย่าร่ำไห้เลยเจ้าค่ะ” เสียงหวานปลอบประโลมพี่ชายเพียงแผ่วเบา ตระกองกอดพี่ชายแนบแน่นเท่าที่จำความได้ อินมุกกับจันทร์ดามีสูรย์วันบ่าวยักษีตนหนึ่งคอยดูแลเป็นแม่นมให้ตั้งแต่เล็ก สายใยอบอุ่นระหว่างพวกเขาและพระมารดาแน่นแฟ้น อินมุกและจันทร์ดาเชื่อว่ามารดาคลอดตนด้วยความรักใคร่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ถามถึงแม่ของตนที่มีนามว่าเจ้าจันทร์นางสูรย์

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๑)

    “มิมีสาส์นตอบรับส่งมาจากเมืองครุฑเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท... จนบัดนี้แล้ว”เหล่าทหารกราบทูลกับพระสุวรรณราพณ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่มหึมา ได้ความว่าสาส์นท้ารบนั้นอาจส่งไปถึงเมืองครุฑ แต่ฝ่ายไอ้ท้าวไกรสิงห์อาจยังเล่นตุกติกมิยอมส่งสาส์นกลับมา ทำตัวยั่วโมโหเก่งจริงๆพระสุวรรณราพณ์เข้าใจว่ามันนึกแค้นเคืองที่ในอดีตชาติต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ยักษ์เช่นทศกุมภัณฑ์ (ซึ่งก็คือตัวเขาเองนั่นแล) นั้นเข่นฆ่าฉีกเนื้อเทือหนังครุฑอย่างโหดร้ายเพียงเพื่อชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก แม้นจักมาเจอเมียในร่างไร้วิญญาณก็ตาม แถมในอดีตก่อนเจอคู่ชะตา สังวรีราพณ์ก็ได้ไปบุกเมืองครุฑด้วยความหิวกระหายเนื้อสดหลังจากจำศีลไม่กินเนื้อมาเกือบห้าสิบปีจนตบะแตกด้วยดวงจิตทมิฬที่สอง สุดท้ายก็ฆ่าพวกครุฑแลครุฑีไปเกินครึ่ง แถมยังกินจนเหลือแต่กองกระดูกนกให้ดูต่างหน้าอีกด้วยเรียกได้ว่าเขาเองก็เป็นตัวการที่ทำให้ฝั่งไอ้ท้าวครุฑนั้นมีความอาฆาตแค้นจนต้องชิงสิ่งสำคัญออกไปอย่างเช่นภาชนะอย่างธิดาเมืองจันทร์ที่มีดวงจิตมธุรสวดีอยู่ในนั้น แม้นสุดท้ายจะสู้พลังวังชาของพระสุวรรณราพณ์ไม่ได้ก็ตามที่ส่งสาส์นท้ารบไป เพื่อจักให้มันจบมันสิ้นไป ให้มันได้ระบายอาร

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๕) จบตอน

    แต่พระมเหสีเจ้าจันทร์กลับต่างออกไป ตลอดสามวันหลังคลอดเด็ก นางแวะมาแอบดูเด็กทั้งสองแลพยายามเข้าหาอยู่หลายครา แต่เด็กแฝดปฏิเสธการเข้าหาของแม่ สูรย์วันคิดว่าวันเดียวเธอคงล้มเลิกแล้ว เพราะคงมิมีใครอยากมีลูกกับยักษ์ สนมทุกคนที่ท่านนำพา ก็ล้วนแต่มิเต็มใจตกเป็นเมียทั้งสิ้นแต่นางกลับไม่เคยยอมแพ้ ยังแวะมาขอกอดขออุ้มอยู่ทุกวันแม้จักรู้ว่าเด็กทั้งสองจักต้องกระจองอแงแลผลักไสนางด้วยเดียดฉันท์เลือดมนุษย์“พระมเหสีทรงอยากอุ้มบุตรธิดาหรือเพคะ”“อะ... อื้อ” สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก ดวงหน้าซีดเซียว อาจเพราะยังป่วยอยู่“ท่านอินมุกแลท่านจันทร์ดายังมิคุ้นชินนัก แต่สักวันคงจักคุ้นได้แน่” นางว่าด้วยความหวังดี ฝ่ายกรรณิกาเองก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จากทุกวันที่โดนลูกปฏิเสธ มันออกจักฝังใจมิน้อยแต่อย่าหวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจักมีเพียงแค่นี้หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กหัวจุกทั้งสอง ค่อยๆ ยกจันทร์ดาขึ้นมาก่อนเพราะลูกหญิงมักอ่อนโยนกว่าคนพี่เล็กน้อย พร้อมกับยกบุตรสาวที่ทำตาโตมาแนบอกอิ่ม“จันทร์ดา... นี่แม่เองนะ”“...”“จันทร์ดา แม่รักหนู... แม้จักเป็นช่วงเพลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม”หมับ!“อึก...!” แต่ยั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๔)

    ทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อรักษานางไว้ รวมถึงรักษาสัมพันต่อสรวงสวรรค์ มิเช่นนั้นทุกอย่างจักยากขึ้นเกือบเท่าตน ทั้งการสัญจร รวมถึงพันธะสงบศึกที่มีมาตั้งแต่อดีตชาติระหว่างสรวงสวรรค์แลโลกอสูรเป็นเพียงอสูร มีอำนาจมากมายเพียงไหน สุดท้ายยังถูกชิงไปได้ด้วยเทวดาอยู่ดีส่วนเด็กสาวผู้มิรู้ประสากระไรทั้งนั้น ได้แต่สั่นสะเทือนอยู่บนกายใหญ่เนื่องจากร่างกายเล็กจ้อยแสนเปราะบาง นางครางครวญเสียงสะท้านหวามไหว กอบโกยอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ท่าทางนี้มองเห็นดวงหน้าของยักษาได้ถนัด เขากำลังจ้องมองหล่อนอย่างเปรมปรีดิ์ รบกวนจิตใจเหลือเกินทำมาเป็นจ้องมองเหมือนรักเหมือนหลงยิ่งนัก จักทำให้ร่างน้อยๆ นี่เป็นของโปรดของเจ้าให้ได้เลยเชียวว่าพลางก็พยายามขยับบั้นเอวน้อยเพื่อคลึงความใหญ่โต แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถึงร่างกายจะแปลงตนเป็นอัปสร แต่ก็รับความรู้สึกได้ทุกอณูไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์จนเริ่มชักไม่แน่ใจ ว่าตนเองเป็นอัปสร หรือมนุษย์กันแน่หรือนางหลอมรวมกับร่างเจ้าจันทร์ไปแล้ว?คิดเพ้อฝันพลางส่ายหัว ร่างนั้นจำแลงเป็นการเวกกลับสู่เมืองจันทร์ไปแล้ว สุวรรณราพณ์ตกเป็นของนางแทนที่เจ้าจันทร์แล้ว นี่ล่ะค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status