ฮั่วเยี่ยนฉือไม่สนใจชื่อลูกแมวแต่หลีซูเหยียนดูสนใจมาก ดังนั้นฮั่วเยี่ยนฉือจึงถามตามมารยาท “ทำไม?”“เพราะตอนนั้นมันเหมือนเม่นน้อยตัวนึงเลย ขนของมันชี้ฟูฟ่อง ฉันรักษาบาดแผลให้มันก็ยังมากัดฉันอีก!” หลีซูเหยียนพูดพลางขำตัวเองขึ้นมาเห็นฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้พูดอะไร หลีซูเหยียนก็พูดอย่างขัดเขิน “ขอโทษค่ะปร
ฮั่วเยี่ยนฉือมีท่าทีเย็นชา “ขอโทษด้วย เกรงว่าผมคงร่วมมือกับคุณไม่ได้”หลีซูเหยียนชะงักไป เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้“คุณหลีค่อย ๆ กินเถอะ ผมขอตัวก่อน” ฮั่วเยี่ยนฉือลุกขึ้นหลีซูเหยียนไม่ได้รั้งไว้ เธอยังพูดอย่างพร้อมให้ความช่วยเหลือด้วยว่า “ประธานฮั่วไม่ต้อง
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนได้ยินชื่อของฮั่วเยี่ยนฉือจากถูหย่าลี่ เธอก็รู้สึกประหลาดใจมากเธอไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่เมือง D ให้ฮั่วเยี่ยนฉือรู้ แล้วเขารู้ได้อย่างไร?อีกทั้งในเวลานั้นฮั่วเยี่ยนฉือก็น่าจะยังไว้ใจป๋ายอีอีอยู่ ทำไมถึงเลือกมาช่วยตนล่ะถูหย่าลี่มองความคิดของเฉียวสือเนี่ยนออก “ตอนแรกฉันก็แค่เดา หล
พี่ถูและบุคคลสำคัญหลายท่านทักทายคุณท่านหลีและไปนั่งยังที่นั่งมีพนักงานคนหนึ่งมาถามอะไรบางอย่างกับเฉียวสือเนี่ยน เฉียวสือเนี่ยนจึงตั้งใจจะเดินไปด้านข้างกับอีกฝ่าย“คนแซ่เฉียว เธอจะต้องไม่ได้ตายดีแน่!”ทันใดนั้น เสียงผู้ชายที่แหบแห้งก็ดังขึ้น!เฉียวสือเนี่ยนเพิ่งหันกลับไป ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งหยิบขวดสี
โม่ซิวหย่วนจะไม่สนใจซ่งชิงชวนก็ได้ แต่เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกเกรงใจ เธอจึงหันหน้าไปมองทางซ่งชิงชวน “คุณซ่งไปด้วยกันนะคะ?”ซ่งชิงชวนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ครับ”ระหว่างเดินทางเข้าสถานีตำรวจ เฉียวสือเนี่ยนก็ได้รู้จากโม่ซิวหย่วนว่า คนส่งมาสั่งให้สาดสีน้ำมันใส่เธอเป็นคุณพ่อของเฉิงหว่านซิน!คุณท่านเ
“ฉันแค่ให้คนสาดสีน้ำมันใส่ มันจะรุนแรงขนาดนั้นที่ไหนกัน!” คุณท่านเฉิงเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้“การสาดสีน้ำมันของคุณไม่ใช่สาดใส่เฉียวสือเนี่ยนอย่างเดียว ยังมีคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งจากเมืองเป่ยเฉิงท่านนี้อีก นอกจากนี้ ฮั่วเยี่ยนฉือก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ไหนคุณลองบอกมาสิ ล่วงเกินคนมากมายขนาดนี้ ยังจะมีทางรอดอี
โม่ซิวหย่วนมองซ่งชิงชวน “คุณชายใหญ่ซ่ง สำหรับฉันคำพูดของนายไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว”“ตามที่ฉันเข้าใจนาย ปกตินายจะไม่เป็นฝ่ายสร้างความสัมพันธ์ ทำไมนายถึงต้องตามพวกเขาไปทางฝั่งคุณหลี แถมยังยืนใกล้เฉียวสือเนี่ยนขนาดนั้นด้วย?”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของโม่ซิวหย่วน ซ่งชิงชวนยกถ้วยน้ำชาขึ้น แล้วจิบเล็กน้อ
ลู่เฉินหนานพูดเพื่อฮั่วเยี่ยนฉือและอธิบายถึงความสัมพันธ์ของป๋ายอีอีกับฮั่วเยี่ยนฉือแบบนี้ ฟู่เถียนเถียนย่อมรู้จุดประสงค์ของเขาอยู่แล้ว“ฮั่วเยี่ยนฉือปกป้องป๋ายอีอีขนาดนั้น เป็นเพียงเพราะความรู้สึกขอบคุณอย่างเดียวงั้นเหรอ?”ฟู่เถียนเถียนไม่ยอมรับข้อโต้แย้งของลู่เฉินหนาน “เขาให้ป๋ายอีอีเป็นผู้อำนวนการ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั