เฉียวสือเนี่ยนทักทายลุงและอวี๋จิ่งเฉิงลุงยังรู้สึกไม่พอใจเรื่องที่เธอหย่ากับฮั่วเยี่ยนฉือ จึงตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่เย็นชาแต่ก็ไม่กระตือรือร้นนักกลับเป็นอวี๋จิ่งเฉิงที่มองเธออย่างประหลาดใจระคนดีใจ “เนี่ยนเนี่ยน น้องกลับมาจากเมือง S แล้วเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนพยักหน้า “ใช่ค่ะ เพิ่งกลับมา”“ฉันเห็นเธอโพ
“แถมคุณป้ายังให้เฉียวเล่อเยียนไปเกาะแกะฮั่วเยี่ยนฉือเหมือนที่หนูเคยทำอีก คุณป้าไม่รู้เหรอคะว่าฮั่วเยี่ยนฉือเกลียดที่หนูไปเกาะแกะเขามากแค่ไหน?”ถานซูหงแค่นเสียง “มีโอกาสสำเร็จก็พอ ไม่ใช่ว่าฮั่วเยี่ยนฉือก็แต่งกับเธอเหรอ ใครจะมารับรองได้ว่าเขาจะไม่แต่งกับเล่อเยียนล่ะ!”“ผมไม่แต่ง”ถานซูหงเพิ่งพูดจบ เสี
ได้ยินแบบนั้น สายตาของทุกคนตรงนั้นก็เบนไปทางฮั่วเยี่ยนฉือ“ฉันจะไปกับเธอเอง” ฮั่วเยี่ยนฉือวางอำนาจอย่างเปิดเผยอวี๋จิ่งเฉิงยิ้ม โดยที่ไม่ได้สนใจเขา และถามเฉียวสือเนี่ยน “เนี่ยนเนี่ยน อยากลงไปไหม?”ฮั่วเยี่ยนฉือก็มองเธอด้วยสายตาล้ำลึกเดิมเฉียวสือเนี่ยนอยากจะลงไปแต่ก็ต้องละทิ้งความคิดนั้น เธอส่ายศีรษ
ตอนเฉียวสือเนี่ยนถูกเซี่ยลี่สยงจับตัวไปในครั้งก่อน ถูหย่าลี่ก็เคยวิเคราะห์ตามวิธีการที่เขาใช้อยู่บ่อย ๆ เขาน่าจะไม่ถึงขนาดรู้ในสถานการณที่ฮั่วเยี่ยนฉือกำลังตึงเครียดกับเรื่องของเธออยู่ แถมยังลงมือกับเธออีกทว่าตอนนั้นเซี่ยลี่สยงมีข่าวอื้อฉาวรัดตัว แถมยังเผชิญกับปัญหาเรื่องคุกตะรางอีก จะวู่วามหาทางแก
เมื่อส่งซ่งม่านกลับมาที่บริษัท และตอนเฉียวสือเนี่ยนตั้งใจจะกลับบ้าน ก็รับโทรศัพท์จากพี่ถูแล้ว“สือเนี่ยน ว่างออกมารับประทานอาหารไหม ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอนิดหน่อย”เฉียวสือเนี่ยนนึกถึงเรื่องที่พี่ถูบอกว่าเจอเซี่ยลี่สยงเมื่อคืนนี้ เธอจึงพยักหน้าและตอบตกลง “ได้ค่ะ พี่ถูคิดว่าสะดวกที่ไหน ฉันจะไปเดี๋ยวน
สองวันต่อมา ป๋ายซื่ออวี้เจ้านายของธุรกิจตระกูลป๋ายถูกพาดหัวข่าวสังคมในเรื่องอื้อฉาวเขาใช้ข้ออ้างอยู่เป็นเพื่อนลูกค้ามอมเหล้าพนักงานผู้หญิงของบริษัท และฉวยโอกาสตอนไปส่งเธอที่บ้านพยายามทำการล่อลวงเธอ ยังดีที่ถูกแฟนหนุ่มของพนักงานคนนั้นมาเจอเข้า ในระหว่างฉุกละหุกป๋ายซื่ออวี้จึงกระโดลงมาจากชั้นสอง จนขา
ขณะที่พูด ป๋ายอีอีก็ยื่นมือไปทางเขา และคิดจะรับกระเป๋าทำงานที่อยู่ในมือของเขามาฮั่วเยี่ยนฉือหลบเลี่ยงมือของป๋ายอีอี และคิ้วเข้มขมวดแน่น ขณะเดียวกันเขาก็เอ่ยกับป้าหวัง “สั่งการลงไป ต่อไปไม่มีการอนุญาตจากผม ห้ามให้คนนอกเข้ามาได้ตามใจ”ป้าหวังรีบพยักหน้า “รับทราบค่ะ คุณผู้ชาย”พอป๋ายอีอีได้ยิน ก็เหมือ
ฮั่วเยี่ยนฉือมองป๋ายอีอีอย่างไม่แยแส และไม่ได้ยื่นมือออกไปป๋ายอีอีจึงกางเอกสารออก วางไว้ตรงหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือ“เยี่ยนฉือ ฉันรู้ว่าคุณคงไม่ช่วยฉันตรวจสอบ ฉันจึงไปหาเพื่อนมาเอง”ป๋ายอีอีเอ่ย “ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า การค้าหลายรายการของคุณพ่อฉันก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นซ่งชิงชวนพี่ชายของซ่งม่านส่งคนมาแทรกแ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั