ได้ยินชื่อของป๋ายยอีอี เฉียวสือเนี่ยนก็ขมวดคิ้มงามแน่นขึ้นมา “ทำไมเธอก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”ตอนนั้นโทรเรียกรถโรงพยาบาลแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าก็เป็นที่โรงพยาบาลนี้ด้วย?ฟู่เถียนเถียนยืนยันความคิดของเธอ “โรงพยาบาลพวกเราใกล้นี่นา สวยด่วน 120 ต่างก็ส่งมาที่ใกล้เคียงทั้งนั้นแหละ”“อาการของเธอเป็นยังไงบ้าง?
โทรศัพท์ไปหาโม่ซิวหย่วน กลับไม่มีคนรับสายเฉียวสือเนี่ยนจึงส่งข้อความไปหาเขา ให้เขามีเวลาว่างเข้ามาที่โรงพยาบาลหน่อย เธอมีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเพิ่งจะเก็บโทรศัพท์ ฟู่เถียนเถียนที่เปลี่ยนเป็นชุดพยาบาลก็เอาอาหารเช้ามาส่งให้เธอ“องค์หญิง เชิญรับประทานอาหารเพคะ” ฟู่เถียนเถียนเอ่ยที่แฝงไปด้วยความปลอบโยน
“...” สีหน้าของโจวเทียนเฉิงดูสงบ “ผมไม่ได้รับการแจ้งเตือนเรื่องนี้จากประธานฮั่วครับ”“เขาตั้งใจจะตรงไปสำนักทะเบียนเลยใช่ไหม?” เฉียวสือเนี่ยนถามอีกครั้งโจวเทียนเฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลง “ขอโทษครับคุณผู้หญิง ผมไม่รู้ถึงการตัดสินใจของประธานฮั่ว”เฉียวสือเนี่ยนเข้าใจในทันที ฮั่วเยี่ยนฉือเคยชิ
เฉียวสือเนี่ยนถาม “เมื่อวานคุณมาที่โรงพยาบาลหรือเปล่า ฮั่วเยี่ยนฉือไปหาคุณและถามเรื่องของเด็กใช่ไหม?”โม่ซิวหย่วนเอ่ยถึงเรื่องนี้ก็โมโหขึ้นมา “ฉันตั้งใจจะตามเข้าไปเพื่อเห็นแก่หน้าของเธอ แต่ฮั่วเยี่ยนฉือส่งคนมาดักรถของฉันไว้!”“ช่วงที่รอคนของฉันเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ก็ไม่รู้ว่าใครที่ไหนเผยแพร่ข่าวของพวก
เธอตัดสินใจว่าจะไม่ฟังคำพูดไร้สาระของโม่ซิวหย่วนแล้ว “โม่ซิวหย่วน คุณช่วยหาอะไรที่มันน่าเชื่อถือให้ฉันหน่อยได้ไหม อย่างเช่น ทนายความที่เก่งด้านคดีหย่าร้างน่ะ”เรื่องเมื่อคืนทำให้เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่า ตราบใดที่ไม่ได้หย่า ป๋ายอีอีก็จะไม่หยุดใส่ร้ายเธอเสียทีแม้เธอจะขุดหลุมให้ป๋ายอีอีตกลงไปเช่นกัน แต่ยา
โม่ซิวหย่วนก็ไม่น้อยหน้า รีบเตะเข้าไปที่หัวเข่าของฮั่วเยี่ยนฉือทันทีเฉียวสือเนี่ยนเห็นทั้งสองที่คุณเข้ามาฉันพุ่งใส่ และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จนคนทั้งคนตะลังงันเล็กน้อยเมื่อคืนฮั่วเยี่ยนฉือกับโม่ซิวหย่วนเพิ่งจะต่อสู้กับศัตรูด้วยกัน วันนี้กลับต่อสู้กันให้ตายไปข้างอยู่ที่นี่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองเคย
ฟู่เถียนเถียนมาถึงห้องพักผู้ป่วยและฟังเรื่องของตอนบ่าย ก็ค่อนข้างตกใจ“ฮั่วเยี่ยนฉือกับโม่ซิวหย่วนตีกันขึ้นมาแล้ว? นี่นับว่าเพื่อภรรยาถึงโกรธอย่างแสนสาหัสไหม?”“จะพาดพิงก็เปลี่ยนมั่วซั่วไม่ได้” เฉียวสือเนี่ยนมองค้อนฟู่เถียนเถียน “โม่ซิวหย่วนรับปากว่าจะช่วยฉันหาทนายความแล้ว รอสองวันนี้คุยรายละเอียดที
“ฮัลโหล?”“พี่สะใภ้” พอได้ยินเสียงเฉียวสือเนี่ยน ลู่เฉินหนานก็เอ่ยอย่างรีบร้อน “พี่ฮั่วเขาดื่มจนเมาแล้ว แถมมือยังได้รับบาดเจ็บอีก แต่เขาไม่ยอมไปพันแผล และไม่ยอมกลับด้วย พี่พอจะโน้มน้าวเขาได้ไหม?”“ผมรู้ว่าตอนนี้พี่อยู่โรงพยาบาลคงไม่สะดวกจะออกมา งั้นพี่ก็ช่วยผมบอกกับเขาในโทรศัพท์หน่อยได้ไหม?”“ขอโทษด
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั