“พี่สาว” เวลานี้ เสียงทุ้มต่ำของโจวหยางอิงก็ดังขึ้นที่ตรงประตู “พี่มาฝึกด้วยกันกับผมเถอะ ผมจะสอนวิธีที่ไม่ค่อยเหนื่อยมากให้พี่”พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินก็พยักหน้า ระดับความยากในตอนนี้หนักเกินไป เธอทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ โจวหยางอิงพาเธอมาถึงสนามฝึกที่มีกระสอบทรายแขวนอยู่“พี่สาว พี่สวมอันนี้ไว้ และต่อยกร
สีหน้าที่ไม่แยแสของฮั่วเยี่ยนฉือมองเฉียวสือเนี่ยนที่อยู่เบื้องหน้าเธอเงยหน้าเชิดอก ใบหน้าเล็กที่ประณีต และลำคอเรียวยาวกำลังเปล่งประกายโดยเฉพาะภายใต้แสงไฟและผู้ชายที่ถูกเธอปกป้องกำลังมองด้วยใบหน้าที่ซาบซึ้งใจ ดวงตาก็ส่องแสงเปล่งประกาย ทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก“ไม่ต้องพูดอย่างช
“เฉียวสือเนี่ยน ฉันไม่ได้กำลังเจรจากับเธอนะ!” ฮั่วเยี่ยนฉือใกล้จะควบคุมความโกรธไม่อยู่แล้ว “ไม่อยากถูกอุ้มขึ้นรถ งั้นก็รีบเปิดประตูรถซะ!”“...” เฉียวสือเนี่ยนดูออกว่าฮั่วเยี่ยนฉือกำลังอดทนอยู่จริง ๆ กลัวเขาจะพูดจริงทำจริง เธอจึงปลดล็อกรถอย่างเข้าใจสถานการณ์ฮั่วเยี่ยนฉือนั่งอยู่ข้างคนขับ พอเฉียวสือเ
เฉียวสือเนี่ยนยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ของหมิงเหมา ถูหย่าลี่ก็ยังมีงานอื่นที่ต้องจัดการอีกเฉียวสือเนี่ยนลุกขึ้นยืน “พี่ถู อย่ากังวลไปเลย ฉันจะคอยสนับสนุนพี่อยู่เสมอนะ เรื่องเงินทุนก็ปล่อยให้ฉันไปคิดหาวิธีจัดการ”“เดิมทีการเพิ่มลายดอกไม้ลงบนผ้าดิ้น ย่อมง่ายกว่าเพื่อนที่ช่วยเหลือกันในยามยากอยู่แล
เฉียวสือเนี่ยน “...เธอจับประเด็นเป็นไหมเนี่ย?”ฟู่เถียนเถียนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “เธอก็อย่าเป็นกังวลกับเรื่องนี้เลย คุณหมอเวินในใจมีแค่ทำงาน ไม่ว่าเพื่อนร่วมชั้นหญิงจะสวยแค่ไหนในสายเขาเธอก็เป็นแค่เมฆที่ล่องลอย ไม่งั้นเขาคงจะไม่ถูกลดระดับจากนัดบอดเป็นการแต่งงานหรอก!”เฉียวสือเนี่ยนอยากจะปลุกฟู่เถียน
น้ำปูนขาวไหลเข้าตา ทำให้ฟ่านซู่ฉินเริ่มรู้สึกเจ็บปวดจนเริ่มเกาะและทุบประตู จากนั้นก็ตะโกนด่าอย่างสุดชีวิตเฉียวสือเนี่ยนล้างมืออย่างใจเย็น และจากไปอย่างไม่เร่งรีบก่อนจะจากไป เธอยังแขวนป้าย ‘อยู่ระหว่างการปรับปรุง’ ไว้ด้านนอกด้วยจากนั้นก็โทรหาโจวหยางอิง “ดูเหมือนนายจะมีเพื่อนคนหนึ่งที่เก่งด้านคอมพิ
ใบหน้าของเฉียวสือเนี่ยนหุบยิ้มลง “ใครมารอเขาคะ ฉันลงมาดื่มน้ำ”“คุณผู้ชายโทรมาหาป้า บอกว่าวันนี้ไปทำงานต่างเมืองไม่กลับบ้านนะคะ”ป้าหวังพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “คุณผู้หญิง คุณผู้ชายกลัวว่าคุณจะเมินเขา ถึงได้โทรหาป้า ความจริงแล้วกำลังรายงานแผนการเดินทางให้คุณอยู่ค่ะ”“คุณผู้ชายเริ่มเป็นฝ่ายกลับไปนอน
ในมุมมองของโม่ซิวหย่วน จะคิดแบบนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเธอที่รถชนในครั้งก่อน หรือถูกขังอยู่ในบาร์ ฮั่วเยี่ยนฉือก็ปรากฏตัวได้ทันเวลา แถมยังแก้ไขปัญหาให้กับเธอด้วยแต่โม่ซิวหย่วนไม่รู้ ว่าที่ฮั่วเยี่ยนฉือช่วยเหลือเธอนั้นไม่ใช่เพราะมีความรู้สึกให้เธอ ก็แค่เพื่อสถานะ ‘คุณผู้หญิงฮั่ว’ ของเธอเท่านั้น
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั