เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้วปีขาลก็เลยขอตัวกลับเขาจะส่งสาริศาที่คอนโดจากนั้นก็จะไปกินเหล้ากับเพื่อนเหมือนเดิม
“อาเสือยังไม่มีแฟนจริงๆ เหรอคะ” สาริศาระหว่างนั่งรถกลับคอนโด
“อืม...ตอนนี้ยังไม่มี”
“แปลกนะคะ เอาเสือก็หน้าตาหล่อแล้วทำไมยังไม่มีแฟน”
“ยังไม่อยากมี”
“อาเสือจะใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ ไม่ได้นะยังไงก็ต้องมีแฟน”
“นี่แม่อากรอกหูอะไรมาอีกแล้วใช่ไหม”
“เปล่านะคะ” สาริศารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“แน่นะเจ้าเอย”
“คุณป้าก็แค่บอกว่าถ้าเจอคนดีๆ คนที่เหมาะสมก็พามาแนะนำให้อาเสือรู้จักบ้าง”
“ไม่ต้องคิดจะจับคู่ให้อาเลยได้ค่าจ้างมาหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่ได้จ้างเลยอยากเห็นหน้าเสือกับอาใหญ่มีแฟนจริงๆ”
“แล้วเราไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอเจ้าเอย”
“แต่ก่อนก็เคยมีค่ะแต่ตอนนี้ไม่มี”
“แสดงว่าเพิ่งอกหักมาใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ผู้ชายคนนั้นเขาโง่มากนะที่ทิ้งเจ้าเอย”
“อาเสือคิดแบบนั้นเหรอคะ ทำไมคะ”
“เจ้าเอยก็เป็นผู้หญิงที่สวยอยู่นะฐานะทางบ้านก็ดี”
“แต่มันไม่พอสำหรับผู้ชายเจ้าชู้นี่ค่ะ”
“โดนนอกใจมาเหรอ”
“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ หนูไม่อยากคิดถึงมันอีก ผู้ชายเลวๆ แบบนั้นน่ะเลิกได้ก็ดี”
“นี่ยังแค้นเขาอยู่ใช่ไหม เขาทำอะไรให้ล่ะลองเล่าให้อาฟังสิ”
“ก็เขาคบหนูด้วยแล้วก็คบเพื่อนหนูด้วย เวลาไปเที่ยวเราก็ไปกันสามคนหนูไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน พอเรียนจบและหนูอยากไปเซอร์ไพรส์เขาที่หอพัก แต่เจอเขาอยู่ในห้องกับเพื่อนสนิทของหนู มันน่าเจ็บใจมั้ยล่ะคะ”
“ผู้หญิงคนนั้นเขาสวยของเจ้าเอยหรือเปล่าล่ะ”
“ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปหนูว่าหนูสวย ขาวกว่านะคะหุ่นดีกว่าด้วย หน้าอกเธอก็แค่คัพบีเองนะ หนูตั้งคัพซีเลยนะคะอาเสือ” สาริศาพูดออกมาเธอไม่ได้คิดอะไรแต่คนฟังหันไปมองหน้าอกแล้วกลับรู้สึกใจเต้นแรง
วันนี้เธอสวมเสื้อธรรมดาไม่ได้รับรูปเหมือนวันก่อนแต่เขาก็จินตนาการไปไกลถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้น ยิ่งได้อยู่ใกล้สาริศาเท่าไหร่ สายตาของเขาก็มักจะมองเธอบ่อยขึ้นเธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นตรงสเปกเขามาก ผิวขาวขาเนียนสวยน่ารักขนาดนี้มันทำให้ผู้ชายอย่างปีขาลจะคิดจินตนาการเวลาเธอเปลือยเปล่าไม่ได้เลย เขาต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้หันไปมองด้านนั้นบ่อยนักเพราะกลัวใจตัวเองเหลือเกินกลัวว่าจะทำอะไรกับหลานสาวคนนี้ แม่กับพ่อของเขาต้องเอาตายแน่ๆ ถ้าหากไปแตะต้องสาริศาขึ้นมา
“อาเสือคะแถวคอนโดเรามีที่เที่ยวเยอะแยะเลย แล้วเมื่อไหร่อาเสือจะพาหนูไปเที่ยวกลางคืนสักทีล่ะคะ”
“เอาไว้ช่วงไหนอานัดเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มได้แล้วอาจจะพาเจ้าเอยไปก็แล้วกันนะ”
“เพื่อนที่เที่ยวของอาเสือมีผู้หญิงด้วยเหรอคะหนูคิดว่ามีแต่ผู้ชาย”
“ทั้งผู้ชายและผู้หญิงแล้วแต่ผู้หญิงนานๆ ครั้งถึงจะนัดมาเที่ยวกันได้”
“ไม่เห็นต้องรอเพื่อนผู้หญิงเลยค่ะ หนูไปกับอาเสือก็ได้”
“เพื่อนอามีแต่ผู้ชายคงไม่สนุกเท่า รอก่อนคงไม่นานหรอกเดี๋ยวอาจะนัดเพื่อนๆ ให้ตกลงไหม แล้วอย่ารีบร้อนหนีไปเที่ยวคนเดียวล่ะ”
“หนูไม่หนีไปเที่ยวคนเดียวหรอกค่ะเพราะที่นี่หนูไม่รู้จักสถานที่เที่ยวเลยถ้าเป็นเชียงใหม่ก็ไม่แน่”
“ตอนเรียนแอบนี้เที่ยวบ่อยเหรอแล้วกินเหล้าด้วยหรือเปล่า”
“แล้วไม่ได้หนีเลยค่ะอยากไปก็ไป
“กินเหล้าเก่งไหม”
“ก็พอได้อยู่นะคะหนูชอบกินค็อกเทลมากกว่ามันทั้งอร่อยและหวานแต่ถ้าเป็นเหล้าเพียวๆ แบบที่ผู้ชายชอบกินกันหนูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะรสชาติไม่ได้เรื่องเลยไม่รู้พวกผู้ชายเขากินกันไปได้ยังไงแล้วเอยซื้ออะไรกินเหล้าเก่งไหม”
“ ไม่ถึงกับเก่งหรอกแต่ก็กินได้เรื่อยๆ” ปีขาลถ่อมตัวทั้งที่ตัวเองนั้นเรียกได้ว่าคอทองแดงเลยทีเดียว แต่ทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวก็ไม่ดื่มหนักเหมือนช่วงที่เรียน
“ร้านภาพนั้นคนเยอะจังเลยนะคะอาเสือ ผู้หญิงก็เข้าไปเที่ยวเยอะด้วย”
“ร้านนั้นมันเป็นบาร์โฮสต์”
“บาร์โฮสต์เหรอคะ หนูเคยได้ยินนะแต่ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยอาเสือพาไปเที่ยวหน่อยได้ไหมล่ะ”
“รอให้ร้านเพื่อนอาเขาเปิดโซนบาร์โฮสต์ก่อนนะแล้วอาจะให้ไปเที่ยว”
“สัญญานะคะอาเสือ” สาริศาเอื้อมมือไปจับมือของปีขาลที่กำลังจับพวงมาลัยอยู่แล้วเกี่ยวนิ้วก้อยเป็นการทำสัญญา
“เจ้าเอยทำแบบนี้เดี๋ยวรถก็ได้ชนกันพอดีหรอกนะ”
“หนูขอโทษก็หนูอยากทำสัญญากับอาเสือนี่คะ”
เมื่อเกี่ยวก้อยเสร็จแล้วสาริศาก็รีบดึงมือกลับดึงมือกลับ เธอรู้สึกแปลกๆ เวลาที่จับมือปีขาล ไม่เหมือนเวลาจับมือกับปภังกรเลยทั้งที่เขาสองคนก็เป็นคุณอาของเธอเหมือนกัน
“ถึงคอนโดแล้วขึ้นไปข้างบนเองนะ” เสียงของปีขาลทำให้สาริศาถึงกับสะดุ้ง
“ใจลอยไปถึงไหนหรือคิดจะไปเที่ยวบาร์โฮสต์”
“เปล่าค่ะ อาเสือจะไปไหนคะ”
“อามีนัดคุยงานกับเพื่อนนิดหน่อย”
“คุยงานหรือเที่ยวคะ”
“ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละเจ้าเอยรีบขึ้นไปนอนพักผ่อนเถอะ”
“อาเสือจะกลับดึกไหม หนูได้ยินแล้วเสือชอบออกไปเที่ยวกลางคืนแต่ไม่รู้ว่ากลับกี่โมง”
“ส่วนใหญ่ก็ประมาณตีสองตีสามนั่นแหละ”
“อาเสือกลับดึกแบบนี้แล้วตอนเช้ายังตื่นมาส่งหนูอีกเกรงใจแย่เลยค่ะ อาทิตย์หน้าหนูไปทำงานคนเดียวก็ได้”
“แน่ใจนะว่าไปได้”
“แน่ใจค่ะหนูศึกษาเส้นทางกับลูกเกดมาอย่างดีแล้วเอาเสือจะได้ไม่ต้องตื่นเช้า”
“ถ้าคิดว่าตัวเองไปไม่ถูกก็นั่งแท็กซี่ไปสิสะดวกดี”
“ค่าแท็กซี่แพงจะตายเงินเดือนหนูไม่น่าจะเหลือนะ หนูว่าจะไปรถไฟฟ้าจะออกเช้ากว่าเดิมซักครึ่งชั่วโมงดีไหม”
“ก็ดีนะ อาไม่ได้ขี้เกียจไปส่งเจ้าเอยหรอกนะแต่อาก็อยากให้เจ้าเอยฝึกเดินทางด้วยตัวเองเพราะบางครั้งอาก็ไม่ได้อยู่กรุงเทพตลอด”
“อาเสือจะไปไหนคะ”
“อาก็ต้องไปดูร้านสาขาต่างๆ ด้วยไง ถ้าไปตรงกับวันหยุดหนูไปเที่ยวด้วยได้ไหม”
“อืม..อาจะพยายามให้มันตรงกับวันหยุดก็แล้วกันนะ อยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ”
“อาเสือมีสาขาอยู่ที่ไหนบ้างก็มีตามเมืองใหญ่ๆ ถ้าช่วงไหนอาจะไปตรวจงานอาจะบอกก็แล้วกัน แล้วตอนเย็นจะให้อาไปรับไหมหรือจะนั่งรถกลับเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะหนูเลิกงานแค่ห้าโมงเองค่ะ หนูว่ากลับเองน่าจะดีกว่า แต่เดือนหน้าหนูอาจจะต้องให้อาเสือไปรับบางวันได้ไหมคะ เพราะหนูเลิกสองทุ่ม”
“อยากให้อาไปรับวันไหนก็โทรบอกล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง เดี๋ยวอาจจะให้เบอร์โทรเลขาที่บริษัทไว้ก็แล้วกันนะเผื่อโทรไปอาไม่รับหรือติดประชุมอยู่จะได้ให้คนอื่นมารับแทน”
“ได้ค่ะขอบคุณค่ะอาเสือ” สาริศายกมือขอบคุณก่อนจะเปิดประตูรถและกลับเข้าคอนโดมิเนียม
ขณะที่ชายปีขาลก็ขับออกมาปลายทางของเขาก็คือผับที่ผ่านเมื่อครู่ซึ่งนัดเพื่อนออกมาดื่มไม่ได้คุยงานอย่างที่บอกกับสาริศา
วันนี้เป็นวันหยุดของ สาริศาหญิงสาวตื่นนอนค่อนข้างสายกว่าทุกวัน เธอเห็นว่าด้านล่างมีฟิตเนสจึงลงไปออกกำลังกายสักหน่อยเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยได้ออกกำลังกายเลยหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วสาริศาก็กลับขึ้นมาบนห้องเธอ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องของปีขาล ก็รู้สึกแปลกใจเพราะเพิ่งคุยกับปีขาลอยู่เมื่อวานเขาบอกว่าไม่มีแฟนแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครสาริศาเก็บความสงสัยไว้กับตัวเองได้ไม่นานหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและลงไปหาข้าวกินด้านล่างคอนโดแล้วก็ขึ้นมากดออดเรียกปีขาลเพราะอยากจะถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เพราะเธอรับปากกับมารดาของเขาแล้วว่าจะเคยหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้ชายหนุ่มปลดล็อกจากด้านในหญิงสาวก็รีบเปิดเข้าไปตอนนี้ปีขาลยังอยู่ในชุดนอนใบหน้าของเขาเหมือนคนเพิ่งตื่น“อาเสือเพิ่งตื่นเหรอคะ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ”“เที่ยงเราไงวันนี้วันหยุดนี่แล้วเจ้าเอยมาห้องอาทำไม ไม่พักผ่อนเหรอ”“หนูมีเรื่องจะถามอาเสือนิดหน่อย” หญิงสาวนั่งบนโซฟาเอามือสองข้างทับกันบนพนักแล้วเกยคางไว้บนนั้นเพื่อหันหน้าคุยกับปีขาลที่ยืนพิงประตูห้องนอนด้วยสีหน้าบูดเพราะถูกรบกวนการนอนในเช้าวันหยุด“เรื่องมันด่วนมากถึงขนาดมาปลุกเ
ปีขาลชายหนุ่มวัย 35 กำลังเซ็งสุดขีดเมื่อมารดาโทรมาบอกให้เขารออยู่ที่ห้องทั้งที่เย็นนี้เขานัดเพื่อนเอาไว้แล้วว่าจะไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนเขาหวังว่าธุระที่มารดาจะมาพูดกับเขาจะเสร็จก่อนที่จะถึงเวลาที่นัดไว้กับเพื่อน นานๆ ปีขาลกับเพื่อนถึงจะมีเวลาว่างตรงกันเขาก็เลยอยากจะสนุกอย่างเต็มที่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าธุระที่มารดาพูดถึงนั้นมันจะสำคัญอะไรมากมายจนทำให้เธอต้องมาหาเขาถึงคอนโดก่อนถึงวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่จะกลับไปทานข้าวที่บ้านกับครอบครัวเป็นประจำ ดูท่าทางท่านจะใจร้อนเอามากๆระหว่างรอให้มารดามาหาปีขาลก็เก็บนิตยสารที่กองอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมหน้าโซฟาแล้วจับมันยัดไว้ในชั้นวางหนังสืออย่างลวกๆเพราะถ้ามารดามาเห็นก็คงจะบ่นเขาแน่ๆ ว่าทำห้องรกทั้งที่เขาเองก็มีแม่บ้านมาทำงานที่นี่วันเว้นวันอยู่แล้วแต่ไม่ว่าจะทำความสะอาดหรือเก็บกวาดยังไงห้องของเขามันก็กลับมารกเหมือนเดิมทุกทีเสียงออดที่หน้าประตูทำให้ปีขาลรีบลุกขึ้นไปเปิดอย่างรวดเร็ว“สวัสดีครับ แม่คิดถึงผมมากเลยต้องมาหาใช่ไหมครับ” ปีขาลกอดมารดาก่อนจะพาเธอมานั่งที่โซฟาและเปิดตู้เย็นหยิบน้ำทับทิมของโปรดมาให้“น้ำทับทิมครับแม่”“ขอบใจจ้ะ เสือยังรู้ใจแม่อยู่
“แม่แน่ใจนะครับว่าเจ้าเอยจะมาวันนี้จริงๆ ”“แน่ใจสิเสื้อ”“แล้วทำไมเธอยังไม่ออกมาสักทีล่ะครับ ผมว่ามันเลยเวลาแล้วนะ” ปีขาลเริ่มหงุดหงิดเพราะเขาไม่ชอบการรอคอย“น้องเขาอาจจะเข้าห้องน้ำหรือติดขัดตรงไหนก็ได้เสือ ก็ใจเย็นๆ หน่อยสิวันนี้ไม่มีธุระไปไหนไม่ใช่เหรอ”“ไม่มีธุระไปไหนหรอกครับแม่ แต่ผมคิดว่าบางทีเธออาจจะไม่มาเที่ยวบินเที่ยวนี้ก็ได้”“มาเที่ยวนี้สิ ก่อนขึ้นเครื่องเจ้าเอยยังโทรหาแม่อยู่เลย นั่นไงเจ้าเอยมาแล้ว” คุณนิตตราโบกมือให้กับหญิงสาวที่กำลังเดินลากกระเป๋าออกมาปีขาลมองตามไปแล้วเขาก็นิ่งเพราะไม่คิดไม่คิดมาก่อนว่าเด็กน้อยที่เคยเดินตามเขาต้อยๆ เมื่อหลายปีก่อนตอนนี้เธอโตเป็นสาวสะพรั่งแบบนี้ หุ่นทรงนาฬิกาทราย ผิวเธอขาวดูมีออร่า ใบหน้าสวย ดวงตากลมโตเมื่อเธอยิ้มก็เห็นลักยิ้มที่ข้างแก้มซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนหรือเพราะตอนเด็กเธอจะอ้วนจนมองไม่ชัดหรือเพราะเขาไม่เคยสังเกตเองกันแน่ เธอในวันนี้แตกต่างจากเด็กน้อยราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน“สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะอาเสือ” หญิงสาวกล่าวทักทายทำให้ปีขาลยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“คุณป้าสบายดีไหมคะ”“สบายดีจ้ะ แล้วแม่หนูเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ยั
“หนูนึกว่าวันนี้ป้าจะไปซื้อของกับหนูนะคะ”“เจ้าเอยไปกับอาเสือเถอะลูก ป้าอยู่มากแล้วเดินมากก็ปวดเข่าเดี๋ยวคนขับรถของป้าก็มารับแล้ว”“ขอบคุณค่ะคุณป้า แล้วมาค้างกับหนูอีกนะคะ”“แล้วป้าจะหาโอกาสมาก็แล้วกันนะ อย่าลืมนะเจ้าเอยมีอะไรก็บอกอาเสืออยากได้อะไรก็ให้อาเขาพาไปซื้อ เย็นวันเสาร์อาเสือเขาจะเข้าไปกินข้าวที่บ้าน หนูก็ไปกับเขาด้วยนะ”“หมายถึงไปกินข้าวที่บ้านคุณป้าเหรอคะ”“ใช่จ้ะ เจ้าเอยก็เคยไปแล้วจำได้ไหม”“มันนานมากๆ แล้วค่ะหนูไม่แน่ใจเท่าไหร่” สาริศาเคยไปบ้านหลังนั้นนานมากแล้ว น่าจะเป็นตอนที่ตามมารดาลงมาทำธุระ“อีกหน่อยก็ได้ไปบ่อยๆ เองแหละเพราะอาเสือเขาต้องไปกินข้าวกับครอบครัวทุกเย็นวันเสาร์”“ขอบคุณนะคะคุณป้าที่มานอนค้างกับหนูแล้วยังช่วยหนูจัดของอีก” หญิงสาวกอดเอวผู้สูงวัยอย่างประจบ เพื่อนของมารดาก็เปรียบเสมือนมารดาของเธออีกคน“ป้าสัญญากับแม่ของหนูแล้วว่าจะดูแลหนูอย่างดี หนูก็คือเป็นลูกสาวของป้าอีกคน คนขับรถของป้ามาถึงแล้วล่ะเจ้าเอย”“หนูลงไปส่งนะคะ”“ไม่เป็นไรจ้ะ หนูเตรียมตัวเถอะเดี๋ยวก็ถึงเวลานัดแล้วอาเขาเป็นคนตรงเวลา หนูนัดอาเสือทำอะไรหรือไปที่ไหนมีเรื่องเดียวที่ต้องระวังเรื่องตรงต่
คำว่ามาซื้อของใช้ส่วนตัวก็คือของใช้ส่วนตัวจริงๆ เพราะตอนนี้ในรถเข็นที่ปีขาลกำลังเข็นอยู่นั้นมีแต่ของใช้ผู้หญิงเต็มไปหมด ที่ผ่านมาปีขาลไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ถ้าไม่เพราะรับปากมารดาไปแล้วเขาคงทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้วไปนั่งดื่มกาแฟรอแน่ๆปีขาลเริ่มมองเห็นความวุ่นวายและความไม่สงบสุขที่รออยู่ตรงหน้า“หนูซื้อของหนูครบแล้วค่ะ อาเสืออยากซื้ออะไรไหมหนูช่วยซื้อก็ได้นะคะ จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณแม่บ้าน”“ไม่เป็นไรแค่อาเดินเข็นรถเข็นให้เอยอาก็ปวดขาจะแย่แล้ว”“อาเสือยังไม่แก่ซะหน่อยจะมาบ่นว่าปวดขาได้ยังไง”“ก็เจ้าเอยเดินซื้อของเกือบ 2 ชั่วโมงเป็นใครก็ต้องปวดขาไหมซื้อเสร็จแล้วก็รีบกลับกันเลยนะ”“หนูเพิ่งได้ของใช้ส่วนตัวเองนะคะ ยังไม่ได้อย่างอื่นเลย”“ก็เรามาซื้อให้ของใช้ส่วนตัว”“แต่หนูอยากได้ลิปสติกเพิ่ม อาเสือไปเป็นเพื่อนหนูซื้อหน่อยได้ไหม ถ้าอยากซื้อก็รีบไปจ่ายเงินค่าของพวกนี้”“ได้ค่ะ” สาริศารีบช่วยเขาเอาของออกจากรถเข็น เมื่อชำระเงินเสร็จก็มองถุงสามใบใหญ่“เอาของไปเก็บที่รถก่อนเดี๋ยวค่อยเข้ามาซื้อลิปสติก” เขาเห็นแล้วว่าถ้าถือของพวกนี้ไปคงได้แขนหลุดกันบ้าง“แค่เอาขอไปเก็บใช่ไหมคะ ไม่ใช่ว่าอาเสือจะกลับเลย
วันนี้เป็นวันทำงานอย่างจริงจังวันแรกหลังจากที่สองวันก่อนหน้านี้สาริศาเข้าไปรายงานตัวกับหัวหน้าสำนักงานหอสมุดมาแล้วเธอก็พอจะทราบเครือข่ายงานคร่าวๆ ว่าเธอต้องทำงานที่หอสมุดเป็นหลักแต่ก็อาจจะมีหมุนเวียนไปตามห้องสมุดคณะต่างๆ ถ้าหากว่าช่วงนั้นบรรณารักษ์ประจำคณะไม่อยู่สาริศาค่อนข้างตื่นเต้นหญิงสาวแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เจ็ดนาฬิกาและรอให้ถึงเวลาแปดนาฬิกาเพราะเธอนัดกับปีขาลไว้พอถึงเวลาแปดนาฬิกาตรงหญิงสาวเปิดประตูออกมากำลังลังเลว่าจะกดออดเรียกปีขาลดีหรือเปล่าแต่มือเล็กๆ ที่กำลังจะเอื้อมก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเขาเปิดประตู“ทำไมอาเสือยังใส่ชุดนี้อยู่คะ หนูต้องรีบไปทำงานแล้วนะ” หญิงสาวโวยวายเมื่อเห็นปีขาลสวมกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนพร้อมจะไปทำงานเลย“อาก็กำลังจะไปส่งเจ้าเอยอยู่นี่ไง ถ้าไม่อยากสายก็เดินตามมา” ปีขาลก้าวเท้ายาวๆ เดินนำหน้าสาริศาวิ่งตาม“แล้วทำไมเอาเสือยังใส่ชุดนี้ล่ะคะ”“อาไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทแต่เช้าหรือเข้าบริษัททุกวันหรอกนะเจ้าเอย”“หนูลืมไปค่ะว่าอาเสือเป็นเจ้าของบริษัท แล้วแบบนี้ลูกน้องจะไม่ว่าอะไรเหรอคะ เจ้านายไปทำงานสาย” หญิงสาวถามขณะที่เขากำลังกดปิดประ
รุ่นพี่พาหญิงสาวไปยังห้องประชุมเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากห้องพักเบรก ตอนนี้พี่หญิงหรือพี่ธนพรหัวหน้าบรรณารักษ์และมีผู้หญิงและผู้ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้วสาริศายิ้มทักทายจากนั้นพี่หญิงก็แนะนำเธอให้รู้จักกับพนักงานคนใหม่ชื่อพรปวีณ์หรือลูกเกดซึ่งเพิ่งจบระดับชั้นปวส.มา ก็เท่ากับว่าเธอเป็นน้องของตนเองสองปี ส่วนอีกคนเป็นพนักงานผู้ชายชื่อธนภูมิหรือภูมิซึ่งเป็นน้องชายได้แท้ๆ ของพี่ธนพร เขาจะมาทำงานในตำแหน่งพนักงานหอสมุดหน้าที่หลักๆ ก็คือจัดเรียงหนังสือและเก็บหนังสือที่นักศึกษาอ่านแล้วเข้าที่“เอาล่ะสามคนทำความรู้จักกันนะ พี่ให้เวลาคุยกันสิบนาทีจากนั้นก็ไปเริ่มงานของตนเอง“พี่ชื่อสาริศาเรียกว่าเจ้าเอยหรือเอยก็ได้” สาริศาแนะนำตัวเป็นคนแรก“หนูชื่อพรปวีณ์ค่ะเรียกว่าลูกเกดหรือเกดก็ได้ค่ะ”“ผมชื่อธนภูมิหรือภูมิก็ได้ครับ”“ลูกเกดจบแล้วก็มาทำงานที่นี่เลยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใช่ค่ะพี่เอยเกศจบแล้วก็มาทำงานที่นี่เป็นที่แรก”“เหมือนกันเลยพี่ก็เพิ่งเริ่มงานที่นี่ที่แรกเหมือนกันแล้วภูมิล่ะ”สาริศาหันไปทำชายหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะอายุเท่ากับเธอ“ผมเรียนรามอยู่ครับ”“เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหรอ”“ครับปีนี้ก็จะจบแล้ว มีเรียนอีกไม
“ดูท่าทางจะชอบอ่านมากๆ ที่บ้านคงมีหนังสือมากใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ที่บ้านหนูมีหนังสือมากแต่มาอยู่นี่หนูไม่ได้เอามาสักเล่มเลย ห้องอาเสือมีหนังสือไหมคะ”“ห้องอามีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจแล้วก็หนังสือเกี่ยวกับอุปกรณ์การออกกำลังกายกับพวกเรื่องกีฬา เจ้าเอยคงไม่สนใจหรอกมั้ง”“สนใจสินค้าขอให้เป็นหนังสือหนูอ่านได้หมดแหละ ขอเข้าไปอ่านหนังสือในห้องอาเสือได้ไหม”“อาว่าไปเลือกเล่ม ที่ชอบเราเอากลับมาอ่านที่ห้องดีกว่านะ”“ทำไมล่ะห้องอาเสือมีอะไรคะทำไมหนูจะอ่านที่นั่นไม่ได้”“อาชอบดูหนังและเปิดเสียงดังถ้าเจ้าเอยคิดว่าจะนั่งอ่านได้แต่อาก็ไม่ว่าอะไร”“อาเสือชอบดูหนังประเภทไหนคะ”“ส่วนใหญ่อาจจะชอบดูหนังเก่า ของต่างประเทศน่ะจะได้ฝึกภาษาไปด้วย”“หนูก็ชอบดูหนังนะ”“เมื่อกี้บอกชอบอ่านหนังสือ แล้วตอนนี้ทำไมชอบดูหนัง”“ก็หนังส่วนใหญ่มันก็สร้างมาจากหนังสือ หนูอ่านหนังสือแล้วก็อยากจะรู้ว่าคนที่เขาเอามาทำหนังเขาตีความจากนิยายได้ดีมากแค่ไหน หนูไปดูด้วยได้ไหม”“ตกลงจะเข้าไปในห้องอาให้ได้เลยใช่ไหม”“แล้วมันได้ไหมล่ะคะ”“ถ้าอาห้ามเจ้าเอยจะไปฟ้องแม่ไหมล่ะ”“เรื่องแค่นี้หนูไม่เอาเป็นไฟฟ้องคุณป้าหรอกค่ะ อาเสือสบายใจได้แต่ถ้าอ
วันนี้เป็นวันหยุดของ สาริศาหญิงสาวตื่นนอนค่อนข้างสายกว่าทุกวัน เธอเห็นว่าด้านล่างมีฟิตเนสจึงลงไปออกกำลังกายสักหน่อยเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยได้ออกกำลังกายเลยหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วสาริศาก็กลับขึ้นมาบนห้องเธอ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องของปีขาล ก็รู้สึกแปลกใจเพราะเพิ่งคุยกับปีขาลอยู่เมื่อวานเขาบอกว่าไม่มีแฟนแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครสาริศาเก็บความสงสัยไว้กับตัวเองได้ไม่นานหลังจากอาบน้ำแต่งตัวและลงไปหาข้าวกินด้านล่างคอนโดแล้วก็ขึ้นมากดออดเรียกปีขาลเพราะอยากจะถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เพราะเธอรับปากกับมารดาของเขาแล้วว่าจะเคยหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้ชายหนุ่มปลดล็อกจากด้านในหญิงสาวก็รีบเปิดเข้าไปตอนนี้ปีขาลยังอยู่ในชุดนอนใบหน้าของเขาเหมือนคนเพิ่งตื่น“อาเสือเพิ่งตื่นเหรอคะ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ”“เที่ยงเราไงวันนี้วันหยุดนี่แล้วเจ้าเอยมาห้องอาทำไม ไม่พักผ่อนเหรอ”“หนูมีเรื่องจะถามอาเสือนิดหน่อย” หญิงสาวนั่งบนโซฟาเอามือสองข้างทับกันบนพนักแล้วเกยคางไว้บนนั้นเพื่อหันหน้าคุยกับปีขาลที่ยืนพิงประตูห้องนอนด้วยสีหน้าบูดเพราะถูกรบกวนการนอนในเช้าวันหยุด“เรื่องมันด่วนมากถึงขนาดมาปลุกเ
เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้วปีขาลก็เลยขอตัวกลับเขาจะส่งสาริศาที่คอนโดจากนั้นก็จะไปกินเหล้ากับเพื่อนเหมือนเดิม“อาเสือยังไม่มีแฟนจริงๆ เหรอคะ” สาริศาระหว่างนั่งรถกลับคอนโด“อืม...ตอนนี้ยังไม่มี”“แปลกนะคะ เอาเสือก็หน้าตาหล่อแล้วทำไมยังไม่มีแฟน”“ยังไม่อยากมี”“อาเสือจะใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ ไม่ได้นะยังไงก็ต้องมีแฟน”“นี่แม่อากรอกหูอะไรมาอีกแล้วใช่ไหม”“เปล่านะคะ” สาริศารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว“แน่นะเจ้าเอย”“คุณป้าก็แค่บอกว่าถ้าเจอคนดีๆ คนที่เหมาะสมก็พามาแนะนำให้อาเสือรู้จักบ้าง”“ไม่ต้องคิดจะจับคู่ให้อาเลยได้ค่าจ้างมาหรือเปล่าเนี่ย”“ไม่ได้จ้างเลยอยากเห็นหน้าเสือกับอาใหญ่มีแฟนจริงๆ”“แล้วเราไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอเจ้าเอย”“แต่ก่อนก็เคยมีค่ะแต่ตอนนี้ไม่มี”“แสดงว่าเพิ่งอกหักมาใช่ไหม”“ค่ะ”“ผู้ชายคนนั้นเขาโง่มากนะที่ทิ้งเจ้าเอย”“อาเสือคิดแบบนั้นเหรอคะ ทำไมคะ”“เจ้าเอยก็เป็นผู้หญิงที่สวยอยู่นะฐานะทางบ้านก็ดี”“แต่มันไม่พอสำหรับผู้ชายเจ้าชู้นี่ค่ะ”“โดนนอกใจมาเหรอ”“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ หนูไม่อยากคิดถึงมันอีก ผู้ชายเลวๆ แบบนั้นน่ะเลิกได้ก็ดี”“นี่ยังแค้นเขาอยู่ใช่ไหม เขาทำอะไรให้ล่ะลองเล่
เย็นวันเสาร์สาริศามาทานอาหารที่บ้านของปีขาลตามคำชวนของป้านิตตรา เธอรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาบ้านหลังนี้อีกครั้งหลังจากเคยมาเมื่อหลายปีก่อน“เจ้าเอยสวยขึ้นมาก นี่ถ้าอาไปเจอที่อื่นคงจะจำไม่ได้แน่ๆ”“ขอบคุณค่ะอาใหญ่ แต่ถ้าหนูเจออาใหญ่ที่อื่นหนูก็จำอาใหญ่ได้ค่ะ อาใหญ่หน้าตาไม่เปลี่ยน” หญิงสาวเอ่ยชมใหญ่หรือปภังกรพี่ชายของปีขาลอย่างประจบเธอ และอาใหญ่เคยเจอกันครั้งสุดท้ายก็น่าจะประมาณห้าปีที่แล้วตอนนั้นเขาไปธุระที่เชียงใหม่และแวะไปเยี่ยมเธอกับบิดามารดาที่สวนส้ม“อาจะไม่เปลี่ยนได้ยังไงล่ะ เจ้าเอยโตขึ้นอาก็ต้องแก่ขึ้น”“แต่หนูว่าอาใหญ่ยังหล่ออยู่เลยนะคะ ดูเหมือนคนอายุไม่ถึงสามสิบเลยค่ะ”“ช่างประจบจริงๆ เลยนะเจ้าเอย”“หนูพุดความจริงค่ะอาใหญ่ อาใหญ่มีแฟนหรือยังคะเจ้าเอย”“ถามได้ตรงประเด็นมากเลยจ้ะ ป้าก็อยากจะถามเหมือนกันว่าอาใหญ่ของเจ้าเอยมีแฟนหรือยัง”สาริศาไม่ได้อยากถามคำถามนี้หรอกแต่ก่อนมาที่นี่มารดาของเขาทีไปหาและบอกให้เธอช่วยถามให้หน่อย เนื่องจากตนเองเคยถามแล้วลูกชายบ่ายเบี่ยงมาตลอดดเลยต้องใช้ตัวช่วยอย่างสาริศา“ทำไมอาจะต้องมีแฟนด้วยล่ะเจ้าเอย”“ก็เอาใหญ่ทั้งหล่อทั้งรวยหุ่นก็ดีแบบนี้หนูว่าต้อง
“ดูท่าทางจะชอบอ่านมากๆ ที่บ้านคงมีหนังสือมากใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ที่บ้านหนูมีหนังสือมากแต่มาอยู่นี่หนูไม่ได้เอามาสักเล่มเลย ห้องอาเสือมีหนังสือไหมคะ”“ห้องอามีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจแล้วก็หนังสือเกี่ยวกับอุปกรณ์การออกกำลังกายกับพวกเรื่องกีฬา เจ้าเอยคงไม่สนใจหรอกมั้ง”“สนใจสินค้าขอให้เป็นหนังสือหนูอ่านได้หมดแหละ ขอเข้าไปอ่านหนังสือในห้องอาเสือได้ไหม”“อาว่าไปเลือกเล่ม ที่ชอบเราเอากลับมาอ่านที่ห้องดีกว่านะ”“ทำไมล่ะห้องอาเสือมีอะไรคะทำไมหนูจะอ่านที่นั่นไม่ได้”“อาชอบดูหนังและเปิดเสียงดังถ้าเจ้าเอยคิดว่าจะนั่งอ่านได้แต่อาก็ไม่ว่าอะไร”“อาเสือชอบดูหนังประเภทไหนคะ”“ส่วนใหญ่อาจจะชอบดูหนังเก่า ของต่างประเทศน่ะจะได้ฝึกภาษาไปด้วย”“หนูก็ชอบดูหนังนะ”“เมื่อกี้บอกชอบอ่านหนังสือ แล้วตอนนี้ทำไมชอบดูหนัง”“ก็หนังส่วนใหญ่มันก็สร้างมาจากหนังสือ หนูอ่านหนังสือแล้วก็อยากจะรู้ว่าคนที่เขาเอามาทำหนังเขาตีความจากนิยายได้ดีมากแค่ไหน หนูไปดูด้วยได้ไหม”“ตกลงจะเข้าไปในห้องอาให้ได้เลยใช่ไหม”“แล้วมันได้ไหมล่ะคะ”“ถ้าอาห้ามเจ้าเอยจะไปฟ้องแม่ไหมล่ะ”“เรื่องแค่นี้หนูไม่เอาเป็นไฟฟ้องคุณป้าหรอกค่ะ อาเสือสบายใจได้แต่ถ้าอ
รุ่นพี่พาหญิงสาวไปยังห้องประชุมเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากห้องพักเบรก ตอนนี้พี่หญิงหรือพี่ธนพรหัวหน้าบรรณารักษ์และมีผู้หญิงและผู้ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้วสาริศายิ้มทักทายจากนั้นพี่หญิงก็แนะนำเธอให้รู้จักกับพนักงานคนใหม่ชื่อพรปวีณ์หรือลูกเกดซึ่งเพิ่งจบระดับชั้นปวส.มา ก็เท่ากับว่าเธอเป็นน้องของตนเองสองปี ส่วนอีกคนเป็นพนักงานผู้ชายชื่อธนภูมิหรือภูมิซึ่งเป็นน้องชายได้แท้ๆ ของพี่ธนพร เขาจะมาทำงานในตำแหน่งพนักงานหอสมุดหน้าที่หลักๆ ก็คือจัดเรียงหนังสือและเก็บหนังสือที่นักศึกษาอ่านแล้วเข้าที่“เอาล่ะสามคนทำความรู้จักกันนะ พี่ให้เวลาคุยกันสิบนาทีจากนั้นก็ไปเริ่มงานของตนเอง“พี่ชื่อสาริศาเรียกว่าเจ้าเอยหรือเอยก็ได้” สาริศาแนะนำตัวเป็นคนแรก“หนูชื่อพรปวีณ์ค่ะเรียกว่าลูกเกดหรือเกดก็ได้ค่ะ”“ผมชื่อธนภูมิหรือภูมิก็ได้ครับ”“ลูกเกดจบแล้วก็มาทำงานที่นี่เลยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใช่ค่ะพี่เอยเกศจบแล้วก็มาทำงานที่นี่เป็นที่แรก”“เหมือนกันเลยพี่ก็เพิ่งเริ่มงานที่นี่ที่แรกเหมือนกันแล้วภูมิล่ะ”สาริศาหันไปทำชายหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะอายุเท่ากับเธอ“ผมเรียนรามอยู่ครับ”“เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหรอ”“ครับปีนี้ก็จะจบแล้ว มีเรียนอีกไม
วันนี้เป็นวันทำงานอย่างจริงจังวันแรกหลังจากที่สองวันก่อนหน้านี้สาริศาเข้าไปรายงานตัวกับหัวหน้าสำนักงานหอสมุดมาแล้วเธอก็พอจะทราบเครือข่ายงานคร่าวๆ ว่าเธอต้องทำงานที่หอสมุดเป็นหลักแต่ก็อาจจะมีหมุนเวียนไปตามห้องสมุดคณะต่างๆ ถ้าหากว่าช่วงนั้นบรรณารักษ์ประจำคณะไม่อยู่สาริศาค่อนข้างตื่นเต้นหญิงสาวแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เจ็ดนาฬิกาและรอให้ถึงเวลาแปดนาฬิกาเพราะเธอนัดกับปีขาลไว้พอถึงเวลาแปดนาฬิกาตรงหญิงสาวเปิดประตูออกมากำลังลังเลว่าจะกดออดเรียกปีขาลดีหรือเปล่าแต่มือเล็กๆ ที่กำลังจะเอื้อมก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเขาเปิดประตู“ทำไมอาเสือยังใส่ชุดนี้อยู่คะ หนูต้องรีบไปทำงานแล้วนะ” หญิงสาวโวยวายเมื่อเห็นปีขาลสวมกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนพร้อมจะไปทำงานเลย“อาก็กำลังจะไปส่งเจ้าเอยอยู่นี่ไง ถ้าไม่อยากสายก็เดินตามมา” ปีขาลก้าวเท้ายาวๆ เดินนำหน้าสาริศาวิ่งตาม“แล้วทำไมเอาเสือยังใส่ชุดนี้ล่ะคะ”“อาไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทแต่เช้าหรือเข้าบริษัททุกวันหรอกนะเจ้าเอย”“หนูลืมไปค่ะว่าอาเสือเป็นเจ้าของบริษัท แล้วแบบนี้ลูกน้องจะไม่ว่าอะไรเหรอคะ เจ้านายไปทำงานสาย” หญิงสาวถามขณะที่เขากำลังกดปิดประ
คำว่ามาซื้อของใช้ส่วนตัวก็คือของใช้ส่วนตัวจริงๆ เพราะตอนนี้ในรถเข็นที่ปีขาลกำลังเข็นอยู่นั้นมีแต่ของใช้ผู้หญิงเต็มไปหมด ที่ผ่านมาปีขาลไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ถ้าไม่เพราะรับปากมารดาไปแล้วเขาคงทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้วไปนั่งดื่มกาแฟรอแน่ๆปีขาลเริ่มมองเห็นความวุ่นวายและความไม่สงบสุขที่รออยู่ตรงหน้า“หนูซื้อของหนูครบแล้วค่ะ อาเสืออยากซื้ออะไรไหมหนูช่วยซื้อก็ได้นะคะ จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณแม่บ้าน”“ไม่เป็นไรแค่อาเดินเข็นรถเข็นให้เอยอาก็ปวดขาจะแย่แล้ว”“อาเสือยังไม่แก่ซะหน่อยจะมาบ่นว่าปวดขาได้ยังไง”“ก็เจ้าเอยเดินซื้อของเกือบ 2 ชั่วโมงเป็นใครก็ต้องปวดขาไหมซื้อเสร็จแล้วก็รีบกลับกันเลยนะ”“หนูเพิ่งได้ของใช้ส่วนตัวเองนะคะ ยังไม่ได้อย่างอื่นเลย”“ก็เรามาซื้อให้ของใช้ส่วนตัว”“แต่หนูอยากได้ลิปสติกเพิ่ม อาเสือไปเป็นเพื่อนหนูซื้อหน่อยได้ไหม ถ้าอยากซื้อก็รีบไปจ่ายเงินค่าของพวกนี้”“ได้ค่ะ” สาริศารีบช่วยเขาเอาของออกจากรถเข็น เมื่อชำระเงินเสร็จก็มองถุงสามใบใหญ่“เอาของไปเก็บที่รถก่อนเดี๋ยวค่อยเข้ามาซื้อลิปสติก” เขาเห็นแล้วว่าถ้าถือของพวกนี้ไปคงได้แขนหลุดกันบ้าง“แค่เอาขอไปเก็บใช่ไหมคะ ไม่ใช่ว่าอาเสือจะกลับเลย
“หนูนึกว่าวันนี้ป้าจะไปซื้อของกับหนูนะคะ”“เจ้าเอยไปกับอาเสือเถอะลูก ป้าอยู่มากแล้วเดินมากก็ปวดเข่าเดี๋ยวคนขับรถของป้าก็มารับแล้ว”“ขอบคุณค่ะคุณป้า แล้วมาค้างกับหนูอีกนะคะ”“แล้วป้าจะหาโอกาสมาก็แล้วกันนะ อย่าลืมนะเจ้าเอยมีอะไรก็บอกอาเสืออยากได้อะไรก็ให้อาเขาพาไปซื้อ เย็นวันเสาร์อาเสือเขาจะเข้าไปกินข้าวที่บ้าน หนูก็ไปกับเขาด้วยนะ”“หมายถึงไปกินข้าวที่บ้านคุณป้าเหรอคะ”“ใช่จ้ะ เจ้าเอยก็เคยไปแล้วจำได้ไหม”“มันนานมากๆ แล้วค่ะหนูไม่แน่ใจเท่าไหร่” สาริศาเคยไปบ้านหลังนั้นนานมากแล้ว น่าจะเป็นตอนที่ตามมารดาลงมาทำธุระ“อีกหน่อยก็ได้ไปบ่อยๆ เองแหละเพราะอาเสือเขาต้องไปกินข้าวกับครอบครัวทุกเย็นวันเสาร์”“ขอบคุณนะคะคุณป้าที่มานอนค้างกับหนูแล้วยังช่วยหนูจัดของอีก” หญิงสาวกอดเอวผู้สูงวัยอย่างประจบ เพื่อนของมารดาก็เปรียบเสมือนมารดาของเธออีกคน“ป้าสัญญากับแม่ของหนูแล้วว่าจะดูแลหนูอย่างดี หนูก็คือเป็นลูกสาวของป้าอีกคน คนขับรถของป้ามาถึงแล้วล่ะเจ้าเอย”“หนูลงไปส่งนะคะ”“ไม่เป็นไรจ้ะ หนูเตรียมตัวเถอะเดี๋ยวก็ถึงเวลานัดแล้วอาเขาเป็นคนตรงเวลา หนูนัดอาเสือทำอะไรหรือไปที่ไหนมีเรื่องเดียวที่ต้องระวังเรื่องตรงต่
“แม่แน่ใจนะครับว่าเจ้าเอยจะมาวันนี้จริงๆ ”“แน่ใจสิเสื้อ”“แล้วทำไมเธอยังไม่ออกมาสักทีล่ะครับ ผมว่ามันเลยเวลาแล้วนะ” ปีขาลเริ่มหงุดหงิดเพราะเขาไม่ชอบการรอคอย“น้องเขาอาจจะเข้าห้องน้ำหรือติดขัดตรงไหนก็ได้เสือ ก็ใจเย็นๆ หน่อยสิวันนี้ไม่มีธุระไปไหนไม่ใช่เหรอ”“ไม่มีธุระไปไหนหรอกครับแม่ แต่ผมคิดว่าบางทีเธออาจจะไม่มาเที่ยวบินเที่ยวนี้ก็ได้”“มาเที่ยวนี้สิ ก่อนขึ้นเครื่องเจ้าเอยยังโทรหาแม่อยู่เลย นั่นไงเจ้าเอยมาแล้ว” คุณนิตตราโบกมือให้กับหญิงสาวที่กำลังเดินลากกระเป๋าออกมาปีขาลมองตามไปแล้วเขาก็นิ่งเพราะไม่คิดไม่คิดมาก่อนว่าเด็กน้อยที่เคยเดินตามเขาต้อยๆ เมื่อหลายปีก่อนตอนนี้เธอโตเป็นสาวสะพรั่งแบบนี้ หุ่นทรงนาฬิกาทราย ผิวเธอขาวดูมีออร่า ใบหน้าสวย ดวงตากลมโตเมื่อเธอยิ้มก็เห็นลักยิ้มที่ข้างแก้มซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนหรือเพราะตอนเด็กเธอจะอ้วนจนมองไม่ชัดหรือเพราะเขาไม่เคยสังเกตเองกันแน่ เธอในวันนี้แตกต่างจากเด็กน้อยราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน“สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะอาเสือ” หญิงสาวกล่าวทักทายทำให้ปีขาลยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“คุณป้าสบายดีไหมคะ”“สบายดีจ้ะ แล้วแม่หนูเป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ยั