หญิงสาวมองไปรอบๆ แม้ห้องของเขาจะกว้างขวางการตกแต่งก็หรูหรามีสไตล์ต่างจากห้องเช่าเก่าของเธอฟ้ากับเหว แต่พออยู่คนเดียวมันก็ชวนให้เหงาวังเวงใจไม่น้อยเลย ก็ไม่น่าแปลกที่จะทำให้เจ้าของห้องเป็นคนถือตัวรักสันโดษอย่างนั้น
แล้วนี่เธอควรจะทำอะไรดีนะ ถึงเขาจะบอกว่าจ้างเธอมาเป็นแม่บ้าน แต่บ้านเขาก็สะอาดจนหาฝุ่นสักนิดก็ไม่มี ส่วนเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวเขาก็ห้ามเธอยุ่งย่ามแตะต้อง แต่การนั่งๆ นอนๆ ทั้งวันมันก็น่าเบื่อนี่นา ออกไปไหนก็ไม่ได้
คิดอีกทีนี่มันต่างจากคุกตรงไหน อ้อ! ต่างนิดเดียวที่ผู้คุมหน้าตาดีผิดมนุษย์ แต่โครตเฮี้ยบเจ้าระเบียบเกินใคร
“เจ้าแสบเอ๊ย โตขึ้นหนูเอามาแค่หน้าตาพ่อเขาก็พอนะลูกนะ ส่วนนิสัยเฮี้ยบๆ น่ะไม่ต้อง” หญิงสาวลูบหน้าท้อง พลางจิ้มผักสลัดใส่ปากหน้ายู่
ไม่ไหวแล้ว เธอไม่ใช่กระต่ายซักหน่อยจะได้กินแต่ผักแต่ผลไม้ อยากกินไรแซ่บๆ นัวๆ บ้างให้หายผะอืดผะอมให้ชีวิตมีรสชาติ ดวงตาซุกซนเหลือบไปมองทางตู้เย็นตาวาว
งานนี้แมวไม่อยู่หนูร่าเริง ลุย!
เย็นวันนั้น หลังจากถ่ายละครเสร็จ ธิเบศก็ตรงกลับบ้านไวเป็นประวัติการณ์ ระหว่างทางเขาก็กดสั่งอาหา
“ฉันผิดไปแล้ว ดีกันนะคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่แอบตะกละแล้วก็ได้”“แน่นะ”“แน่ค่ะ หายโกรธฉันกับลูกนะคะ”ธิเบศส่ายหน้าระอา ที่แม่ตัวดีถึงกับเอาลูกมาช่วยกดดัน แต่พอมาคิดอีกทีเขาเองก็คงจะเข้มงวดกับเธอเกินไปจริงๆ“อืม...ต่อไปจะกินอะไรคุณต้องคิดให้มากๆ หน่อยแล้วกัน ไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกบ้างรู้ไหม”“รับทราบเจ้าค่ะคุณพ่อ...” พอหลุดปากไปแล้ว ก็อดชะงักไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยักกะมีท่าทีว่าจะโกรธที่เธอเรียกเขาแบบนั้น ก็แอบใจชื้นขึ้นนิดๆถึงเขาจะไม่อยากยอมรับเธอในฐานะเมียก็ช่างเถอะ แต่กับลูกในท้องถึงยังไงก็เป็นลูกเขาจริงๆ นี่นา อย่างน้อยไม่มีใจให้แม่ แต่ก็ขอแค่ให้รักและเอ็นดูลูกก็ยังดี รอวันที่เธอแข็งแรงกว่านี้และมีที่ไป หากเขาไม่ต้องการมีเธอและลูกในชีวิต ถึงวันนั้นเธอก็จะยอมพาลูกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันสองคนโดยไม่มีเขาก็ได้“คุณนอนพักก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำก่อน แล้วจะมาทำอะไรให้กิน”“ไม่เอาไข่ต้มกับข้าวต้มได้ไหมคะ” คนตะกละมีหน้าขอต่อรอง“
คำถามนั้นไม่ใช่แค่ศุภกรที่อยากรู้ แต่คนที่กำลังแอบฟังก็หูผึ่ง ใจเต้นแรงไปด้วย“พอถึงตอนนั้นหากเขาไม่ต้องการลูก ผมก็จะเลี้ยงเด็กไว้ ถึงยังไงพ่อกับแม่ผมก็อยากอุ้มหลานอยู่แล้วคงไม่รังเกียจที่จะรับเด็กเป็นลูกบุญธรรม ส่วนแม่ของเด็กผมก็จะให้เงินเขาไปทำทุนเริ่มต้นชีวิตใหม่สักก้อน แต่ถ้าเขาต้องการลูกไว้ ผมก็ยินดีจะให้ค่าเลี้ยงดูบุตรตามสมควร ภายใต้เงื่อนไขว่าทุกอย่างจะเป็นความลับ”“แปลว่ายังไงก็ไม่เอาแม่ใช่ไหม”งั้นตัวแปลก็คือลูกในท้องสินะ ศุภกรคิดคำนวนในใจ แอบโล่งอกนิดๆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับดาราระดับซุปตาร์อย่างธิเบศ ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหายด่างพร้อย หากสื่อโจมตีเรื่องซุกลูกซุกเมีย หรือทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ก็คงถูกเล่นงานจนไม่มีที่ยืนในสังคมแน่ และเขาในฐานะผู้จัดการคู่ใจก็คงแย่ไปด้วย ถึงจะมีเด็กในสังกัดมากมาย แต่ธิเบศถือเป็นคนที่ทำเงินให้เขาได้มากที่สุด“ไม่ครับ” ธิเบศตอบเสียงหนักแน่น พลางหางตาเห็นเงาวอบแว่บที่ช่องด้านล่างของประตูห้องนอน“งั้นก็เอาตามนี้ แต่ระหว่างนี้เราจะให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ม
“ไม่ต้องค่ะ”หญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหลบมือที่ยื่นมาหมายจะช่วยลูบหลังให้ จนเขาชะงักไป มองเธอตั้งหน้าตั้งตาอาเจียนจนน้ำหูน้ำตาไหลอย่างสงสารครั้นพอจะช่วยเตรียมอาหารให้ รายนั้นก็ปฏิเสธอีก แล้วเธอก็พยายามทำอาหารกินเองเท่าที่ไหว และยังใจดีทำเผื่อเขา แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารง่ายๆ และไม่มีส่วนประกอบของสิ่งที่มีกลิ่นแสลงทำให้คลื่นไส้ และธิเบศก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายก็มีเสน่ห์ปลายจวักไม่น้อยเลยแต่ก็นั่นแหละ การเลี่ยงที่จะรับความช่วยเหลือจากเขาอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ บางทีมันก็ทำให้น่าหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยหลายหนที่เขาแอบเห็นว่าหากหญิงสาวพอมีเวลาว่างหลังจากช่วยดูแลความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านเขา เธอก็พยายามเข้าอินเตอร์เนตเพื่อหางานใหม่ไปด้วยหรือบางทีเธอกำลังนั่งดูละครอยู่สนุกๆ ในห้องนั่งเล่น แต่พอเห็นเขาเดินเข้ามาจะนั่งดูด้วย แม่ตัวดีก็หาเหตุหลีกเลี่ยงไปทำอย่างอื่นไม่ยอมดูด้วยกันอย่างเคยถึงเขาจะบอกว่าเธอเป็นได้แค่แม่ของลูก ไม่มีวันได้สถานะอื่นไปมากกว่านี้ และเธอก็ดูเหมือนจะเข้าใจ ปฏิบัติตามความต้องการของเขา แต่เขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่จารุพั
“ผมขอดูหน่อยสิ” หญิงสาวถอนใจเบาๆ แต่ก็ยอมส่งให้เขาดูธิเบศอ่านรายละเอียดบนฉลากเพียงชั่วครู่ ก็หันมาเอ่ย“มานั่งนี่สิ” ชายหนุ่มตบที่โซฟาข้างๆ กาย “ผมจะช่วยทาให้”จารุพัชรทำตาโต นึกว่าตัวเองหูฝาดไป ก่อนรีบส่ายหน้าหวือ“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทาเองได้”“มาเถอะน่า ผมมีเรื่องจะถามด้วย เรื่องลูก”เมื่อเขายกเหตุผลที่เกี่ยวกับลูกมาอ้าง เธอจึงหมดทางเลี่ยง จำต้องนั่งลงข้างๆ แต่ก็เว้นระยะห่างจนอีกฝ่ายต้องส่งสายตากระหนาบเบาๆ ให้เธอเขยิบเข้าไปใกล้ๆ“อุ้ย! ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง” หญิงสาวตกใจเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาเลิกชายเสื้อตัวโคร่งของเธอขึ้น“อยู่เฉยๆ นอนเอนลงไปหน่อย” อยากจะขัดด้วยความเขินอาย แต่เมื่อได้สบสายตาเหยี่ยวคมๆ เธอก็รู้ว่าไม่ควร จึงยอมเอนกายลงนอน และยอมให้เขาเปิดพุงกะทิน้อยๆ ของเธอเพื่อทาครีมให้ธิเบศมองหน้าท้องขาวเนียนที่เริ่มมีความนูนขึ้นมานิดๆ พลางยื่นมือไปลูบไล้เบาๆ ราวกับจะทักทายคนที่นอนแอ้งแม้งในนั้น หากเพียงได้สัมผัสความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั้งตัวราว
“ช่วงก่อนแพ้หนักมากเลยค่ะหมอ หนูกินอะไรแทบไม่ได้เลยอาเจียนหมด น้ำหนักลงไปเกือบสามโลเลย ช่วงนี้ก็ดีขึ้นบ้าง แถมนอนเก่งมากด้วย แต่ก็เริ่มทานข้าวได้มากขึ้นไม่ค่อยเหม็นเท่าไหร่แล้วค่ะ” ผู้ติดตามหันไปมองหญิงสาวข้างกาย เพิ่งรู้ว่านอกจากอ้วกแตกอ้วกแตนแล้วเธอยังมีอาการอะไรอีกบ้าง“เป็นปกติของช่วงแพ้ท้องนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะน้ำหนักลงช่วงสามเดือนแรกเท่านั้น หากผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะเริ่มดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ แต่ยังต้องระวังเรื่องอาหารพวกหวานหรือรสจัด น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พยายามงดไปก่อน และทานยาบำรุงที่หมอให้ตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง เอาล่ะค่ะ เดี๋ยววันนี้เราจะมาอัลตราซาวน์ดูพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กกันนะคะ”คำนั้นทำให้คนตัวสูงขยับเข้ามาใกล้จอโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่เห็นภาพในจออัลตร้าซาวน์ ธิเบศก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว หัวใจเต้นแรงยามที่ได้ยินคุณหมออธิบายสิ่งที่อยู่ในจอภาพที่เห็นในจอนั่นคือลูกของเขาจริงหรือ ถึงแม้จะยังไม่เห็นรูปร่างชัดเจนว่าเป็นเพศไหน แต่ภาพหัวใจที่ขยับเต้นให้เห็นบ่งบอกถึงการมีชีวิต และที่สำคัญคือทำให้เขารู้สึกเหมือนตกหลุมรั
“อืม...”จารุพัชรบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกอย่างไร แต่เธอไม่ได้รังเกียจจุมพิตของอีกฝ่าย ตรงข้ามกลับรู้สึกคุ้นเคยและโหยหารสจูบนี้ของผู้ชายคนแรกที่เธอมอบความสาวให้ และยังเป็นพ่อของลูกในท้อง“ไง...อร่อยไหม” เจ้าของจูบรสวาซาบิถอนริมฝีปากออกพร้อมกระซิบด้วยน้ำเสียงพร่าเซ็กซี่ ก่อนกดริมฝีปากจูบลงบนกลีบปากนุ่มหวานอย่างมันเขี้ยวไปอีกครั้ง พอเห็นใบหน้างงๆ เหวอๆ ของอีกฝ่ายเขาก็อดขำไม่ได้“อะ...อร่อยค่ะ เอ๊ย! ไม่ใช่” พอรู้ตัวว่าเผลอปล่อยไก่ ใบหน้าใสๆ ก็แดงซ่านขวยเขินจนต้องเอ็ดกลบเกลื่อน“นี่คุณ มาจูบฉันทำไมเนี่ย”“ก็คุณอยากแกล้งผมก่อนทำไม คราวหน้าก็ใส่วาซาบิเยอะๆ นะ จะได้อร่อยมากๆ ผมว่าผมชักชอบรสชาติวาซาบิของคุณแล้วล่ะ แซ่บดี” พร้อมคำพูดเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากยั่วด้วยมาดแบดบอยวร้ายๆ“ตาบ้า! นิสัยไม่ดี” ปากว่าแต่ตาคนพูดก็เหลือบไปมองวาซาบิรสเด็ดอย่างหมายหัว แต่คิดอีกทีจูบรสนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะสมองคิด แต่มือนั้นไวกว่ารีบคว้าตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง“อ่ะ! ถ้าอร่อยก็กินอีก
“ตอนนี้เนี่ยนะคุณ”“อืม ก็ลูกคุณอยากกินตอนนี้น่ะ” จะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะเธอจะมาเร้าหรือเขาอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้กินสมใจพอทุเรียนมาคนอยากกินก็มาแทะๆ ไม่กี่คำก็วาง ส่วนที่เหลือเขาก็ต้องมาจัดการเก็บกวาดให้ ส่วนแม่ตัวดีหนีไปนอนสบายใจเฉิบนึกว่าจะหมดเรื่องแล้ว แต่พอจะล้มตัวนอนยังไม่ถึงไหน ก็มีมือนุ่มๆ มาสะกิดเรียกอีกรอบ“คุณ...คุณว่าตอนนี้เขามีกระเพาะปลาขายที่ไหนบ้าง ฉันอยากกินจัง”อย่าคิดว่าแกล้งหลับแล้วจะรอด เพราะเขาเคยทำอยู่ครั้งสองครั้ง คือมันดึกก็เลยขี้เกียจไปตระเวณหาซื้อ เลยทำเป็นหลับใส่เสียเลยแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเพราะได้ยินเสียงเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น สลับกับเสียงเปิดปิดตู้เย็นตึงตัง และสุดท้ายก็มีเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆ ลอยมาเข้าหูจนเขาไม่อาจทนนอนต่อได้อีก“โอ๋ๆ ลูกจ๋าอย่าเพิ่งเสียใจนะ พ่อของหนูเขาไม่ได้ใจร้ายกับเราหรอก เดี๋ยวพอพ่อเขาตื่น เราก็จะได้กินกระเพาะปลาเจ้าอร่อยแล้วนะคะ ตอนนี้ทนหิวไปก่อนนะลูกนะ ฮือ...”หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ ไม้ตายสุดท้ายที่งัดมาใช้คือน้ำตาที่สั่งได้ และเขา
หลายเดือนต่อมา...จารุพัชรกำลังอ่านหนังสือแม่ตั้งครรภ์ที่พ่อของลูกขยันซื้อมาให้ ตอนนี้ท้องเธอเริ่มขยายใหญ่ขึ้นมากเมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หญิงสาวรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวเหมือนติดปีก เผลอแป๊บเดียวเธอก็อยู่ที่บ้านของธิเบศมาถึงหกเดือนแล้ว อายุครรภ์ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนที่แปด และตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงหญิงสาวยังจำวันที่ไปอัลตราซาวน์เพื่อดูเพศของลูกได้ดี และวันนั้นธิเบศก็เป็นคนพาเธอไปคลินิกเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่วันนั้นดูเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้รู้เพศของลูกเสียที หลังจากที่เดามาหลายเดือน“ยินดีด้วยนะคะ น้องเป็นผู้หญิงค่ะ ตัวจ้ำม่ำเชียว ดูสิคะ หน้าตาก็น่ารักน่าชัง ดั้งโด่งเหมือนคุณพ่อเสียด้วย”ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มองภาพจออัลตราซาวน์แบบ 4D ที่ทำให้เห็นภาพเจ้าตัวน้อยชัดเกือบเสมือนจริง ธิเบศตื่นเต้นจนเผลอกุมมือเธอไว้แน่น ส่วนจารุพัชรเองก็ดีใจไม่ต่างกัน เพราะคิดว่าลูกในท้องอาจเป็นน้องสาวที่เสียไปกลับมาเกิด ทำให้น้ำตาแห่งความปิติเอ่อล้นออกมา แต่อีกใจก็รู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าวันจากลาใกล้เข้ามาทุกทีๆแล้วหลังจากที่ได้รู้เ
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์