“ไม่นี่ครับ อร่อยดี ทำให้หายคลื่นไส้ดีด้วย มีอีกไหมครับ แบบเปรี้ยวกว่านี้อะไรก็ได้”
ศุภกรหันไปสบตากับทีมงานกองถ่ายที่อยู่ใกล้ๆ เพราะต่างก็รู้ว่ามะม่วงในจานนั้นเปรี้ยวเข็ดฟันแค่ไหน ขนาดจิ้มน้ำปลาหวานก็ยังไม่ช่วย แต่คนตรงหน้ากลับดูกินได้หน้าตาเฉย
น่าแปลก!
ระหว่างที่กำลังเอร็ดอร่อยกับผลไม้จานโปรด จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า ศุภกรมองเบอร์ที่โชว์หน้าจอที่ไม่ระบุชื่อก็แปลกใจ
“โทรศัพท์ของธิมน่ะ แต่เบอร์แปลกนะไม่มีชื่อด้วย ธิมจะรับเองหรือเปล่า”
ธิเบศปรายตามองเบอร์ที่โชว์หน้าจอ ขณะที่ปากก็เคี้ยวมะม่วงตุ้ยๆ ก่อนพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับรับสาย และเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ว่าไง ได้เรื่องไหม” ชายหนุ่มกรอกเสียงถาม แต่เมื่อได้ยินคำตอบจากปลายสาย ใบหน้าหล่อเหลาก็เครียดขึ้นเรื่อยๆ
“ว่าไงนะ ตกงาน ถูกไล่ออกจากอะพาร์ตเม้นท์เนี่ยนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วตอนนี้ยัยนั่นไปอยู่ที่ไหน ผมรู้แล้ว จะรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด คุณเฝ้าเขาไว้ก่อนอย่าให้คลาดสายตานะ ได้ๆ ผมจะรีบไปทันทีที่เสร็จงาน เท่านี้นะ”
ธิเบศกดตัดสาย ด
“เอานี่ รับไปสิ”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยื่นมือไปรับแก้วน้ำดื่มจากใครบางคนที่ยื่นให้ น้ำเย็นฉ่ำชื่นใจทำให้อาการผะอืดผะอมคลายลงไปได้บ้าง“ยาดมหน่อยไหมจะรู้สึกได้ดีขึ้น”จารุพัชรรับหลอดยาดมมาสูดฟืดเต็มปอด นาทีนี้อะไรว่าดีทำให้เธอหายจากอาการที่เป็นอยู่ เธอเอาหมด“ขอบคุณนะคะ นี่ค่ะยาดมของคุณ...เอ๊ะ!”ว่าที่คุณแม่กะพริบตาถี่ๆ พลางส่ายหน้าไปมา นี่เธอหิวจนตาฝาด หรือเมาอ้วกจนหน้ามืดเห็นภาพหลอนกันแน่ ที่หันไปเห็นคนที่กำลังแอบแช่งมายืนตรงหน้า“คะ...คุณมาได้ยังไงเนี่ย”ธิเบศมองคนถามที่ทำหน้าเหวอน้ำลายยืดอย่างน่าตลกก็อดขำในใจไม่ได้“ในรถผมมีมะม่วงเปรี้ยวจี๊ดด้วย ถ้าคุณสนใจก็ตามมาได้นะ”หืม? ตาบ้านี่ประสาทกลับหรือไงถึงได้เอาของกินมาล่อกันแบบนี้ แต่ว่าสิ่งที่เขาบอกมันก็ทำให้เธออดเปรี้ยวปากไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ขึ้นรถก่อน แล้วค่อยถาม วันนี้ผมไม่ได้พรางตัว ถ้าคุณไม่อยากเป็นข่าวหรือถูกแฟนคลับผมตามรุมทึ้งล่ะ
หญิงสาวฟังนิ่ง ในใจครุ่นคิดว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหนกันแน่ แต่เมื่อมานั่งคิดอีกที ทางออกที่เขาเสนอมันก็ไม่เลวแฮะ เธอไม่ได้ไปเกาะเขากิน แต่ทำงานให้เขา มีที่กินที่อยู่ฟรี แถมได้เงินเดือนอีกด้วย“แล้วงานที่ว่านี่ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ”“ก็ทั่วๆ ไป ทำพวกงานบ้านดูแลเก็บกวาดบ้าง ทำอาหารบ้าง แต่ผมไม่ค่อยกินข้าวที่บ้านหรอก ฉะนั้นคุณก็ทำกินของคุณไปจนกว่าจะทำไม่ไหวหรือใกล้คลอดแล้วกัน งานง่ายๆ แค่นี้ทำได้ไหม”ธิเบศเอ่ยตามที่เขาคิดวางแผนมาตลอดทาง การปล่อยให้ผู้หญิงตัวคนเดียวแถมยังตั้งครรภ์อ่อนๆ อย่างจารุพัชรออกไปตะลอนคนเดียว เขาก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้ อย่างน้อยทำแบบนี้เธอก็จะได้อยู่ในสายตาเขา ถึงแม้ว่าเขาจะรักความเป็นส่วนตัวสูงก็เถอะ“แล้วหากฉันคลอดเสร็จคุณก็จะเฉดหัวฉันไป แล้วยึดลูกไว้คนเดียวเหมือนในละครที่คุณเคยแสดงล่ะสิ” หญิงสาวดักคอ“นี่คุณ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นั่นมันบทตัวร้ายต่างหาก”“คุณก็ตัวร้ายดีๆ นี่เองแหละน่า”“เมื่อกี้คุณว่าไงนะ ผมได้ยินไม่ถนัด”“เปล่าค่ะ&rdq
พอๆ พอเลยยัยแจน หยุดคิดทะลึ่งลามกเลยนะ ถึงจะเคยเห็นและสัมผัสเรือนร่างแกร่งกำยำนั่นทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดลึก หมอนี่คิดจะอ่อยกันหรือเปล่าหว่าไม่ได้สิ เธอต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ ตอนนี้เขาเป็นเจ้านาย และพ่อของลูก แต่ไม่ใช่สามีเธอนะยัยแจน จำไว้!“คุณ! ช่วยหยิบผ้าเช็ดตัวให้ผมหน่อยได้ไหม”จารุพัชรสะดุ้งโหยง สีหน้าเลิ่กลั่กอารามตกใจทำให้หญิงสาวรีบกอดยึดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไว้จนมั่นใจว่าปลอดภัยจึงค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมองกลิ่นหอมสะอาดแตะจมูก เธอจึงเผลอสูดเข้าไปเสียเต็มปอด น่าแปลกที่เธอไม่ยักกะฉุนกลิ่นตัวเขา เหมือนน้ำหอมอื่นที่ทำให้เธอเหม็นจนเวียนหัวคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียน“นี่คุณ จะลวนลามผมอีกนานไหม” เสียงทุ้มเอ่ยเนิบนาบ ฉุดสติคนที่กำลังดื่มด่ำกับกลิ่นกายบุรุษสะดุ้งโหยง พบว่าตัวเองอยู่ในท่าที่ล่อแหลมแค่ไหน“เฮ้ย!”ธิเบศส่ายหน้าให้กับความเฟะฟะของแม่สาวตรงหน้า“ระวังหน่อยคุณ เดี๋ยวก็ล้มหรอก”“ก็เพราะใครล่ะ จู่ๆ ก็เปิดประตูออกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง เอ้า นี่ค่ะผ้าเ
“...” พูดแล้วยังจะทำมานิ่งใส่อีกแน่ะ“ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจงับมือคุณ ก็ใครใช้ให้คุณเอามือมาใส่ปากให้ฉันแทะแบบนั้น อีกอย่างคุณก็ทำโทษฉันด้วยการดีดปากแล้วไง ก็หายงอนซักทีเหอะ”ธิเบศสูดหายใจเข้าออกแรงๆ มันน่าดีดปากช่างพูดอีกซักทีดีไหม ทำผิดไม่สำนึก ยังมีหน้าพูดมาได้ว่าเขาเอามือไปให้เธอแทะเองยัยบ้านี่เป็นคนหรือรอตไวเลอร์กลับชาติมาเกิดกันแน่“ก็คนมันหิวนี่นา คุณรู้ไหมว่าฉันกินอะไรไม่ได้มาตั้งแต่วันที่อ้วกใส่คุณในงานนั่นแล้ว กินอะไรก็อาเจียนออกหมดไส้หมดพุง น้ำหนักลดไปกี่กิโลแล้วก็ไม่รู้ สงสารก็แต่เจ้าตัวเล็กในท้องเนี่ย ฉันกินไม่ได้ลูกก็คงพลอยหิวไปด้วย โถ...ลูกแม่”อ้อ! นี่ก็ความผิดเขาอีกสินะ ที่ทำให้เธอและลูกอดๆ อยากๆ“นั่นคุณจะไปไหนคะ” หญิงสาวรีบถาม เมื่อเห็นร่างสูงลุกขึ้นและเดินผละไปทางห้องครัว จารุพัชรมองตามอย่างงุนงงธิเบศแกล้งตีหน้าขรึมรู้หรอกว่าโดนประชด แต่คนประชดจะรู้บ้างไหมว่าเธอโชคดีแค่ไหนที่ได้กินอาหารจากฝีมือพระเอกระดับซุปตาร์ และนอกจากตัวเอง เขาไม่เคยทำอาหารให้ผู้หญิงคนไหน
“ก็มันยังหัวค่ำอยู่ ฉันนอนไม่หลับ แล้วทีคุณล่ะทำไมไม่นอน กำลังดูอะไรอยู่เหรอ” หญิงสาวหันไปมองในโทรทัศน์จอยักษ์ ซึ่งเป็นฉากที่พระเอกกำลังออกโรงพอดี ก็ตื่นเต้น “อุ๊ย! นี่มันละครเรื่องใหม่ที่คุณเล่นนี่ ฉันขอดูด้วยคนนะคะ”ไม่ต้องรอให้ใครอนุญาต ธิเบศต้องเขยิบที่ให้ตัวป่วนนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน แม้จะมีที่อื่นให้นั่ง แต่เธอก็ยังมานั่งเบียดข้างเขาพระเอกหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แต่จะว่าไปมันก็น่าแปลกที่คนขี้รำคาญอย่างเขาไม่ได้รู้สึกรำคาญคนข้างกายมากอย่างที่ควรเป็น ทั้งที่อีกฝ่ายก็เป็นคนอื่นที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้น“คุณนี่ก็ดูขึ้นกล้องเหมือนกันเนอะ” คำนั้นเหมือนจะชม แต่คนถูกชมกลับรู้สึกแปร่งหู“หมายความว่าไง”“ก็ดูในจอแล้วหล่อดี” ยิ่งชมก็ยิ่งเหมือนถูกด่าแฮะ“แล้วตัวจริงผมไม่หล่อเหรอ” คำนั้นทำให้ผู้ชมหันมามองอย่างพินิจ“ก็ดูดีนะคะ แต่ในจอดูหล่อกว่า” พระเอกผู้มั่นใจในรูปลักษณ์ตัวเองมาตลอดนึกคันไม้คันมืออยากหาอะไรเคาะหัวท่านผู้ชมที่ตาไม่ถึงแต่บังอาจมาวิ
“ฮ้าวววว”“เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอธิม”ศุภกรหันไปมองคนที่หาวหวอดๆ มาทั้งวันอย่างแปลกใจ“นิดหน่อยครับพี่” ปากปฏิเสธแต่ใจนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เขาข่มตานอนไม่ได้ทั้งคืนอย่างนึกเข่นเขี้ยวหลังจากกลายร่างเป็นหมอนข้างให้แม่นั่นกอดรัดคลุกวงในอย่างสุขโขมาทั้งคืน กว่าเขาจะข่มตาข่มอย่างอื่นให้หลับลงได้ก็ล่วงเข้าวันใหม่ แต่ทว่ายังนอนไม่ทันเต็มที่เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นด้วยนาฬิกาปลุกที่ชื่อว่า...แม่ของลูก ในเช้าวันต่อมาโครม!ชายหนุ่มนึกว่าตัวเองกำลังฝันว่าตกจากที่สูง แต่ไม่ใช่เพราะเขาถูกยันตกเตียงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้น จนต้องงัวเงียตื่นทั้งที่กว่าจะหลับได้ก็เกือบฟ้าสาง“คุณมานอนกอดฉันทำไมเนี่ย” เสียงแหวแง๊วๆ ทำให้เขาหันไปมองอย่างมึนๆ เพราะวิญญานยังไม่เข้าร่างชายหนุ่มเกาหัวแกรกๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างงงๆ“ใครนอนกอดใครกันแน่ คิดให้ดีๆ ฮ้าวววว”จารุพัชรอ้าปากค้าง มองพระเอกในฝันของสาวๆ ทั้งประเทศที่ขนาดจะเพิ่งตื่นนอนงัวเงีย ปิดปากหาวหวอดก็ยังคงมีเสน่ห์น่ามอง“ก็คุ
หญิงสาวมองไปรอบๆ แม้ห้องของเขาจะกว้างขวางการตกแต่งก็หรูหรามีสไตล์ต่างจากห้องเช่าเก่าของเธอฟ้ากับเหว แต่พออยู่คนเดียวมันก็ชวนให้เหงาวังเวงใจไม่น้อยเลย ก็ไม่น่าแปลกที่จะทำให้เจ้าของห้องเป็นคนถือตัวรักสันโดษอย่างนั้นแล้วนี่เธอควรจะทำอะไรดีนะ ถึงเขาจะบอกว่าจ้างเธอมาเป็นแม่บ้าน แต่บ้านเขาก็สะอาดจนหาฝุ่นสักนิดก็ไม่มี ส่วนเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวเขาก็ห้ามเธอยุ่งย่ามแตะต้อง แต่การนั่งๆ นอนๆ ทั้งวันมันก็น่าเบื่อนี่นา ออกไปไหนก็ไม่ได้คิดอีกทีนี่มันต่างจากคุกตรงไหน อ้อ! ต่างนิดเดียวที่ผู้คุมหน้าตาดีผิดมนุษย์ แต่โครตเฮี้ยบเจ้าระเบียบเกินใคร“เจ้าแสบเอ๊ย โตขึ้นหนูเอามาแค่หน้าตาพ่อเขาก็พอนะลูกนะ ส่วนนิสัยเฮี้ยบๆ น่ะไม่ต้อง” หญิงสาวลูบหน้าท้อง พลางจิ้มผักสลัดใส่ปากหน้ายู่ไม่ไหวแล้ว เธอไม่ใช่กระต่ายซักหน่อยจะได้กินแต่ผักแต่ผลไม้ อยากกินไรแซ่บๆ นัวๆ บ้างให้หายผะอืดผะอมให้ชีวิตมีรสชาติ ดวงตาซุกซนเหลือบไปมองทางตู้เย็นตาวาวงานนี้แมวไม่อยู่หนูร่าเริง ลุย!เย็นวันนั้น หลังจากถ่ายละครเสร็จ ธิเบศก็ตรงกลับบ้านไวเป็นประวัติการณ์ ระหว่างทางเขาก็กดสั่งอาหา
“ฉันผิดไปแล้ว ดีกันนะคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่แอบตะกละแล้วก็ได้”“แน่นะ”“แน่ค่ะ หายโกรธฉันกับลูกนะคะ”ธิเบศส่ายหน้าระอา ที่แม่ตัวดีถึงกับเอาลูกมาช่วยกดดัน แต่พอมาคิดอีกทีเขาเองก็คงจะเข้มงวดกับเธอเกินไปจริงๆ“อืม...ต่อไปจะกินอะไรคุณต้องคิดให้มากๆ หน่อยแล้วกัน ไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกบ้างรู้ไหม”“รับทราบเจ้าค่ะคุณพ่อ...” พอหลุดปากไปแล้ว ก็อดชะงักไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยักกะมีท่าทีว่าจะโกรธที่เธอเรียกเขาแบบนั้น ก็แอบใจชื้นขึ้นนิดๆถึงเขาจะไม่อยากยอมรับเธอในฐานะเมียก็ช่างเถอะ แต่กับลูกในท้องถึงยังไงก็เป็นลูกเขาจริงๆ นี่นา อย่างน้อยไม่มีใจให้แม่ แต่ก็ขอแค่ให้รักและเอ็นดูลูกก็ยังดี รอวันที่เธอแข็งแรงกว่านี้และมีที่ไป หากเขาไม่ต้องการมีเธอและลูกในชีวิต ถึงวันนั้นเธอก็จะยอมพาลูกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันสองคนโดยไม่มีเขาก็ได้“คุณนอนพักก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำก่อน แล้วจะมาทำอะไรให้กิน”“ไม่เอาไข่ต้มกับข้าวต้มได้ไหมคะ” คนตะกละมีหน้าขอต่อรอง“
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์