บทที่ 70“คุณแม่ดูอะไรอยู่ค่ะ” ชนิตพรถามกรกนก ที่เอาแต่นั่งยิ้ม “ดูรูปลูกหมีน่ะ ไม่รู้เป็นไง หลายวันมานี้คิดถึงลูกหมีจัง เสียดายที่อิฐไม่ให้ลูกหมีทำงานกับแม่ แม่ถูกชะตากับลูกหมีมากๆ เลยนะ ไม่อยากให้ออกเลย แต่ก็เข้าใจอิฐ และดีใจที่อิฐรักและเป็นห่วงลูกหมี” พูดถึงกุลธิรัตน์ใบหน้านางเกลื่อนรอยยิ้ม “แม่ว่าจะโทรศัพท์ไปหาลูกหมีซะหน่อย ไม่ได้เจอหน้า ได้ยินเสียงก็ยังดี” ฐากูรกับชนิตพรมองหน้ากัน ทั้งสองคิดตรงกันว่า ไม่แปลกที่กรกนกคิดถึงกุลธิรัตน์ อาจเป็นเพราะสายใจแม่ลูกที่สื่อถึงกัน และเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ทั้งคู่เจอกัน ชนิตพรพยักหน้าเชิงบอกสามี ให้ทำตามความตั้งใจ ฐากูรถอนหายใจยาว หยิบกระดาษที่พับไว้ในกระเป๋าออกมา “คุณแม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอกครับ” ฐากูรเกริ่นมารดา “เรื่องเมญ่ากับลูกหมีน่ะครับ” “ทำไม มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าเมญ่าไปก่อเรื่องไว้ เมญ่าทำอะไรลูกหมี” กรกนกหวั่นใจ ฤทธิ์เดชลูกสาวสุดที่รักน้อยใช่ย่อย มีความเป็นห่วงกุลธิรัตน์จับใจ “เรื่องมันเป็น...” “คุณแม่ พี่อิฐ” เสียงฐากูรถูกกลบด้วยเสียงเก็จมณี ที่เปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะเป็นส
บทที่ 71“คุณแม่คะ เรื่องที่พี่เอื้อจะบอกคุณแม่น่ะค่ะ คือเรื่องนี้ค่ะ” ชนิตพรรู้ว่าสามีไม่ไหว จิตใจคงอัดแน่นด้วยความรู้สึกหลากหลายที่พุ่งเข้ามา หล่อนดึงกระดาษออกจากมือฐากูร คลี่มันออกแล้วส่งให้กรกนก ที่ยื่นมือมารับไว้อย่างงุนงง“มันคือผลตรวจดีเอ็นเอค่ะ ยืนยันว่า คุณแม่กับลูกหมีเป็นแม่ลูกกันค่ะ”ความตกใจของฐากูรกับชนิตพร น้อยกว่ากรกนกหลายร้อยเท่า จ้องมองไปยังตัวอักษรที่ระบุผลนิ่งงัน มองอยู่อย่างนั้นราวกับให้แน่ใจว่า มันคือความจริงจริงหรือ ใช่ความจริงแน่หรือ...“นี่มันอะไรกัน มันคืออะไร” กรกนกถามเสียงไม่ปกติ“นั่นสิพี่นิ อะไรกัน ยัยลูกหมีคือลูกสาวของคุณแม่ได้ยังไง ในเมื่อเมญ่าเป็นลูกคุณแม่” อีกคนที่ตกใจคือเก็จมณี หล่อนงง ไม่เข้าใจคำพูดชนิตพร“เรื่องที่ผมเล่า มันอาจเหลือเชื่อ แต่ผมยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง เรื่องมันเกิดจากน้านงค์ครับ...” ฐากูรเป็นคนเล่าความจริงที่เก็บงำมากกว่ายี่สิบเก้าปีให้กรกนกกับเก็จมณีรู้กรกนกถือกระดาษแผ่นบางไร้น้ำหนักไม่ไหว จนมันหลุดไปอยู่บนตัก นางนำมือมาวางตรงอกข้างซ้าย รับรู้ถึงอัตราการเต้นหัวใจเร็วผิดจังหวะ นางเลี้ยงเก็จมณีมายี่สิบเก้าปี ไม่เคยมีสักวันที่คิดว่า
บทที่ 72“คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ทำได้ยังไง” ทุกคนตกใจที่อยู่ๆ ชนินทร์ระเบิดคำถามเสียงดัง “ใจคุณแม่ทำด้วยอะไร ทำไมถึงทำอย่างนี้” “อะไรกันตาฟิล์ม แม่แกทำอะไร แล้วแกเป็นอะไร”ลัดดาถาม มีความงงและไม่เข้าใจ แต่เหมือนอนงค์จะรู้ว่า ชนินทร์อาจรู้ความจริง ทว่านางก็ยังคงทำตัวนิ่งเฉย “ก็คุณแม่แอบสลับลูกไง สลับตัวลูกหมีกับเมญ่า แท้จริงแล้วลูกหมีคือลูกสาวของคุณน้านิ่ม ส่วนเมญ่าคือพี่สาวของผม พี่สาวของผม...ฮือ...ฮือ...ผมนอนกับพี่สาวตัวเอง...นอนกับพี่สาวตัวเอง...ฮือ”ชนินทร์ทรุดกายลงนั่งบนพื้น ก้มหน้าร้องไห้อย่างไม่อดกลั้น ระบายความเสียใจแน่นอก อีกคนที่ร้องไห้พร้อมกับชนินทร์คือ อนงค์ นางร่ำไห้หนักมาก น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ตัวโยน ไหล่สะท้านลัดดา อภิรักษ์และคีรยา ตกอยู่ในอาการตกใจ ที่บอกได้ว่า ความตกใจก่อนหน้านี้ในทุกเรื่อง ด้อยลงไปเลย สมองยิ่งกว่าปลาถูกทุบหัวเสียอีก หัวใจทุกคนสั่นหนักมาก นิ่งอึ้งกับคำพูดชนินทร์“ฟิล์มลูกแม่...ฮือ” อนงค์ลุกขึ้นเดินมาทรุดกายลงนั่งข้างชนินทร์ นางโอบกอดบุตรชายด้วยความเสียใจและรู้สึกผิด ทว่าชนินทร์กลับผลักร่างมารดา ราวกับว่ารังเกียจสัมผัสนาง สายตาไม
บทที่ 73“เพราะแกนังแก่ เพราะแก ถ้าแกไม่เชื่ออีหมอดูมากเกินไป เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ แล้วมันช่วยอะไรแกไหมล่ะ อีหมอดูน่ะ เวลาบริษัทจะล้ม มันช่วยอะไรไหม นอกจากเอาเงินจากคนโง่ๆ อย่างแก...ฮือ” อนงค์ต่อว่าแม่สามีอย่างเหลืออด “แล้วแกก็ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด แกเป็นคนที่ถูกเสมอ ทั้งที่บางเรื่องแกผิด แกผิด แต่ก็บอกว่าตัวเองถูก...อีนรก” ลัดดาตกใจจนผงะ เอามือทาบอก ไม่คิดว่าอนงค์จะสาดคำพูดรุนแรงใส่ ซึ่งจะว่าไป คำพูดนี้มีส่วนถูก นางรู้ว่าบางเรื่องตัวเองผิด แต่ไม่ยอมรับ “พอแล้ว พอ...” ชนินทร์ตะโกนพูดแทรก “มันก็ชั่วกันทั้งบ้านนี่แหละ รู้ว่าตัวเองชั่วแต่ไม่ยอมรับกัน เรื่องที่คุณแม่ทำก็เหมือนกัน คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ชั่วเลวทรามยิ่งกว่าผมเสียอีก แล้วผลกรรมก็มาลงที่ผม มาลงที่ผมกับเมญ่า...ฮือ” ชนินทร์ลุกขึ้นยืน น้ำตาเขายังนองหน้า มองมารดาด้วยสายตาแข็งกร้าวและผิดหวัง ความเสียใจแน่นอุรา เขาวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันทีที่พูดจบ ตรงดิ่งไปยังห้องนอนตัวเองธรรม์บดีมองดูผลงานตัวเองด้วยรอยยิ้มสะใจ ก่อนหน้าเขามาบ้านหลังนี้ ชายหนุ่มได้รับผลตรวจเช่นกัน ฐากูรส่งเมลมาให้เขา ซึ่งเขาไม
บทที่ 74 สายวันรุ่งขึ้น ณ โรงพยาบาล กรกนกกับชนิตพรมาโรงพยาบาลตอนแปดโมงกว่า พอมาถึงก็พบว่า เก็จมณียังไม่คืนสติ กรกนกทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง มืออบอุ่นกุมมือลูกสาว นางบีบเบาๆ คล้ายส่งกำลังใจ นัยน์ตาฉ่ำไปด้วยน้ำตามองเก็จมณีด้วยความรู้สึกเดิมคือ รัก แม้ว่าความจริง เก็จมณีไม่มีความสัมพันธ์ใดกับนางเลยก็ตาม “เมญ่า ตื่นสักทีสิลูก แม่รอหนูอยู่นะ แม่รักหนูเหมือนเดิมนะ รักเหมือนเดิม” นางรำพันไม่หยุดปาก แนบหน้ากับฝ่ามือคนไม่ได้สติ ชนิตพรพลอยน้ำตาซึมไปด้วย หล่อนรู้ว่าทั้งแม่สามีและสามี รักเอ็นดูเก็จมณีมาก จะให้ตัดใจในระยะเวลาอันสั้นคงทำได้ยาก “คุณแม่คะ พี่เอื้อบอกว่าเมญ่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หมดสติ เดี๋ยวคงฟื้นค่ะ” ชนิตพรบอกแม่สามี “แค่หมดสติ ทำไมหลับนานจัง น่าจะฟื้นได้แล้วนะ” นางเสียงเครือ สายตายังคงจับจ้องคนไม่ได้สติ “น่าจะอีกสักพักค่ะคุณแม่” ชนิตพรไม่รู้เวลาชัดเจน หล่อนคาดเดาตามสามีบอก “ตอนเก้าโมง เรามีนัดกับคุณอิฐและลูกหมีนะคะ” “แม่รู้แล้ว” หลังรู้ความจริง กรกนกดีใจ ที่กุลธิรัตน์คือลูกสาวตน เพราะก่อนหน้านี้ นางเอ็นดูก
บทที่ 75 “เธอทำผิดมาครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเธอทิ้งเมญ่า เพราะต้องการให้เมญ่าสบาย มีชีวิตที่ดี เธอสมหวังแล้วนะ เมญ่าสุขสบายมาก ฉันเลี้ยงเมญ่าด้วยความรัก และทุกสิ่งทุกอย่างให้ฉันมี ถ้าเธออยากให้มันเป็นอย่างนี้ตลอดไป อย่าเข้าไปทำให้ลูกสาวของฉันต้องเสียใจ ผิดหวังมากกว่านี้ แล้วฉันก็ขอลูกสาวของฉันคืนด้วย ฉันจะไม่มีวันให้เธอย่ำยีจิตใจลูกสาวทั้งสองคนของฉันแน่” กรกนกผลัดอนงค์ออกห่างเพียงนิด ฟาดฝ่ามือลงบนแก้มอนงค์สองครั้งติดกัน “กลับไป อย่าให้ลูกของฉันเห็นหน้าแม่ระยำอย่างเธอ ไป!”จังหวะนั้นอภิรักษ์สามีอนงค์ ที่วิ่งตามภรรยามาไม่ห่าง ได้ยินคำพูดกรกนกพอดี เขาเดินมาหาภรรยาที่ยืนร้องไห้“ถ้าคุณรักเมญ่าจริง คุณต้องกลับบ้านกับผมเดี๋ยวนี้” ไม่พูดเปล่า ยังลากร่างอนงค์ให้ออกจากห้องแม้ขาอนงค์เดินตามแรงลากจูง ทว่าสายตานางกลับมองไปยังประตูห้องพักคนไข้ นัยน์ตาล้นด้วยน้ำตา หัวใจนางสลาย เพราะต่อจากนี้ นางจะไม่ได้เห็นเก็จมณีด้วยตาตัวเองอีกแล้ว ทำได้เหมือนเช่นเดิมคือ มองผ่านรูปภาพในมือถือ ซ้ำร้ายลูกสาวก็ยังเกลียดนางอีกปวดร้าวใจเหลือเกิน ปวดจนเกินทนไหวการพบเจอระหว่างกรกนกกับกุลธิรัตน์ครั้งนี้ ต่างกับทุกครั้งที่ผ่
บทที่ 76ความแน่วแน่ฉายชัดทางน้ำเสียงและสีหน้า มอง กรกนกกับฐากูรสลับกัน “เมญ่าไม่กลัวที่คุณแม่พูดค่ะว่า เมญ่าจะเสียใจ เพราะเมญ่าเสียใจไปแล้ว และยินดีเสียใจมากกว่านี้ หากทำให้มันรับโทษ” ใครไม่โกรธอนงค์ แต่เก็จมณีโกรธ แม้ว่าอนงค์เป็นแม่ผู้หวังดีก็ตาม “แน่ใจหรือลูก” กรกนกถาม แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “มันจะวิ่งเข้าหาตัวเรานะ เพราะเรื่องนี้ต้องถูกเปิดเผย” “ใช่ แล้วคนที่เจ็บก็คือเมญ่าเอง” ฐากูรรักน้องสาวคนนี้เช่นเดิม “ไม่มีอะไรเจ็บกว่านี้อีกแล้วค่ะ” เก็จมณีพูดทั้งน้ำตา “เมญ่าไม่เหลืออะไรแล้ว...ฮือ ไม่เหลืออะไร” “ไม่จริงลูก ไม่จริง เมญ่ายังมีแม่ แม่ยังเป็นแม่ของหนูเสมอ” กรกนกกอดเก็จมณี ฐากูรกอดทั้งสองไว้เช่นกัน “เมญ่าคือน้องสาวของพี่ เหมือนเดิมทุกอย่าง” “ใช่ค่ะ มันยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง คุณเมญ่าเป็นลูกคุณแม่ เป็นน้องสาวพี่เอื้อยังไงก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ลูกหมีไม่ได้เข้ามาแทนที่คุณเมญ่านะคะ แค่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งคนในครอบครัวค่ะ”เก็จมณีอึ้งไป ร้องไห้หนักกว่าเดิม ไม่คิดว่าสตรีที่ไม่ถูกชะตา ไม่ถือโทษโกรธคนนิสัยเสียอย่างต
บทที่ 77อนงค์ยืนหัวเราะชอบใจกับผลงานของตน แต่พอเห็นรูปภาพครอบครัว ที่มีชนินทร์อยู่ในภาพนั้นด้วย เสียงหัวเราะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น รำพึงรำพันถึงลูกชายอันเป็นที่รัก เยี่ยงคนประคองสติไม่ได้ สิบวันต่อมา หลายอย่างเปลี่ยนไป และบางอย่างคงเดิม เอ่ยถึงอย่างหลังก่อน เรื่องนั้นคือ เก็จมณียังคงอยู่กับกรกนกในฐานะลูกสาว ความจริงทำให้เก็จมณีเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หล่อนเข้าใจสถานะของตนเอง ทั้งยังละอายแก่ใจ ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ใช่สายเลือดของกรกนก กลับใช้เงินล้างผลาญ ใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่สนใจมารดาและพี่ชายที่เลี้ยงดูมา ส่วนลูกที่แท้จริงอย่างกุลธิรัตน์ได้ใช้ชีวิตอัตคัด ขัดสน รับเคราะห์แทนตนเองมาตลอดยี่สิบเก้าปี หญิงสาวจึงเริ่มปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นเก็จมณีเริ่มเข้ามาทำงานในมูลนิธิ ตามความตั้งใจของกรกนกตั้งแต่แรก ทว่าตอนนั้นหล่อนเกียจคร้าน ไม่อยากทำอะไรนอกจากใช้เงิน เวลานี้คิดเช่นนั้นไม่ได้ โดยมีชนิตพรคอยสอนงาน แรกๆ เก็จมณีไม่คุ้นชินกับการทำงานกับคนหมู่มาก โดยเฉพาะกับเด็กด้อยโอกาส ที่เคยมองว่า เป็นคนไร้ค่า พ่อแม่ยังไม่ต้องการ แล้วทำไมมูลนิธิต้องเลี้ยงดูทว่าตอนนี้มัน
บทที่ 86 “น้าคงจำผมได้ใช่ไหมครับ เจ้าของเงินห้าแสนที่ให้น้าแก้กรรมให้เมียผมเมื่อสิบวันก่อน” ธรรม์บดีถามหลังจากทรุดตัวนั่งบนโซฟา “ค่ะ จำได้ค่ะ” เสียงตอบค่อนข้างสั่น หัวใจเต้นแรง “ไหนล่ะครับ หลักฐานว่าน้าแก้กรรมให้แล้ว ตั้งแต่จ่ายเงินไป ผมไม่ได้รับการติดต่อจากน้าเลย” ธรรม์บดีทวง สมใจแม้ว่าใจหวาดหวั่น แต่นางตั้งสติได้ เปิดคลิปที่บันทึกไว้ให้ธรรม์บดีดู “นี่ไงคะ น้าว่าจะส่งให้ดูก็ลืมทุกที” สมใจทำสีหน้าปกติ “คลิปนี้หรือครับ ที่น้าทำพิธีให้เมียผม” ธรรม์บดีถามย้ำ “แน่ใจนะครับว่าเป็นพิธีแก้กรรมให้เมียผม” “ใช่ค่ะ คลิปนี้แหละค่ะ” สมใจตอบไม่ติดขัด ครั้งนี้สมใจใจไม่สู้ดีนัก นางต้มตุ๋นคนมาเยอะ ไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง แม้บางหนจะคล้ายถูกจับผิดได้ แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ ทว่าเวลานี้ นางใจเต้นระส่ำมาก กลัว กังวลอย่างบอกไม่ถูก “เอ...ผมว่าคลิปนี้ผมเคยเห็นนะครับ” ธรรม์บดีพูด ขณะหยิบมือถือตนขึ้นมาเปิดคลิป ก่อนหันหน้าจอมมือถือให้สมใจดู “นี่ไงครับ พิธีกรรมเหมือนกันเลย เป็นแบบนี้แล้ว คลิปที่น้าให้ผมดู จะใช้พิธีกรรมที่น้าทำให้เมียผมจริงหรื
บทที่ 85 “พี่อิฐ...อา...พี่อิฐ” เขาเร่งเร้าอารมณ์กุลธิรัตน์เก่งมาก จุดเชื่อมต่อขยับเข้าออกเนิบช้า บางจังหวะมีเผลอกระแทกแรงๆ แต่เพียงไม่กี่ครั้ง มือใหญ่ทำงานอยู่สองจุดคือ หนึ่งนวดเฟ้นทรวงอกสล้างทั้งสองข้าง หมนุยอดถันบ้างบางเวลา จุดที่สองคือ เนินสวาทเต็มมือ เขาวางนิ้วลงบนเม็ดกระสัน สะกิดบ้าง บดบี้บ้าง ทำงานควบคู่กับเอวใหญ่กระชั้นกายแกร่งเข้าสู่คูหาสวรรค์ “พี่อิฐ พี่อิฐ”“ลูกหมี...ที่รัก...อา” ความสุขสมของกุลธิรัตน์ โอบรัดลำทวนใหญ่จนเขาเสียวไปทั่วตัว เร่งจังหวะมากขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้ตนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า “ที่รัก...ที่รักของพี่”ธรรม์บดีหยุดแช่นิ่งตัวตนในจังหวะสุดท้าย กอดร่างอวบอิ่มไว้แน่น จูบหัวไหล่หล่อนเบาๆ หลังจากดึงกายชายออกจากตัว เขาอุ้มร่างคนท้องเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำให้หล่อนสดชื่น เวลานอนจะได้หลับสบาย แล้วเสร็จก็พาภรรยามานอนที่เตียง“พี่รักลูกหมีนะครับ” เช่นทุกคืนก่อนนอน ที่เขาเอ่ยคำนี้ ก้มหน้าจูบหน้าผากกุลธิรัตน์“ลูกหมีรักพี่อิฐค่ะ” ผลัดกันบอกรัก เติมความหวานให้กันและกัน ธรรม์บดียิ้ม เอนตัวนอนข้างหล่อน โอบกอดภรรยาที่รักสุดหัวใจ และไม่มีวันให้ใครทำร้ายหล่อนได้แม้แต่ปลายก้อย หาก
บทที่ 84 “วันนี้ลูกหมีคงตกใจน่าดู พี่จูบปลอบขวัญละกันนะครับ”ธรรม์บดีรั้งร่างอวบเข้ามากอด เขาบรรจงแนบปากลงบนกลีบปากนุ่มละมุน ตรึงใจเขาเรื่อยมาแม้ว่าผ่านมาหลายปี กุลธิรัตน์เป็นสตรีคนเดียวในโลกที่ธรรม์บดีปรารถนา และวางหัวใจให้ จุมพิตครั้งนี้ไม่ต่างกับครั้งก่อน ยังคงอ่อนหวาน อ่อนโยนและเรียกร้องไปในที เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงรัก ที่เขากำลังป้อนให้ภรรยา อายุครรภ์หกเดือนไม่ใช่ปัญหา ธรรม์บดีรู้ดีว่า ตนต้องทำอย่างไร ให้เขาและภรรยามีความสุข ในขณะเดียวกันก็ทะนุถนอมลูกน้อยในครรภ์ หลังจากจุมพิตปากหวานสะท้านใจจนพอใจ เขาละห่างเพื่อจัดการชุดนอนของกุลธิรัตน์ให้พ้นตัว เมื่อหล่อนอยู่ในสภาพไร้ซึ่งอาภรณ์ เขาวางมือลงบนท้องนูน ลูบแผ่วเบา คล้ายทักทายคนสำคัญในนั้น ร่างอวบอิ่มถูกดันให้นอนราบบนที่นอน ธรรม์บดีเอนตัวเกยก่าย มือใหญ่วางลงบนดอกบัวสล้าง ที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย บีบเบาๆ เคล้นหนักมือพอประมาณ “พี่รักลูกหมีที่สุดในโลก” ธรรม์บดีเอ่ยคำหวาน จุมพิตปากสาวอีกรอบ ไม่นานนักเขาเปลี่ยนเป้าหมายไปยังแก้มนวล แวะเวียนหอมหลายฟอด ปลุกความซ่านสยิวให้สาวเจ้าตรง
บทที่ 83 “น้าดูดวงให้ใครมาเยอะค่ะ แล้วทุกคนก็เชื่อตามที่น้าแนะนำ แต่ก็มีบ้างค่ะที่ไม่เชื่อ คนเชื่อและทำตามก็ดีไป แก้กรรมได้ทัน บางคนไม่เชื่อ ไม่ทำตามที่น้าบอก เลยเกิดเรื่องไม่ดี อย่างคนนึงค่ะ น้าบอกว่าหลานที่เกิดมาถ้าเป็นผู้ชายจะดี แต่ถ้าเป็นหญิงไม่ดี เธอกลับไม่เชื่อน้าค่ะ สุดท้ายก็ได้หลานผู้หญิง ครอบครัวเลยวิบัติ ถ้าเชื่อน่าแล้วทำตามล่ะก็ คงไม่เป็นแบบนี้” สมใจพูดโอ้อวดกุลธิรัตน์หน้าเสียขึ้นมาทันใด มีความตกใจเข้าแทรก เพราะเรื่องราวคล้ายกับลัดดา ที่เชื่อหมอดูมากเหลือเกิน หล่อนจับมือสามีไว้แน่น ซึ่งธรรม์บดีรับรู้ได้ว่า ภรรยารู้สึกเช่นไร เดือนดาว มณี กรกนกทำหน้าเหมือนมีอะไรติดในใจ กับเรื่องราวคุ้นๆ “แล้วโหงวเฮ้งเมียผมเป็นยังไงครับ มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าครับ” ธรรม์บดีถามราวกับว่าสนใจ เขาอยากรู้ว่า สมใจจะมาไม้ไหน “แล้วพอจะบอกผมได้ไหมครับว่า ชื่อของคนที่คุณบอกว่า ไม่เชื่อคำพูดคุณ แล้วครอบครัววิบัติ คือใคร” “ได้สิคะ ยกตัวอย่างคนนี้ค่ะ ชื่อลัดดา น้าบอกเธอว่า ถ้าหลานเกิดมาเป็นผู้หญิงจะไม่ดี แต่เธอไม่เชื่อค่ะ ให้หลานสาวเกิดมาจนได้ ก็เลยเกิดเรื่องไม่ดี” สมใจได้รับเ
บทที่ 82 วันหยุดยาวหลายวัน สองครอบครัวมีทริปเที่ยวทะเล ตามที่ธวัฒน์ชลอยากมา สถานที่ที่ทั้งหมดเลือกคือ ทะเลแถวจังหวัดตรัง บ้านพักริมทะเลของญาติกรกนกคือบ้านพักของพวกเขา ครั้งนี้มากันครบองค์ประชุม นอกจากเหตุผลตามใจธวัฒน์ชล อีกเหตุผลหนึ่งคือ ธรรม์บดีมาติดต่อซื้อบ้านพักที่อยู่ห่างไปสี่ร้อยเมตร เจ้าของประสบปัญหาทางการเงิน จึงขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน เมื่อฐากูรรู้เรื่องจึงนำมาบอกธรรม์บดี เขาสนใจเพราะคิดว่า ต่อยอดได้ ผ่านมาสี่ปีความพยายามฐากูรในการผลิตทายาทไม่เป็นผล ทั้งวิธีธรรมชาติและพึ่งวิวัฒนาการทางการแพทย์ ทั้งสองจึงไม่รีบเร่ง คิดในแง่บวกคือ หากมีบุญวาสนาต่อกัน ทายาททั้งคู่คงมาเอง การไม่รีบร้อน ปล่อยไปตามบุญพาวาสนา ทั้งคู่ตกลงกันว่า สุดท้ายไม่มีลูกจริง ก็จะเลี้ยงหลานที่เกิดจากกุลธิรัตน์กับเก็จมณี เพราะถือว่า เป็นคนในครอบครัวทั้งสองเช่นกัน เอ่ยถึงเก็จมณี ความรักครั้งแรกของหล่อนพังทลาย เมื่อเขาคนนั้นคือน้องชายตนเอง เก็จมณีจึงกลบความรักของตนไว้ก้นบึงหัวใจ ไม่เปิดใจรับใครทั้งสิ้น แม้คนที่มาจีบ บางคนโปรไฟล์เลิศ หล่อ รวย ดูดีมีชาติตระกูล หล่อนขอรับชายเ
บทที่ 81บ้านหิรัญภักดีหลังเท่าเดิม เพิ่มเติมคือ สมาชิกในบ้าน และความสุขที่มากขึ้นทุกวัน คนที่สร้างความสุขใจให้ทุกคน เป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กชายธวัฒน์ชลหรือน้องชอปเปอร์ วัยสี่ขวบ จุดศูนย์รวมแห่งความรัก สร้างความบันเทิงให้ทุกคนไม่น้อย ไม่เพียงแค่ครอบครัวหิรัญภักดีที่ได้รับความสุข ครอบครัวอนันตเสรีได้รับความสุขเช่นกัน โดยเฉพาะกรกนก นางมีความสุขนอกจากมีหลานชายไว้อุ้มชู เก็จมณีลูกสาวนอกสายเลือดที่นางรักไม่ต่างกับลูก เป็นคนดีขึ้นมากแบบหนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ไม่คิดทำอะไร เวลานี้เป็นเจ้าของร้านสเต็กที่ได้รับความนิยมในเวลาเพียงแค่หกเดือน ชื่อร้านของเก็จมณี ไม่ได้เลิศหรู เป็นภาษาต่างประเทศที่หลายร้านมักใช้ หล่อนใช้ชื่อ ร้านสเต็กกรกนก เพราะคิดว่า มารดาคือสิ่งมงคลที่สุดสำหรับชีวิต เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน และเป็นแม่ที่ให้โอกาสลูกเสมอ โดยเฉพาะกับหล่อน ลูกที่นางไม่ควรได้รับโอกาสจากใคร นิสัยเก็จมณีเปลี่ยนไปเช่นกัน จากใช้ของฟุ่มเฟือย เก่งแต่ซื้อ แต่ไม่ค่อยใช้ เข้ากับคำพูดที่ว่า ของมันต้องมี โดยไม่สนใจเรื่องราคา เวลานี้เก็จมณีไม่ใช่นักช็อป หล่อนใช้ของที่มีอยู่สลับกันไป
บทที่ 80ข่าวคราวเรื่องอนงค์กับลัดดา ไม่ได้มีอิทธิพลต่อครอบครับกรกนกและกุลธิรัตน์ สองแม่ลูกคิดว่า มันคือข่าวสารปกติ ไม่ได้ยินดียินร้าย ให้ความสงสารหรือต้องไปเยี่ยมดูอาการ ลัดดายังมีชีวิตอยู่ แต่อยู่อย่างทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ อภิรักษ์กับคีรยาไม่สนใจนาง รวมถึงลูกคนอื่นต่างหันหน้าหนี มีหรือญาติพี่น้องจะใส่ใจ เมินเฉยกันทุกคน สร้างความบอบช้ำทางใจให้นางไม่น้อย ร้องไห้แทบทุกวัน คนที่ดูแลลัดดาคือ ลูกจ้างที่อภิรักษ์จ้างมาแต่ก็ดูแลลัดดาไม่ดีเท่าที่ควร ปล่อยปะละเลย ให้นอนจมกองของขับถ่าย เป็นนานกว่าจะมาเปลี่ยนให้ แถมยังหยิกแขน ตีขาลัดดาบ่อยๆ จนเกิดรอยไปทั่ว อภิรักษ์เห็นก็ไม่ดุด่าว่ากล่าวลูกจ้าง ทำเป็นมองไม่เห็น หัวใจลัดดายิ่งร้าวรานมากขึ้นหลายเท่า อาการอัมพฤกษ์ขยับตัวไปไหนไม่ได้ ทำให้ลัดดามีเวลาคิดทบทวน เรื่องในอดีต ความเชื่อมั่นในคำทำนายของหมอดู คือชนวนแรก หากวันนั้นนางมีสตินึกคิด ไม่หลงเชื่อแบบปักใจ ให้ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามกำหนด หาใช่เพราะตัวนางชี้นำ เรื่องร้ายในครอบครัวคงไม่เกิดขึ้นใครกันแน่ที่เป็นตัวซวย เป็นตัวกาลกินีนำพาความวิบัติมาให้ ตอนนี้ลัดดารู้แล้วว่า คือใ
บทที่ 79 หกเดือนต่อมา ที่นอนหลังที่ใช้มานานเกือบห้าปี กำลังถูกทดสอบว่า ยังคงทำงานได้ดีหรือไม่ หรือว่าต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อประสิทธิภาพดีกว่า การทดสอบของเขาและหล่อนคือ พลอดรัก ริมฝีปากสองหนุ่มสาวแนบชิด ต่างฝ่ายต่างมอบจูบเร่าร้อน คุกรุ่นด้วยไอเสน่หาเคลือบผิวกาย มือใหญ่กอบกุมอกอวบ เคล้นไม่แรงมาก ก่อนละห่างเรียวปากนุ่มละมุน มายังอวัยวะที่มือสัมผัส มอบความกระสันซ่านให้สาวสวยด้วยปากและลิ้น ประโลมเลียแผ่วเบา ทว่าเผ็ดร้อน ลิ้นตวัดบนเม็ดบัวเบาๆ ไรฟันขบกัดอย่างหยอกล้อ “พี่อิฐ...อา...พี่อิฐ” กุลธิรัตน์ครางจากความเสียวเล่นงาน ท้องไส้หล่อนปั่นป่วน เพลิงสวาทเริ่มสุมในร่างกายมากขึ้นทุกขณะ เขาเติมเชื้อไฟต่อเนื่อง มือเคลื่อนต่ำไปยังดอกไม้งาม จุดที่ทำให้ร่างสาวร้อนดังไฟนาบ วูบวาบจนหล่อนต้องปล่อยเสียรัญจวน ระบายความร้อนสุมทรวง “อา...พี่อิฐ...พี่อิฐ”นิ้วมือบดบี้เม็ดละมุดหนักมือ เนื้อตัวกุลธิรัตน์สั่นตามแรงกดเน้น ที่เพิ่มความแรง ก่อนเปลี่ยนเป็นระรัวนิ้ว หญิงสาวรู้สึกว่า กำลังถูกพายุปรารถนาเล่นงาน ก่อนพายุนั้นลูกจมดิ่งแทรกซ้อนลงไปในดอกผกา ปลุกเร้าทุกความสยิวซ่านในกายโหมกระพือ
บทที่ 78 ลัดดาร้องไห้กับสภาพตัวเอง คนที่เคยเดินได้ ไปไหนมาไหนตามใจ ต้องมานั่งนอนติดเตียง มีหรือจะไม่ทรมานใจ ราวกับว่าหัวใจถูกราดด้วยน้ำกรด แสบร้อน ย่อยยับ มาโบกทับด้วยความใจร้ายใจดำของลูกชายกับคีรยาที่ทำกับตนเช่นนี้ ไม่เห็นว่านางเป็นคนในครอบครัว ทิ้งขว้างไม่สนใจใยดี เสมือนฉีกหัวใจนางออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นางทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ ร้องให้กับความเสียใจ เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ห้องที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องลัดดา คือห้องของอนงค์ หลังจากงานศพชนินทร์ที่จัดอย่างเรียบง่าย มีแขกมาไม่มากนัก ด้วยสภาพร่างกายลัดดา อภิรักษ์ไม่ให้ไปร่วมงานด้วย อนงค์กลายเป็นคนละคน หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง บางครั้งนั่งเหม่อลอย กอดรูปภาพชนินทร์ พร่ำรำพันคำขอโทษ หอมรูปภาพในมือ แล้วร้องไห้ “อีนิ่ม เอาลูกกูคืนมานะ แล้วเอาลูกมึงไป เอาลูกกูคืนมา เมญ่าลูกแม่ ลูกแม่...ฮือ”จิตใจอนงค์ถวิลหาเก็จมณีไม่น้อย นางเอ่ยปากไม่หยุด โวยวายหาว่ากรกนกชิงเก็จมณีไป ด่าทอไม่ขาดปาก สลับกับร้องไห้ สภาพน่าสงสาร ทว่ากลับไม่มีใครเห็นใจสักคน ตกบ่าย ขณะลัดดากับอนงค์ไร้คนสนใจ รถบีเอ็มดับบลิวแล่นมาจอดหน้าป