“ย่ายังไม่ได้พูดแบบนั้นเลย แต่ย่าหมายความว่าคนที่จะอยู่กับแม่ของเด็กก็คือนนท์เพราะฉะนั้นมันก็อยู่ที่นนท์นั่นแหละว่าจะรับผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องมีพิธีแต่งงานหรือจะรับแค่เด็ก ที่นนท์ถามย่าแบบนี้เพราะนึกออกแล้วใช่ไหมว่าไปทำผู้หญิงที่ไหนท้อง”
“ไม่หรอกครับคุณย่ามันก็แค่เรื่องที่ผมสมมติขึ้น”
“จะเป็นเรื่องสมมติหรือเรื่องจริงย่าไม่สนใจหรอกเพราะยังไงเด็กที่อยู่ในท้องของเธอก็เป็นลูกของนนท์”
“แต่ทำไมสีหน้าของย่าดูกังวลจังล่ะครับมีอะไรหรือเปล่า” คุณานนท์รู้สึกผิดที่สมมติเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทำให้คุณย่าเครียด
“ถ้าเรื่องที่เรากำลังพูดกันอยู่เป็นเรื่องจริง สำหรับย่าแล้วมันไม่มีปัญหาอะไรเลยแต่ปัญหามันอยู่ที่พ่อแม่ของนนท์มากกว่านะ ย่าได้ยินมาว่าเขากำลังพยายามหาลูกสะใภ้อยู่น่ะ”
แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ออกไปเจอใครที่ไหนแต่ก็ใช่ว่าคุณชมนาดจะไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกชายกับลูกสะใภ้ของเธอกำลังวางแผนจะทำอะไรกันอยู่
“ถ้าเกิดพ่อกับแม่หาผู้หญิงให้ผมจริงๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นผมไม่รัก ไม่ชอบย่าจะช่วยผมได้ไหม”
“ถ้านนท์อยากให้ย่าช่วยย่าก็จะช่วยเพราะย่าเป็นคนเลี้ยงนนท์มา ถึงเขาจะเป็นพ่อเป็นแม่แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับลูกหรอกเพราะตอนที่เขาจะแต่งงานย่าก็ไม่เคยไม่ยุ่งเรื่องนี้เลย”
“ขอบคุณมากครับคุณย่าที่เข้าใจผม”
“นนท์พูดเหมือนไม่อยากยอมรับผู้หญิงที่พ่อกับแม่หาให้เลยนนท์รู้เหรอว่าพ่อกับแม่กำลังติดต่อผู้หญิงคนไหนให้”
“พอจะรู้บ้างครับ เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณพ่อผมเคยเจอเธออยู่หลายครั้ง”
“แล้วเป็นยังไงสวยถูกใจหรือเปล่า พอจะคบหากันได้ไหม” คุณชมนาดถามหยั่งเชิง
“ไม่เลยครับคุณย่าเธอเป็นผู้หญิงทำงานเก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากครับแต่ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้น”
“แล้วนนท์ของย่าชอบผู้หญิงแบบไหน”
“ผมชอบผู้หญิงธรรมดาที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขไม่ต้องทำงานเก่งมาก ถ้าจะให้ดีมีความเป็นแม่บ้านนิดๆ ก็ดี”
“แต่ผู้หญิงสมัยนี้หายากนะคะลูก ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ทำงานนอกบ้านกันทั้งนั้น”
“ก็เพราะมันหายากไงล่ะครับคุณย่า ผมก็เลยคิดว่าถ้าหาเจอก็จะดีมากๆ ผมอาจจะหัวโบราณไปหน่อยที่มองว่าผู้หญิงควรทำงานอยู่ที่บ้านคอยดูแลสามีและครอบครัว”
“มันก็ไม่ได้เรียกว่าหัวโบราณบอกนะมีผู้ชายหลายคนที่ชอบผู้หญิงแบบนี้ บางครั้งผู้ชายที่ทำงานนอกบ้านเหนื่อยๆ ก็อยากจะกลับมาเจอคนคอยดูแลอยู่ที่บ้าน คอยถามว่าเหนื่อยไหมคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เหมือนปู่ของนนท์ไงล่ะท่านทำงานหนักมากๆ เริ่มจากคลินิกเล็กๆ จนถึงตอนนี้มีโรงพยาบาลในสาขาถึงห้าแห่ง”
“ปู่ของผมเก่งมากเลยนะครับ”
“ใช่จ้ะ ปู่ของนนท์เก่งมากๆ แต่ตอนนั้นย่าไม่เคยช่วยงานอะไรในคลินิกของปู่เลย เพียงแต่ทุกครั้งที่ปู่กลับมาบ้านย่าจะคอยให้กำลังใจคอยดูแลเขา หาอาหารอร่อยๆ ให้เขาคอยถามว่าเขาเหนื่อยไปแค่นั่นแหละที่ปู่เขาต้องการ ตอนนั้นมีผู้หญิงหลายคนที่เหมาะสมกับปู่มาก มีทั้งที่เป็นหมอด้วยกัน เป็นลูกของคนมีเงินที่จะช่วยเหลือเรื่องธุรกิจได้ แต่ปู่ก็เลือกย่าที่เป็นแค่คนธรรมดาไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ไม่รู้เรื่องบริหาร ปู่บอกว่าเรื่องงานนอกบ้านพวกนั้นปู่จัดการเองได้ หรือจ้างคนอื่นมาทำงานได้ แต่คนที่คอยให้กำลังใจคนที่เข้าใจและคอยดูแลนั้นมันหายาก” เมื่อพูดถึงคนเป็นสามีแล้วคุณชมนาดก็ยิ้มเพราะเธอไม่คู่ควรกับเขาเลยแต่เขาก็เลือกเธอเป็นคู่ชีวิต
“ผมไม่รู้ว่าจะหาผู้หญิงแบบนั้นเจอไหม”
“คุณนนท์คะแต่ป้าว่าคุณนนท์อย่าเพิ่งหาผู้หญิงตรงสเปกเลยค่ะ คุณนนท์ต้องหาก่อนว่าตอนนี้กำลังแพ้ท้องแทนผู้หญิงคนไหนแล้วรีบพามาเจอคุณท่านก่อนที่เธอจะเอาเด็กออกนะคะ”
ป้าสำรวยเตือนด้วยความหวังดีเพราะสมัยนี้การทำแท้งมีให้เห็นอยู่ทั่วไปเธอกลัวเหลือเกินว่าผู้หญิงที่นอนกับเจ้านายของเธอรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์และจะไปเอาเด็กออก
“แต่ย่าว่ามันแปลกๆ นะ”
“แปลกยังไงครับคุณย่า”
“ก็ถ้าผู้หญิงที่นนท์ไปนอนด้วยแล้วพลาดทำเธอท้อง ย่าว่าตอนนี้เธอก็น่าจะรีบมาแสดงตัวและบอกให้นนท์รับผิดชอบไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้ ย่ากลัวจะเหมือนที่ป้าสำรวยพูดว่าเธอจะแอบไปเอาเด็กออก”
“คุณย่าครับผมว่าคุณย่ากับป้าสำรวยคิดมากเกินไปแล้วอาการที่ผมเป็นอยู่อาจจะเป็นแค่อาการเวียนหัวไม่สบายเพราะพักผ่อนน้อยก็ได้อย่าเพิ่งคิดไปไกลเลย”
“ถ้านนท์อยากให้ย่าสบายใจก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลสิ โทรไปบอกที่โรงพยาบาลก่อนว่าจะเข้าไปตรวจไม่ต้องตรวจกับพ่อหรือพี่สาวเราก็ได้เลือกหมอมาสักคนจะได้กินยาก่อนประชุม”
“ถ้างั้นก็ได้ครับ ผมจะแวะไปที่โรงพยาบาลน่าจะทันเข้าประชุม”
“กินอะไรก่อนไหมคะเดี๋ยวป้าทำอย่างอื่นให้”
“คงไม่แล้วล่ะป้าสำรวยในตู้มีสตรอว์เบอร์รีอีกไหม”
“มีค่ะ เดี๋ยวป้าเอาใส่กล่องให้นะเอาพริกเกลือด้วยไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับเอาแค่สตรอว์เบอร์รีก็พอ”
เมื่อได้สตรอว์เบอร์รีจากป่าสำรวยแล้วชายหนุ่มก็ขับรถออกจากบ้าน ตอนนี้เบาะข้างคนขับเปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งปกติจะวางกระเป๋าเอกสารแต่วันนี้กับกลายเป็นที่วางกล่องสตรอว์เบอร์รี เขาหยิบไปทานอยู่หลายลูกก่อนจะขับรถมายังโรงพยาบาลที่ครอบครัวของตนเองเป็นเจ้าของ
คุณานนท์คิดว่าจะเข้าตรวจตามขั้นตอนเพราะไม่อยากให้ทุกคนวุ่นแต่พอพยาบาลที่ทำงานมานานเห็นก็รีบจัดการให้เขาได้เข้าตรวจกับคุณหมออายุรกรรมทันที
ชายหนุ่มเล่าอาการให้กับคุณหมอฟัง คุณหมอวินิจฉัยว่าอาการที่เขาเป็นน่าจะเกิดจากการพักผ่อนน้อยและความเครียดสะสมจึงให้ยาแก้อาเจียนและยาบำรุงรวมถึงวิตามินต่างๆ และกำชับว่าจากนี้ให้เขาทานอาหารให้ครบห้าหมู่พักผ่อนให้เป็นเวลาและหมั่นหาเวลาออกกำลังกาย ถ้ามีอาการไม่ดีขึ้นก็ให้กลับมาพบอีกครั้งเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
เขาออกจากโรงพยาบาลและเดินสวนทางกับพี่สาวบริเวณหน้าประตูทางเข้าพอดี
“อ้าวนนท์มาทำไมเหรอ”
“มาหาหมอน่ะ”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“เวียนหัวอาเจียนนิดหน่อย หมอให้ยามาแล้ว” เขาชูถุงยาให้กับนันนภัสพี่สาวดู
“ช่วงนี้ทำงานหนักเหรอ” เธอถามน้องชายเมื่อเห็นยาที่คุณหมอสั่งให้
“ก็หนักอยู่ครับ”
“ถ้ามันหนักมากๆ ก็หาผู้ช่วยเก่งๆ มาช่วยงานเพิ่มสิ พี่ว่าทำงานหักถึงขั้นอาเจียนแบบนี้ไม่ดีเลย ร่างกายคนเราไม่ใช่เครื่องจักรนะ”
“ครับพี่นัน” คุณานนท์รับปากแต่ไม่คิดจะทำตามเพราะเขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายเท่าไหร่ ปกติเขาก็มีเลขาคอยช่วยเหลืองานอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องจ้างผู้ช่วยเพิ่ม
“หาเวลาพักผ่อนด้วยนะนนท์ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็มานอนโรงพยาบาลสักสองสามคืนฟื้นฟูร่างกายกันหน่อย ช่วงนี้ใช้งานร่างกายหนักเหลือเกิน”
“ครับพี่นัน ผมไปก่อนนะพี่วันนี้มีประชุม”
ตลอดช่วงเช้าคุณานนท์ก็ไม่ได้ทานอาหารอะไรเลยนอกจากสตรอว์เบอร์รีที่เอามาจากบ้านเมื่อประชุมเสร็จในเวลาบ่ายสองคุณมยุรีเลขาของเขาก็สั่งอาหารมาที่ห้องทำงานแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอก็เดินเข้าจะเก็บจานชามไปล้างแต่เจ้านายกลับทานอาหารไปแค่นิดเดียว
“คุณนนท์เบื่ออาหารร้านนี้หรือเปล่า ให้ยุสั่งร้านอื่นให้มั้ยคะ” เธอถามเพราะเห็นว่าหน้าเจ้านายซีดมากๆ แต่ไม่ยอมทานอาหารไปแค่นิดเดียว
“ผมอยากกินอะไรที่มันเปรี้ยวๆ หน่อยได้ไหม”
“ถ้าอย่างนั้นเอาต้มยำรสจัดๆ ดีไหมคะ”
“อือ”
“คุณนนท์จะรับเป็นน้ำข้นหรือน้ำใสคะ”
“ขอเป็นน้ำใสก็แล้วกันนะ” ชายหนุ่มรีบบอกเพราะนึกถึงต้มยำน้ำข้นแล้วก็รู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมาทันที
“คุณนนท์รอไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะคะเดี๋ยวยุสั่งมาให้ค่ะ”
“วิวมีผ้าอนามัยให้ยืมไหม” นัยนากระซิบถามวิรัลพัชรที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ“มีสิ” หญิงสาวรีบเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วส่งผ้าอนามัยให้เพื่อน“ขอบใจนะเดี๋ยวจะซื้อมาคืนให้”“ไม่เป็นไรหรอกปอนด์”เมื่อนัยนาเดินออกจากโต๊ะทำงานเธอไปแล้ววิรัลพัชรก็เปิดลิ้นชักดูอีกครั้งปกติแล้วเธอจะเตรียมผ้าอนามัยไว้ในลิ้นชักแบบนี้อยู่เสมอแต่จำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ตัวเองหยิบมาใช้มันตอนไหนกันแน่เพราะจำนวนผ้าอนามัยยังคงเยอะอยู่ทั้งที่เดือนนี้เธอไม่ได้ซื้อมาเพิ่มเลย หญิงสาวหญิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปฏิทินที่บันทึกวันที่เป็นประจำเดือนของตนเองไว้ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเดือนนี้เธอยังไม่เป็นประจำเดือนแต่เดือนที่แล้วเธอก็มีประจำเดือนตามปกติเพียงแต่ไม่ได้มากเหมือนกับทุกครั้งวิรัลพัชรหน้าเครียดเมื่อดูจากปฏิทินแล้วเดือนนี้ประจำเดือนของเธอมาช้ากว่ากำหนดถึงสิบวัน ซึ่งปกติแล้วหญิงสาวเป็นคนที่มีประจำเดือนไม่ค่อยตรงตามเวลาเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยมาช้าแบบนี้หญิงสาวเริ่มเป็นกังวลว่าตนเองจะตั้งครรภ์หรือเปล่าแต่ความเป็นไปได้มันก็น้อยมากเลยเพราะเมื่อเดือนที่แล้วเธอยังมีรอบเดือนถึงแม้มันจะเป็นรอบเดือนเพี
เช้าวันเสาร์หลังจากทำตามขั้นตอนที่ติดอยู่ข้างกล่องแล้ววิรัลพัชรก็นั่งลุ้นผลการตรวจ เมื่อปรากฏขีดสีแดงสองขีดบนแท่งพลาสติกที่ใช้ตรวจการตั้งครรภ์หญิงสาวก็เข่าแทบทรุด เธอหยิบที่ตรวจครรภ์อีกอันหนึ่งขึ้นมาตรวจแล้วผลมันก็เหมือนกับที่ตรวจครรภ์อันแรกวิรัลพัชรเดินกลับเข้ามาบนเตียงนั่งกอดเข่าร้องไห้เธอไม่รู้ว่าจะมีชีวิตของตนเองจะเป็นยังไงต่อไป ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำยังไงกับตัวเองดี หญิงสาวไม่รู้เลยว่าความผิดพลาดและความเมาในคืนนั้นจะนำมาซึ่งความทุกข์มากขนาดนี้หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วลังเลว่าจะโทรศัพท์หาใครสักคนเพื่อจะปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้น เธออยากปรึกษาพิมพ์วดีเพราะการไปเที่ยวครั้งนั้นเธอไปกับพิมพ์วดีแต่ถ้าเกิดพิมพ์วดีรู้ก็กลัวว่าเพื่อนจะเครียดเพราะเป็นคนชวนไปเที่ยวแต่พอจะโทรหานลินภัสก็กลัวเพื่อนจะคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเพราะถ้าหากนลินภัสไปเที่ยวด้วยในคืนนั้นเหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้ววิรัลพัชรก็เลยตัดสินใจไม่โทรหาใครทั้งนั้นเธอคิดจะแก้ปัญหาเรื่องนี้คนเดียวหญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปปรึกษาคุณหมอว่าจากนี้เธอจะต้องปฏิบัติตัวยังไงเพราะวิรัลพัชรตัดสินใจแล้วว่าจะตั้งคร
เช้าวันอาทิตย์คุณานนท์ไม่ต้องไปทำงานแต่ชายหนุ่มก็ตื่นนอนแต่เช้าเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน อาการของเขาเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วแม้จะทานยาที่คุณหมอให้มาแต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย เขาเริ่มเป็นกังวลว่าตัวเองจะป่วยเป็นอะไรมากหรือเปล่าและคิดวันนี้จะเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ชายหนุ่มไม่ชอบอาการที่เป็นอยู่นี้เลยเพราะมันทำให้เขาทำงานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วคุณานนท์ก็เดินลงมาทานอาหารเช้ากับคุณย่าตามปกติ“หน้าซีดลงมาอีกแล้ว ย่าว่าอาการเราไม่น่าจะไหวแล้วนะนนท์” คุณชมนาดมองหลานชายแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงไม่ได้แต่ในใจเธอก็ยังคิดอยู่ว่าอาการของคุณานนท์นั้นเหมือนกับอาการแพ้ท้องแทนภรรยาแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองไปแอบมีภรรยาซ่อนไว้ที่ไหน“เช้านี้ป้าอาหารฝรั่งให้คุณนนท์นะนะ มีไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังปิ้งแล้วก็น้ำส้มคั้นสดๆ ค่ะ คุณนนท์จะได้ไม่คลื่นไส้”“ขอบคุณครับป้าสำรวยแล้วคุณย่าไม่กินเหมือนผมเหรอครับ”“ย่าไม่ถนัดกินของพวกนั้นหรอก ย่าขอเป็นข้าวต้มดีกว่าแต่ย่าไม่ได้ใส่กระเทียมเจียวนะ ย่ารู้ว่านนท์ไม่ชอบกลิ่นของมัน”“คุณย่าครับ ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณย่าต้องอดกินของอร่อย”“
จริงๆ แล้วคุณานนท์ก็มีคำตอบอยู่ในใจแต่เขาไม่อยากจะเชื่อหรอกว่าตัวเองจะทำผู้หญิงคนนั้นท้องแม้ว่าคืนนั้นเขาจะไม่ได้ป้องกันก็ตาม ชายหนุ่มคิดว่ามันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น“พี่นันครับ ผมนอนกับผู้หญิงคนหนึ่งตอนที่ผมไปเที่ยวเมื่อสองเดือนก่อน”“แล้วได้ป้องกันหรือเปล่า”“ไม่เลยครับ”“ทำไมนนท์ทำตัวเหลวไหลอย่างนี้ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องท้องอย่างเดียวมันมีโรคต่อด้วยเราได้ไปตรวจเลือดมาหรือยัง”“ไม่จำเป็นต้องตรวจก็ได้ครับพี่นัน”“ทำไมนนท์ใช้ชีวิตประมาทจัง ถ้าเกิดเธอป่วยแล้วเอาโรคมาติดนนท์ขึ้นมาจะทำยังไง รีบตรวจจะได้หาทางรักษา”“พี่ครับผมเป็นคนแรกของเธอผมคิดว่าเธอคงไม่เอาโรคอะไรมาติดผมหลอก”“อะไรนะเป็นคนแรกของเขาแล้วก็ไปทำเขาท้องเนี่ยนะ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนรีบพาเธอมาหาพี่เลยนะก่อนที่เธอจะไปเอาเด็กออก”“ผมไม่รู้หรอกครับว่าเธออยู่ที่ไหนผมกับเธอก็แค่วันไนท์สแตนด์”“พี่ปวดหัวกับการใช้ชีวิตของเราจริงๆ นอนกับผู้หญิงโดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วทีนี้จะเอายังไงถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริงๆ ล่ะ”“คงไม่ซวยขนาดนั้นหรอกน่า”“มันก็ไม่แน่นะ เธออายุประมาณเท่าไหร่บางครั้งผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ก็ท้องง่ายมา
“แค่คืนนี้ทุกอย่างก็จบใช่ไหม”“ใช่”“มันก็น่าลองเหมือนกันนะ”คำตอบของหญิงสาวทำให้คุณานนท์พอใจเป็นอย่างมาก“รับรองเลยว่าคุณจะจำคืนนี้ไปอีกนาน”คุณานนท์กระซิบข้างหูก่อนจะก้มลงจูบไปบนริมฝีปาก ที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มอาศัยจังหวะนั้นส่งปลายลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กของหญิงสาวได้อย่างพอดีวิรัลพัชรหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เมื่อชายหนุ่มจูบลงมาอย่างหนักหน่วงและเร่าร้อนเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์สวาทที่เขามอบให้สองมือเผลอคล้องไปบนลำคอเป็นที่ยืดจูบที่เขามอบให้ครั้งนี้มันทำให้เธอสั่นสะท้านร่างกายร้อนรุ่มแทบจะหลอมละลาย มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเนียนนุ่ม ยิ่งถูกสัมผัสวิรัลพัชรก็ขยับกายเข้าหาไปตามสัญชาตญาณ“อื้ม..”เสียงหวานครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากร้อนขบเม้มไปบนเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นผ้าเช็ดตัว“ผมว่าผ้าเช็ดตัวมันเกะกะมากเลยนะ”พูดจบเขาก็ดึงผ้าเช็ดตัวของหญิงสาวออกตาคมจ้องไปบนอกอิ่มของเธออย่างหื่นกระหาย เรือนร่างของเธอสวยงามและสมส่วนจนเขาแทบไม่อยากจะละสายตา“อ๊ะ!.....”วิรัลพัชรสะดุ้งเมื่อฝ่ามือร้อนกำลังกอบกุมเต้าคู่งามของเธอจนมันเต็งตึงสู้มือ ยิ่งเขาเคล้นคลึงเธอก็แอ่นอกเข้าหาอย่างน่าอาย
เสียงหวานครางรัญจวนชายหนุ่มก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น แรงขึ้น เขาโจนจ้วงเข้าหาความคับแน่นอย่างบ้าคลั่ง ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ได้เป็นคนแรกไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอเป็นคนแรก แต่ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้อิ่มเอมใจมากมายถึงเพียงนี้ความเสียวซ่านที่คุณานนท์มอบให้หญิงสาวไม่เคยได้รับมาก่อน อกแอ่นเข้าหาปากร้อนที่ดูดดึงขบเม้มเต้าคู่อวบจนเปียกชุ่ม สะโพกยกขึ้นสูงส่ายรับกับท่อนเอ็นร้อนเป็นจังหวะประสานที่ลงตัว“อ๊ะ! อื้อ..ตรงนั้น”“ตรงนี้ใช่ไหม ถูกใจใช่ไหม อ่า....รัดผมจะขาดแล้วนะ”คุณานนท์กดย้ำไปยังจุดเดิมซ้ำๆ จุดภายในที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะทำให้ตนเองเสียวซ่านได้มากถึงเพียงนี้หญิงสาวครางหวานร้องขอให้เขาช่วยเธออีกครั้ง“คุณนนท์ขา... ไม่ไหว วิวใจจะขาด มันทรมาน”“ใกล้แล้วใช่ไหม จะถึงแล้วใช่ไหม ปลดปล่อยนะ เรียกชื่อผม ผมอยากได้ยิน”หญิงสาวไม่รู้ว่าใกล้อะไรรู้แต่ตอนนี้ร่างกายกำลังจะระเบิดอีกครั้งความเสียวซ่านมันมากว่าเมื่อครู่ไม่รู้กี่เท่า ชายหนุ่มถาโถมเข้าลึกสุดแรง ส่งเธอไปแตะขอบสวรรค์อีกครั้ง“อื้อ คุณนนท์ ขา คุณนนท์ อ๊ายยยยย...”หญิงสาวกรีดร้องเมื่อความสุขสมมาเยือนอีกครั้งมันสุขจนคิดไม่ถึ
ตอนนี้วิรัลพัชรตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์แล้วหญิงสาวยังไม่มีอาการอะไรให้คนอื่นผิดสังเกตซึ่งเธอรู้สึกว่ามันแปลกมากๆ และคงเป็นโชคดีที่ไม่แพ้ท้องและอาเจียนในตอนเช้าเหมือนอย่างที่หลายๆ คนเป็น มันเลยทำให้หญิงสาวยังคงทำงานได้ตามปกติ เพื่อนในแผนกก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์เลยสักคนวิรัลพัชรไม่คิดจะปิดบังทุกคนไปตลอดเพราะอีกไม่กี่เดือนท้องเธอก็จะต้องโตขึ้นแต่ในเมื่อยังไม่มีใครสังเกตเห็นหญิงสาวก็คิดว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปป่าวประกาศเรื่องนี้ให้กับคนอื่นได้รู้อาการที่หญิงสาวเป็นอยู่ในตอนนี้จะมีแค่อาการเดียวคืออาการหิวมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาบ่ายทำให้เธอต้องซื้อขนมมาติดไว้ที่ลิ้นชักและเอาออกมารับประทานในช่วงเวลาบ่ายทุกวันในเวลาพักเบรกที่คนอื่นพักดื่มกาแฟแต่เธอต้องมีขนมและผลไม้มาเพิ่ม“วิวเดี๋ยวเอาเอกสารในแฟ้มนี้ไปให้คุณหมอที่แผนกโอพีดีเซ็นด้วยนะ มีหมออีกหลายท่านเลยที่ยังไม่ได้เซ็นเอกสารนี้”“ได้ค่ะพี่นิดเดี๋ยววิวจัดการให้ค่ะ” หญิงสาวเดินมารับแฟ้มเอกสารการเงินจากหัวหน้าแผนกจากนั้นก็กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างซึ่งเป็นแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลวิรัลพัชรเดินเข้าออกห้องของคุณหมอหลายท่านจนมาถ
“ฉันไม่รู้ว่าที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าท้องไม่พร้อมหรือเปล่า”“แล้วมันเป็นยังไงล่ะหรือผู้ชายเขาไม่ยอมรับเด็กในท้อง เขาให้เธอเอาเด็กในท้องออกเหรอหมอว่าลองคุยกันดีๆ ก่อนไหม”“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ พ่อของเด็กเขาไม่ได้บอกให้ฉันเอาเด็กออก”“แบบนี้ก็ดีนะสิ เธอควรพาเขามาด้วยเวลาฝากครรภ์นะจะได้ฟังคำแนะนำของหมอไปพร้อมกัน เขาจะได้ช่วยดูแลเธอและลูกได้ถูกต้อง”“มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกค่ะคุณหมอ”“ทำไมล่ะหรือเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าทำเธอท้อง”“แบบนั้นก็ไม่ใช่”“แล้วมันยังไงล่ะหมอเดาไม่ถูกหรอกนะ ลองเล่ามาสิ”“ฉันพลาดนอนกับผู้ชายคนหนึ่ง และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันท้องฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนเรารู้แค่ชื่อเท่านั้น”“น่าเห็นใจนะ แบบนี้เธอก็ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวใช่ไหม เคยคิดจะเอาเด็กออกหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ ถึงแม้ลูกจะเกิดจากความผิดพลาดแต่เขาก็ไม่มีความผิดอะไร ฉันจะเลี้ยงเขาเองค่ะ”“เธอท้องกี่สัปดาห์แล้วล่ะ”“สิบสองสัปดาห์แล้วค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง ถ้ายังไงเธอก็ดูแลตัวเองด้วยมีปัญหาอะไรปรึกษาหมอได้ตลอดถึงแม้เธอจะไม่ฝากครรภ์ก็ตาม”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ เรื่องที่เราคุยกันในห้องจ
“หนูวิวเข้าไปในห้องผ่าตัดนานหรือยังลูก” คุณสุนันทาถามนันนภัสด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้ว่าจะได้หลานชายเธอก็เปิดใจยอมรับวิรัลพัชรและดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เห่อหลานในท้องมากกว่าใครทั้งมด“เข้าไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วครับแม่” คุณานนท์ที่ยืนจับเวลาอยู่บอกกับมารดา“ต้องใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนนัน”“ส่วนใหญ่ก็ประมาณสี่สิบถึงหนึ่งชั่วโมง ชั่วโมงถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน”“อาการแทรกซ้อนอะไรครับพี่นัน แล้ววิวจะมีอาหารแทรกซ้อนไหม” คุณานนท์รีบถามเพราะตอนนี้เขาห่วงคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดมากห่วงทั้งคนเป็นแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา“ก็เช่นรกลอกตัวไม่ดีมีเลือดออกเยอะอะไรประมาณนั้น แต่พี่ว่าวิวคงไปไม่เป็นแบบนั้นหรอกนนท์อย่าห่วงไปเลยนะ”“ผมเป็นห่วงวิวกับลูก”“ใจเย็นนะนนท์ ทุกคนก็เป็นห่วงหนูวิวกันทั้งนั้นแหละ” คุณย่าชมนาดที่นั่งมองหลานชายกระวนกระวายใจเดินไปเดินมาก็พูดขึ้น“ถ้านนท์เป็นห่วงมากๆ เดี๋ยวพี่จะไปดูกล้องห้องผ่าตัดให้ก็แล้วกันนะ ว่าตอนนี้ผ่าตัดไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว” นันนเห็นอาการน้องชายแล้วก็ที่ดูกังวลก็เลยอาสาจะไปดูก็ภาพจากกล่องให้เธอหายเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องผ่าตัดไม่นานก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ว่ายัง
ตอนนี้อายุครรภ์ของวิรัลพัชรเข้าสัปดาห์ที่สามสิบเก้าแล้วการไปอัลตราซาวด์มาครั้งล่าสุดกับอาจารย์หมอวัลลภอาจารย์หมอบอกให้เธอเตรียมตัวในการผ่าคลอดเพราะดูแล้วการคลอดตามธรรมชาติน่าจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากอายุครรภ์เริ่มมากขึ้นแต่ศีรษะเด็กก็ยังไม่ลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน คุณหมอแนะนำว่าถ้าหากจะผ่าคลอดตอนนี้ก็สามารถผ่านได้เลยแต่เธอก็อยากจะรอให้อายุครรภ์ครบสี่สิบสัปดาห์ก่อนจึงจะตัดสินใจผ่าคลอดช่วงนี้หญิงสาวไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลเพราะคุณานนท์เป็นห่วงส่วนตัวเขาเองก็เอางานกลับมาทำที่บ้านเพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวเขาก็ว่าเธอจะปวดท้องคลอดระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน“วันนี้งานยุ่งหรือเปล่าคะคุณนนท์” หญิงสาวเดินมาถามสามีเมื่อเห็นเขาหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ค่อนข้างนานแล้วเธอเลยเดินเข้ามาถาม“ยุ่งนิดหน่อยครับแต่ผมคิดว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จวันนี้”“ทำไมล่ะคะ”“ก็ผมอยากมีเวลาให้คุณกับลูกอย่างเต็มที่ไงนี่ก็ใกล้ครบกำหนดสี่สิบสัปดาห์แล้วนะวิว คุณตื่นเต้นไหม”“ตื่นเต้นสิวิวทั้งตื่นเต้นทั้งเครียดเลยค่ะ”“ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบใจวิวยังไงเลยเพราะนี่มันเป็นลูกคนแรกของเรา ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างมั
วันนี้วิรัลพัชรรู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะการแสดงออกของคุณสุนันทาที่มีต่อเธอนั้นมันเปลี่ยนไป ตอนนี้ท่านยอมรับเธอในฐานะลูกสะใภ้ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ หญิงสาวแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่ เธอลงมารอคุณานนท์ที่หน้าโรงพยาบาลโดยที่เขายังไม่โทรมาบอกเหมือนกับทุกวันเพราะอยากจะเล่าเรื่องวันนี้ให้กับชายหนุ่มฟัง เมื่อรถเขามาจอดหญิงสาวก็รีบขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว“คุณนนท์คะวิวมีเรื่องจะบอกคุณนนท์ด้วยค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากเปิดประตูรถเข้ามานั่งข้างคนขับ“เรื่องอะไรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยล่ะ”“ค่ะเรื่องดีมากๆ วิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นแบบนี้”“เล่ามาสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องดีๆ ของวิวมันคือเรื่องอะไร”“คุณรู้มั้ยวันนี้วิวได้เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ที่ทำงานด้วยค่ะ”“เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขามองหน้าคนรักด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วในทุกบริษัทก็จะมีการเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ให้กับพนักงานตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว“ใช่ค่ะ เพราะเก้าอี้ของวิวมันพิเศษกว่าคนอื่น” หญิงสาวพูดไปยิ้มไปทำให้คุณานนท์ยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่ามันพิเศษยังไง“มันพิเศษยังไ
เนื่องจากได้หยุดสองวันและพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับครอบครัวทำให้วันนี้วิรัลพัชรมาทำงานด้วยความสดชื่น วันนี้หญิงสาวก็มาทำงานตามปกติแต่เมื่อมาถึงที่แผนกบัญชีเธอก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้เก้าอี้ทำงานของเธอมันเปลี่ยนไป“พี่นิดคะเกิดอะไรขึ้นทำไมเก้าอี้ทำงานของวิวไม่เหมือนคนอื่นเลย” หญิงสาวถามหัวหน้าแผนกที่มักจะมาทำงานก่อนทุกคนเสมอ“คุณสุนันทาสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้น่ะ”“อะไรนะคะ พี่นิดบอกว่าใครสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้นะคะ” เธอไม่แน่ใจกับชื่อที่หัวหน้าแผนกเอ่ยออกมา“คุณสุนันทาแม่คุณนนท์ไงล่ะ”“เป็นไปได้ยังไงเขาจะเอาเก้าอี้มาเปลี่ยนทำไม” วิรัพัชรนึกหาเหตุผลไม่ออกเลยว่ามารดาของคุณานนท์จะทำแบบนี้ทำไม“อย่าเพิ่งนั่งนะวิว ปอนด์ขอนั่งก่อน” นัยนาที่เดินเข้ามาได้ยินก็รีบร้องบอก“ทำไมล่ะปอนด์”“ก็เผื่อเขาทำเก้าอี้ที่นั่งแล้วล้มลงไป วิวจะได้ไม่เป็นอะไรไงล่ะปอนด์ขอนั่งก่อนนะ” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วง“คงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นหรอกมั้งปอนด์”“ไม่รู้สิปอนด์ดูละครมาเยอะแม่สามีที่ไม่ชอบลูกสะใภ้ก็อยากจะทำให้ลูกสะใภ้แท้งก็ได้นะ”“คิดมากเกินไปหรือเปล่าปอนด์” พนิดามองหน้าลูกน้องของตัวเองแล้วส่ายศีรษะเพราะคิดว่าคุณสุนั
“มันแน่นมากวิว เสียวใช่ไหม”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะตามมาด้วยเสียงครางหวานเมื่อสะโพกของคุณานนท์ขยับจังหวะเร็วขึ้น มือหนึ่งช้อนใต้ข้อพับยกขึ้นสูงเพื่อให้ตนเองเข้าได้ลึกสุด อีกมือสอดใต้ร่างมาบีบขยี้หน้าอกของเธอยังไม่ปรานี จังหวะรักไม่รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความสุขและความเสียวซ่าน ต่างฝ่ายต่างโหยหาความรู้สึกและอารมณ์แบบนี้มานานหลายเดือน“คุณนนท์...อื้อ....วิวเสียว”“เสียวก็ปล่อยออกมาเลยวิว”ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้วิรัลพัชรก็ยิ่งเสียวมากขึ้นฝ่ามือร้อนยังคงหน้าอกอิ่มริมฝีปากจูบไปบนไหล่มน ก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากบางที่กำลังหันไปหาเขาอย่างรู้งาน จูบเร่าร้อนหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบจะขาดอากาศหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวที่ ความเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นชายหนุ่มผละมือออกจากหน้าอกแล้วลูบฝ่ามือไปตามหน้าท้องนูนเด่นก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดเน้นไปบนเกสรสวาททำเอาหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว“อื้อ....อ่า คุณนนท์ขา อย่าทำแบบนั้น”“ไม่ชอบเหรอ ถ้างั้นผมหยุดน่ะ”“เปล่านะ วิวเสียวมากมันจะเสร็จ”หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะกลัวเขาจะหยุดอย่างที่พูด“ผมก็อยากให้วิวเสร็จเพราะตอนวิวเสร็จร่องวิวตอดแน่นมาก ลองก้มดูสิว่าตอนนี้ร่องของว
“วิวผมรู้แล้วว่าคุณยังไม่หลับ”“ก็คุณนนท์ยังคุยอยู่แบบนี้วิวจะหลับล่ะคะ”“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะวิว”“แต่วิวคิดว่าวิวจบแล้วค่ะ”“วิวไม่ต้องการจริงเหรอ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้กอดเธอจากทางด้านหลัง ฝ่ามือลูบไล้บนหน้าท้องของเธอเบาๆ“ลูกจ๋าขอพ่อมีความสุขกับแม่ได้ไหม” เขากระซิบข้างหูจนหญิงสาวรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว“คุณนนท์ใครเขาให้พูดกับลูกแบบนั้นกันคะ”“ผมต้องการคุณนะวิวมันนานแล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกันและผมนอนกับคุณเกือบทุกคืนแต่ก็ได้แค่กอดผมรู้สึกทรมานมากๆ”“คุณนนท์คะ วิวท้องอยู่นะ”“ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณหมอแล้วนะ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไปบนต้นขาขาวเนียนและสอดเข้าใต้ชุดนอนแบบกระโปรงไล้ฝ่ามือไปบนหน้าท้องที่โตขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์ไม่นะคะ”“อย่าห้ามเลยผมทรมานมากจริง ให้ผมนะวิว”เขากระซิบแหบพร่าแล้วฝ่ามือร้อนก็กอบกุมหน้าอกอิ่มที่มันขยายขนาดขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์....”เธอครางแผ่วเบาเมื่อสัมผัสจากฝ่ามือร้อยทำให้ร่างกายอารมณ์ปรารถนาของเธอถูกปลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หน้าอกคุณใหญ่ขึ้นใช่ไหม”“มันก็เป็นอาการปกติของคนท้อง”“ดีจัง”เขาเพิ่มแรงบีบบนอกอิ่มปลายนิ้วสะกิดยอดถันปลุกเร้าอารมณ์ของหญิงสาวจน
ในห้องรับแขกของบ้านคุณย่าชมนาดตอนนี้วิรัลพัชรกำลังนั่งดูละครหลังข่าวอยู่กับคุณย่าตามปกติ โดยมีคุณานนท์มานั่งดูละครด้วยช่วงพักโฆษณาชายหนุ่มก็เลยถามวิรัลพัชรถึงเรื่องการตั้งชื่อของลูกในท้อง“ตกลงคุณคิดออกหรือยังวิวจะให้ลูกในท้องชื่อว่าอะไร”“วิวคิดออกหลายชื่อเลยค่ะ คุณนนท์แต่ไม่รู้จะเอาชื่อไหนดีคุณย่าช่วยวิวเลือกหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ยังไงล่ะลูกของหนูวิวกับตานนท์ก็ต้องช่วยกันตั้งชื่อเอง”“แต่วิวก็อยากให้คุณย่าช่วยตั้งชื่อด้วย ชื่อเล่นวิวคิดไว้หลายชื่อส่วนชื่อจริงวิวอยากให้คุณย่าเป็นคนตั้ง”“อ้าวทำไมถึงอยากให้ย่าเป็นคนตั้งล่ะ”“วิวอยากให้ลูกได้ชื่อที่เป็นสิริมงคลจากคุณย่าค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นย่าจะลองไปปรึกษาพระที่วัดดูแต่คงต้องรอให้ตาหนูในท้องคลอดออกมาก่อนจะได้เอาวันเวลาไปให้ท่านด้วย” คุณย่าชมนาดรู้สึกดีใจมากที่หลานสะใภ้ให้เธอเป็นคนตั้งชื่อ“ขอบคุณมากค่ะคุณย่า”“แล้วชื่อเล่นล่ะหนูคิดไว้ชื่ออะไรบ้าง”“มีหลายชื่อเลยค่ะมีนิวตัน นับหนึ่ง เนสแล้วก็มีนะโมค่ะ คุณย่ากับคุณนนท์ชอบชื่อไหนคะ”“ทำไมชื่อมีแต่น.หนูทั้งนั้นเลยล่ะไม่เห็นจะมีว.แหวนเหมือนหนูวิวเลย”“ก็วิวอยากให้ลูกมีชื่อเหมือนทุกคนนี่คะ”“ย่าไม
งานแต่งงานผ่านไปแล้วแม้ว่ามันจะไม่ราบรื่นอย่างที่ตั้งใจไว้แต่มันก็ทำให้วิรัลพัชรและคุณานนท์มีความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นคุณานนท์รู้สึกสงสารหญิงสาวมากๆ ที่ถูกมารดาของตนเองต่อว่าต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น ในขณะที่วิรัลพัชรก็รู้สึกดีที่คุณานนท์ทำให้มารดาของเธอมาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ได้ตอนนี้หญิงสาวกำลังเปิดรับคุณานนท์เข้ามาอยู่ในใจ เธอกำลังรักเขาแต่ก็ไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะหัวเราะเยาะเพราะรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้ทันเกิดจากความรับผิดชอบไม่ใช่ความรักเหมือนกับคู่แต่งงานอื่นวันนี้เป็นวันที่วิรัลพัชรต้องไปฝากครรภ์ซึ่งหญิงสาวถึงย้ายมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลกับอาจารย์หมอวัลลภซึ่งเป็นอาจารย์หมอที่เก่งที่สุดในแผนกสูตินรีเวชตามคำแนะนำของหมอนันนภัสในห้องตรวจนอกจากจะมีคุณแม่มือใหม่นอนอยู่บนเตียงให้คุณหมอทำการอัลตราซาวด์แล้วยังมีคุณย่าชมนาด คุณานนท์และหมอนันนภัสอยู่ในห้องนั้นด้วยทุกคนต่างพากันตื่นเต้นเพราะวันนี้อาจจะรู้เพศเด็กที่อยู่ในท้องแล้วก็เป็นได้คุณหมอนันนภัสมองหน้าจอเครื่องอัลตราซาวด์แล้วยิ้มด้วยความดีใจเมื่อเธอเห็นเพศของหลานตัวน้อยก่อนใคร“หมอนันรู้แล้วใช่ไหมว่าลูกของว
ระหว่างที่ยืนถ่ายรูปอยู่กับวิรัลพัชรหน้าห้องจัดเลี้ยงก็มีสายตาหลายคู่มองหญิงสาวแปลกๆ บางคนก็เดินมามองแล้วกลับไปยืนซุบซิบจนวิรัลพัชรรู้สึกถึงความผิดปกติ“คุณนนท์คะ วิวรู้สึกแปลกๆ ค่ะ ทำไมแขกถึงมองเราสองคนแบบนั้นค่ะ”“นั่นสิมันเกิดอะไรขึ้นกันนะ” ชายหนุ่มกวักมือเรียกเลขาของตนเองที่ยืนอยู่หน้างานเข้ามาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น“คุณนนท์ค่ะไม่รู้มีใครไปปล่อยข่าวว่าคุณวิวปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อตั้งใจจะจับคุณนนท์และคุณนนท์ถูกบังคับให้แต่งงานเพราะคุณวิวเอาลุกมาขู่ค่ะ” มยุรีบอกกับเจ้านายตามที่เอได้ฟังมา“ใครเป็นคนเอาเรื่องนี้มาพูดคุณพอจะรู้มั้ย” ยุก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะเดี๋ยวจะลองไปถามให้นะคะว่าพวกเขาเอาเรื่องนี้มาจากใคร“ผมว่าเราเข้าไปข้างในเลยดีไหมไม่ต้องถ่ายรูปแล้วก็ได้ผมไม่อยากให้ใครมองคุณด้วยสายตาแบบนั้นเลย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนนท์ยังมีอีกหลายคนที่เรายังไม่ถ่ายรูปด้วย ถ้าคืนนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเขาแล้วเราจะมาเสียใจทีหลังนะคะ”“ทนได้แน่นะวิว”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะก็เรื่องที่เขาพูดมันเป็นความจริงนี่คะ”“แต่มันก็เป็นความจริงครึ่งเดียวที่คุณท้องก่อนแต่ง แต่คุณไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาจับผมอย่างที่พวกเขา