“ถ้าอย่างนั้นสามีในชาติก่อนของฉันคือใคร?” ฉันถามหลิวหลงถิงหลิวหลงถิงดูเหมือนไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่ว่าฉันก็ถามอีกครั้ง เขาเอียงศีรษะบอกกับฉันอย่างเคร่งขรึมเล็กน้อย “ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่ในชาตินี้เป็นได้แค่ฉันเท่านั้น ในเมื่อเธอบอกว่ารักฉันแล้ว ฉันจะไม่อนุญาตให้เธอถามเรื่องในอดีตอีก ได้ยินไหม?”หลิวหลงถิงนี่ก็จริง ๆ เลย เขาพูดเยอะขนาดนี้แล้ว ฉันจะขอถามอีกหน่อยก็ไม่ได้ ทว่าตอนนี้ก็ถือว่ายืนยันความสัมพันธ์กับเขาอย่างเป็นทางการ และฉันตอบรับเขาไปแล้วว่าจะไม่ถามเรื่องในอดีตอีกพอได้ยินฉันพูด หลิ
เฟิ้งฉีเทียนเดินอยู่ข้างฉัน บางทีเมื่อคืนเขาอาจจะได้ยินเสียงจากในบ้านฉัน จึงพูดกับฉัน “นี่ เด็กผู้หญิงอย่างพวกเจ้าแต่ละคน ไม่สามารถต้านทานความยั่วยวนของเซียนได้เลยสินะ มิน่าอายุของร่างทรงนับวันก็ยิ่งแก่ลง เป็นเพราะมีร่างทรงอย่างพวกเจ้าที่วัน ๆ รู้แต่ทำเรื่องแบบนั้นกับเซียน สัมผัสทั้งหกจึงไม่สะอาด และเก็บความคิดไม่อยู่”หลังจากที่ยืนยันความสัมพันธ์กับหลิวหลงถิงแล้ว ฉันก็จิตใจเบิกบานมาก ไม่สนใจสัมผัสทั้งหกไม่สะอาดที่เฟิ้งฉีเทียนพูด บอกเขาไปแล้วเขาจะไปเข้าใจอะไร รอหลังจากนี้เขาได้พบผู้หญิงที่ตัวเอ
ฟ่านเหม่ยฉีสามารถมองออกว่าฉันกำลังขับไล่สิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นเหรอ?ฉันประหลาดใจเล็กน้อย พลางมองฟ่านเหม่ยฉีอย่างประเมิน แล้วถามเธอว่ามองเห็นได้ยังไง?ฟ่านเหม่ยฉีไม่เข้าใจความหมายของคำพูดฉันในทันที เธอมองฉันอย่างฉงนพลางกล่าว “ก็ใช้ตามองไงคะ ในวิทยาเขตใหม่มีวิญญาณอยู่มากมาย พอถึงตอนเย็น พวกมันก็จะออกมาจากในภูเขาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเรา”ฉันไม่อยากจะเชื่อ ฟ่านเหม่ยฉีมองเห็นวิญญาณได้ด้วยตาเปล่า ส่วนตอนนี้ฉันเป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับเทพแล้ว ถ้าหากไม่อาศัยการเข้าร่าง ไม่ก็สวมผีตุนโข่วทั้งห้า
เฟิ้งฉีเทียนเห็นฉันลังเล จึงให้ฉันถามฟ่านเหม่ยฉีก่อนว่ามีเงินไหม ถ้ามีเงินล่ะก็ เราก็จะรับรายการนี้ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่รับ ให้เธอไปดิ้นรนเองแล้วกัน! จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วกล่าวว่าทำไมสมองของเด็กผู้หญิงพวกนี้แต่ละคนถึงไม่ฉลาดเอาเสียเลย มีไว้อย่างเดียวคือถ้าไม่ชอบผู้ชายธรรมดา ก็จะต้องไปชอบสิ่งที่ต่างสายพันธุ์ ว่าแล้วก็หันศีรษะมามองฉันอย่างบอกเป็นนัยฉันยื่นมือไปตบหัวไก่ของเฟิ้งฉีเทียนทีหนึ่ง บอกเขาอย่าพูดจาส่งเดชและอย่าเห็นแก่เงิน ฟ่านเหม่ยฉีเป็นเด็กนักศึกษา จะไปมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง?“พี่พูดว
หมายความว่ายังไงนะ? ฉันเอียงศีรษะเตรียมว่าตั้งใจจะจ้องมองฟ่านเหม่ยฉีอีกครั้ง แต่ว่าหลิวหลงถิงใช้มือประคองใบหน้าฉันกลับมา บอกฉันว่าอย่ามอง ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรตอนอยู่บนเครื่องบิน ฉัน หลิวหลิงถิงและฟ่านเหม่ยฉีซื้อตั๋วที่นั่งติดกัน ฟ่านเหม่ยฉีนั่งติดหน้าต่าง ฉันนั่งตรงกลาง หลิวหลงถิงนั่งด้านนอกสุด ส่วนเฟิ้งฉีเทียนแปลงเป็นร่างไก่ ยืนเกาะบนไหล่ฉันหลังจากที่หลิวหลงถิงบอกฉัน ฉันก็ระวังฟ่านเหม่ยฉีอยู่ตลอด แต่ว่าระหว่างทาง ฟ่านเหม่ยฉียังคงมีท่าทีเหมือนรุ่นน้องปีหนึ่งที่ขี้อายเก็บตัว ไม่ชอบพูดจา ท
ฉันฉวยโอกาสตอนนี้ถามหลิวหลงถึงว่าคำว่า คนตายฟื้นคืนชีพที่เขาบอกกับฉันตอนอยู่สนามบิน มีความหมายว่าอะไร?หลิวหลงถิงยืนขึ้นกวาดตามองดูภายในห้อง และบอกฉันว่าคนตายฟื้นคืนชีพ อันที่จริงเป็นคนที่ตายไปแล้วคนหนึ่ง แต่ว่าภายในใจของเธอนั้นมีความคิดอันแรงกล้า ความคิดนี้เรียกว่าความมุ่งมาดปรารถนาดั้งเดิม หลังจากความมุ่งมาดปรารถนาดั้งเดิมที่ไม่สำเร็จนี้แรงกล้าจนถึงระดับหนึ่ง ก็จะค้ำจุนร่างกายที่ตายไปของเธอให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คนตายฟื้นคืนชีพนี้ ภายนอกของพวกเธอไม่ แตกต่างไปจากคนธรรมดาอย่างพวกเรา ทว่าเลือด
แรกเริ่มฉันก็ไม่สนใจอะไรมาก อย่างไรเสียแม่ของเธอกินข้าวไปได้ครึ่งหนึ่ง แล้วคิดอยากเข้าห้องน้ำ รวมทั้งพ่อที่ทิ้งแขกไปแล้วตัวเองไปนอน ฉันจึงคิดว่าเธอแอบกินของกินตอนกลางคืน และก็ไม่ได้อะไร แต่ว่าเธอเอาแต่กินเสียงดังจนทำให้ฉันนอนไม่หลับ ครั้นแล้วจึงถามว่าฟ่านเหม่ยฉีกำลังกินอะไรอยู่? ช่วยเสียงเบาหน่อยจะได้ไหมพอฉันพูดจบ เสียงเคี้ยวของฟ่านเหม่ยฉีก็เบาลง แต่ไม่ทันไร เสียงเคี้ยวหงึบหงับก็เสียงดังขึ้น เหมือนออกแรงเคี้ยวอ้อยอย่างไรอย่างนั้น เธอแทะเต็มแรงและยังมีเสียงหักดังขึ้นด้วยเมื่อตอนกลางคืนของวัน
ฟ่านเหม่ยฉีบอกให้ฉันกับหลิวหลงถิงกิน ทว่าเธอไม่กิน เธอกับคนในครอบครัวเธอต่างก็ไม่กิน ฉันจึงประหลาดใจเล็กน้อย เห็นแบบนั้นพวกเขาก็ไม่กิน คงจะไม่ใช่ว่าใส่ยาพิษไปในกระบอกไม้ไผ่หรอกนะหลิวหลงถิงก็ไม่ได้สนใจอะไร บอกให้ฉันกินอิ่มก่อนแล้วค่อยกิน เพราะว่ามีแต่ผัก เฟิ้งฉีเทียนไม่ชอบกิน จึงเดินเล่นอยู่ข้าง ๆ พวกเรา เดี๋ยวก็ดูภูเขา เดี๋ยวก็ดูสายน้ำ จากนั้นมาบอกกับพวกเราว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีไอชื้นค่อนข้างมาก บริเวณโดยรอบมีแต่ภูเขาลูกใหญ่ คาดว่ามีแต่ช่วงเวลาตอนเช้าที่พระอาทิตย์สามารถส่องแสงเข้ามาได้ ทว่าฮว