บทที่ 32 ลางร้าย องครักษ์หลิวที่กำลังกลับจากตำหนักของฮ่องเต้ก็ได้เห็นใต้เท้าไป๋ที่กำลังเดินออกจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาอย่างเร่งรีบเขาจึงรีบเข้าไปด้านในเมื่อรู้สึกถึงอะไรที่แปลกไปและท่าทีที่เขากำลังจะหนีเหมือนทำอันใดผิด เขารีบเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าแม่นมนอนจมกองเลือดอยู่องครักษ์หลิวรีบเข้าไปใกล้และพยุงให้แม่นมลุกขึ้น"แม่นมเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ทำไมเลือดถึงเต็มตัวเช่นนี้" เขาใช้นิ้วแตะที่ชีพจรของแม่นมที่กำลังเต้นช้าลงเรื่อยๆ แม่นมฝืนลืมตาขึ้นมาแม้ลิ้นจะขาดแต่นางก็พยายามสื่อสารกับเขาอย่างเต็มที่"อือ " เสี่ยงที่เปล่งออกมาทำให้เขารู้ว่าแม่นมยังไม่สิ้นใจ เขาจึงพยุงแม่นมขึ้นเล็กน้อย"ท่านยังไม่ตาย ท่านช่วยแข็งใจไว้สักหน่อยข้าจะอุ้มท่านไปที่ตำหนักของฮองเฮาและให้หมอหลวงมารักษาท่าน ผู้ใดมาทำกับท่านเช่นนี้โปรดบอกข้า ข้าจะไปจัดการคนผู้นั้นเอง" แม่นมส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าตนเองตอนนี้ก็แทบจะไหวหากเขาอุ้มนางไปกว่าจะถึงตำหนักซื่อหมิงนางก็สิ้นใจก่อนพอดี เขาเองตอนนี้ก็เจ็บปวดที่เห็นแม่นมกำลังหายใจโรยริน นางเป็นสตรีที่จิตใจดีและเมตตาเขามาตลอดไม่เคยคิดว่าเขาเป็นองครักษ์ต่อยต่ำแต่ทำเหมือนกับเขาเป็นคนในครอบ
บทที่ 33 ฝีมือใค้เท้าไป๋ใต้เท้าไป๋ได้มาหาหวงกุ้ยเฟยในยามรุ่งสาง อย่างร้อนใจ"นี่ท่านมาหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องอะไร""ท่านรู้เรื่องแม่นมขององค์หญิงหนิงเอ๋อหรือไม่""ข้าไปดูมาแล้ว ผู้ใดกันนะที่ฆ่านาง ท่านรู้หรือไม่" หวงกุ้ยเฟยรู้ว่าเป็นฝีมือของใต้เท้าไป๋แต่ที่ถามเช่นนั้นเพราะอยากลองถาม"ข้าเองที่ทำกับนาง แต่ที่ข้าทำเพราะนางปากแข็ง เมื่อคืนเหล่าเสนบาดีฝ่ายฮองเฮาได้เข้าร่วมหารือกัน ข้ากลับไปจากตำหนักของท่านได้เห็นเข้า จึงตามนางไปเพื่อถาม แต่นางจงรักภักดีไม่ยอมแม้จะปริปากบอก ทำได้แม้กระทั่งกัดลิ้นตนเอง ข้าโมโหจึงได้สังหารนาง ท่านเองก็อย่านิ่งเฉย ตอนนี้พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าฮองเฮาทรงมีแผนอันใด เราต้องชิ่งทำให้องค์รัชาทยาทขึ้นครองบัลลังก์ในเร็ววัน เวลาที่ฮองไทเฮาพูดมานั้นมันเนินนานเกินไปข้าจะหาทางที่ทำให้ฮ่องเต้ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีกต่อไปและลาลับจากโลกนี้ในเร็ววัน เช่นนั้นเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ส่วนเรื่องของแม่นมผู้นั้นเจ้าไม่ต้องกลัวไม่มีผู้ใดเห็นข้าเป็นแน่ และไม่มีทางที่จะจับตัวข้าได้" ใต้เท้าไป๋พูดออกมาอย่างมั่นใจ"ดีเช่นนั้นเราก็เร่งทำตามแผนกันเถอะ" หวงกุ้ยเฟยยิ้มมุมปากอย่างดีใจเมื่อ
บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิดภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวพายุพัดผ่านโคมไฟที่ห้อยทั่วตำหนักเริ่มสั่นไหวตามแรงลม เหล่านางกำนัลและขันทีที่ต่างพากันวิ่งไปทั่วตำหนัก เพราะบัดนี้ตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาสตรีที่ฮ่องเต้มอบความรักและความใส่ใจให้มากกว่าสตรีใดในวังหลวงเพราะความงามและกิริยาจิตใจของนางนั้นช่างงดงามราวกับใบหน้า ทำให้นางได้ตั้งครรภ์บุตรของฝ่าบาทที่ตอนนี้กำลังนอนเจ็บปวดอยู่ที่ตำหนักเป็นเวลานานหลายเพลาฝ่าบาทคิ้วขมวดใบหน้ากังวลเป็นกุ้ยเฟยที่นอนเจ็บปวดแต่ว่าเขานั้นช่วยอันใดนางมิได้"นี่หมอหลวงกุ้ยเฟยเป็นเช่นใดบ้าง ตอนนี้บุตรของข้าถือกำเนิดรึยังเหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย"ฝ่าบาทยืนอยู่ประตูด้านนอกตะโกนถามเข้าไปเพราะเป็นกุ้ยเฟยเหลือเกิน"ทูลฝ่าบาทเพคะ บัดนี้พระชายาหนิงฮวายังไม่ได้ให้กำเนิดเพคะ เพราะพระนางหมดแรงตอนนี้ทางท่านหมอกำลังเร่งช่วยพระนางอยู่เพคะ "เสียงนางกำนัลที่ตอบกลับมาทำให้ฝ่าบาทรู้สึกร้อนรุ่มในใจมากกว่าเดิม ฝ่าบาทแทบนั่งไม่ติดเดินไปเดินมาไปทั่วหน้าตำหนักทันใดนั้นเองก็มีขันทีประจำตัวของพระองค์ได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องร้ายมากร
บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน"กระหม่อมขันทีจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวามีเรื่องมาแจ้งฝ่าบาทพะย่ะค่ะ" ขันทีก้มโค้งคำนับต่อฝ่าบาท พระองค์จึงปล่อยแขนออกจากตัวของฮองเฮา"มีเรื่องอันใด ""ตอนนี้พระชายาหนิงฮวาได้ถือกำเนิดองค์หญิงแล้วพะย่ะค่ะ หากแต่ว่าบัดนี้พระชายาเสียโลหิตไปมากทำให้กำลังใกล้จะขาดใจแล้วกระหม่อมเลยมาแจ้งให้ฝ่าบาทไปพบพระชายาก่อนที่จะสิ้นพระชนม์พะย่ะค่ะ" สิ้นเสียงของขันทีก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมาเสียงดังทั่วทั้งใต้หล้า เหล่าเสนาบดีต่างพากันซุบซิบนินทาหรือว่าจะเกิดอาเพศขึ้นกับราชวงศ์ฝ่าบาทได้ยินดังนั้นก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักของกุ้ยเฟยทันทีโดยไม่รอช้า ฮองเฮาที่นั่งร้องไห้อยู่ก็ช้ำใจหนักมากกว่าเดิมเหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในวันเวลาเดียวกันเช่นนี้หวงกุ้ยเฟยที่เพิ่งรับรู้เรื่องราวก็รีบเสด็จมาที่ท้องพระโรงก็ได้มาพบกับบุตรชายตนเองที่ยืนอยู่ก็รีบตรงเข้าไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง"องค์ชายหลีเจียซินเจ้าเป็นใดอันหรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใดเมื่อรู้ว่าการออกล่าสัตว์ครั้งนี้เกิดเรื่องร้ายขึ้น ""ท่านแม่ลูกมิได้รับบาดเจ็บอันใดหรอกพะย่ะค่ะ แต่ลูกไร้ความสามารถที่ไม่สามารถปกป้อ
บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่เมื่อเรื่องเศร้าป่าวประกาศไปทั่วใต้แผ่นดินราชฎรจากพากันแต่งชุดสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจในครั้งนี้ส่งผลให้ก่อเกิดการประท้วงต่อต้านองค์หญิงหนิงเอ๋อ และกล่าวหาว่านางเป็นองค์หญิงที่มีดวงกาลกิณี ดวงซวยทำให้ใต้หล้าต้องเกิดการสูญเสีย เหล่าเสนบาดีมากมายพากันเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อหารือเรื่องนี้เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ชาวบ้านอยู่ไม่สุขและคอยมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงมิห่างหาย"ทูลฝ่าบาทกระหม่อมทราบดีว่าตอนนี้พระองค์ทรงโศกเศร้าเสียใจเพียงใด แต่ทว่าเรื่องขององค์หญิงหนิงเอ๋อนั้นมิอาจรอช้าได้ ราชฎรต่างพากันมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเช่นไรพะย่ะค่ะ" เสนาบดีโม่อี้ฟานได้เอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่ในท้องพระโรงจนครบสิ้นฝ่าบาทเองก็ได้ครุ้นคิดพระองค์ไม่เชื่อว่าบุตรสาวของตนองค์หญิงที่ลืมตาดูโลกไม่ถึงเจ็ดวันจะเป็นภัยต่อบ้านเมืองได้"พวกเจ้าพูดเรื่องอันใดกัน บังอาจหมิ่นประมาทเบื้องบน องค์หญิงจะมีดวงเช่นนั้นได้อย่างไร ทหารหากชาวบ้านผู้ใดพูดถึงองค์หญิงหนิงเอ๋อในทางไม่ดีให้พวกเจ้าจัดการให้หมด " ฝ่าบาทด้วยความโมโหจึงสั่งทหารไปเช่นนั้น แต่ทว่าเหล่าเสนาบดีต่า
บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง"เจ้าอุ้มองค์หญิงไว้หากข้ายังไม่กลับมาอย่าให้องค์หญิงกับผู้ใด" ฮองเฮามอบองค์หญิงให้นางกำนัลก่อนจะรีบเดินออกไปหาฝ่าบาทที่ท้องพระโรงทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าบัดนี้ฝ่าบาทเมามายสุราโดยมีหวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างกาย"ฝ่าบาทพระองค์ทรงรับสั่งให้องค์หญิงไปอยู่นอกวังได้อย่างไรเพคะ" ฮองเฮาไม่รอช้ารีบถามสิ่งที่อยากรู้ทันที"ฮองเฮาไม่รู้สินะเพคะว่าตอนนี้นั้นข่าวลือที่ว่าองค์หญิงเป็นตัวซวยของวังหลวงคือเรื่องจริงและองค์รัชทายาทก็ต้องมาสิ้นพระชนม์ก็เพราะองค์หญิง หากว่าไม่มีองค์หญิงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือเพคะ หม่อมฉันว่าฝ่าบาททรงคิดดีแล้ว" หวงกุ้ยเฟยได้ตอบแทนฝ่าบาท"แล้วข้าได้เอ่ยถามเจ้าหรืออย่างไร เจ้าถึงได้เสนอหน้ามาตอบแทนฝ่าบาท การที่องค์รัชทายาทต้องมาสิ้นพระชนม์ข้าไม่เชื่อว่าเป็นดวงขององค์หญิง ฝ่าบาทท่านจะทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไรแค่นางสูญเสียมารดาก็มากเพียงพอแล้ว นี่ท่านจะทิ้งให้นางออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่นอกวังจริงๆ หรือเพคะ ความรักของท่านที่มีต่อกุ้ยเฟยหนิงฮวาหายไปไหนหมด นี่คือองค์หญิงที่เกิดมาจากความรักของพระองค์นะเพคะ" ฮองเฮาตวาดใส่หวงกุ้ยเฟยก่อนจะหันมาถามความจริงกับฝ่าบาท"ฮ
บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็กชาวบ้านตางพากันเดินถอยห่าง และแม่ของเด็กหญิงก็ได้บอกกับฟางลี่เว่ย"ข้าเองก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก เจ้าเองก็ดูแลองค์หญิงให้ดีและอย่าพานางออกมาที่ตลาดอีก ข้าไม่อยากให้ลูกๆ ของข้าต้องมาเจ็บตัว" แม่นมวิ่งมาก็เห็นองค์หญิงหนิงเอ๋อกอดอยู่กับฟางลี่เว่ยสะอื้นไห้และสั่นกลัว"เกิดอันใดขึ้น เหตุใดองค์หญิงถึงได้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้""นางถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายของเด็กหญิงผู้นั้นเจ้าค่ะ แถมองค์หญิงยังโดนทำร้ายอีกด้วยเราจะเอาอย่างไรกันดีเจ้าคะ"แม่นมกวาดตามองชาวบ้านที่ยืนมุงดูด้วยสายตาอาฆาตจนผู้คนกวาดกลัว"ต่อจากนี้หากมีผู้ใดกล้าทำร้ายองค์หญิงอีกข้าจะให้ทหารจับผู้นั้นไปลงโทษถึงองค์หญิงถูกเลี้ยงอยู่นอกวังแต่อย่างไรนางก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้หากผู้ใดกล้าทำร้ายก็เปรียบเสมือนดูหมิ่นเบื้องบนเช่นกัน" พูดจบแม่นมก็พยุงตัวขอหนิงเอ๋อลุกขึ้นเดินออกมาและกลับไปที่เรือนของตนอย่างโมโหเมื่อมาถึงที่เรือนองค์หญิงเอาแต่นิ่งเงียบจากที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง ทำให้แม่นมเป็นห่วงอย่างมาก นางจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับองค์หญิงองค์หญิงที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมหน้า
บทที่ 6 ได้รับความรักมาถึงเรือนหนิงเอ๋อกำลังเดินเข้าห้องของตนแต่ก็ต้องถูกองครักษ์หลิวขวางไว้ก่อน“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาขวางหน้าข้าเช่นนี้”“องค์หญิงข้าเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงคิดอันใดอยู่ถึงได้อยากจะรับนายโลมผู้นั้นมาอยู่ที่เรือนแห่งนี้”“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าจะพาใครมาอยู่ที่นี่มันก็เรื่องของข้า ท่านแม่ส่งเจ้ามาคอยดูแลความปลอดภัยของข้า เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องยุ่ง”“แต่ที่กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิงนะพะย่ะค่ะ องค์หญิงเพิ่งเจอชายผู้นี้เพียงค่ำคืนเดียวจะไว้ใจได้หรือพะย่ะค่ะ”“ข้ามิได้เกรงกลัวนักหรอก เจ้าคิดดูสิว่าชายที่ถูกซื้อตัวออกมาจากหอนายโลมจะสำนึกบุญคุญข้าแค่ไหน เจ้าไปพักผ่อนเสียเถอะไม่ต้องกังวลแทนข้า ข้ารู้สึกถูกชะตากับหางเฟิงเพื่อนในวัยของข้า ไหนจะแววตาที่ข้าคุ้นเคยไหนจะชื่อของเขาที่มีชื่อเดียวกับเพื่อนเพียงคนเดียวของข้า หากวันข้างหน้าหางเฟิงมีอันตรายต่อข้า ข้าจะจัดการเขาเอง” หนิงเอ๋อพูดจบองครักษ์หลิวก็ถอยหลังหลบให้หนิงเอ๋อเดินเข้าไปที่ห้องนอนของนางรุ่งสางของอีกวันแม่นมตื่นมาก็ได้เข้ามาที่ห้องของหนิงเอ๋อเพื่อบอกให้นางได้เตรียมตัว วันนี้ฮองเฮาจะเสด็จมาหานางที่เรือนแห่งนี้“องค์หญิ
บทที่ 33 ฝีมือใค้เท้าไป๋ใต้เท้าไป๋ได้มาหาหวงกุ้ยเฟยในยามรุ่งสาง อย่างร้อนใจ"นี่ท่านมาหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องอะไร""ท่านรู้เรื่องแม่นมขององค์หญิงหนิงเอ๋อหรือไม่""ข้าไปดูมาแล้ว ผู้ใดกันนะที่ฆ่านาง ท่านรู้หรือไม่" หวงกุ้ยเฟยรู้ว่าเป็นฝีมือของใต้เท้าไป๋แต่ที่ถามเช่นนั้นเพราะอยากลองถาม"ข้าเองที่ทำกับนาง แต่ที่ข้าทำเพราะนางปากแข็ง เมื่อคืนเหล่าเสนบาดีฝ่ายฮองเฮาได้เข้าร่วมหารือกัน ข้ากลับไปจากตำหนักของท่านได้เห็นเข้า จึงตามนางไปเพื่อถาม แต่นางจงรักภักดีไม่ยอมแม้จะปริปากบอก ทำได้แม้กระทั่งกัดลิ้นตนเอง ข้าโมโหจึงได้สังหารนาง ท่านเองก็อย่านิ่งเฉย ตอนนี้พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าฮองเฮาทรงมีแผนอันใด เราต้องชิ่งทำให้องค์รัชาทยาทขึ้นครองบัลลังก์ในเร็ววัน เวลาที่ฮองไทเฮาพูดมานั้นมันเนินนานเกินไปข้าจะหาทางที่ทำให้ฮ่องเต้ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีกต่อไปและลาลับจากโลกนี้ในเร็ววัน เช่นนั้นเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ส่วนเรื่องของแม่นมผู้นั้นเจ้าไม่ต้องกลัวไม่มีผู้ใดเห็นข้าเป็นแน่ และไม่มีทางที่จะจับตัวข้าได้" ใต้เท้าไป๋พูดออกมาอย่างมั่นใจ"ดีเช่นนั้นเราก็เร่งทำตามแผนกันเถอะ" หวงกุ้ยเฟยยิ้มมุมปากอย่างดีใจเมื่อ
บทที่ 32 ลางร้าย องครักษ์หลิวที่กำลังกลับจากตำหนักของฮ่องเต้ก็ได้เห็นใต้เท้าไป๋ที่กำลังเดินออกจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาอย่างเร่งรีบเขาจึงรีบเข้าไปด้านในเมื่อรู้สึกถึงอะไรที่แปลกไปและท่าทีที่เขากำลังจะหนีเหมือนทำอันใดผิด เขารีบเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าแม่นมนอนจมกองเลือดอยู่องครักษ์หลิวรีบเข้าไปใกล้และพยุงให้แม่นมลุกขึ้น"แม่นมเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ทำไมเลือดถึงเต็มตัวเช่นนี้" เขาใช้นิ้วแตะที่ชีพจรของแม่นมที่กำลังเต้นช้าลงเรื่อยๆ แม่นมฝืนลืมตาขึ้นมาแม้ลิ้นจะขาดแต่นางก็พยายามสื่อสารกับเขาอย่างเต็มที่"อือ " เสี่ยงที่เปล่งออกมาทำให้เขารู้ว่าแม่นมยังไม่สิ้นใจ เขาจึงพยุงแม่นมขึ้นเล็กน้อย"ท่านยังไม่ตาย ท่านช่วยแข็งใจไว้สักหน่อยข้าจะอุ้มท่านไปที่ตำหนักของฮองเฮาและให้หมอหลวงมารักษาท่าน ผู้ใดมาทำกับท่านเช่นนี้โปรดบอกข้า ข้าจะไปจัดการคนผู้นั้นเอง" แม่นมส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าตนเองตอนนี้ก็แทบจะไหวหากเขาอุ้มนางไปกว่าจะถึงตำหนักซื่อหมิงนางก็สิ้นใจก่อนพอดี เขาเองตอนนี้ก็เจ็บปวดที่เห็นแม่นมกำลังหายใจโรยริน นางเป็นสตรีที่จิตใจดีและเมตตาเขามาตลอดไม่เคยคิดว่าเขาเป็นองครักษ์ต่อยต่ำแต่ทำเหมือนกับเขาเป็นคนในครอบ
บทที่ 31 แม่นมได้จากไปหนิงเอ๋อแปลกใจที่เขารู้ถึงชื่อหางเฟิ่งหรือวันนั้นที่นางฝันถึงหางเฟิ่งนางจะละเมอชื่อเขาอออกมา แต่อย่างไรถึงนางจะเอ่ยชื่อผู้ใดก็ไม่เห็นเกี่ยวกับแม่ทัพสักนิด"ข้าจะเอ่ยชื่อผู้ใด หรือรักชอบผู้ใดจะไม่เห็นเกี่ยวกับท่านสักนิด ''"แต่ก่อนอาจจะไม่เกี่ยว แต่ต่อจากนี้อะไรที่เกี่ยวกับเจ้าล้วนแต่เกี่ยวข้องกับข้าทั้งสิ้น เพราะตอนนี้เจ้าขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของท่านแม่ทัพผู้นี้แล้ว " หนิงเอ๋อส่ายหน้าไปมา เหตุใดท่านพี่เสี่ยวหลงถึงได้รักบุรุษผู้นี้ได้กันนะ นอกจากหน้าตาดีและมีฝีมือก็ไม่เห็นจะมีตรงไหนดีสักนิด"ข้าขี้เกียจจะพูดกหับท่านแล้ว ออกไปเถิด" หนิงเอ๋อผลักเขาอีกครั้ง"เจ้าเก็บแรงเอาไว้เถอะ แรงเจ้าทำอันใดข้ามิได้หรอก นอนซะข้าไม่ทำอันใดเจ้าหรอกนะ" แม่ทัพอี้พูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกมาด้านนอกก่อนจะเอ่ยบอกกับหนิงเอ๋ออีกรอบ"วันนี้ข้าจะนอนเฝ้าประตูเจ้าอยู่ด้านนอกหากเกิดอันใดขึ้นเจ้าก็เรียกข้าได้ตลอด " หนิงเอ๋อรู้สึกใจสั่นในคำพูดของเขา แต่นางก็ไม่อาจจะเชื่อคำพูดเขาได้ทั้งหมด หากว่าเขายังมีใจให้ท่านพี่เสี่ยวหลงและบอกแผนที่นางพูดกันในวันนี้ก็อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แต่ในเมื่อนางอ
บทที่ 30 เริ่มเคลื่อนไหว ฮองฮองและฮองไทเฮาเป็นห่วงอาการของฝ่าบาทช่วงนี้จึงไม่ได้ออกไปหาหนิงเอ๋อ ตอนนี้ฝ่าบาทยังคงไม่ได้สติและนอนอยู่เช่นนั้นเหล่าเสนาบดีต่างพากันหารือและพูดคุยว่าจะทำเช่นไรต่อไปฮองไทเฮาจึงขึ้นรักษาการแทนและเรียกทุกคนมาที่ท้องพระโรง ฮองไทเฮานั่งอยู่ด้านหลังของบัลลังก์เพราะไม่สามารถขึ้นนั่งบนนั้นได้นอกจากฮ่องเต้ โดยมีฮองเฮาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยเช่นกันเมื่อทุกคนมากันครบก็ได้พุดคุยหารือกันทันที"ถวายบังคมฮองไทเฮาและฮองเฮา" เสียงที่ประสานออกมาพร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นเสนบาดีฝ่ายใดก็ต่างพากันพูดพร้อมกันและโค้งคำนับ เมื่อโค้งคำนับเสร็จก็มีใต้เท้าฝั่งของใต้เท้าไป๋ได้ทูลออกมา"เนื่องจากบัดนี้ข่าวของฝ่าบาทที่ทรงไม่รู้สึกตัวนั้นได้ถูกแพร่กระจายไปทั่ววังหลวง อีกไม่นานก็คงถึงหูชาวบ้านเช่นนี้จะไม่ทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่นแล้วเช่นนี้บังลังก์จะไม่สั่นคลอนหรือพะย่ะค่ะ""ตอนนี้แม้พระองค์ทรงยังไม่รู้สึกตัวและข้าเองที่จะทำหน้าที่รักษาการแทนอ่านฎีกาและทำทุกอย่างแทนฝ่าบาทจนกว่าฝ่าบาทจะรู้สึกพระองค์" ฮองไทเฮาได้เอ่ยออกมา ทำให้ฝั่งด้านใต้เท้าไป๋ได้เอ่ยมาอีกรอบ"ท่านมีพระวรกายที่ไม่แข็งแรงเช่นนี้
บทที่ 29 ถูกปองร้ายเสี่ยวหลงกลับมาที่ตำหนักของนางก็อาละวาดโวยวายร้องไห้เจ็บปวดปานตาย นางกำนัลจึงได้ไปตามหวงกุ้ยเฟยมาดูนาง"นางหนิงเอ๋อ ข้าเกลียดเจ้าเพราะเจ้าทำให้ท่านพี่เกลียดข้า ข้าจะฆ่าเจ้า! " เสี่ยวหลงใช้มีดแทงหมอนครั้งแล้วครั้งเล่าใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา จนหวงกุ้ยเฟยมาถึงก็ได้ดึงมีดออกจากมือของนาง"นี่เจ้าทำอันใด หยุดประเดี๋ยวนี้นะ" เสี่ยวหลงเมื่อเห็นมารดาของนาง นางก็ได้หันไปกอดและร้องไห้ออกมา"ท่านแม่ข้าถูกท่านพี่รังเกียจแล้วเพคะ ท่านพี่พูดว่าไม่รักข้าว่าข้าเป็นสตรีที่โหดร้าย เพราะนางเพราะนางเพียงผู้เดียวที่ทำให้ท่านพี่เกลียดข้า ฮื้อ ฮือ ท่านแม่ได้โปรดช่วยข้าด้วยข้าเจ็บปวดจนเจียนตายเมื่อเห็นแววตาที่ไร้เยื้อใยของท่านพี่" หวงกุ้ยเฟยรีบโอบกอดเสี่ยวหลงและปลอบใจนาง"หนิงเอ๋อนางช่างเหมือนมารดาของนางยิ่งนัก มารดาของนางก็มาแย่งความนักของฝ่าบาทไป แล้วตอนนี้บุตรของนางยังมาแย่งความรักไปจากบุตรของข้าอีก เจ้าสงบสติอารมณ์เถิดหนา เดี๋ยวเรื่องนี้ข้าจะจัดการนางเองและจะพาแม่ทัพอี้กลับมาหาเจ้าในเร็ววัน" เสี่ยวหลงรีบปาดน้ำตาและเงยหน้ามองมารดาของนาง"ท่านแม่รับปากแล้วนะเพคะ ""ข้าจะจัดการให้รู้สำนึกเอ
บทที่ 28 เผยธาตุแท้ฝั่งด้านหนิงเอ๋อเมื่อเหมยฟางกลับนางก็กลับมาที่ห้องนอนก็ไม่พบแม่ทัพแล้วนางก็หันไปมองบนเตียงก็เห็นว่าผ้าปูถูกเปลี่ยนไป"องค์หญิงนี่ยาต้มท่านดื่มสักหน่อยนะเพคะ ร่างกายของท่านจะได้ไม่เจ็บปวด" ฟางลี่เว่ยนำยามาให้หนิงเอ๋อ"ข้าไม่รู้เลยว่าสิ่งข้าทำอยู่นี่ถูกหรือผิด ข้าทำถูกต้องแล้วใช่มั้ย เหตุใดข้าถึงรู้สึกรังเกียจตนเองเช่นนี้""องค์หญิงหม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงเหนื่อย ท่านนอนพักสักหน่อยนะเพคะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำอยู่เพื่อการแก้แค้นมิใช่หรือเพคะ ""ข้ารู้ ข้าขอนอนพักสักหน่อยเจ้าก็ช่วยอยู่ข้างๆ ข้าแล้วอย่าไปไหนจนกว่าข้าจะตื่น ที่นี่ข้าไม่ไว้ผู้ใดรอให้องครักษ์หลิวกลับมาท่านก็ปลุกข้าด้วย" หนิงเอ๋อทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า นางหลับไปก็ได้ฝันถึงหางเฟิ่งที่มองนางอยู่ที่ห่างไกล เขามองดูนางด้วยสายตาเศร้าโศก"องค์หญิงข้ามาลา องค์หญิงทรงสบายดีใช่หรือไม่ ต่อจากนี้ข้ามิได้อยู่ข้างกายท่านแล้วท่านต้องดูแลตนเองให้ดีข้าจะมองดูองค์หญิงอยู่ตลอดเวลานะพะย่ะค่ะ" น้ำเสียงที่เปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาหนิงเอ๋อแทบไม่ค่อยได้ยินด้วยซ้ำ นางจึงพยายามจะวิ่งไปหาหางเฟิ่งแต่ร่างของเขาก็เรือนรางจนหายไปใน
บทที่ 27 ความชั่วของหวงกุ้ยเฟยองครักษ์หลิวกระโดดขึ้นไปควบม้าโดยมีองค์หญิงเหมยฟางนั่งอยู่ด้านหน้าของตน นางรู้สึกหัวใจสั่นไหวเมื่อได้ใกล้ชิดองครักษ์หลิวกลิ่นกายที่หอมและอกแกร่งที่กระทบหลังของนางช่างทำให้นางชอบองครักษ์หลิวมากขึ้น แต่องครักษ์หลิวไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาอยากให้ถึงวังหลวงโดยเร็วและส่งองค์หญิงกลับตำหนักจะได้ไม่เป็นภาระและตัวปัญหาให้เขาอีกเมื่อมาถึงวังหลวงองครักษ์ได้ส่งเหมยฟางที่ตำหนักของนางก่อนที่เขาจะไปสืบเรื่องราวที่องค์หญิงหนิงเอ๋อได้สั่งมา เขาลอบเข้าไปที่ตำหนักของฝ่าบาทบัดนี้ฝ่าบาทบรรทมอยู่บนเตียง กลิ่นในห้องบรรทมนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นธูปที่รุนแรงจนองครักษ์หลิวต้องใช้เสื้อปิดจมูกตนเองไว้ เขามองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าหวงกุ้ยเฟยกับใต้เท้าไป๋กำลังเดินมาทางนี้ และนางกำนัลที่คอยดูแลฝ่าบาทอยู่นางหนึ่งเดินมาด้วยเขาจึงรีบหาที่ซ้อนตัวเพราะกลัวจะถูกจับได้"นี่ท่านข้าบอกแล้วอย่างไร หากจะพบข้าให้ไปพบข้าที่ตำหนักข้า ที่นี่มิใช่ที่เราจะพบกันได้ " เสียงของหวงกุ้ยเฟยที่บ่นใต้เท้าไป๋แต่เขาเองก็หากลัวไม่กลับยิ้มดีใจที่ถูกนางดุด่า"โธ่! ท่านก็รู้หากข้าไปหาท่านที่ตำหนักเดี๋ยวองค์รัชทายาทก็ได้มาเห็น
บทที่ 26 เหมยฟางมาเยี่ยมหนิงเอ๋อตื่นเช้ามานางก็ได้เข้ามาคาระวาท่านพ่อท่านแม่ของแม่ทัพอี้ตามขนบธรรมเนียมทำให้ท่านแม่ของแม่ทัพเอ็นดูนางเป็นอย่างมากยิ่งสาวใช้มาพูดให้นางฟังเรื่องผ้าปูเตียงยิ่งทำให้นางรู้สึกดีมากๆ ไม่นานเขาก็คงจะได้อุ้มหลาน"หนิงเอ๋อคาระวะท่านพ่อท่านแม่ " หนิงเอ๋อคาระวะ ท่านแม่ก็ได้ยกจับแขนหนิงเอ๋อให้มานั่งบนเก้าอี้ด้วยกัน"ไม่ต้องมากพิธีเมื่อวานเจ้าคงเหนื่อยมาก มานั่งลงสิมากินข้าวด้วยกันนี่เจ้าตักข้าวมาให้คองค์หญิงประเดี๋ยวนี้""ได้เจ้าค่ะ " นางก็รีบไปตักข้าวมาให้หนิงเอ๋อทันที"เจ้ามาอยู่ที่นี่คงจะลำบาคไม่มีคนรับใช้มากมายอย่างที่เจ้าคิด องค์หญิงเช่นเจ้าคงจะปรับตัวยากหน่อยนะ" ท่านพ่อของแม่ทัพได้พูดขึ้น"ไม่เลยเจ้าค่ะ ท่านก็ทราบว่าข้านั้นถูกทิ้งตั้งแต่เด็กใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง มาอยู่ที่จวนของพวกท่านนั้นนับว่าดีกว่าที่ข้าเคยอยู่ด้วยซ้ำ " ท่านแม่สงสารหนิงเอ๋อก็ได้เข้ามากอดนาง ทำให้นางตกใจที่ทั้งสองท่านใส่ใจนางถึงเพียงนี้"โธ่! ต่อจากนี้เจ้าจะไม่รู้สึกเช่นนั้นอีกต่อไป จากนี้ข้าจะมอบความรักให้แก่เจ้าเอง นี่กินนี่เยอะๆ นะจะได้บำรุงร่างกายให้เจ้าแข็งแรง ""แล้วนี่สวามีเจ้าไปทางใ
บทที่ 25 เข้าหอนอนเคียงข้างแม่ทัพมิอาจจะทนไหวเมื่อแรงราคะปะทุกาย และฤทธิ์ยาที่ทำให้เขาตื่นตัว เขาก้มลิ้มลองภูเขาทั้งสองของนาง ขาของเขาพยายามดันขาของหนิงเอ๋อให้แยกออกจากกัน"งั้นข้าเองก็จะทำตามคำที่เจ้าเชิญชวน ฮูหยินที่ข้าไม่ต้องการ" พูดจบเขาก็ก้มลงดูดดื่มบีบครั้นสองเต้าของหนิงเอ๋อจนนางรู้สึกเสียวไปทั่วร่างกายนางนอนบิดไปมาเมื่อลิ้นของเขาตวัดไปมารอบยอดประทุม นางเงยหน้าขึ้นเมื่อเก็บความรู้สึกเสียวนี้ไม่ไหวจึงได้ครวญครางออกมาด้วยเสียงกระเส่า"อ๊าา อ๊าาา " ยิ่งได้ยินเสียงของหนิงเอ๋อยิ่งทำให้อารมณ์ของแม่ทัพปะทุมากกว่าเดิมเขาก็บีบครั้นเนินอกของนางอย่างไม่ทะนุถนอมอีกต่อไป มือของเขาได้ไล่ลงไปแตะกรีบกุหลาบที่เอ่อนองด้วยน้ำรักเล็กน้อย เขาค่อยๆ ใช้มือสมัผัสเบาๆ และใช้นิ้วแหย่เข้าไปในช่องรักนั้นแต่ก็ต้องแปลกใจอีกรอบที่ช่องรักนั้นช่างคับแคบเหลือเกิน เช่นนี้แท่งร้อนแท่งใหญ่ของเขาจะเข้าสู่ช่องรักนางได้อย่างไร หนิงเอ๋อบัดนี้เหมือนจะขาดสติที่โดนเขากระตุ้นอารมณ์นางทั้งข้างบนและข้างล่าง เสียงอบอวลในห้องบัดนี้มีเพียงเสียงของนางร้องครวญครางออกมาและเสียงหอบเหนื่อย แม่ทัพละริมฝีปากออกจากเนินอกสวยไล่เลียลงมา