ค่อยเปิดศึกกันหลังจากสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า?เจียเหยาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วมองหยุนเจิงด้วยแววตาแปลกประหลาดใจยุติสงครามนั้นหรือ?นางเองก็อยากยุติสงครามเช่นกัน!ตอนนี้ ทั้งเป่ยหวนต่างก็อยากยุติสงครามทั้งนั้น!ขอแค่หยุนเจิงเห็นด้วยกับการยุติสงคราม และทำตามสัญญา แม้จะให้พวกเขามอบม้าศึกหนึ่งหมื่นตัวให้ พวกเขาก็ยอม!แต่หยุนเจิงจะยอมยุติสงครามได้อย่างไร?สิ่งที่กลัวคือ กลัวว่าพวกเขาจะมอบทุกอย่างออกไปแล้ว แต่หยุนเจิงเพิ่งรับผลดีนั้นไป ก็คิดแทงข้างหลังขึ้นมาหยุนเจิงที่เจียเหยารู้จักสามารถทำเรื่องพรรค์นั้นออกมาได้แน่นอน!ถึงขนาดพูดได้ว่าหยุนเจิงจะทำเช่นนั้นแน่ๆ!ตนมอบความดีความชอบให้กับเขาถึงที่ แต่เขากลับใช้จางหลิวมาหลอกตน นับประสาอะไรกับอย่างอื่น?เป่ยหวนในตอนนี้คิดจะยุติสงคราม จะง่ายปานนั้นได้อย่างไร?หากนางเป็นหยุนเจิง นางก็ไม่มีทางยุติสงครามตอนนี้เป็นแน่!เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่เป่ยหวนอ่อนแอที่สุดหยุนเจิงจะยุติสงครามตอนนี้ก็บ้าแล้ว!ไอ้สารเลวนี่ต้องคิดจะหลอกตนแน่ๆ!แสร้งทำเหมือนยุติสงครามก่อน แล้วค่อยลอบโจมตีนั้นหรือ?เจียเหยาแค่นเสียงเย็นชา แล้วกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ได้
“หุบปาก!”เจียเหยามองค้อนใส่ฟางหยุนซื่อแวบหนึ่ง “ข้ารู้!”กล่าวจบ เจียเหยาก็สั่งให้คนปล่อยคนทันทีสำหรับเรื่องนี้ นางเชื่อว่าหยุนเจิงจะรักษาคำพูดระหว่างพวกเขาเพราะสำหรับหยุนเจิงแล้ว การฝ่าฝืนกฎแลกคนนั้นไม่มีผลประโยชน์อะไรกับเขาเลยดังนั้นเรื่องยุติสงครามนั้น หยุนเจิงไม่มีทางรักษาคำพูดแน่นอน!แต่เรื่องในตอนนี้ หยุนเจิงไม่มีทางผิดคำพูดแน่นอนผ่านไปนานเพียงนี้แล้ว อาการบาดเจ็บของคนทั้งเก้าคนก็ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้วไม่นาน ทั้งเก้าคนก็กลับสู่ฝั่งหยุนเจิงหยุนเจิงถามสถานการณ์จากทั้งเก้าคน หลังจากยืนยันแล้วว่าทั้งห้าคนนั้นตายเพราะบาดเจ็บหนัก แต่ไม่รักษาจริง หยุนเจิงถึงได้ปล่อยตัวเชลยศึกเป่ยหวนทั้งสิบแปดคน“คนที่เหลือถือว่าเป็นค่ารักษาแล้วกัน!”หยุนเจิงตะโกนใส่เจียเหยาที่อยู่ห่างออกไป“ขอบใจ!”เจียเหยาขอบคุณหยุนเจิงจากที่ไกล แล้วตะโกนเสียงดังว่า “หยุนเจิง ถึงแม้เจ้าจะเป็นคนไร้ยางอาย แต่เจ้าเป็นศัตรูที่น่านับถือจริงๆ! ในภายภาคหน้า หากเป่ยหวนของข้ามีคนเจ็บหนักตกอยู่ในมือเจ้าอีก ข้าจะนำเชลยศึกสองเท่ามาแลกกับเจ้า!”“ตกลง!”หยุนเจิงตอบตกลงเสียงดัง แล้วพาคนถอยกลับไปเจียเหยาเหลือบมอง
เมื่อกลับไปถึงชายแดนกู้ หยุนเจิงก็เรียกตู้กุยหยวนและภูตเก้ามาทันที“ภูตเก้า เจ้ารีบคิดหาวิธีไปสืบดูว่าอาหลู่ไถตายจริงหรือไม่!”หยุนเจิงกล่าวเสียงขรึม “ข้าต้องการข่าวที่แน่ชัด!”“ขอรับ!”ภูตเก้ารีบตอบรับแล้วออกไปทันที“กองทหารโลหิตฝึกซ้อมเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”หยุนเจิงถามตู้กุยหยวน“สามารถออกรบได้ทุกเมื่อแล้วขอรับ!”ตู้กุยหยวนกล่าวอย่างมั่นใจ“เจ้าคิดว่า คนเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับกองทหารโลหิตชุดก่อน?”หยุนเจิงถามอีก“หากเป็นทักษะของแต่ละคน พวกเขาสู้กองทหารโลหิตชุดก่อนไม่ได้แน่นอนขอรับ”ตู้กุยหยวนตอบอย่างจริงจัง “แต่หากเป็นเรื่องของพลังในการสู้รบ ไม่เป็นรองกองทหารโลหิตชุดก่อนแน่นอน!”ทหารห้าร้อยห้านายของกองทหารโลหิตชุดก่อนนั้นคัดเลือกมาจากคนสองแสนคนเชียวนะ!แต่กองทหารโลหิตในตอนนี้ยังต้องเพิ่มทักษะของแต่ละคนจริงๆทว่าตู้กุยหยวนได้ฝึกซ้อมนักรบภูตสิบแปดพร้อมกับหยุนเจิงไปไม่น้อยหยุนเจิงเองก็ได้แบ่งปันกลยุทธ์แปลกๆ ให้กับเขาไม่น้อยเช่นกันเขาได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ที่ได้จากการฝึกซ้อมนักรบภูตสิบแปดให้กับกองทหารโลหิตด้วยเช่นกันกองทหารโลหิตในอดีตรบไม่เคยพ่าย ส่วนมากก็
ผ่านไปนาน ตู้กุยหยวนก็ตระหนักได้“พูดต่อไป!”หยุนเจิงมองตู้กุยหยวนยิ้มๆนึกออกแล้วหรือ?ตู้กุยหยวนราวกับถูกจี้ลมปราณ ถามลองเชิงว่า “องค์ชายคิดจะโจมตีฝ่ายฮูเจี๋ยฉานอวี่และต้าหมิงอ๋องเพื่อลดกำลังของพวกเขา และทำให้เกิดโกลาหลขึ้นภายในเป่ยหวนใช่หรือไม่?”“ถูก!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มแย้ม“ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นจั่วเสียนอ๋องหรือว่าโย่วเสียนอ๋องต่างก็เป็นแผนหลอกลวงทั้งนั้น?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็ตระหนักขึ้นได้เช่นกัน“ถูก!”หยุนเจิงพยักหน้า “ให้กองทหารโลหิตไปก่อกวนฝ่ายรอบๆ ผืนหญ้าเลี้ยงม้า ก็เพื่อทำลายจุดสนใจของเจียเหยา! ให้นางคิดว่าเราจะใช้โอกาสที่อาหลู่ไถตาย แล้วไปโจมตีฝ่ายอาหลู่ไถ”อวี๋ซื่อจงเข้าใจในบัดดล “องค์ชายส่งคนให้ไปสืบเรื่องการตายของอาหลู่ไถ ก็เพื่อจะเบี่ยงเบนความสนใจของเจียเหยาสินะ?”“ประมาณนั้น!”หยุนเจิงยิ้มพยักหน้า “แต่การสืบให้รู้ชัดว่าอาหลู่ไถตายจริงหรือไม่นั้น ก็จะทำให้เราดำเนินแผนขั้นต่อไปได้สะดวกยิ่งขึ้น”“ไม่…”ฉินชีหู่ลูบศีรษะ “น้องชาย เจ้าจะโจมตีผืนหญ้าเลี้ยงม้าไม่ใช่หรือ?”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้า “เป่ยหวนโกลาหลกันภายใน เราค่อยๆ โจมตีผืนหญ้าเลี้ยงม้าไม่ดีหรื
เจียเหยาสั่งให้คนถอยทัพออกไปห้าสิบลี้จริงๆนี่เป็นตำแหน่งที่ตั้งฐานค่ายใหญ่ของพวกเจากองทหารใหญ่แปดหมื่นนายที่ล้อมชายแดนกู้ก่อนหน้านี้ ไม่มีอยู่ตั้งนานแล้วผนวกกับคนหลายพันคนที่นางเพิ่งพากลับมา ที่นี่รวมกันแล้วก็มีเพียงสามหมื่นนายเท่านั้นแต่ทว่าคนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอดของเป่ยหวนคนที่คัดเลือกมาชั่วคราวเหล่านั้น บัดนี้ได้ส่งกลับไปยังแต่ละฝ่ายแล้วแม้แต่ทหารประจำการดั้งเดิมก็ถูกส่งกลับไปด้วยตอนนี้พวกเขาเลี้ยงปากท้องคนมากมายเพียงนี้ไม่ไหวจริงๆ!หากเก็บกำลังคนไว้มากเพียงนั้นตลอด เป่ยหวนมีแต่ตายสถานเดียวบัดนี้ นางดูแลกองทหารใหญ่หนึ่งหมื่นนาย เกออาซูดูแลกองทหารใหญ่หนึ่งหมื่นนาย อีกหนึ่งหมื่นนายดูแลโดยฮูหลัวปีกทั้งสองข้างของพวกเขามีจั่วเสียนอ๋องและโย่วเสียนอ๋องฝ่ายจั่วเสียนอ๋องเองก็บาดเจ็บหนักเมื่อคราวก่อน บัดนี้ทหารประจำการได้ลดลงเหลือเพียงหนึ่งหมื่นกว่านายเท่านั้นส่วนฝ่ายโย่วเสียนอ๋องนั้น ถึงแม้จะไม่ได้เสียหายไปมากมายนัก แต่โย่วเสียนอ๋องกลับขอลดทหารประจำการเหลือหนึ่งหมื่นนายด้วยตนเองนางรู้ดีว่าโย่วเสียนอ๋องทำเพื่อเก็บความสามารถเอาไว้หากนางเป็นโย่วเสียนอ๋อง นางก
อาหลู่ไถเพิ่งสูญเสียทหารไปสองหมื่นกว่านาย ตอนนี้นับรวมทหารที่สามารถขี่ม้าสู้รบได้ทั้งหมด เกรงว่าคงมีไม่ถึงแปดหมื่นนายด้วยซ้ำ!หากให้เขายืมอีกสามหมื่นนาย อาหลู่ไถคงคิดว่าเขาคิดจะยึดอำนาจเป็นแน่!“หากเจ้ามีปัญหากับข้า สามารถพากองทหารหนึ่งหมื่นนายของเจ้าไปซะ! ข้าไม่รั้งไว้แน่นอน!”เจียเหยามองฮูหลัวด้วยสายตาเย็นชา “แต่ทว่า ในเมื่อพวกเจ้าไม่ร่วมรบแล้ว เช่นนั้นเสบียงสำหรับคนหนึ่งหมื่นนายนั่นก็ต้องทิ้งเอาไว้!”เมื่อได้ยินเจียเหยาเอ่ยถึงเสบียงอาหาร ฮูหลัวก็พูดอะไรไม่ออกทันทีครั้นตั๊กแตนระบาดเมื่อปีก่อน ฝ่ายของเขาได้รับความเสียหายจำนวนมากเขาไม่มีเสบียงอาหารมากพอที่จะเลี้ยงปากท้องกองทหารประจำการหนึ่งหมื่นนายได้ด้วยซ้ำ!การที่เขานำกองกำลังเหล่านี้ไปสู้รบ ก็เพื่อต้องการเสบียงอาหารจากราชสำนัก“องค์หญิง เราถอยทัพเช่นนี้ ไม่ใช่วิธีหรอกกระมัง?”เกออาซูขมวดคิ้วมุ่น “ช่วงฤดูหนาวนี้ เราพ่ายแพ้ไปมากมาย บัดนี้กำลังใจทหารก็น้อยนิด ทุกคนล้วนแต่อยู่ด้วยแรงเฮือกสุดท้าย! หากถอยทัพเช่นนี้ จะทำให้ทหารสูญเสียกำลังใจอย่างสิ้นเชิง…”หากเป็นไปได้ อย่าว่าแต่ห้าสิบลี้เลย ห้าร้อยลี้นางก็ยอมไม่รบได้ย่อมเป็น
ทั้งสองกะพริบตาแรงๆ เพื่อตรวจสอบว่าตนตาฝาดหรือไม่แต่แล้วตัวอักษรบนจดหมายก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยนมองดูเนื้อหาที่ง่าย แต่เต็มไปด้วยข่าวสารสำคัญแล้ว ทั้งสองพลันอดอ้ำอึ้งไม่ได้หยุนเจิงยึดอำนาจทหาร แต่จักรพรรดิต้าเฉียนกลับไม่ทำอะไรเขา?ไม่เพียงแต่ตบรางวัลให้ แต่ยังมอบเสบียงให้พวกเขาด้วย?นี่มัน…นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?จักรพรรดิต้าเฉียนบ้าไปแล้วหรือไงกัน?เขาไม่กลัวเลยหรือว่าเช่นนี้จะทำให้แม่ทัพใหญ่ที่รักษาการณ์อยู่ที่ชายแดนของต้าเฉียนจะยึดทหารตั้งกองทหารเอง?กองทหารมณฑลฝ่ายเหนือเป็นกองกำลังชั้นยอดของต้าเฉียนรองจากองครักษ์หกแห่งเมืองจักรพรรดิเชียวนะ!จักรพรรดิต้าเฉียนมอบให้หยุนเจิงเช่นนี้เลย?วินาทีนี้ทั้งสองกำลังก่นด่าอยู่ในใจจักรพรรดิต้าเฉียนบ้าไปแล้วหรือไงกัน?แม้จะไม่สนใจขนาดไหน จักรพรรดิต้าเฉียนก็ควรจะตัดเสบียงอาหารให้กับกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือสิ!หากกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไม่มีเสบียงอาหารที่มากพอ เป่ยหวนก็จะกดดันน้อยลงทว่าจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว สำหรับเป่ยหวนนั่นเท่ากับเป็นสายฟ้าผ่าชัดๆ!“ฮู้…”เจียเหยาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ แล้วกล่าวด้วยสีหน้าทุกข์ใจว่า “เราประเมินความกล้าข
หากเป่ยหวนเกิดเรื่องโกลาหลกันภายในตอนนี้ ความตายก็คงอยู่ไม่ไกลแล้วราชครู สุดท้ายข้าก็ต้องเลือกทางนี้แล้วจริงๆ!หวังว่าท่านอยู่บนสวรรค์จะช่วยคุ้มครองเจียเหยาให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นด้วย!เจียเหยาลุกขึ้น แล้วโค้งคำนับไปทางราชสำนัก แล้วนั่งกลับที่เดิม จากนั้นเริ่มยกพู่กันเขียนขึ้นมาผ่านไปสองเค่อ เจียเหยาก็นำจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วใส่ไว้ในกระบองยาว แล้วเรียกผู้บัญชาการทหารข้างกายของตนเข้ามาพร้อมสั่งการด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้านำคนห้าสิบคนส่งมอบจดหมายนี้ไปให้เสด็จพ่อด้วยตนเองให้เร็วที่สุด! พวกเจ้าตายได้ แต่จดหมายห้ามหายเด็ดขาด! หากมีคนคิดจะแย่งไป ก็ให้ทำลายจดหมายนี้ซะ!”ได้ยินคำพูดของเจียเหยาแล้ว ผู้บัญชาการทหารข้างกายพลันสั่นสะท้านเขารู้ดีว่าจดหมายฉบับนี้สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพวกเขา!“พ่ะย่ะค่ะ!”ผู้บัญชาการทหารข้างกายรับคำสั่ง แล้วถอยออกจากกระโจมค่ายทันที“ฮู้…”เจียเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าเย็นชา…สองสามวันหลังจากนั้น หยุนเจิงไม่ได้กระทำการมากมายอะไรนักนอกจากซ้อมวรยุทธ์ และหยอกล้อกับเสิ่นลั่วเยี่ยน และเมี่ยวอินทุกวันแล้ว ก็คือไปกำชับการก่อสร้างที่ชาย