แชร์

บทที่ 1585

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
โหวซื่อไคมาถึงเร็วกว่าที่หยุนเจิงคาดไว้เสียอีก

ในช่วงเที่ยงของวันถัดมา โหวซื่อไคก็มาถึงจวนอ๋องของหัวเมืองสี่ทิศ

หยุนเจิงรับเขาที่ห้องหนังสือของตนเอง

“เจ้ามาได้เร็วไม่เบานี่!”

หยุนเจิงมองโหวซื่อไคพลางยิ้ม “เดินทางมาเหนื่อยมากหรือไม่?”

“ไม่เท่าไรพ่ะย่ะค่ะ ไม่เท่าไร” โหวซื่อไครีบแสร้งยิ้มเอาใจ “ท่านอ๋องมีรับสั่ง กระหม่อมย่อมไม่กล้าล่าช้า”

จริงๆ แล้วเหนื่อยแทบขาดใจ

เขาขี่ม้าตลอดทางจากซั่วฟางมาที่นี่

แม้จะเทียบไม่ได้กับการส่งสารด่วนแปดร้อยลี้ แต่ก็เร่งรีบสุดชีวิตแล้ว

ดีที่ตอนนี้อากาศยังหนาวเย็น เขาสวมเสื้อผ้าหนา ไม่เช่นนั้น ขาของเขาคงถลอกปอกเปิกไปแล้ว

“นั่งลงเถิด”

หยุนเจิงชี้ไปยังที่นั่งข้างๆ ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค

“ขอบพระคุณท่านอ๋อง”

โหวซื่อไครู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก รีบกล่าวขอบคุณซ้ำๆ

หยุนเจิงพยักหน้าเป็นเชิงให้สาวใช้ที่ชงชาถอยออกไป จากนั้นจึงหันไปมองโหวซื่อไคแล้วกล่าวว่า “เวลามีจำกัด ข้าจะไม่อ้อมค้อมกับเจ้าแล้ว! เจ้าสนิทสนมกับตระกูลซูแห่งจวีผิงเพียงใด?”

ตระกูลซูแห่งจวีผิง?

โหวซื่อไคชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบอย่างซื่อตรงว่า “กระหม่อมพอจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1586

    หลังจากฟังคำพูดของหยุนเจิงจบ โหวซื่อไคพลันตระหนักได้ในทันทีหยุนเจิงต้องการให้เขาร่วมมือกันหลอกตระกูลซูแห่งจวีผิง!เขาไม่รู้ว่าตระกูลซูแห่งจวีผิงไปล่วงเกินหยุนเจิงอย่างไร แต่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ หากหยุนเจิงลงมือเอง ตระกูลซูแห่งจวีผิงย่อมไม่มีทางลงเอยด้วยดีดีไม่ดี ตระกูลซูแห่งจวีผิงอาจถึงขั้นล่มสลายก็เป็นได้!หากให้เขาเลือกระหว่างหยุนเจิงกับตระกูลซูแห่งจวีผิง แน่นอนว่าเขาจะเลือกช่วยหยุนเจิงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม โหวซื่อไคตอนนี้เรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้นแล้วหากทำสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่หากไม่สำเร็จเล่า? เขาไม่รู้ว่าหยุนเจิงจะถือโทษโกรธเขาหรือไม่โหวซื่อไคครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลองหยั่งเชิงถามว่า “ท่านอ๋อง หากเรื่องนี้ไม่สำเร็จเล่า…”“วางใจเถิด!” หยุนเจิงรู้ดีว่าโหวซื่อไคกังวลเรื่องใด จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตราบใดที่เจ้าทำเต็มที่แล้ว ต่อให้ไม่สำเร็จ ข้าก็จะมอบรางวัลให้เจ้าหนึ่งหมื่นตำลึง! แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เด็ดขาด!”เช่นนั้นหรือ?หากไม่สำเร็จก็ไม่ต้องรับโทษ แถมยังได้รับหนึ่งหมื่นตำลึง?แม้ว่าหนึ่งหมื่นตำลึงจะไม่ใช่จ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1587

    สามวันให้หลัง โหวซื่อไคเดินทางถึงจวีผิงสิ่งแรกที่โหวซื่อไคทำเมื่อมาถึง ก็คือไปเยี่ยมเยียนตระกูลซูตระกูลโหวและตระกูลซูมีความสัมพันธ์ด้านการค้าขายต่อกันไม่น้อย ดังนั้นตระกูลซูจึงให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นซูซ่งฝู่ หนึ่งในผู้อาวุโสเจ็ดคนของตระกูลซู เป็นผู้มาต้อนรับโหวซื่อไค“คารวะท่านลุงซู”เมื่อโหวซื่อไคพบหน้าซูซ่งฝู่ เขารีบโค้งคำนับให้ซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องมากพิธี รีบเข้ามานั่งเถิด”“ขอบพระคุณท่านลุงซู”โหวซื่อไคกล่าวขอบคุณ ก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่สวยงามออกไป พร้อมกล่าวอย่างสุภาพว่า “ของกำนัลเล็กน้อย มิอาจแสดงความเคารพได้มาก หวังว่าท่านลุงจะรับไว้”“หลานชาย เจ้านี่ช่างเกรงใจนัก”ซูซ่งฝู่รับกล่องมา ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค จากนั้นก็ยิ้มพลางถามว่า “บิดาของเจ้าสบายดีหรือไม่?”ขณะกล่าว เขาก็เปิดกล่องออกดู ภายในเป็นหยกเนื้อดีชิ้นหนึ่ง ประเมินคร่าวๆ น่าจะมีมูลค่าราวหลายร้อยตำลึงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซูกับตระกูลโหว ของกำนัลนี้แม้มิใช่สิ่งล้ำค่ามากนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสมไม่น้อย!“ขอบพระคุณท่านลุงซูที่เป็นห่วง บิดาของข้าสุขสบายดี” โหวซื่อไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1588

    แต่สิ่งสำคัญคือ ทำธุรกิจอะไรถึงได้กำไรงามขนาดนั้น?ธุรกิจแบบไหนกัน ที่ทำให้โหวซื่อไคมั่นใจถึงเพียงนี้ ว่าจะสามารถหาเงินคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ภายในหนึ่งเดือน!?“หลานชาย บอกลุงได้หรือไม่ว่า เจ้าไปทำธุรกิจอะไรกันแน่?”ซูซ่งฝู่เริ่มสนใจขึ้นมา “หากธุรกิจนี้ทำกำไรได้ดี ท่านลุงเองก็อยากมีส่วนร่วมกับเจ้าสักหน่อย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคแสดงสีหน้าลำบากใจ ลังเลอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงใจ “ไม่ปิดบังท่านลุง เรื่องนี้ทำกำไรได้มากจริงๆ! มิใช่ว่าหลานไม่อยากบอกท่านลุง เพียงแต่ว่าหลานให้สัญญากับผู้อื่นไว้ ว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเปิดเผยออกไป หลานอาจถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ”“ถึงแก่ชีวิต?”ธุรกิจอะไร ถึงกับต้องเสี่ยงหัวขาด!?ซูซ่งฝู่ยิ่งรู้สึกสงสัยและอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิมซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ มองโหวซื่อไคด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “วางใจเถิด ท่านลุงเองก็ผ่านโลกมามากพอ ย่อมเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี! หากเจ้าบอกข้า ข้านอกจากจะช่วยเก็บเป็นความลับให้ ยังสามารถช่วยตรวจสอบให้ว่าเจ้าจะไม่ถูกหลอกอีกด้วย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคยังคงลังเลชัดเจน ไม่ยอมพูดออกมาตรงๆ“อะไรกัน! เจ้ายังไม่ไว้ใจข้าอีกหรือ?”ซู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1589

    เมื่อเห็นว่าโหวซื่อไคไม่ยอมบอกที่มาของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รู้สึกไม่พอใจอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ เขาไม่ได้แสดงออกมา“หลานชาย น้ำตาลขาวเหล่านี้ เจ้าซื้อมาด้วยเงินเท่าใด?”ซูซ่งฝู่มองน้ำตาลขาวที่โหวซื่อไคเพิ่งห่อกลับไปด้วยสายตาเป็นประกาย“อืม… ห้าร้อยตำลึง!”โหวซื่อไคกล่าวพลางยิ้มกว้างห้าร้อยตำลึง?เป็นไปได้หรือ?หากน้ำตาลขาวเพียงแค่นี้มีราคาห้าร้อยตำลึง โหวซื่อไคจะกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงเพียงนี้หรือ?เขาคงตั้งใจแจ้งราคาซื้อให้สูงเกินจริงแน่!ไม่แน่ว่า ต้นทุนที่แท้จริง อาจไม่ถึงสามร้อยตำลึงด้วยซ้ำ!แต่หากขายออกไปแล้ว ของเพียงเท่านี้ อาจมีราคาถึงเจ็ดถึงแปดตำลึงทองเลยก็ได้!กำไรมหาศาล!นี่คือกำไรที่แท้จริง!ไม่น่าแปลกใจเลยที่โหวซื่อไคกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงสองส่วน!ทันใดนั้น จิตใจของซูซ่งฝู่ก็เริ่มเคลื่อนไหวในเมื่อสามารถทำกำไรได้มากถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดต้องให้โหวซื่อไคเป็นฝ่ายทำกำไรไปทั้งหมด? เหตุใดต้องให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยเงินกู้ แล้วรับเพียงดอกเบี้ยสองส่วน?แม้ว่าดอกเบี้ยสองส่วนจะสูงมากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับกำไรของโหวซื่อไคแล้ว ยังห่างชั้นกันมาก!ใครกันจะไม่อยากห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1590

    หลังจากออกจากตระกูลซู โหวซื่อไคก็รีบเดินทางไปยังหัวเมืองสี่ทิศเพื่อทำการซื้อขายน้ำตาลแดงหัวเมืองสี่ทิศแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาเขตของตระกูลซูโดยสมบูรณ์ การกระทำของโหวซื่อไค ย่อมไม่อาจเล็ดลอดสายตาของคนในตระกูลซูไปได้จากพฤติกรรมของโหวซื่อไค พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า น้ำตาลขาวนั้นผลิตขึ้นจากน้ำตาลแดงที่ผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์เมื่อคิดถึงกำไรอันมหาศาลของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รีบเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลซูในทันที เพื่อหารือกันว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ำตาลขาวนี้ได้อย่างไรโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว!หากมีเงินให้หา ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงเป็นพวกโง่งมเต็มที!แต่ว่า โหวซื่อไคกลับปากแข็งเกินไปและที่สำคัญ ดูเหมือนว่าโหวซื่อไคจะไม่ต้องการให้ตระกูลซูเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เลย!หากต้องการเข้ามาในธุรกิจน้ำตาลขาว ก็ต้องหาทางให้โหวซื่อไคเปิดปากให้ได้ขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันว่าจะบีบให้โหวซื่อไคพูดออกมาได้อย่างไร จู่ๆ ก็มีคนจากจวนของซูเฮ่อเหนียนรีบรุดเข้ามา เขาก้มกระซิบข้างหูซูเฮ่อเหนียนอย่างลับๆ“ว่าอย่างไรนะ!?”ซูเฮ่อเหนียนถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะลากพ่อบ้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1

    “รายงาน! รายงานด่วน! มีตั๊กแตนระบาดหนักในเป่ยหวน เป่ยหวนได้รวบรวมกำลังทหารม้าเหล็กจำนวนสองแสนนายที่ชายแดน ราชครูแห่งเป่ยหวนได้นำทัพด้วยตนเองมุ่งมาทางเมืองหลวงเพื่อขอเสบียง อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้วขอรับ!”“มาขอเสบียงต้องใช้กำลังพลทหารม้าเหล็กสองแสนนายเลยรึ เป่ยหวนสมควรตาย นี่มันกำลังข่มขู่ข้าชัดๆ!”“ฝ่าบาท ราชวงศ์ของเราเพิ่งประสบกับคดีที่องค์รัชทายาทกบฏ ภายในไม่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง เวลานี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเปิดศึกกับเป่ยหวนได้นะพ่ะย่ะค่ะ”“มีราชโองการ: ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ขุนนางในราชสำนักเร่งมาที่พระราชวังเพื่อประชุมด่วน หากผู้ใดล่าช้า มีโทษประหาร!”...ณ ที่พำนักขององค์ชายหก เรือนปี้ปัว ราชวงศ์ต้าเฉียน หยุนเจิ้งนั่งอยู่คนเดียวที่ศาลาในสวนแม้ว่าเขาจะยอมรับความจริงเรื่องทะลุมิติเวลามาได้แล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อยเหตุใดจึงทะลุมิติเวลามาอยู่ในร่างขององค์ชายที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้เล่า!ที่สำคัญคือ คนผู้นี้ยังบังเอิญได้รับจดหมายเลือดที่องค์รัชทายาททิ้งไว้เพื่อเปิดโปงเรื่ององค์ชายสามกล่าวหาว่าองค์รัชทายาทก่อกบฏ หลังจากนั้นก็ทำให้เขาถูกองค์ชายสามจับตามองอยู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 2

    ตอนมีชีวิตอยู่ก็คับอกคับใจมากอยู่แล้ว ยังจะตายอย่างคับอกคับใจอีก!“คนผู้นั้นไม่ได้ให้อันใดข้าเลยจริงๆ”หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ข้าเดาว่าคนผู้นั้นถูกบีบบังคับจนไร้ทางเลือกแล้ว ถึงได้วิ่งเต้นมาหาข้าถึงที่เรือนนี้”หยุนลี่หรี่ตาพลางกล่าวเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่ออย่างนั้นหรือ?”หยุนเจิงแบมือสองข้างพลางกล่าว “ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ แต่ข้าเชื่อเช่นนั้น!”เมื่อเห็นท่าทางนี้ของหยุนเจิง นางกำนัลหลายคนก็ทำท่าทางเหมือนกับเห็นผีก็มิปานพระเจ้าช่วย!องค์ชายหกผู้อ่อนแอผู้นี้ช่างกล้ายิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับองค์ชายสามเมื่อวานเขาถูกองค์ชายสามตบหน้าฉาดใหญ่จนสมองเลอะเลือนไปแล้วกระมังเมื่อเห็นหยุนเจิงทำตัวแปลกไปเช่นนี้ สีหน้าของหยุนลี่พลันเคร่งขรึมลง เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่เจ้าดื้อรั้นจะไม่ยอมเอาของที่คนผู้นั้นให้เจ้าออกมาให้ข้าอย่างนั้นรึ?”“ก็ข้าไม่มี ข้าจะเอาให้เจ้าได้อย่างไรกันเล่า”หยุนเจิงยักไหล่ “เอาหล่ะ ข้ายังต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเจ้า! หากเจ้าคิดว่าข้ามีของที่เจ้าต้องการ เจ้าก็เรียกคนมาค้นหาเองเถอะ!”ขณะท

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 3

    ภายในตำหนัก จักรพรรดิเหวินเรียกเหล่าขุนนางมารวมตัวกันด่วนเพื่อหารือรับมือเรื่องเป่ยหวนขอเสบียงอาหารณ ตอนนี้จักรพรรดิเหวินกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นอย่างยิ่งหากมอบเสบียงให้เป่ยหวน ก็เท่ากับว่าสนับสนุนศัตรูของแคว้นต้าเฉียนแต่หากไม่มอบเสบียงให้ เป่ยหวนก็ไม่มีทางรอดในเหมันตฤดูที่จะมาถึง และต้องลงทางใต้เพื่อปล้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อถึงตอนนั้น ทางเหนือที่กำลังทำการฟื้นฟูมาเป็นเวลาหลายปี คงต้องเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายอีกครั้งแคว้นต้าเฉียนเพิ่งจะประสบกับแผนการก่อกบฏขององค์รัชทายาท ศึกภายในยังไม่นิ่ง ตอนนี้หากต้องทำศึกกับเป่ยหวน โอกาสชนะมีน้อยมาก และแม้ว่าจะชนะ ก็เกรงว่าจะเป็นชัยชนะที่น่าสังเวชและในขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่นั้น ฝ่ายสงครามกับฝ่ายสันติก็กำลังโต้เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใครอย่างไรก็ตาม ฝ่ายสันติมีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดจักรพรรดิเหวินฟังการโต้เถียงนี้จนปวดเศียรเวียนเกล้า อีกทั้งยังไม่อาจได้และในตอนนี้เอง ซูเฟยร้องห่มร้องไห้เดินพรวดพราดเข้ามาโดยไม่สนการขัดขวางขององครักษ์ที่อยู่ด้านหน้าตำหนักแต่อย่างใดเลย “ฝ่าบาท ได้โปรดให้ควา

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1590

    หลังจากออกจากตระกูลซู โหวซื่อไคก็รีบเดินทางไปยังหัวเมืองสี่ทิศเพื่อทำการซื้อขายน้ำตาลแดงหัวเมืองสี่ทิศแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาเขตของตระกูลซูโดยสมบูรณ์ การกระทำของโหวซื่อไค ย่อมไม่อาจเล็ดลอดสายตาของคนในตระกูลซูไปได้จากพฤติกรรมของโหวซื่อไค พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า น้ำตาลขาวนั้นผลิตขึ้นจากน้ำตาลแดงที่ผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์เมื่อคิดถึงกำไรอันมหาศาลของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รีบเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลซูในทันที เพื่อหารือกันว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ำตาลขาวนี้ได้อย่างไรโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว!หากมีเงินให้หา ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงเป็นพวกโง่งมเต็มที!แต่ว่า โหวซื่อไคกลับปากแข็งเกินไปและที่สำคัญ ดูเหมือนว่าโหวซื่อไคจะไม่ต้องการให้ตระกูลซูเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เลย!หากต้องการเข้ามาในธุรกิจน้ำตาลขาว ก็ต้องหาทางให้โหวซื่อไคเปิดปากให้ได้ขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันว่าจะบีบให้โหวซื่อไคพูดออกมาได้อย่างไร จู่ๆ ก็มีคนจากจวนของซูเฮ่อเหนียนรีบรุดเข้ามา เขาก้มกระซิบข้างหูซูเฮ่อเหนียนอย่างลับๆ“ว่าอย่างไรนะ!?”ซูเฮ่อเหนียนถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะลากพ่อบ้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1589

    เมื่อเห็นว่าโหวซื่อไคไม่ยอมบอกที่มาของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รู้สึกไม่พอใจอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ เขาไม่ได้แสดงออกมา“หลานชาย น้ำตาลขาวเหล่านี้ เจ้าซื้อมาด้วยเงินเท่าใด?”ซูซ่งฝู่มองน้ำตาลขาวที่โหวซื่อไคเพิ่งห่อกลับไปด้วยสายตาเป็นประกาย“อืม… ห้าร้อยตำลึง!”โหวซื่อไคกล่าวพลางยิ้มกว้างห้าร้อยตำลึง?เป็นไปได้หรือ?หากน้ำตาลขาวเพียงแค่นี้มีราคาห้าร้อยตำลึง โหวซื่อไคจะกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงเพียงนี้หรือ?เขาคงตั้งใจแจ้งราคาซื้อให้สูงเกินจริงแน่!ไม่แน่ว่า ต้นทุนที่แท้จริง อาจไม่ถึงสามร้อยตำลึงด้วยซ้ำ!แต่หากขายออกไปแล้ว ของเพียงเท่านี้ อาจมีราคาถึงเจ็ดถึงแปดตำลึงทองเลยก็ได้!กำไรมหาศาล!นี่คือกำไรที่แท้จริง!ไม่น่าแปลกใจเลยที่โหวซื่อไคกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงสองส่วน!ทันใดนั้น จิตใจของซูซ่งฝู่ก็เริ่มเคลื่อนไหวในเมื่อสามารถทำกำไรได้มากถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดต้องให้โหวซื่อไคเป็นฝ่ายทำกำไรไปทั้งหมด? เหตุใดต้องให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยเงินกู้ แล้วรับเพียงดอกเบี้ยสองส่วน?แม้ว่าดอกเบี้ยสองส่วนจะสูงมากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับกำไรของโหวซื่อไคแล้ว ยังห่างชั้นกันมาก!ใครกันจะไม่อยากห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1588

    แต่สิ่งสำคัญคือ ทำธุรกิจอะไรถึงได้กำไรงามขนาดนั้น?ธุรกิจแบบไหนกัน ที่ทำให้โหวซื่อไคมั่นใจถึงเพียงนี้ ว่าจะสามารถหาเงินคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ภายในหนึ่งเดือน!?“หลานชาย บอกลุงได้หรือไม่ว่า เจ้าไปทำธุรกิจอะไรกันแน่?”ซูซ่งฝู่เริ่มสนใจขึ้นมา “หากธุรกิจนี้ทำกำไรได้ดี ท่านลุงเองก็อยากมีส่วนร่วมกับเจ้าสักหน่อย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคแสดงสีหน้าลำบากใจ ลังเลอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงใจ “ไม่ปิดบังท่านลุง เรื่องนี้ทำกำไรได้มากจริงๆ! มิใช่ว่าหลานไม่อยากบอกท่านลุง เพียงแต่ว่าหลานให้สัญญากับผู้อื่นไว้ ว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเปิดเผยออกไป หลานอาจถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ”“ถึงแก่ชีวิต?”ธุรกิจอะไร ถึงกับต้องเสี่ยงหัวขาด!?ซูซ่งฝู่ยิ่งรู้สึกสงสัยและอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิมซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ มองโหวซื่อไคด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “วางใจเถิด ท่านลุงเองก็ผ่านโลกมามากพอ ย่อมเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี! หากเจ้าบอกข้า ข้านอกจากจะช่วยเก็บเป็นความลับให้ ยังสามารถช่วยตรวจสอบให้ว่าเจ้าจะไม่ถูกหลอกอีกด้วย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคยังคงลังเลชัดเจน ไม่ยอมพูดออกมาตรงๆ“อะไรกัน! เจ้ายังไม่ไว้ใจข้าอีกหรือ?”ซู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1587

    สามวันให้หลัง โหวซื่อไคเดินทางถึงจวีผิงสิ่งแรกที่โหวซื่อไคทำเมื่อมาถึง ก็คือไปเยี่ยมเยียนตระกูลซูตระกูลโหวและตระกูลซูมีความสัมพันธ์ด้านการค้าขายต่อกันไม่น้อย ดังนั้นตระกูลซูจึงให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นซูซ่งฝู่ หนึ่งในผู้อาวุโสเจ็ดคนของตระกูลซู เป็นผู้มาต้อนรับโหวซื่อไค“คารวะท่านลุงซู”เมื่อโหวซื่อไคพบหน้าซูซ่งฝู่ เขารีบโค้งคำนับให้ซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องมากพิธี รีบเข้ามานั่งเถิด”“ขอบพระคุณท่านลุงซู”โหวซื่อไคกล่าวขอบคุณ ก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่สวยงามออกไป พร้อมกล่าวอย่างสุภาพว่า “ของกำนัลเล็กน้อย มิอาจแสดงความเคารพได้มาก หวังว่าท่านลุงจะรับไว้”“หลานชาย เจ้านี่ช่างเกรงใจนัก”ซูซ่งฝู่รับกล่องมา ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค จากนั้นก็ยิ้มพลางถามว่า “บิดาของเจ้าสบายดีหรือไม่?”ขณะกล่าว เขาก็เปิดกล่องออกดู ภายในเป็นหยกเนื้อดีชิ้นหนึ่ง ประเมินคร่าวๆ น่าจะมีมูลค่าราวหลายร้อยตำลึงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซูกับตระกูลโหว ของกำนัลนี้แม้มิใช่สิ่งล้ำค่ามากนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสมไม่น้อย!“ขอบพระคุณท่านลุงซูที่เป็นห่วง บิดาของข้าสุขสบายดี” โหวซื่อไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1586

    หลังจากฟังคำพูดของหยุนเจิงจบ โหวซื่อไคพลันตระหนักได้ในทันทีหยุนเจิงต้องการให้เขาร่วมมือกันหลอกตระกูลซูแห่งจวีผิง!เขาไม่รู้ว่าตระกูลซูแห่งจวีผิงไปล่วงเกินหยุนเจิงอย่างไร แต่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ หากหยุนเจิงลงมือเอง ตระกูลซูแห่งจวีผิงย่อมไม่มีทางลงเอยด้วยดีดีไม่ดี ตระกูลซูแห่งจวีผิงอาจถึงขั้นล่มสลายก็เป็นได้!หากให้เขาเลือกระหว่างหยุนเจิงกับตระกูลซูแห่งจวีผิง แน่นอนว่าเขาจะเลือกช่วยหยุนเจิงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม โหวซื่อไคตอนนี้เรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้นแล้วหากทำสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่หากไม่สำเร็จเล่า? เขาไม่รู้ว่าหยุนเจิงจะถือโทษโกรธเขาหรือไม่โหวซื่อไคครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลองหยั่งเชิงถามว่า “ท่านอ๋อง หากเรื่องนี้ไม่สำเร็จเล่า…”“วางใจเถิด!” หยุนเจิงรู้ดีว่าโหวซื่อไคกังวลเรื่องใด จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตราบใดที่เจ้าทำเต็มที่แล้ว ต่อให้ไม่สำเร็จ ข้าก็จะมอบรางวัลให้เจ้าหนึ่งหมื่นตำลึง! แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เด็ดขาด!”เช่นนั้นหรือ?หากไม่สำเร็จก็ไม่ต้องรับโทษ แถมยังได้รับหนึ่งหมื่นตำลึง?แม้ว่าหนึ่งหมื่นตำลึงจะไม่ใช่จ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1585

    โหวซื่อไคมาถึงเร็วกว่าที่หยุนเจิงคาดไว้เสียอีกในช่วงเที่ยงของวันถัดมา โหวซื่อไคก็มาถึงจวนอ๋องของหัวเมืองสี่ทิศหยุนเจิงรับเขาที่ห้องหนังสือของตนเอง“เจ้ามาได้เร็วไม่เบานี่!”หยุนเจิงมองโหวซื่อไคพลางยิ้ม “เดินทางมาเหนื่อยมากหรือไม่?”“ไม่เท่าไรพ่ะย่ะค่ะ ไม่เท่าไร” โหวซื่อไครีบแสร้งยิ้มเอาใจ “ท่านอ๋องมีรับสั่ง กระหม่อมย่อมไม่กล้าล่าช้า”จริงๆ แล้วเหนื่อยแทบขาดใจเขาขี่ม้าตลอดทางจากซั่วฟางมาที่นี่แม้จะเทียบไม่ได้กับการส่งสารด่วนแปดร้อยลี้ แต่ก็เร่งรีบสุดชีวิตแล้วดีที่ตอนนี้อากาศยังหนาวเย็น เขาสวมเสื้อผ้าหนา ไม่เช่นนั้น ขาของเขาคงถลอกปอกเปิกไปแล้ว“นั่งลงเถิด”หยุนเจิงชี้ไปยังที่นั่งข้างๆ ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค“ขอบพระคุณท่านอ๋อง”โหวซื่อไครู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก รีบกล่าวขอบคุณซ้ำๆหยุนเจิงพยักหน้าเป็นเชิงให้สาวใช้ที่ชงชาถอยออกไป จากนั้นจึงหันไปมองโหวซื่อไคแล้วกล่าวว่า “เวลามีจำกัด ข้าจะไม่อ้อมค้อมกับเจ้าแล้ว! เจ้าสนิทสนมกับตระกูลซูแห่งจวีผิงเพียงใด?”ตระกูลซูแห่งจวีผิง?โหวซื่อไคชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบอย่างซื่อตรงว่า “กระหม่อมพอจ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1584

    เยี่ยจื่อเคยช่วยหยุนเจิงบริหารกิจการภายในเมืองมาแล้ว จึงมีความเข้าใจในเรื่องเกษตรกรรมมากกว่าหยุนเจิงอยู่มาก เมื่อนางวิเคราะห์เรื่องนี้กับหยุนเจิง ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างเป็นระบบและชัดเจนข้อเสนอหลายอย่างที่นางยกขึ้นมา หยุนเจิงก็เห็นว่าดีเช่นกันตลอดเวลาที่หารือกัน ส่วนใหญ่เป็นเพียงหยุนเจิงกับเยี่ยจื่อที่พูดคุยกัน อวี๋ฝูแทบไม่ได้เอ่ยปาก กระทั่งเมื่อหยุนเจิงกับเยี่ยจื่อสอบถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับการตัดสินใจเบื้องต้น อวี๋ฝูก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่ว่าดีหรือร้ายก็เพียงตอบรับว่า ตามแต่ท่านอ๋องและเยี่ยจื่อหยุนเจิงและเยี่ยจื่อหารือกันราวหนึ่งชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนการ“เอาล่ะ เจ้าไปทำงานของเจ้าเถอะ”หยุนเจิงโบกมือให้กับอวี๋ฝู “ข้ายังต้องพูดคุยกับฮูหยินจื่ออีกสักหน่อย”“ข้าขอทูลลา!”อวี๋ฝูลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รีบออกไปอย่างกับได้รับอภัยโทษหยุนเจิงมองตามแผ่นหลังที่จากไป ดวงตาฉายแววสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย“เขาน่าจะมีปัญหาจริงๆ”เยี่ยจื่อดูเหมือนจะเดาออกว่าหยุนเจิงคิดอะไรอยู่หยุนเจิงหันกลับมา “เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ?”เยี่ยจื่อแย้มยิ้มบางๆ “เขาเป็นพ่อบ้าน แต่กลับไม่รู้อ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1583

    “เหตุใดเจ้าจึงไม่มอบวัวไถนาให้พวกเขาทุกคนเล่า?”ระหว่างทางกลับ เมี่ยวอินมองหยุนเจิงด้วยความสงสัยอย่างมากเสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็อยากถามคำถามนี้เช่นกัน แต่ถูกเมี่ยวอินชิงถามไปก่อน จึงได้แต่มองหยุนเจิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจหยุนเจิงมิใช่คนตระหนี่ต่อให้มอบวัวไถนาให้ชาวนาเฒ่าเหล่านั้นคนละตัว สำหรับเขาแล้ว ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นกระทั่ง มิอาจนับเป็นเศษเสี้ยวเสียด้วยซ้ำ“ต้องมีการแลกเปลี่ยน จึงจะได้รับผลตอบแทน”หยุนเจิงอธิบายพลางยิ้ม “ชาวนาเฒ่าผู้นั้นตอบคำถามของข้า นั่นถือเป็นสิ่งที่เขาลงแรงไป เขาสมควรได้รับรางวัลตอบแทน! ส่วนชาวนาเฒ่าคนอื่นๆ มิได้พูดอะไร ก็ทำได้เพียงพลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเล็กน้อยเท่านั้น…”วัวไถนาไม่กี่ตัว สำหรับเขาแล้ว นับเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างแท้จริงแต่เขามิอาจมอบวัวไถนาให้ทุกคนเพียงเพราะรู้สึกเวทนาในใต้หล้านี้ มีประชาชนที่ยากไร้เช่นนี้อีกมากมายเหลือคณา แล้วเขาจะมอบให้หมดได้อย่างไร?การช่วยเหลือที่แท้จริง คือการลดภาระของราษฎรทั้งหมดต่างหาก!ภาษีที่ดินที่แบ่งตามพื้นที่ของที่ดิน ก็ถูกกำหนดขึ้นด้วยจุดประสงค์นี้เช่นกันแววตาของเสิ่นลั่วเย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1582

    แน่นอนว่ามาตรฐานเหล่านี้ใช้กับที่ดินชั้นดีเท่านั้นส่วนที่ดินชั้นต่ำกว่านั้นมาตรฐานของการเก็บเกี่ยวที่ถือว่าผลผลิตดีจะต่ำกว่านี้อีกตามกฎของราชสำนักข้าวสาลีซึ่งเป็นพืชอาหารหลักจะต้องปลูกแต่ก็ไม่สามารถปลูกได้ตามอำเภอใจไม่ว่าจะปลูกมากหรือน้อยก็ล้วนมีการจำกัดสัดส่วนอย่างเข้มงวดนอกจากนี้ยังมีบางพื้นที่ที่ต้องใช้ปลูกพืชตระกูลถั่วหมุนเวียนกันไปเพราะหลังจากปลูกถั่วแล้วดินจะอุดมสมบูรณ์ขึ้นทำให้ปีถัดไปเมื่อปลูกพืชอื่นผลผลิตก็จะงอกงามกว่าเดิมชาวนาเฒ่าพยายามอธิบายอย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านอ๋องเข้าใจผิดว่าพวกเขาจงใจปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่าในแคว้นต้าเฉียนการจงใจปล่อยที่ดินให้รกร้างโดยไม่มีเหตุผลอันควรเป็นความผิดที่ต้องได้รับโทษหนักเมื่อฟังคำอธิบายของชาวนาอาวุโสหยุนเจิงก็เข้าใจทันทีหากไม่ได้ลงมาดูด้วยตาตัวเองเขาก็คงไม่รู้ว่ามีเรื่องราวซับซ้อนเช่นนี้เกี่ยวกับการเกษตรเรื่องของที่ดินนี่ก็มีความรู้แฝงอยู่ไม่น้อยเช่นกันไม่อาจแยกตัวออกจากประชาชนได้จริงๆหยุนเจิงคิดในใจพลางถามต่อ “ที่ดินเหล่านี้เป็นของพวกเจ้าเองหรือเป็นของนายท่านคนใด?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของชาวนาอาวุโสเผยรอย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status