แชร์

บทที่ 1257

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 17:00:00
การต่อสู้ที่ดุเดือดและโหดร้ายยังคงดำเนินต่อไปจากช่วงบ่ายจนถึงพลบค่ำ

แคว้นโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ได้ดึงทหารเพิ่มอีก 5,000 นายจากกองหนุนเข้ามาโจมตีแนวป้องกันของ กองทหารมณฑลเหนืออย่างไม่หยุดยั้ง

แม้ว่ากองทหารมณฑลเหนือจะได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอย่างหนัก แต่พวกเขายังคงกัดฟันสู้ต่อ

ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินสะท้อนแสงสีแดงเลือดทั่วทั้งสนามรบ

ที่ห่างออกไป โหลวอี้และอวี้ไท่กำหมัดแน่น มองไปยังสนามรบเบื้องหน้าด้วยความตึงเครียด

เกือบสามชั่วโมงแล้ว

การโจมตีครั้งนี้กินเวลานานเกือบสามชั่วโมงแล้ว

แนวป้องกันของกองทหารมณฑลเหนือดูเหมือนจะอ่อนล้าลง แต่ทำไมถึงยังไม่สามารถเจาะเข้าไปได้?

โหลวอี้สับสน อวี้ไท่เองก็ไม่เข้าใจ

นี่ไม่ใช่กำแพงที่สมบูรณ์แบบ

แถมยังมีช่องว่างมากมาย!

นอกจากนี้ ศพที่กองพะเนินจนถึงกำแพงแทบทำให้การป้องกันของศัตรูไร้ความหมาย

ตามปกติ พวกเขาควรจะบุกทะลวงได้แล้วนี่!

มีจังหวะหนึ่ง โหลวอี้ ถงกับสงสัยว่า ศัตรูตั้งใจแสร้งทำเป็นเหนื่อยล้าเพื่อดึงดูดให้พวกเขาโจมตีต่อเนื่องหรือไม่

แต่เมื่อเห็นว่ากองทหารมณฑลเหนือต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วง เขาก็คิดว่าความเป็นไปได้นี้น่าจะต่ำ

หากนี่เป็นแผนการ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1258

    อวี้ไท่ได้สติกลับมาความเป็นเหตุเป็นผลบอกเขาว่าศัตรูที่เปลี่ยนยุทธวิธีอย่างฉับพลันนี้ต้องมีแผนการบางอย่างแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเดินหน้าต่อหลังจากพยายามสงบจิตใจ อวี้ไท่ก็สั่งการให้ออกโจมตี พร้อมกับดึงทหารม้าจำนวน 10,000 นายจากกองหนุนเข้ามาสมทบหากสามารถล้อมศัตรูที่พุ่งออกมาได้ เราจะบดขยี้พวกมันได้อย่างแน่นอนแม้ความสูญเสียจะมากมาย แต่พวกเขายังคงได้เปรียบในด้านกำลังคนกองทหารมณฑลเหนือที่บ้าบิ่นพุ่งออกมานี้ แสดงให้เห็นว่าศัตรูไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกเขาเลยเมื่อคำสั่งจากโหลวอี้และอวี้ไท่ถูกส่งออกไป กองทัพม้าของพวกเขาก็เข้าสู่สนามรบไม่นาน ทหารม้าของกองทหารมณฑลเหนือก็เข้าปะทะกับกองทัพม้าของทั้งสองแคว้นทหารม้าของกองทหารมณฑลเหนือยังคงพุ่งทะลวงออกมาไม่หยุด ส่งผลให้พวกเขาดูเหมือนจะครองความได้เปรียบแต่โหลวอี้และอวี้ไท่ยังไม่รู้สึกกังวลทหารม้าจากกองหนุนจะมาถึงเร็วๆ นี้ เมื่อกองหนุนจะมาถึง พวกเขาก็จะกลับมาได้เปรียบอีกครั้งการต่อสู้ของกองทหารม้าทั้งสองฝ่ายดำเนินไปอย่างดุเดือดกองทหารมณฑลเหนือเริ่มได้รับบาดเจ็บและสูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงยืน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1259

    ฉินชีหู่และหลูซิ่ง นำกองทหารโลหิตที่เป็นทหารม้าหุ้มเกราะหนัก พุ่งทะยานไปข้างหน้าแม้ความเร็วของทหารม้าหุ้มเกราะหนักจะไม่เร็วเท่าทหารม้าเบา แต่ระยะทางเพียงหกถึงเจ็ดลี้ก็ไม่ได้กินเวลานานไม่นาน พวกเขาก็มองเห็นค่ายหลังของศัตรูภายใต้ความมืดของรัตติกาล ค่ายของศัตรูส่องสว่างด้วยแสงไฟจากกองเพลิงรอบค่ายตั้งกองไฟและล้อมด้วยแนวไม้ขวางม้าเพื่อป้องกันการโจมตีได้ยินเสียงกีบม้าที่ดังสะท้อนทำให้ทหารในค่ายศัตรูเข้าสู่สถานะพร้อมรบอย่างรวดเร็ว"ทุกคนเตรียมพร้อม!""พลธนูเตรียมยิง!""ส่งคนออกไปดูว่าพวกเขาเป็นใคร!"แม่ทัพที่ป้องกันค่ายสั่งการอย่างรวดเร็ว ทหารต่างรีบมายังแนวป้องกันที่ถูกล้อมไว้ด้วยไม้ขวาง พร้อมเข้าสู่ตำแหน่งการป้องกันในค่ายเป็นเรื่องที่ไม่อาจละเลยได้ในค่ายแห่งนี้คือที่เก็บเสบียงของทั้งสองแคว้นหากเสบียงถูกโจมตี ผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกันจะต้องถูกลงโทษด้วยชีวิตทหารม้ากลุ่มเล็กที่ถือคบเพลิงสิบกว่านายพุ่งออกจากค่าย เพื่อตรวจสอบว่าใครกำลังมา"ฟิ้ว..."ไม่ทันได้ไปไกล ธนูหลายดอกก็พุ่งเข้ามาท่ามกลางความมืดทหารม้าที่ถือคบเพลิงถูกยิงร่วงจากหลังม้าเมื่อเห็นไฟจากคบเพลิงดับลงบนพื้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1260

    "หากเรายังคงบุกแบบนี้ต่อไป ความพ่ายแพ้ของศัตรูก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น"เมื่อมองสถานการณ์ในสนามรบ อวี้ไท่และโหลวอี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพวกเขาสูญเสียไปมากมาย แต่ในที่สุดก็สามารถบุกทะลวงเข้าไปได้"รายงาน……!"ขณะที่รอยยิ้มแห่งความสำเร็จเริ่มปรากฏบนใบหน้าของทั้งสอง ทหารม้าของโฉวฉื่อคนหนึ่งวิ่งกระเสือกกระสนเข้ามา ใบหน้าซีดเซียวด้วยความหวาดกลัว "เรียนแม่ทัพใหญ่ ทหารม้าหุ้มเกราะหนักของศัตรูจำนวนสองถึงสามพันนาย บุกโจมตีค่ายหลังของเรา กองทัพเราถูกทำลายหนักมาก...""อะไรนะ?"อวี้ไท่หน้าเปลี่ยนสีทันที เขาคว้าทหารม้าคนนั้นด้วยมือสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำและตะโกนเสียงดัง "เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นทหารม้าหุ้มเกราะหนัก?""ขอรับ...!"ทหารม้าพยักหน้า หวาดกลัวจนไร้สีเลือดเมื่อได้รับคำตอบที่ยืนยัน อวี้ไท่ถึงกับเซถอยหลังทหารม้าหุ้มเกราะหนัก!กลุ่มทหารที่บุกไปยังค่ายหลังของพวกเขาเป็นทหารม้าหุ้มเกราะหนักจริงหรือ?ศัตรูที่ต่อสู้หนักหน่วงมานานขนาดนี้ ยังมีทหารม้าหุ้มเกราะหนักแอบซ่อนอยู่?โหลวอี้ที่ยืนอยู่ใกล้อวี้ไท่ เขาได้ยินคำพูดของทหารม้าโฉวฉื่ออย่างชัดเจนรอยยิ้มบนใบหน้าของโหลวอี้หายไปอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1261

    "เสบียงของศัตรูถูกเผาแล้ว!""พี่น้องทั้งหลาย ฆ่าพวกมันให้หมด!""ฆ่า!!!"ในขณะที่ กองทหารมณฑลเหนือได้ข่าวดีนี้ ขวัญกำลังใจก็พุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากกองทัพที่เคยถูกกดดันจนถอยร่น บัดนี้พวกเขากลับบุกตะลุยสวนกลับด้วยพลังที่น่ากลัวขวัญกำลังใจของศัตรูเริ่มร่วงโรยอยู่แล้ว ยิ่งถูกการบุกตอบโต้ที่รุนแรงของกองทหารมณฑลเหนือ ทำให้ขวัญกำลังใจแตกกระจาย"หนี!”“หนีเร็วเข้า!"เสียงร้องตะโกนดังไปทั่วแนวรบของกองทัพศัตรู ในขณะที่ทหารบางนายพยายามรวบรวมสติและยืนหยัด แต่จำนวนมากเริ่มถอยร่นด้วยความหวาดกลัว"ห้ามหนี! ยืนหยัดไว้ ยืนหยัดไว้ให้ได้!"แม่ทัพจากโฉวฉื่อและต้าเย่ว์ พยายามตะโกนปลุกกำลังใจเพื่อหยุดยั้งการล่าถอย"ใครถอยหนี ฆ่า!"แม่ทัพนายหนึ่งยกดาบที่ชุ่มเลือดขึ้นสูง และฟันทหารที่ถอยหลังตายไปทันทีการกระทำนี้สร้างความหวาดกลัวแก่ทหารที่กำลังถอยแต่ในขณะที่แม่ทัพกำลังเผชิญหน้ากับเหล่าทหารตื่นตระหนก เขากลับรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่คอก่อนที่จะทันหันไปดูว่าใครเป็นคนฆ่าตนแต่เสียดายที่เขามิอาจทำได้อีกต่อไปเสียงดัง “ตุ้บ” หัวของแม่ทัพหล่นลงพื้ตนเมื่อแม่ทัพล้มตาย เหล่าทหารที่ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1262

    สถานการณ์ที่เคยดูเหมือนจะเข้าข้างพวกเขา กลับพังทลายลงเมื่อเสบียงถูกเผาในขณะนี้ ทั้งโหลวอี้และอวี้ไท่ต่างก็มีเพียงคำสองคำที่วนเวียนอยู่ในหัว สิ้นชาติแม้พวกเขาอยากรวบรวมทหารที่หนีตาย และกลับมาบุกโจมตีศัตรูอีกครั้ง แต่สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้สิ่งนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ทั้งสองกองทัพถูกกดดันมานานจนขวัญกำลังใจของทหารตกต่ำลงถึงขีดสุดหากพยายามบังคับให้ทหารหยุดหนี คงไม่พ้นเกิดการก่อกบฏภายในกองทัพเอง"แม่ทัพอาวุโสอวี้! เราจะปล่อยให้มันจบแบบนี้ไม่ได้!"โหลวอี้จับแขนอวี้ไท่ พลางตะโกนด้วยดวงตาแดงก่ำ "ถ้าเราพ่ายแพ้ตรงนี้ ศัตรูจะบุกเข้ามาในแผ่นดินเราได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายทั้งสองแคว้นของเราจะต้องสิ้นชาติ!""ถูก!"อวี้ไท่สีหน้าซีดเซียว แต่ยังพยักหน้า "ข้ากำลังจะปรึกษาเรื่องนี้กับท่านพอดี""ว่ามา ท่านแม่ทัพอาวุโสมีแผนเช่นไร?"น้ำเสียงของโหลวอี้เต็มไปด้วยความคาดหวัง"ตอนนี้ พวกเรายังไม่สามารถรวบรวมกำลังทหารที่หนีได้ ต้องปล่อยให้พวกเขาหนีไปก่อน แต่เมื่อฟ้าสาง ทหารเหล่านั้นจะอ่อนล้าจากการหนี เราค่อยรวบรวมพวกเขาอีกครั้ง""จริงอย่างท่านว่า!" โหลวอี้พยักหน้า "หากบังคับในตอนนี้ ทหารจะยิ่งแตกตื่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1263

    หลังจากการหนีเอาชีวิตรอดตลอดทั้งคืน แคว้นโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ได้ถอนทัพหนีไปไกลอย่างไรก็ตาม ในความโกลาหลนี้ มีบางคนวิ่งหนีได้เร็ว และบางคนล้าหลังจนถูกทิ้งห่างจากกองทัพหลักเมื่อรุ่งเช้ามาถึง หลายคนวิ่งจนหมดแรง ถูกทิ้งไว้ไกลในแนวหลังหลังจากการหลบหนีตลอดทั้งคืน ทหารจากทั้งสองแคว้นเริ่มสงบลง บางทีพวกเขาคิดว่าได้หนีห่างจากกองทหารมณฑลทางเหนือเพียงพอแล้ว จึงไม่มีความตื่นตระหนกเช่นก่อนหน้านี้เวลานี้ โหลวอี้และอวี้ไท่ได้เริ่มการรวบรวมกองกำลังที่แตกกระเจิงผู้ที่ถูกรวบรวมกลับมาเป็นกลุ่มแรกย่อมเป็นเหล่าทหารม้าที่วิ่งนำไปก่อนแม้ว่าแคว้นทั้งสองจะสูญเสียทหารม้าไปมาก แต่ก็ยังดีกว่าทหารเดินเท้าที่สูญเสียอย่างมหาศาลผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทหารม้าจากทั้งสองแคว้นเกือบถูกรวบรวมกลับมาหมด พวกเขายังส่งคนไปตามหาและรวบรวมเหล่าทหารเดินเท้าที่หลุดลอยไปในแนวหลังจำนวนทั้งหมดในตอนนี้ยังไม่อาจนับแน่ชัดได้แต่ดูเหมือนทหารม้าของโฉวฉื่อจะมีมากกว่าแคว้นต้าเย่ว์เล็กน้อย โหลวอี้นำผู้ติดตามและคู่ฉาไปพบกับอวี้ไท่อีกครั้ง“แม่ทัพอาวุโสอวี้ พวกท่านคิดว่าจะออกเดินทางเมื่อไร?”โหลวอี้ถามอย่างตรงไปตรงมา“ยังต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1264

    อวี้ไท่มองโหลวอี้อย่างเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยประกายความเยือกเย็น"ข้าปรารถนาดี แต่พวกเจ้ารับน้ำใจหรือไม่?"โหลวอี้เผยรอยยิ้มเยือกเย็น มองอวี้ไท่ด้วยแววตาเยาะเย้ย "อวี้ไท่ ข้าเห็นแก่ความสามารถของเจ้า หากเจ้าสวามิภักดิ์ต่อแคว้นต้าเย่ว์ของข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!" เขามองออกว่าอวี้ไท่แอบระแวงเขาตลอดเวลาหรือไม่ อวี้ไท่ก็กำลังคิดแผนการเดียวกัน คือการสังหารเขาเพื่อกลืนกำลังพลของแคว้นต้าเย่ว์!"กระหม่อมเองก็อยากทูลแนะนำท่านอ๋องเช่นกัน"อวี้ไท่ตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา แฝงด้วยรอยยิ้มเยาะ "ท่านอ๋องคือยอดคน อีกทั้งยังมีพันธะหมั้นหมายกับองค์หญิงเจ็ด หากท่านยอมสวามิภักดิ์ต่อแคว้นโฉวฉื่อ ฮ่องเต้ย่อมเชิดชูท่านให้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน!""ช่างน่าหัวเราะ!"โหลวอี้กระตุกยิ้มเย้ย "ข้าคือรัชทายาทแห่งแคว้นต้าเย่ว์ บัลลังก์อันยิ่งใหญ่เพียงเอื้อมมือ ข้าจะไปแลกกับการเป็นข้ารับใช้ของราชาโฉวฉื่อกระนั้นหรือ? เจ้าช่างโง่เขลาเสียจริง!""ท่านแม่ทัพ อย่าได้เสียเวลากับพวกมัน!" เสียงของเถี่ยจวี้ดังขึ้น เขาเดินออกมาข้างหน้า ทวนยาวในมือชี้ไปยังอวี้ไท่ "หากไม่ยอมรู้คุณ ก็สมควรส่งพวกมันไปพบยมบาลเสียเถิด!""ถูกต้อง!"กัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1265

    เมื่อหยุนเจิงตื่นขึ้นจากการหลับใหล ก็ล่วงเข้าสู่ยามบ่ายของวันที่สอง"มีการรายงานยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือยัง?"คำถามแรกที่หยุนเจิงพูดขึ้นหลังตื่น คือการถามไถ่ข้อมูลความสูญเสียเมี่ยวอินพยักหน้ารับ และรายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดศึกครั้งนี้ กองกำลังที่สูญเสียมากที่สุดคือพวกทหารรับจ้างกองทหารรับจ้างจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันนาย เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าเจ็ดพันคน ส่วนกองทหารม้า หนึ่งหมื่นห้าพันนาย เสียชีวิตสี่พันกว่านาย ในส่วนของกองทหารองครักษ์ห้าพันนาย เสียชีวิตกว่าพันนาย แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกที่เพิ่งรับสมัครมากองกองทหารโลหิตก็เสียหายไม่น้อยแม้กองกองทหารโลหิตจะสวมใส่ชุดเกราะหนัก แต่ก็ถูกฆ่าตายได้กองกองทหารโลหิตสามพันนาย สูญเสียไปสองร้อยกว่านายส่วนชาวเมืองและกองกำลังเป่ยหมัวถัวรวมกันแล้ว เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าหกพันคนหากนับรวมผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส จะอยู่ที่เกือบสองหมื่นนาย ส่วนพวกที่บาดเจ็บเล็กน้อย ก็ไม่นับรวมส่วนฝ่ายศัตรูบาดเจ็บล้มตายแค่ไหน พวกเขาก็ไม่รู้นี่ยังไม่นับรวมทหารที่ถูกเผาตายในค่ายของศัตรู เมื่อได้ยินยอดสูญเสีย หยุนเจิงไม่อาจห้ามตนเองให้ถอนหายใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1381

    “หลายวันมิได้พบกัน ท่านอ๋องสบายดีหรือไม่?” ในขณะที่หยุนเจิงและเยี่ยจื่อกำลังตกตะลึง เสียงเย้ยหยันของจักรพรรดิเหวินก็ดังขึ้น เชี่ย! เชี่ย! เชี่ย! ในใจของหยุนเจิงร้องลั่น ตาแก่คนนี้มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร? คนที่ต้องการเข้ามาในเมืองเมื่อครู่นี้ คือตาแก่คนนี้หรือ? หยุนเจิงทั้งหงุดหงิดและอึดอัด รีบลุกขึ้นเดินไปด้านหน้า คุกเข่าลงอย่างว่าง่าย “ลูกขอคารวะเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!” ให้ตายเถอะ! คนที่ด่านเป่ยลู่ยังไม่รู้เลยว่าตนอยู่ที่เล่ออาน คาดว่าเว่ยหยูคงส่งคนไปแจ้งข่าวที่ติ้งเป่ยแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า ตาแก่คนนี้ดันมาถึงที่นี่? ถ้าเขามาช้ากว่านี้สักวันก็คงจะดีไม่น้อย! เมื่อเห็นหยุนเจิงแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม อู๋เซิงไท่ถึงกับยืนอึ้ง เสด็จพ่อ? บุคคลท่านนี้…คือจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน? อู๋เซิงไท่ยืนอ้าปากค้าง ถึงกับลืมถวายคำนับ เมี่ยวอินมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับจักรพรรดิเหวิน นึกไม่ถึงเลยว่า จะได้พบจักรพรรดิในสถานการณ์เช่นนี้ มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เมี่ยวอินแทบจะวิ่งไปปักมีดใส่จักรพรรดิเหวิน แต่สุดท้ายนางก็อดกล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1380

    ได้ยินคำพูดของนายอำเภอ หยุนเจิงก็อดสงสัยไม่ได้ ลับๆ ล่อๆ หรือ? มีแผนการอะไรหรือเปล่า? เขามีทหารองครักษ์ติดตามอยู่ที่นี่ด้วยนะ! หรือว่าจะมีใครคิดร้ายกับเขาจริงๆ? “พวกเขามีกันกี่คน?” หยุนเจิงถามทันที นายอำเภอตอบว่า “ข้างนอกมืด เห็นแค่ที่สังเกตได้ก็มีเป็นร้อยคนแล้ว ด้านหลังน่าจะยังมีอีกไม่น้อยพ่ะย่ะค่ะ!” “พวกเขาพกพาอาวุธมาหรือไม่?” หยุนเจิงถามอีกครั้ง “ยังไม่เห็นใครพกพาอาวุธมาพ่ะย่ะค่ะ” นายอำเภอตอบ หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนสั่งการว่า “เสิ่นควาน พาคนไปตรวจสอบให้ดี หากพวกเขาไม่ได้พกพาอาวุธ ก็ให้พวกเขาเข้ามาในเมืองได้ ข้างนอกหนาวนัก อย่าให้พวกเขาต้องกินลมกินฝน” “พ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นควานรับคำสั่งแล้วรีบไปทันที “ควรเตรียมตัวไว้หน่อยไหม?” เมี่ยวอินพูดด้วยท่าทีระมัดระวังว่า “บางทีพวกเขาอาจจะมุ่งเป้ามาที่ท่านก็ได้นะ” “ปล่อยให้เสิ่นควานพาคนไปดูก่อนเถอะ!” หยุนเจิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ข้างนอกนี้ยังมีคนของเราคอยเฝ้าอยู่เยอะ จะมาลอบสังหารข้า คิดว่าเป็นเรื่องง่ายหรือ?” อย่าว่าแต่แค่ร้อยคนเลย ต่อให้มาสักพันคน ถ้าไม่มีอาวุธ ในสายตาของทหารองครักษ์ของเขา ก็

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1379

    การค้นพบเถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยโดยบังเอิญ ทำให้หยุนเจิงมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ในค่ำคืนนั้น หยุนเจิงอดใจไม่ไหว จึงชวนทุกคนในจวนมาตั้งวงกินหม้อไฟในที่ว่าการ ผู้ที่กินเผ็ดได้ ก็ใส่เถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยสับลงในน้ำจิ้ม ส่วนผู้ที่กินเผ็ดไม่ได้ ก็ใช้เพียงน้ำจิ้มธรรมดา เมื่อทุกคนเริ่มกิน ก็พบว่าน้ำจิ้มที่ใส่เถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยนั้นให้รสชาติที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ความรู้สึกแสบลิ้นนั้นกลับทำให้เจริญอาหารอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้จะเผ็ดจนต้องแลบลิ้นไม่หยุด แต่ยิ่งกินก็ยิ่งอยากกิน แม้แต่เยี่ยจื่อที่กำลังตั้งครรภ์และมักเบื่ออาหาร ก็ยังรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น “ท่านอ๋องช่างเป็นผู้วิเศษนัก หากไม่ใช่เพราะท่าน พวกเราคงไม่รู้ว่าสิ่งนี้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงได้!” อู๋เซิงไท่กล่าวยกยอพลางกินเนื้อหมูนุ่มๆ ที่จิ้มน้ำจิ้มอย่างเอร็ดอร่อย เพราะก่อนหน้านี้เขาดื่มน้ำที่ต้มจากเถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยบ่อย จึงกินเผ็ดได้มากกว่าเยี่ยจื่อและคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น อู๋เซิงไท่ก็กินจนเหงื่อท่วมศีรษะ ไอร้อนพวยพุ่งออกมาจากหน้าผาก ดูราวกับเขากำลังฝึกยอดวิชายุทธใดๆ อยู่ “เลิกยกยอเสียที รีบเก็บเกี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1378

    "เอาล่ะ เอาล่ะ! อย่าตื่นตกใจกันไป เสิ่นควานเข้าใจผิดเอง!" หยุนเจิงปลอบฝูงชนที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แล้วหันไปถามอู๋เซิงไท่ว่า "ของสิ่งนี้เรียกว่าอะไร?" อู๋เซิงไท่ตอบอย่างหวาดกลัว "กราบทูลท่านอ๋อง สมุนไพรนี้ไม่มีชื่อเรียกแน่ชัด ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียกมันว่า 'หญ้าร้อน'..." พูดไป อู๋เซิงไท่ก็เล่าถึงที่มาของ 'หญ้าร้อน' ให้หยุนเจิงฟัง ในตอนแรก ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนี้กินได้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อน มีผู้ประสบภัยบางคนออกไปหาอาหารตามธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียง และเก็บสิ่งนี้กลับไปกินโดยบังเอิญ หลังจากที่พวกเขากินเข้าไป ทุกคนล้วนรู้สึกแสบร้อนในปากและลิ้น ร่างกายร้อนและเหงื่อแตกจนหลายคนคิดว่าตัวเองถูกพิษ เพราะมีผู้คนที่ถูกพิษ จำนวนมาก จนเรื่องนี้ไปถึงหูของทางการ แต่สุดท้ายกลับพบว่าคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย หลังจากนั้น เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็น ยังมีคนไปหาเจ้าสิ่งนี้มาเพื่อขับไล่ความหนาวอีกด้วย เมื่อมั่นใจว่าสิ่งนี้ไม่มีพิษ อู๋เซิงไท่จึงสั่งให้คนเก็บมันในนามของทางการ เพื่อต้มเป็นน้ำให้ประชาชนที่ทำงานได้ดื่มช่วยขับไล่ความหนาว เพราะเมื่อกินสิ่งนี้แล้วร่างกายจะร้อนและเหงื่อแ

DMCA.com Protection Status