Share

บทที่ 39

Author: เฟเธอร์ในลมอ่อน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
คำพูดของเขามีการท้าทายปะปนอยู่เล็กน้อย

ลู่เจ๋อกระตุกริมฝีปาก จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้แคดดี้ปล่อยลูกกอล์ฟ พร้อมกับโน้มตัวเล็กน้อย...แล้วก็พัตต์ออกไป

ดูว่าจุดตกของลูกกอล์ฟอยู่ที่ใด

เขาเดินตรงไปทางนั้น พร้อมกับพูดอย่างสบายๆ ออกมาว่า "นายรู้จักฉันดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ใช่ ภรรยาที่บ้านจะต้องดูแลให้ใกล้ชิดสักหน่อย ออกไปจะได้ไม่ต้องถูกใครจับจ้องอยู่แบบนี้...หลีรุ่ย นายว่าจริงหรือเปล่าล่ะ?"

สีหน้าของหลีรุ่ยไม่ค่อยสู้ดีนัก

ผ่านไปสักพัก เขาก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "แต่บางครั้ง ต่อให้จะดูแลอย่างใกล้ชิดสักแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะเอาอยู่นะ! เหมือนกับที่ใครๆ เขาว่าไว้ไง ความรักก็เหมือนเม็ดทรายในกำมือ ยิ่งกำไว้แน่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสูญหายไปมากเท่านั้น!"

ภายใต้แสงตะวัน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี

ลู่เจ๋อสวมชุดลำลองสีขาว สง่างามและมีชีวิตชีวา เขาก้มลงแล้วพัตต์ลูกกอล์ฟออกไป...

เพียงสองพัตต์ก็เข้าไปในหลุมแล้ว

และลู่เจ๋อก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นต่อไปแล้ว

เขายื่นไม้กอล์ฟให้กับแคดดี้ จากนั้นก็รับผ้าขนหนูมาเช็ดมือ ยิ้มให้หลีรุ่ยแล้วพูดว่า "หลีรุ่ย ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่ฉันต้องการไม่เคยพ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 40

    ในตอนที่เฉียวซุนได้รับเงินโอนจากลู่เจ๋อนั้น เธอกำลังดื่มกาแฟกับหลินเซียวอยู่พอดีเมื่อหลินเซียวได้ข่าวของเมิ่งเยียนหุยมาเล็กน้อย เธอจึงเรียกให้เฉียวซุนออกมาพูดคุยกันหลินเซียวบอกข่าวที่ได้มาให้กับเฉียวซุนฟังว่า "ตอนนี้เมิ่งเยียนหุยอยู่ที่ชนเผ่าดึกดำบรรพ์ในแอฟริกา ได้ยินมาว่าเขาไปช่วยเหลือทางกฎหมาย ตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย ได้ยินผู้ช่วยของเขาบอกว่าปีสองปีนี้คงยังไม่กลับมา! ฉันว่านะเฉียวซุน พวกทนายที่มีชื่อเสียงทำไม...ดูเหมือนจะปลงตกกันทุกคน ทั้งเมืองมีแต่เงินแบบนี้ ไม่อยากจะได้หรือไงกัน!"พอพูดจบ เธอก็จิบกาแฟไปอึกใหญ่ พร้อมขมวดคิ้วขึ้นมาเธอไม่ชอบคนที่เสแสร้งแกล้งทำแบบนี้เอาเสียมากๆเฉียวซุนก้มหน้าลง และค่อยๆ คนกาแฟที่อยู่ในถ้วยหลินเซียวกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ จึงพูดปลอบโยนขึ้นมาว่า "เราค่อยไปสอบถามกันใหม่ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่า นอกจากเขาแล้วจะไม่มีใครทำได้!"เฉียวซุนพยักหน้า ในขณะที่กำลังจะพูดอะไรออกไป เธอก็ได้รับเงินโอนหนึ่งล้านบาททางไลน์พอดิบพอดีเธอชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นท่าทางของเธอ หลินเซียวก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้ามา"ใครส่งข้อความมาน่ะ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเชียว!""ลู

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 41

    ลู่เจ๋อยิ้มเยาะเย้ย “กินเยอะจัง ไม่กลัวจะกินอิ่มเกินไปเหรอ”เฉียวซุนหัวเราะเย็นชา “กินไหวหรือไม่ไหวมันก็เรื่องของฉัน! เงินสิบล้านห้ามขาดแม้แต่บาทเดียวประธานลู่ ฉันจะจัดการเรื่องนี้แทนประธานลู่เอง”ลู่เจ๋อหรี่ตาลง “ถ้าเกิดโครงการไม่สำเร็จล่ะ”รอยยิ้มของเฉียวซุนค่อย ๆ จางลง “ก็หมายความว่าความสามารถของประธานลู่ไม่พอน่ะสิ!”……ไม่เคยมีใครยั่วยุเขามากขนาดนี้ ไม่เคยมีมาก่อนลู่เจ๋อรู้สึกสนใจเขาโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนจะกระซิบข้างหูเฉียวซุน: “ดูท่าผมคงต้องคว้าโครงการนี้มาให้ได้ ไม่อย่างนั้นคุณนายลู่ก็คงจะคิดว่าผมไร้ความสามารถ”ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ กลิ่นแบบชายหนุ่มบริสุทธิ์ก็ฟุ้งไปที่หูของเฉียวซุน ทำให้เกิดอาการร้อนเผ่าเฉียวซุนผลักเขาออกไป "เราไม่ได้กำลังเจรจาเรื่องงานกันอยู่เหรอคะ เลิกทำเป็นล้อเล่นได้แล้วนะคะ!”เธอยังรู้สึกไม่ดีต่อเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนนั้นอยู่เลยสามีที่ไม่ซื่อสัตย์จนชอบทำให้เธอนึกถึงฉากที่เขากำลังเล่นบทรักเร่าร้อนอยู่กับผู้หญิงคนอื่นเสมอ แค่คิดก็ทำให้เธอรังเกียจแล้วเมื่อลงจากรถ ลู่เจ๋อก็คว้าข้อมือของเธอไว้เฉียวซุนระงับอารมณ์แล้วพูดว่า “ฉันจะติดต่อคุณนายหลี่พรุ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 42

    หลีรุ่ยไม่แปลกใจที่เห็นเฉียวซุนเขามองลงด้านล่างด้วยสายตาพิจารณาเฉียวซุน รวมไปถึงเสื้อผ้าอันงดงามของเธอไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เดินลงบันไดไปหาเฉียวซุนแล้วพูดเบา ๆ เป็นเชิงชมเชยว่า “กระโปรงดูสวยดีนะ แต่วันนั้นที่คุณใส่ที่โรงพยาบาลดูเหมาะกับคุณมากกว่าอีก”เฉียวซุนเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ดูแปลกประหลาดของหลีรุ่ย หรือการที่เขาไปที่รอยัลทุกวัน ล้วนทำให้เธอรู้สึกอะไรบางอย่าง... แต่เธอทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพราะหลีรุ่ยไม่ใช่คนที่เธอสามารถยั่วโมโหเขาได้คุณนายหลี่ไม่เห็นความผิดปกติ เธอตอบรับด้วยรอยยิ้ม “เฉียวซุน นี่คือลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติห่าง ๆ ของตระกูลหลี่ นิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เล็ก...เขามักจะมาเล่นที่นี่เป็นประจำ”เฉียวซุนยิ้มเล็กน้อย “เรารู้จักกันค่ะ”คุณนายหลี่ตบไหล่ของเธอ “ฉันลืมไป หลีรุ่ยกับลู่เจ๋อเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน! พวกหนูคุยกันไปก่อนนะ ฉันไปนับแก้วคริสตัลก่อน คนใช้มักจะขี้หลงขี้ลืมอยู่เรื่อย”หลังจากที่คุณนายหลี่พูดจบ เธอก็เดินออกไปก่อนเมื่อเธอออกไป หลีรุ่ยก็เอามือสองข้างล้วงกระเป๋าเสื้อแล้วมองไปที่เฉียวซุนเขาจุดบุหรี่แล้วถาม

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 43

    ลู่เจ๋อจ้องมองเธอจากนั้นไม่นาน เขาก็ยิ้มเบาๆ “เป็นผู้หญิงด้วยกันก็คิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ?”ขณะที่เขาพูด จู่ ๆ น้ำเสียงของเขาก็เข้มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังแสดงความอ่อนโยน “เฉียวซุน คุณไปเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตั้งแต่เป็นคุณนายลู่งั้นเหรอครับ”คำพูดเหล่านี้ค่อนข้างแทงใจเพราะเป็นคำพูดที่เอาไว้ใช้พูดเล่นกันระหว่างคนรักแบบสามีภรรยาเท่านั้นเฉียวซุนไม่ได้คิดแบบนั้น เธอหันหน้าหนีไปที่นอกหน้าต่างรถแล้วพูดอย่างเย็นชา “รู้จักกันนาน ๆ ก็เข้าใจได้แล้ว”ลู่เจ๋อต้องการพูดอะไรอีกไฟเขียวสว่างขึ้นที่ทางแยกข้างหน้า รถที่อยู่ข้างหลังเขาก็ต่างพากันบีบแตร... ลู่เจ๋อทำได้แค่เหยียบคันเร่งเบาๆ แล้วขับออกไป……ร้านจัดแต่งทรงผมระดับไฮเอนด์ที่สุดในเมือง Bลู่เจ๋อพาเฉียวซุนมา และด้วยสถานะของเขาค่อนข้างจะพิเศษ ทำให้ผู้จัดการเข้ามาต้อนรับเขาเป็นการส่วนตัวผู้จัดการปากหวานและพูดเป็น “คุณนายลู่มีผิวที่ขาวกระจ่างใสและมีรูปร่างเพรียว ร้านของเรามีชุดดีไซน์พิเศษของ Marchesa อยู่ คุณนายลู่ต้องเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดของเมือง B อย่างแน่นอนค่ะ”พูดจบ เธอก็ให้คนนำชุดออกมาสวยงาม

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 44

    ร่างทั้งสองแนบชิดและสัมผัสกันการที่จะบอกว่าเฉียวซุนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยคงเป็นเรื่องโกหกแต่เธอมักจะปฏิเสธลู่เจ๋ออยู่เสมอเพื่อเป็นข้อแก้ตัว “งานเลี้ยงเริ่มเวลาหนึ่งทุ่มนะคะ คุณให้ความสำคัญกับโครงการนี้มากคงไม่อยากสายใช่ไหมคะ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลู่เจ๋อก็ค่อย ๆ ปล่อยเธอไปเขามองเธอในกระจกแล้วหัวเราะเบา ๆ “คุณนายลู่ คุณนี่จอมทำลายความสนุกจริง ๆ”แต่วิกฤติก็คลี่คลายในที่สุดระหว่างทางกลับไปที่รถทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรสักคำเมื่อเวลาหนึ่งทุ่ม รถเบนท์ลีย์สีดำของลู่เจ๋อค่อย ๆ ขับเข้าไปในวิลล่าของตระกูลหลี่... เขาลงจากรถแล้วเปิดประตูให้เฉียวซุน ขณะที่เธอโค้งตัวลงจากรถ มือของเธอก็ถูกเขาคว้าเอาไว้เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายลมยามค่ำคืนภายใต้โคมไฟอันงดงาม พวกเขาก็เป็นที่ถูกจับตามองลู่เจ๋อจับมือเธอเบา ๆ ดึงเธอเข้าหาเขาแล้วกระซิบข้างหู “คืนนี้คุณต้องอยู่กับผม! ห้ามยุ่งกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาดเข้าใจหรือเปล่า?”คำพูดนี้ ดูเหมือนเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของเฉียวซุนพิงไหล่ของเขาแล้วมองไปที่หลีรุ่ยหลีรุ่ยยืนอยู่ใต้โคมไฟที่ประตูวิลล่า มือถือแก้วไวน์แดงอยู่ในมือแล้วจ้องมองด้วยแวว

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 45

    ในใจประธานหลี่ก็ตระหนักดีว่าเธอกำลังพูดถึงโครงการนี้!เขามีภารกิจอื่นเลยออกไปก่อน...ลู่เจ๋อขอบคุณนายหลี่คุณนายหลี่มองดูแผ่นหลังของสามีด้วยสายตาที่น้ำตาคลอเธอหันไปมองลู่เจ๋อแล้วพูดว่า “ลู่เจ๋อ คุณคงจะไม่รู้ว่าปีแรก ๆ ประธานหลี่หมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงข้างนอกและเขาก็คิดที่จะหย่ากับฉันด้วย คนในชนชั้นสูงมองมามีแต่คนที่เอาแต่ดูถูกฉัน ตอนนั้นฉันได้พบกับเฉียวซุนในงานเลี้ยง ตอนนั้นเธออายุเพียงสิบห้าหรือสิบหกปีเอง แต่เธอมักจะทำให้คนอื่นมีความสุข... เธอมากับเฉียวซื้อยั่นและเธอก็สวมชุดเจ้าหญิงที่สวยงาม ตอนนั้นคนในงานน้อยพอตัว ฉันก็เลยเต้นบัลเล่ต์ คุณคงนึกไม่ถึงหรอกว่าฉันไม่ได้หัวเราะมานานและตัวของฉันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง”หลังจากคุณนายหลี่พูดจบ เธอก็ยิ้มเบา ๆ “ทำให้คุณต้องมาเห็นสภาพน่าตลกเสียแล้วนะคะ!”เมื่อเธอจากไป แผ่นหลังที่โดดเดียวแต่ก็มีความภูมิใจแม้ว่าฐานะปัจจุบันของเธอในฐานะคุณนายหลี่ที่มั่นคงราวกับภูเขากับสามีที่เคารพเธอ... แต่เธอก็เข้าใจว่าคนแบบนี้เหมือนคนที่เดินบนน้ำแข็งบาง ๆ อยู่เสมอเธอรู้ด้วยว่าเฉียวซุนกำลังยากลำบาก ดังนั้นเธอจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเธอลู่เจ๋อยังยืนอยู่ที่เดิ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 46

    เฉียวซุนออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักลู่เจ๋อวางแก้วทรงสูงแล้วมองเธอด้วยสายตากดต่ำ “มีอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ ผมจะบอกคุณหลี่ แล้วเรากลับไปกันเถอะ”เฉียวซุนไม่ได้ปฏิเสธลู่เจ๋อส่งข้อความไลน์ไปหาคุณหลี่และคุณนายหลี่แล้วก็พาเฉียวซุนออกไป ขณะที่ทั้งสองนั่งในรถเขามองเธอจากด้านข้าง ด้วยสีหน้าอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “โครงการนี้สำเร็จแล้วล่ะ! คุณนายลู่ผมควรจะขอบคุณคุณนะ ไม่ยักรู้ว่าคุณมีความสามารถมากขนาดนี้มาก่อน"เฉียวซุนเอนกายพิงพนักพิงเก้าอี้หนังเธอยุ่งมาทั้งวัน และตอนนี้เธอเหนื่อยจนไม่อยากขยับนิ้วเลยหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันไปมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “จริง ๆ แล้ว เมื่อก่อนฉันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน! เพียงแต่ลู่เจ๋อคุณไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด”หลังจากแต่งงานกันมาสามปี ส่วนใหญ่เขากับเธอจะเจอกันเฉพาะตอนอยู่บนเตียงเวลาที่เหลือ ถ้าเขาไม่ทำงานในบริษัทก็ไปที่เมือง H เพื่อพบกับไป๋เซียวเซียว... ความรู้สึกของเฉียวซุนถูกเขาทำจนชินชาแต่กลับมาอ่อนโยนมากขนาดนี้เธอที่ดูช่างดูมีเสน่ห์จริง ๆลู่เจ๋ออดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลงเขาต้องการจูบเธอเมื่อเฉียวซุนจับริมฝีปากของเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 47

    ดวงตาของลู่เจ๋อที่อ่อนโยน เสียงของเขาก็แหบแห้งเล็กน้อยเขาพูดว่า “ชุดนี้สวยดีนะ”พวกเขาแต่งงานมาเป็นเวลานานสามปี เวลาที่แสนอบอุ่นในตอนนี้ เฉียวซุนรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็พูดเบา ๆ “ขอบคุณค่ะ”ทั้งสองแยกย้ายกันขึ้นไปชั้นบนอุปกรณ์เก่า ๆ ทำให้ลู่เจ๋อขมวดคิ้ว แต่โชคดีที่ไฟที่ชำรุดซ่อมเสร็จแล้วด้านหลัง เขามีรถสีเงินคันหนึ่งจอดอยู่ในตอนกลางคืนฉินหยูนั่งอยู่ในรถ มองดูทิศทางที่พวกเขาหายตัวไปอย่างเงียบ ๆ เธอสวมชุดสีขาวที่เหมาะสมกับงานเลี้ยง...สวยงามและมีสีสันเธอตามมาจากบ้านตระกูลหลี่เธอมองลู่เจ๋อที่พาเฉียวซุนออกมา เธอไม่เคยเห็นการแสดงออกที่อ่อนโยนของลู่เจ๋อ และก็ไม่เคยเห็นลู่เจ๋อหวงแหนมากขนาดนี้ ฝ่ามือของเขามักจะโอบเอวเล็ก ๆ ของเฉียวซุนไว้เสมอเธอคิดมาตลอดว่าลู่เจ๋อไม่ได้สนใจเฉียวซุนเธอคิดมาโดยตลอดว่าเฉียวซุนทรมานที่แต่งงานที่เป็นเวลาสามปีแล้วแล้วเต็มไปด้วยความช้ำใจ แต่เฉียวซุนเป็นศูนย์กลางของความสนใจในงานเลี้ยง! เธอตอนที่เธอเล่นไวโอลินนั้นก็งดงามจนน่าทึ่ง!เพราะอย่างนั้น ลู่เจ๋อก็เลยอดไม่ได้ที่จะจูบเธอในรถเมื่อกี้เลขาฉินจับพวงมาลัยด้วยสีหน้าหงุดหงิดเธอยอมรับควา

Latest chapter

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

DMCA.com Protection Status