“พี่ก็มีภาระมากพอแล้ว ทั้งค่าเช่าร้าน ค่ายาน้องทัช แต่ละเดือนมันก็หลายหมื่นถ้าพี่ต้องมาเลี้ยงลูกหนูอีกคน ไม่เอาหรอกหนูยอมเป็นคนบาปดีกว่าทำให้พี่สาวสุดที่รักเหนื่อย”ฉันยิ้มทั้งน้ำตา ใจจริงก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยเพราะเขาคือลูกของฉันและเขาคือลูกของพี่พาร์ท ผู้ชายที่ฉันรักเขาคือตัวแทนความรักที่ฉันมีให้พี่พาร์ทถ้าบอกพี่เขา เขาอาจจะรับผิดชอบหรือไม่ก็ให้ฉันเอาเด็กออกซึ่งมันก็เป็นไปได้หลายอย่าง แต่ถ้าบอกเขาครอบครัวพี่เขาก็คงจะมีปัญหาไหนจะลูกพี่เขาที่ยังเด็ก ฉันไม่อยากผิดไปมากกว่านี้“หนูว่าจะเอาน้องออกตามที่หมอแนะนำ แล้วจะตั้งใจเรียนหาเงินช่วยพี่ดีกว่า” เพราะฉันยังเด็กแล้วยังเป็นเด็กกำพร้า หมอที่โรงพยาบาลเลยให้คำแนะนำ ถ้ายังไม่พร้อมก็สามารถเอาเด็กออกได้แต่ถ้าอายุครรภ์สามเดือนขึ้นไปทางโรงพยาบาลไม่สามารถที่จะทำให้ได้“เรื่องเรียนเอาแบบนี้มั้ย เธียรค่อยกลับไปเรียนหลังคลอดก็ได้ พี่ไม่อยากให้เธียรทำแบบนี้” พี่ณัฐยังคงร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้ม“มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะพี่ณัฐ” ฉันพูดเสียงสะอื้น“โอกาสมันแทบจะเป็นศูนย์ พี่เองก็ใช่ว่าจะว่างทุกวัน ไหนจะขายของ ดูแลน้องทัชแล้วถ้าต้องมาเลี้ยงตัวเล็กอีก มันเ
08.00 น.“อยู่คนเดียวได้จริง ๆ นะ”“ได้สิคะ พี่ไปเถอะสายแล้วนะ”“ก็พี่เป็นห่วง”“เป็นห่วงหรือว่า” ฉันมองไปที่เตียง“นั่นแหละ พี่ดีใจนะที่เธียรไม่ทำแบบนั้น”“หนูก็ดีใจค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” สองมือยกขึ้นไหว้พี่ณัฐ“โอเค แล้วพี่จะรีบกลับมา ปิดบ้านดี ๆ ละ แล้วอย่าลืมรับของแทนด้วยน่าจะสาย ๆ เขาคงมาส่ง”“รับทราบ เดินทางปลอดภัยนะคะ” ฉันพูดและยิ้มให้พี่ณัฐที่เดินออกจากห้องลงไปหาทัชที่รออยู่ชั้นล่าง วันนี้พี่เขาต้องพาทัชไปตรวจที่โรงพยาบาลในตัวเมืองแล้วต้องค้างคืน พี่เขาเลยเป็นห่วง เพราะฉันอยู่คนเดียวแต่ดีที่ชาวบ้านแถวนี้น่ารักฉันเลยไม่นึกกลัว“อ้อแอ้”“ว่าไงคะ คนเก่งหิวอีกแล้วเหรอ” ฉันทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ตุ๊กตาตัวน้อยที่ลืมตาแป๋ว บิดขี้เกียจจนหน้าแดง“อ้อแอ้”“ไม่ต้องมายิ้มอ้อนเลย ไหนมาให้แม่ดูสิ” สองมือช้อนอุ้มลูกน้อยวัยสองเดือนเศษ น้องพลอยชมพู ลูกสาวตัวอ้วน ของขวัญสุดพิเศษที่ฉันเกือบทำร้ายเขาไปแล้วดีที่ตอนนั้นมันเกิดกลัวและคิดขึ้นได้ฉันร้องไห้ จนหมอพยาบาลต่างตกใจ และคนที่ตกใจกว่าทุกคนคือพี่ณัฐที่อยู่นอกห้อง พอได้ยินเสียงฉันร้องไห้รีบพุ่งเข้ามาให้ห้องทันทีแต่พอมาถึงวันนี้มันกลับยิ้มได้ ดีใ
“กลับไปได้แล้วค่ะ”“…….”“หนูบอกให้พี่กลับไปได้แล้ว ไม่ได้ยินหรือไง!!”หลังจากที่เอาตัวเล็กกินนมนอน แล้วตั้งสติได้ฉันต้องเข้มแข็งไม่อ่อนแออีกต่อไป แต่พี่พาร์ทเขากลับเอาแต่ยืนนิ่งจ้องหน้าอย่างกับฉันไปฆ่าใครตาย“ทำไมไม่บอกว่าเธอท้อง” เขาพูดเสียงเรียบแต่ดูก็รู้ว่าโมโห“ทำไมหนูต้องบอกพี่ ตัวเล็กเป็นลูกหนูไม่ใช่ลูกพี่สักหน่อย”“กลับไปได้แล้วค่ะ หนูไม่มีอะไรจะคุยกับพี่” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง“ลูกเธอ?” พี่พาร์ทเดินเข้ามาใกล้“ตอนทำเธอทำคนเดียวได้หรือไงถึงจะบอกว่าลูกเธอ” แล้วต้องอึ้งกับคำพูดของเขาแต่ละคำ“……” ฉันเลือกที่จะเงียบแล้วเดินหนี เอาแต่ต่อปากต่อคำกับพี่เขาแบบนี้ตัวเล็กได้ตื่นกันพอดีหมับ!!พรึบ!!“นี่!! ปล่อยหนูนะ พี่จะมาทำแบบนี้กับหนูไม่ได้นะ” ฉันพูดเสียงดังพอสมควร ก็กำลังจะเดินหนีแต่พี่พาร์ทกลับจับหมับเข้าที่แขนแล้วดันตัวนอนราบลงกับเตียง คร่อมร่างเล็กอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว“ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อ….” เขาพูดเสียงเรียบโน้มหน้าเข้ามาใกล้“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และพี่ฟังนะน้องพลอยชมพูเป็นลูกหนูคนเดียว!” ฉันพูดจริงจัง จ้องหน้าสบตาเขาอย่างไม่เกรง “ปล่อย!!” พร้อมสองมือดันแผงอกแกร่งเขา“
“ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่ถ้าจะให้ดีหนูว่าพี่กลับไปดีกว่า”“……”“นี่พี่ทำอะไรของพี่อีกเนี่ย พี่พาร์ท!” แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ จะอะไรล่ะพันแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเขาก็ใช้ผ้าเช็ดตัวฉันอีก ผ้ามันก็ผืนเล็กนิดเดียวพันอยู่ที่เอวผู้ชายตัวสูง ๆ ผ้าที่ผืนเล็กอยู่แล้ว ยิ่งดูเล็กเข้าไปอีกฉันพูดด้วยเขาก็ไม่พูดอะไรเดินผ่านหน้าตรงไปที่เตียงทิ้งตัวลงนอนกับตัวเล็กที่เพิ่งจะหลับไป แล้วเตียงมันก็เล็กแค่นี้เขานอนกอดลูกอยู่แบบนั้นแล้วฉันจะนอนไหน?อย่าบอกนะว่าหลับแล้ว ฉันเดินลงไปข้างล่างกลับขึ้นมา แล้วต้องอมยิ้มกับภาพตรงหน้า คุณพ่อกล้ามโตนอนกอดลูกสาวตัวเล็ก ส่วนตัวเล็กนี่นอนนิ่งอมยิ้มอย่างมีความสุข“อย่าลืมสิเธียร เขามีลูกเมียแล้วนะ” พอนึกถึงข้อนี้ขึ้นมามันก็พาให้ใจเจ็บ แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจ นี่ก็ยังไม่ดึกทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อนแล้วกันฉันสะบัดความคิดทุกอย่างทิ้ง เดินไปนั่งที่ประจำวาดรูปที่ค้างไว้ แต่มันกลับไม่มีสมาธิเอาเสียเลย ในหัวมันมีแต่เรื่องพี่พาร์ท เรื่องครอบครัวเขา คำพูดทุกอย่างที่เขาบอกจะพาตัวเล็กกลับไป ถ้าเขาทำแบบนั้นจริง ๆ ฉันจะทำยังไง คิดยังไงก็คิดไม่ตก เฮ้อ…กลางดึก…“แล
“พอได้ยินเสียงรถพี่มาก็วิ่งออกจากห้องมาไม่รอเบียร์เลยค่ะ” เธอพูดและยิ้มกับพี่พาร์ท“คิดถึงป๊าเหรอครับงั้นคืนนี้ป๊าจะนอนกอดทั้งคืนเลยดีมั้ย” พี่พาร์ทพูดอะไรยิ้มกับทั้งสองคนอย่างอบอุ่น“งั้นเบียร์ฝากลูกก่อนนะคะ เบียร์จะไปทำอาหารให้” เธอยิ้มให้พี่พาร์ทและหอมแก้มเด็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มทักทายฉัน“น่ารักจังเลยค่ะแม่” เธอเดินเข้าไปหาตัวเล็กก่อนจะยิ้มให้ มันเป็นยิ้มที่อ่อนโยนและเป็นมิตรมากก่อนจะหอมแก้มป่อง ๆ และเดินเข้าไปในบ้านคนนี้ใช่ไหมที่ชื่อฟองเบียร์ ทั้ง ๆ ที่ลูกและเมียเขาก็อยู่ที่นี่แต่เขากลับพาฉันมาเนี่ยนะ เขาใจร้ายกับฉันไม่พอยังใจร้ายกับเธอคนนั้นที่แสนดีแบบนั้นได้ยังไง“......” ริมฝีปากบางสั่นระริก มือเท้ามันสั่นได้แต่ยื่นนิ่ง มันเจ็บแปลบในอก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอกันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ มันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงแต่มันรู้สึกอึดอัดและอยากจะไปจากตรงนี้ และตอนนี้เลยด้วยซ้ำ“หนูเธียร เป็นอะไรลูกหน้าซีด ๆ” แม่พี่พาร์ททำหน้าตกใจ“นะ...หนูไม่เป็นอะไรค่ะ” ฉันตอบเสียงสั่นพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมา“งั้นเข้าไปข้างในก่อน ทุกคนรออยู่”
1 เดือนผ่านไป“พี่พาร์ท! ออกไปจากห้องหนูเดี๋ยวนี้นะ!” พอเดินออกจากห้องน้ำแล้วต้องอารมณ์เสีย จะอะไรล่ะ ก็พี่พาร์ทแอบเข้าห้องฉันอีกแล้ว ถึงมันจะบ้านเขาก็เถอะถ้าไม่ใช่เพราะแม่เขาขอร้องและพี่ณัฐก็มีเรื่องฉันไม่อยู่ที่นี่ให้มันอึดอัดใจแบบนี้หรอก“ฉันไม่ได้มาหาเธอสักหน่อย ฉันมาหาลูกฉัน” เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง บางวันดึก ๆ ตื่นมาเขาก็มานอนอยู่ข้าง ๆ แล้วยังจะมากอดอีก ไม่สงสารลูกเมียตัวเองที่นอนอยู่บนห้องหรือไงกัน คนอะไรหล่อแต่ใจร้าย ฉันไม่น่ารักคนแบบนี้ตั้งแต่แรกเลย คิดผิดมาก“กินยาหรือยัง” เขาเดินเข้ามาใกล้ ถามแค่นี้ทำไมต้องเข้ามาใกล้ด้วย คนยิ่งไม่ได้ใส่ชุดชั้นในอยู่“กะ...กินแล้ว พี่ถอยออกไปห่าง ๆ หนูได้มั้ย” สองมือรีบดันตัวเขาออกแต่กลับไม่เป็นผลเมื่อคนตัวโตยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัว“แล้วเรื่องเรียนจะเอาไงตกลงจะเรียนเสาร์อาทิตย์?” เขาดึงตัวฉันเข้าไปใกล้ จนหน้าแทบจะติดแผงอกเขา“อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ปล่อย”“......” เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น“...หนูจะนอน” หมดปัญญาจะพูดกับเขาไม่รู้เขาจะเอาไงกันแน่ วันนี้เป็นวันที่ตัวเล็กฉีดวัคซีนเข็มแรก ดีที่พี่เขาพาไปถ้าฉันพาไปเองมีหวังได้ร้องไห้ตามลูกแน
“อืม” เขาตอบรับในลำคอแล้วหันไปพูดกับลูก“อีกอย่างเรื่องเรียนฉันจัดการให้แล้ว จันทร์ถึงศุกร์เธอไปเรียน เสาร์อาทิตย์เลี้ยงลูกอยู่บ้าน”“ก็ไหนบอกว่า...แล้วเวลาหนูไปเรียนใครจะดูตัวเล็กให้คะ หนูไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากแต่อาศัยพี่อยู่หนูก็เกรงใจมากพอแล้ว”“เฮ้อ เธอนี่มันยังไงกัน บอกให้เรียนก็เรียน ๆ ไป ฉันไม่อยากถูกแม่บ่นว่าทำเธอหมดอนาคต ส่วนตัวเล็กแม่กับฟองเบียร์จะช่วยเลี้ยงให้ ฉันว่างก็จะมาช่วยดูให้ แค่อย่าลืมปั๊มนมให้พอแต่ละวันก็พอแล้ว” เขาพูดจริงจัง“แต่ว่า...”“ไม่มีแต่...นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่ฟังฉันจะ” เขามองไปที่ตัวเล็ก“อย่านะ หนูยอมก็ได้” เขาก็เอาแต่ลูกมาขู่ถ้าพาลูกหนีเขาจะไม่ให้ฉันเจอหน้าลูกอีก ถ้าฉันดื้อเถียงเขา เขาก็จะไม่ให้เข้าใกล้ลูก คนอะไรใจร้ายที่สุด“ไม่ต้องมามองฉันแบบนั้น” พี่พาร์ทส่งตัวเล็กให้“อย่าดื้อนะครับ แต่ตัวเล็กของป๊า คงไม่ดื้อเท่าคุณแม่ งอแง น่ารำคาญ” พอพูดกับลูก เสียงสองเสียงสามพอหันมาพูดกับฉันก็ทำหน้าขรึมดุเป็นหมาทุกที“แล้วป๊าจะรีบกลับครับ”ฟอด!!พี่พาร์ทหอมแก้มเล็ก ๆ อย่างเอ็นดู ส่วนตัวเล็กก็ยิ้มร้องโวยวายชอบใจ“......อุ๊บ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่ออยู่ ๆ พี่พาร์ทท
ตอนเย็น...“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ฉันยิ้มให้พี่นายที่อุตส่าห์ขับรถมาส่ง“ครับพี่ยินดี” เขาพูดและยิ้มอย่างสุภาพ“แล้วเจอกันนะ” รถเมล์พูดแทรกพร้อมโผล่หน้าออกมาก“ไปได้แล้วเจอกัน” ฉันยิ้มให้สองคนพี่น้องก่อนจะรีบเดินเข้าบ้าน“ตัวเล็กของแม่เก่งมากเลยรู้มั้ยวันนี้” ฉันพูดยิ้มกับตัวเล็กที่ยิ้มอารมณ์ดีทั้งวัน“.......” แล้วต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอเมื่อเข้าห้องแล้วพี่พาร์ทนั่งทำหน้าขรึมอยู่ พร้อมกับมือถือฉันที่วางอยู่ข้าง ๆ เขา เฮ้อก็คงลืมไว้ตามเคย“รอแม่อยู่ตรงนี้นะคะแม่ไปเตรียมน้ำให้” ฉันเลือกที่จะไม่สนใจสายตาดุดันคู่นั้นที่มันบ่งบอกว่าพี่เขากำลังโมโห เอาตัวเล็กนอนลงกับเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ“.....” พี่พาร์ทเขายังคงเงียบมองทุกการกระทำจนฉันอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกเสร็จ“ขอโทษนะคะที่หนูไม่ได้บอก” ฉันรู้ว่าเขาโกรธ โมโหที่ฉันพาลูกไป พร้อมส่งตัวเล็กให้พี่เขา“หนู...” ฉันพูดเสียงสั่นมองหน้าเขาที่เรียบเฉย รับลูกจากฉัน ก่อนจะเดินไปที่ชั้นเก็บของหยิบสมุดบัญชีที่เป็นชื่อน้องออกมาให้พี่เขา“ถึงมันจะไม่มากแต่หนูอยากให้ลูกหนูรู้ตัวว่าคงเลี้ยงน้องให้สุขสบายไม่ได้ เพราะฉะนั้น อึก” มือบางเอื้อมขึ้นปาดน้ำตาที่
“พี่พาร์ท” ตอนนี้เราสองคนอยู่หน้างาน และมือเท้ามันก็เย็นเฉียบรู้สึกประหม่าจนก้าวขาไม่ออก“กลัวอะไรฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เขาหอมที่หัวหนัก ๆ หนึ่งทีแล้วเดินโอบเอว พาฉันเดินเข้าไปในงาน และพอเราสองคนเดินเข้าไปทุกสายตาก็มองมาที่ฉันเป็นตาเดียว“ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวปกติ” พี่พาร์ทพูดปลอบและพาฉันเดินตรงเข้าไปหากลุ่มนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง“สวัสดีครับ” พี่พาร์ททักทายพวกเขาอย่างนอบน้อม แต่ว่าทำไมทักทายภาษาไทยล่ะ“เอาคุณปรมินทร์ นึกว่าจะไม่มางานนี้ซะแล้ว” เขาพูดและยิ้มอย่างเป็นกันเองกับพี่พาร์ทและมองมาที่ฉัน“ธีรดา ภรรยาผมครับ” ก่อนพี่พาร์ทจะแนะนำให้ฉันที่ได้แต่ยืนอึ้งให้ทุกคนรู้จัก ที่อึ้งคือแล้วที่เขาให้เรียนหัดพูดภาษาจีนเพื่ออะไร เท่าที่มองดูในงานมีแต่คนไทยและเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกัน“ภรรยา!!” ทุกคนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“สวัสดีค่ะ” สองมือยกขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ต้องแอบจิกตากัดคนข้าง ๆ“พี่แกล้งหนูอีกแล้วนะ” ฉันพูดกระซิบกระซาบบิดเอวหนาแรง ๆ อย่างหมั่นไส้“......” พี่พาร์ทไม่พูดอะไรแค่ปรายตามอง และหันไปพูดคุยเรื่องธุรกิจแต่มือเขามันอยู่นิ่งเสียที่ไหน ลูบไล้แผ่นหลังสัมผัสมันชว
และแล้ววันที่ฉันกลัวก็มาถึง วันนี้เป็นวันที่จะต้องออกงานคู่กับพี่พาร์ทเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกงานสังคมแบบนี้ เฮ้อ.....“เธอต้องทำได้สิธีรดา” ร่างเล็กในชุดคลุม จ้องหน้าตัวเองในกระจก พูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำส่วนพี่พาร์ทไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า จนป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก แค่โทรมาบอกให้แต่งตัวรอแล้วจะมารับ ดีนะที่แม่กับพี่ฟองเบียร์อยู่เลยปลีกตัวออกจากตัวเล็กได้ เหมือนน้องจะรู้ว่าคืนนี้ต้องกลับดึกงอแงไม่ยอมห่างอกทั้งวัน แต่พอพี่พอร์ช มาอุ้มไปเล่นไปกับคุณอาเฉย ลูกสาวใครนะ เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้...“ว่าแต่จะทำไงล่ะเนี่ย” แต่งหน้าก็พอไหวแต่ทำผมจะทำทรงไหนดีถึงจะเข้ากับชุดที่พี่ญี่ปุ่นเตรียมไว้ให้ มันเป็นชุดราตรียาวสีดำดูเรียบ ๆ แต่แอบเซ็กซี่นิด ๆ หวังว่าใส่แล้วพี่พาร์ทคงจะไม่ฆ่าฉันทิ้งนะก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใครคะ” ฉันที่กำลังแต่งหน้าเดินไปเปิดประตู“พี่พาร์ท” พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้าที่มาพร้อมกล่องสีแดงขนาดใหญ่ในมือสองกล่อง“........” พี่พาร์ทเงียบไม่พูดอะไรเดินเอากล่องไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินออกไปนอกห้องท่ามกลางความงุนงงของฉันที่ได้แต่มองตามแล้วเกาหัว
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” และก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปเมื่อพี่พาร์ทมีท่าทีแปลก ๆ เขาดูเงียบและกังวลมาก“พี่ไม่สบายหรือเปล่า” มือเล็กเอื้อมขึ้นไปแตะหน้าผากคนตัวโต“......” พี่พาร์ทเงียบ เอาแต่จ้องหน้ามอง เหมือนกับจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด“ดึกแล้วหนูว่าเรากลับกันมั้ย” ตัวเล็กหาว ไปหลายรอบแล้ว ตาหวานเยิ้มแล้วตอนนี้“คือ...ฉัน”“คือ...คืออะไรพี่ก็พูดมาสิคะ” ฉันพูดยิ้ม ๆ เดินเข้าไปกอดเขา“พี่จะขอหนูแต่งงานเหรอ? เมื่อวานที่ชายหาดพี่กำลังจะขอหนูแต่งงานแต่โดนขัดก่อนใช่มั้ย”“.......” เขาเงียบ แสดงว่าฉันพูดถูก“ทำไมคะ เขินเหรอ แค่ขอแต่งงานเอง”“เธอนี่ไม่มีความโรแมนติกเลยนะธีรดา” พี่พาร์ททำเสียงดุ“เอ้า อะไร มาดุหนูทำไมคะ ก็ตัวเองจะพูดก็ไม่พูด แค่ขอแต่งงานเองมันพูดยากตรงไหน ถ้าพี่เขินเดี๋ยวหนูขอพี่เองก็ได้ แต่สินสอด?” ฉันทำหน้าครุ่นคิดมองหน้าพี่พาร์ทแล้วยิ้มกริ่ม“เอาตัวหนูเป็นสินสอดแทนได้มั้ย” พร้อมทำท่าทางเหนียมอายเมื่อเขาเอาแต่มองหน้าพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น“ตะ....”“ชู่ว...เบา ๆ ค่ะตัวเล็กกำลังจะหลับ” ฉันพูดเสียงเบาเอามือลูบหลังตัวเล็กที่ค่อย ๆ โน้มหน้าซบลงที่ไหล่พ่อ ดวงตากลมโตคู่เล็กปรือตามองหน้
“ทำอะไรทำไมไม่ไปอาบน้ำแต่งตัว”“จะไปไหนได้พี่ก็ดูสิ”พรึบ!!ฉันเปิดผ้าห่มให้พี่พาร์ทที่เพิ่งเดินเข้ามาดูลูกสาวตัวน้อยสุดที่รักของเขา นอนอยู่บนตัวแม่ปากก็ดูดนม อีกมือก็จับเต้า สองขาเต้นขย่ม เฮ้อ...เด็กหญิงพลอยชมพูจอมแสบ“ไม่ต้องมายิ้มเลย แม่เจ็บนะ” ตัวเล็กผละริมฝีปากจากเต้าส่งยิ้มหวานให้พ่อและแม่แล้วอ้าปากงับดูดนมต่อ แล้วคุณเธอก็เล่นอยู่แบบนั้นนานเป็นชั่วโมง กว่าจะยอมลงจากตัวแม่ เฮ้อ...ถึงจะเหนื่อยจะเจ็บบ้างแต่มันก็คือความสุข อีกหน่อยน้องโตเขาก็จะค่อย ๆ ห่างจากเราไปเรื่อย ๆ เลยอยากอยู่ใกล้ชิด มอบความรักให้ลูกเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้“ตัวเล็กมาหาป๊า ให้แม่ไปแต่งตัว” พี่พาร์ทรับตัวเล็กที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จที่ยิ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่ได้แกล้งแม่“ไปอาบน้ำฉันพาลูกไปเดินเล่นรอ” มือหนาลูบมาที่หัวพร้อมดึงร่างเล็กเข้าไปกอด“เจ้าค่ะ หนูจะรีบอาบน้ำแต่งตัว ทุกคนจะได้ไม่ต้องรอนาน” สองแขนกอดเอวหนาไว้แน่น ก่อนจะหอมแก้มพ่อลูกคนละหนึ่งฟอดใหญ่แล้ววิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำฉันใช้เวลาอาบน้ำไม่นานเท่าไร แต่ต้องมาหนักใจจะใส่ชุดไหนดี?“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันรีบวิ่งออกจากห้องไปหาพี่พาร์ทและคนอื่น ๆ ที่รอ
“เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันก็ไม่น่าถามพี่พาร์ทเลย หน้าบึ้งแบบนี้จะมีอะไรนอกจากงอนลูก ตอนนี้ตัวเล็กไม่สนใจป๊าเลย เล่นสนุกอยู่กับเหล่าอา ๆ ที่ดูจะหลงหลานสาวตัวน้อย โดยเฉพาะขุนศึกที่น้องพลอยติดมากกว่าคนอื่น ห่างกันเป็นไม่ได้ร้องตามตลอด“........” พี่พาร์ทไม่พูดอะไร กลับหันมามองค้อน เสียอย่างนั้น“เกี่ยวอะไรกับหนู หนูจะไปรู้ได้ไงว่าน้อง ๆ พี่จะตามมา” น่าขำจริง ๆ เวลาที่พี่พาร์ทงอน งอแงกว่าน้องพลอยอีก“ถือว่าได้พักผ่อนค่ะ มีคนช่วยดูลูกก็ดีแล้ว หนูดีใจนะ ที่ทุกคนรักและเอ็นดูน้องพลอย พี่รู้มั้ยตอนที่น้องเกิดวันแรก พยาบาลที่ทำคลอดอุ้มน้องไม่ยอมวางเลย”“พี่รู้มั้ยว่าหนูรู้สึกดีมากแค่ไหนที่ทุกคนไม่รังเกียจน้อง” ความรู้สึกวันนั้นที่คลอดตัวเล็กมันยังจำไม่เคยลืม มันเป็นความเจ็บปวดที่สวยงาม มันเป็นความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม“รักตั้งแต่แรกเจอ รักทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้เจอหน้า ครั้งแรกที่ได้อุ้มลูกมือหนูสั่น จนพี่ณัฐต้องช่วยอุ้ม” ฉันพูดไปยิ้มไปพร้อมน้ำตาเม็ดใสที่มันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว“หนูเข้าใจว่าพี่หวงลูก แต่นั่นมันน้องพี่นะคะ คุณป๊าขี้หวงไม่งอแงสิ เห็นมั้ยตัวเล็กสนุกใหญ่เลย” ฉันรีบเปลี่ยนเ
“พี่พาร์ท! ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ”“ตื่น!! หิวข้าว!!”“......” เงียบไร้ซึ่งคำตอบจากคนตัวโตที่นอนนิ่งไม่ขยับตัว ฉันกับตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเป็นชั่วโมงแล้วแต่พี่พาร์ท กลับไม่ยอมตื่น“พี่พาร์ทหนูหิว...ตื่นมาทำอาหารให้กินก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”“......” เขายังคงเงียบและค่อย ๆ ลืมตา มองหน้าฉันกับลูก สมน้ำหน้าเมื่อคืนแกล้งฉันดีนัก พอตอนเช้ามาตัวเองตื่นสายเอง“ไปเลยค่ะ หนูหิวแล้ว กินข้าวเสร็จพาไปเดินเล่นด้วย หนูอยากพาน้องไปเดินริมชายหาดฝั่งโน้น” ฉันพูดและยิ้มให้พี่พาร์ทที่ยังทำหน้างัวเงีย“ฉันเป็นผัวเธอนะเธียร ไม่ใช่คนรับใช้ที่จะต้องมาคอยทำอาหารให้เธอกิน” บ่นเป็นตาแก่ไปได้“ก็เป็นผัวนั่นแหละหนูถึงใช้ อยากกินฝีมือพี่ พี่ทำอร่อย นะคะ ไปทำให้หน่อยหิว” ฉันยิ้มตาหยีให้พี่เขาที่เอาแต่ส่ายหัว ก่อนร่างหนาจะค่อย ๆ ลุกออกจากเตียง“รอป๊าก่อนนะครับ ป๊าไปทำอาหารให้แม่หนูก่อนแล้วเราไปเดินเล่นกัน” เขาพูดยิ้มกับลูกอย่างอารมณ์ดี ตัวเล็กก็อ้อนเอาใจยิ้มหวานให้พ่อ“ส่วนเธอใช้งานฉันหนักไปแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ”ฟอด“แหวะ...เหม็นไม่ต้องมาหอมหนูเลยไปทำอาหารก่อนหิวจนจะกินพี่ เข้าไปได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” ทำเป็นมาหอม ก่อนหน้
20.00 น.“ทำอะไรคะ” ฉันเดินเข้าไปกอดพี่พาร์ทที่ยืนอยู่ระเบียงห้อง หลังจากเอาตัวเล็กกินนม น้องคงจะเพลียกินนมแล้วหลับไปเลยพรึบ“.......” ร่างหนาพลิกตัวหันหน้ามาสบตา“หนูรักพี่จัง พี่รู้มั้ยวันนี้หนูมีความสุขมากแค่ไหน” สองแขนกอดเอวหนาไว้แน่น ใบหน้าเล็กแอบอิงแนบชิดแผงอกอุ่น“.......”“?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน โยนมือถือทิ้งลงบนโซฟา เกลี่ยตามองร่างกายฉันอย่างพิจารณาอย่าบอกนะว่า“หยุดไม่เอา” ฉันปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อรู้ถึงความคิดคนหื่น“แต่เธอเป็นคนยั่ว ฉันก่อนนะธีรดา” เขาพูดเสียงกระเส่าแหบพร่า“ยั่วตอนไหน หนูอยู่ของหนูดี ๆ” เพิ่งจะเดินมาหาเองนะ จะบ้าหรือเปล่าพรึบ!!“ฮื่อ พะ...พี่พาร์ททำอะไร!” ร่างเล็กถูกจับตัวพลิกหันหลังสองมือจับราวระเบียงอย่างอัตโนมัติ อย่าบอกนะว่าจะทำตรงนี้นี่มันระเบียงบ้านนะ ถึงจะไม่มีใครนอกจากเราแต่มันก็น่าอายอยู่ดี“พะ...พี่พาร์ทดะ...เดี๋ยวก่อน คะ...คุยกันก่อน!!” พี่พาร์ททำเหมือนไม่ได้ยินที่ฉันพูด เขาถอดกางเกงตัวเองพร้อมควักท่อนเอ็นที่มันแข็งชูชันออกมาก และจัดการถอดกางเกงชุดนอน นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงชั้นในตัวจิ๋วทิ้งลงพื้น ทุกอย่างมันรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทันพรวด!!กึ
“ตื่นแล้วเหรอคะคนเก่ง”“.......” ตัวเล็กทำหน้างุนงงบิดขี้เกียจอย่างน่าเอ็นดู หันหน้ามองซ้ายมองขวา ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้แม่และจ้องหน้าพ่อที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆตัวเล็กค่อย ๆ พลิกตัวลุกขึ้น คลานเข้าไปหาพ่อ นั่งจ้องพ่ออยู่แบบนั้นแล้วหันมายิ้มตาหยีให้แม่แปะ แปะก่อนฝ่ามือเล็กจะฟาดลงที่แผงอกแกร่ง พร้อมโน้มใบหน้าเล็กเข้าไปใกล้ก้มลงจุ๊บปากพ่อที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเอาใจ“คนสวยตื่นแล้วเหรอ” พี่พาร์ทส่งยิ้มพูดกับลูกอย่างอารมณ์ดี“ป๊าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่ปลุก ฮื้ม” คนตัวโตดีดตัวลุกขึ้นเอาตัวเล็กนั่งตัก พูดเล่นกันเห็นแล้วก็ได้แต่มองแล้วยิ้มตาม“ตัวเล็กเพิ่งตื่นค่ะ” ฉันขยับเข้าไปหาสองพ่อลูก เห็นพี่พาร์ทดูเพลีย ๆ ขับรถมาตั้งใกล้พี่เขาคงจะเหนื่อยมาก พอนอนหัวถึงหมอนไม่ถึงนาทีก็หลับเลย“พี่พาหนูกับลูกมาเที่ยวแบบนี้แล้วงานพี่ล่ะคะ หนูไม่น่างอแงกับพี่เลย” ระหว่างที่พี่เขานอนเลขาเขาโทรมาฉันถึงได้รู้ว่าที่จริงพี่เขามีงานต้องทำแต่กลับเลือกที่จะพาฉันกับลูกมาเที่ยว รู้สึกผิดยังไงไม่รู้“ก็แค่งาน ไม่ทำอาทิตย์ สองอาทิตย์มันไม่เจ๊งหรอก ฉันทำงานมาเกือบครึ่งชีวิต ก็อยากมีเวลาเที่ยวกับลูกกับเมียเหม
เฮ้อ...เป็นเศร้าเลย นึกว่าจะได้โชว์หุ่น ที่ไหนได้ ฮื่อ พี่พาร์ทคนเจ้าเล่ห์หลอกมาติดเกาะชัด ๆ“อะ......ตัวเล็กแม่เจ็บนะ อย่ากัดได้มั้ย ถ้ากัดแม่จะไม่ให้กินแล้วนะ” แต่ก็ต้องสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อตัวเล็กที่กำลังดูดนมงับเข้าให้ เจ็บเป็นบ้าเลย“อ้อแอ้” แล้วพอโดนดุหน่อยก็ทำตาแป๋วใส่ แบบนี้ใครจะโกรธลง ส่วนพ่อของลูก พี่พาร์ทมาถึงก็เอาของไปเก็บในห้อง มันเป็นหน้าที่เขาอยู่แล้วที่ต้องดูแลเมียกับลูกใครบอกให้มาหลอกกันแบบนี้เองล่ะ แล้วเราสองคนแม่ลูก ก็นั่งเล่นอยู่ระเบียงบ้าน ลมเย็น ๆ บรรยากาศที่นี่ดีมาก ได้กลิ่นน้ำทะเลแล้วชื่นใจ จะว่าไปที่นี่สวยมากชายหาดขาว ๆ น้ำทะเลสีใส แล้วยังมีความเป็นส่วนตัวแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงตัวเล็กปล่อยเล่นทรายได้สบายเลย...“หนูขอโทษแม่เหรอคะ ลูกสาวใครนะน่ารักจัง” ตัวเล็กเอามือเล็ก ๆ ลูบที่เนินอกก่อนจะยิ้มให้ ทำหน้าอ้อนยิ้มหวาน คลั่งรักลูกตัวเองไม่ไหว“กินค่ะ แม่รักน้องมากนะรู้มั้ย” ฉันจูบลงที่หน้าผากเล็กอย่างเอ็นดู น้องพลอยยิ่งโตยิ่งน่ารักแต่มีความเจ้าเล่ห์เหมือนพ่อ พูดแล้วก็แค้นใจ ถึงว่าเลือกให้แต่ละชุด เพราะแบบนี้นี่เอง“เป็นอะไร” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พร้อมร่าง