“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ พอเถอะค่ะป๋าขาหนูไม่ไหวแล้ว นี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ใจคอจะไม่ให้พักเลยรึไง อ๊า คนนะไม่ใช่เครื่องจักรที่จะใช้งานได้ทั้งวันทั้งคืน” พิศลดานอนระทดระทวยผมเผ้ายุ่งเหยิง วันนี้หลังจากเลิกสอบแล้วมาร์ตินก็รีบมารับกลับบ้านทันที พอมาถึงยังไม่ได้ทันทำอะไรก็โดนอุ้มมานอนรองรับอารมณ์คนหื่น ตั้งแต่สองโมงจนตอนนี้จะทุ่มนึงแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะได้พักสักนิด“ก็ช่วยไม่ได้อยากปล่อยให้ผัวอดอยากมาหลายวัน พอถึงเวลาตามที่ตกลงกันไว้ป๋าก็ไม่ออมแรงหรอก ช่วงที่หนูสอบป๋าก็ได้แค่กอด ตอนนี้ไม่มีสอบแล้วป๋าก็ขอทบต้นทบดอกให้สามสมกับความหิว อ่าส์ เรียนจบแล้วเหลือแค่ฝึกงานป๋าว่าเรามีลูกกันเลยดีกว่า เลิกกินได้แล้วไอ้ยาคุมนั่นนะ ถ้าไม่เลิกกินก็จะแทงเช้า สาย บ่าย เย็น จนกว่าลูกจะติดเลยคอยดู”“ฮื่อ ตะ...แต่ หนูยังไม่พร้อมมีลูก อื้อ อย่ามาบังคับกันแบบนี้สิคะ อายุยังน้อยอยู่ขอใช้ชีวิตอิสระก่อนนะคะ อ๊ะ” ไม่พร้อมเธอยังไม่พร้อมที่จะมีลูกตอนนี้ แต่ดูท่าแล้วตาเฒ่าก็คงไม่ยอมง่ายๆ เหมือนกัน เพราะรายนี้อยากมีลูกมาตลอด“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมป๋าอยากมีลูก แล้วก็จะทำให้ติดเร็วๆนี้ด้วย หนูอายุยังน้อยแต่ป๋าแก่ขึ้นทุกวั
“หนูล้างจานอยู่นะ อะ...อื้อ อื้อ” ปากอวบอิ่มถูกจ้วงจูบจากคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง มือที่ถือจานไว้ก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น นานหลายนาทีกว่าจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ “บอกว่า ยะ...อย่าไง” เมื่อเป็นอิสระพิศลดาก็รีบพูดห้ามเสียงสั่น“ป๋าว่าไว้ค่อยให้แม่บ้านล้างต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้ป๋าอยากจะแย่อยู่แล้ว ขอตรงนี้เลยละกันนะคนดี” มาร์ตินเปิดก๊อกน้ำล้างมือนุ่มที่เต็มไปด้วยฟองที่เกิดจากน้ำยาล้างจาน สะอาดหมดจดแล้วก็จับพลิกร่างบางให้หันเข้าหาตัว ประคองแก้มเนียนจูบปากบวมแดงดังจ๊วบใหญ่ ดันก้นอวบอั๋นให้มาแนบชิดที่แก่นกายร้อนผ่าว ย่อตัวยกสะโพกงามขึ้นอุ้ม พาเดินไปวางไว้บนอ่างล้างจาน ขาเรียวสวยทั้งสองข้างเกาะเกี่ยวเอวหนาเอาไว้แน่น“ตรงนี้ไม่ได้นะคะ เกิดมีใครเดินเข้ามาจะทำยังไง” พิศลดาสั่นหน้า ยื้อมือหนาที่ลูบไล้อยู่ที่ขาสุดกำลัง“ไม่มีใครเข้ามาตอนนี้หรอกคนสวย ถ้าหนูไม่ครางเสียงดังก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน ป๋าอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แล้วอีกอย่างขึ้นห้องตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าป๋าจะกระแทกตอนนี้และเดี๋ยวนี้” มาร์ตินรั้งร่างบางให้ลงมายืนหันหน้าเข้าหาอ่างล้างจาน ถอดกางเกงนอนลงไปกองไว้ที่พื้นแล้วถลกเสื้อ
“ทูนหัวผัวอยากกินกาแฟ” เสียงทุ้มร้องเรียกหากาแฟจากเมียรัก พิศลดาเงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารที่อยู่ในมือ มองท่านประธานใหญ่ที่นั่งทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง โดยไม่ละสายตาออกมาจากแฟ้มทั้งหลายที่กองอยู่ตรงหน้า“ดื่มไปสองแก้วแล้ววันนี้ พอแค่นั้นเลยค่ะ” พิศลดาเดินไปเปิดตู้เย็นที่หลบมุมอยู่แถวๆ ห้องน้ำ รินน้ำเย็นชื่นใจมาบริการให้สามีรูปหล่อที่วันนี้ดูจะตั้งใจทำงานเป็นพิเศษ“ชื่นใจจัง ดื่มน้ำเปล่าแทนกาแฟก็ทำให้ตาสว่างได้ เพราะคนเอามาให้กินมีฤทธิ์ที่ทำให้ผัวตาค้างได้” แขนเรียวถูกดึงทำให้ร่างบางเซถลาลงไปนั่งแหมะอยู่บนตักแกร่ง “ขอเพิ่มพลังก่อนนะจะได้มีแรงเคลียร์งาน” ปากอวบอิ่มที่อ้าเผยอต้องกลืนคำพูดลงเมื่อถูกจู่โจมด้วยจุมพิตร้อน“อื้อ ไหนบอกจะรีบเคลียร์งานไงคะ” มือนุ่มผลักหน้าหล่อที่คลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากออกห่าง “มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ มาฝึกงานแบบนี้มันสบายเกินไปให้หนูทำงานบ้างเถอะนะคะ” มาร์ตินส่ายหน้า ยกมือขึ้นมาบีบจมูกโด่งเชิดรั้นเบาๆ“ถ้าอยากช่วยก็ช่วยนั่งสวยๆ อยู่กับป๋าตรงนี้ ถ้ายังงอแงอีกสงสัยต้องจัดให้สักดอก เอาแบบนั้นไหมทูนหัวจะได้เลิกทำงานตอนนี้เลย” มือปลาหมึกลูบอยู่แถวขาขาวนวลที่โผล่พ้นกระโปรง
“ให้เขาเข้ามาได้เลยค่ะ แต่หนูขอลุกไปนั่งที่โซฟานะคะ นั่งแบบนี้มันดูไม่ดี” พิศลดาจะลุกขึ้นยืนแต่ติดที่มือหนาจับเอวเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นได้ “ปล่อยสิคะ จะจับเอาไว้ทำไม เกิดไม่ใช่คุณสุธีร์กับคุณลีโอจะทำยังไง ถ้าเป็นพนักงานหรือผู้บริหารคนอื่นมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของท่านประธานดูไม่ดีนะคะ”“ช่างหัวภาพลักษณ์มันสิ” มาร์ตินยักไหล่เขาไม่สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว “เชิญครับ” สิ้นเสียงอนุญาตคนที่มาเคาะประตูก็เปิดเข้ามา“กว่าจะให้เข้ามาได้ยืนรากแทบงอก” เสียงบ่นอย่างไม่พอใจดังเข้ามา พร้อมกับหิ้วถุงอาหารมากมายเข้ามากับสุธีร์ “แล้วนั่นจะนั่งกอดกันอีกนานไหม”“ปล่อยก่อนพ่อมาไม่เห็นรึไง” พิศลดาแกะมือเหนียวออกจากเอว ส่งยิ้มหวานไปให้พ่อที่ยืนท้าวเอวมองดูอย่างไม่พอใจ“คุณพ่อมาได้ไงครับ” มาร์ตินยอมปล่อยให้เมียลุกขึ้นเดินไปหาพ่อตา ที่ยืนทำหน้ายักษ์มองเขาอยู่ มาแบบนี้เห็นทีเขาคงอดกินตับเมียไปตามระเบียบสินะเหอะ!“จะมายังไงก็ไม่เกี่ยวกับแก มานั่งนี่ยัยเฟิร์น” พ่อสุชาติดึงมือลูกสาวให้ไปนั่งข้างตัวเองที่โซฟา แกะอาหารน่าตาน่าทานออกมาให้ลูกสาวสุดที่รักได้กิน“พ่อมาที่นี่คนเดียวเหรอจ๊ะ แล้วมาถูกได้ยังไง ทำไมไม่โท
หลังจากที่พาพ่อตาและเมียกลับเข้าคอนโดเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ มาร์ตินก็ขอตัวออกไปสังสรรค์กับเพื่อนที่โทรมาชวนตั้งแต่ตอนบ่าย พิศลดาก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้ไป แต่มีข้อแม้ว่าห้ามดื่มหนักและกลับดึก คนรักเมียก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดี สองพ่อลูกจึงได้มีเวลาคุยกันสองคน คุยนั่นคุยนี่กันไปเรื่อยจนกระทั่งสามทุ่มจึงได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำพิศลดานอนอ่านนิยายจนกระทั่งเที่ยงคืนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ร่างบางลุกขึ้นมาแนบใบหูกับบานประตูเพื่อฟังให้แน่ใจว่าเป็นตาเฒ่าของเธอรึเปล่า“เปิดประตูให้หน่อยทูนหัว” มาร์ตินหมุนลูกบิดประตูไปมา ไม่อยากเคาะเสียงดังกลัวว่าพ่อตาจะตื่นขึ้นมา เมื่อกี้แอบเปิดประตูอีกห้องเข้าไปดูก็เห็นว่าพ่อตานอนหลับอยู่ จึงรีบมาที่ห้องเมียแต่ดันมาล็อคประตู ทำให้เขาต้องเคาะเรียกเบาๆ“ไม่ต้องเคาะให้เมื่อยมือหรอกไอ้ฝรั่ง ยัยเฟิร์นมันหลับไปแล้วมานอนกับฉันนี่มา” พ่อสุชาติเปิดประตูห้องนอนออกมาพูดกับลูกเขย มันคงคิดว่าตอนที่เปิดประตูเข้าไปเขาหลับไปแล้ว หึ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย! ใครจะไปหลับลงในเมื่อตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะรอให้มันกลับมาก่อน ลูกสาวเขาไม่มีทางขัดใจหรอกในเมื่อสั่งแล้วว่าถ้าไอ้นี่มาเคาะห้า
แปดโมงเช้า มาร์ตินก็เดินโอบเอวบางของเมียรักลงมาจากห้องนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในอ้อมกอดของพิศลดามีครีมโอนอนซุกอยู่กับอกนุ่ม ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีเจ้าหน้าที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา สร้างความแปลกใจให้กับพิศลดาเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ทราบมาก่อนว่าวันนี้มีอะไรเป็นพิเศษ ถามแล้วตาเฒ่าก็ไม่ยอมบอกเอาแต่ยิ้มอย่างเดียว จนกระทั่งมาร์ตินบอกว่าวันนี้เป็นฤกษ์ดีที่พ่อและแม่ของเธอได้ไปดูมาให้ สมควรแก่การจดทะเบียนสมรสเป็นที่สุด มาร์ตินจรดปากกาลงไปอย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกับเธอ ตอนนี้กลายเป็นนางพิศลดา บัตเตอร์ มีสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย และในอีกสามเดือนข้างหน้าก็จะเข้าพิธีทางศาสนา ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้วโดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน“ทำไมหนูไม่เคยรู้เรื่องแต่งงานมาก่อนเลยคะ” พิศลดาถามขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องนั่งเล่น หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนสำคัญได้กลับไปแล้ว“ก็ป๋าอยากจะเซอร์ไพรส์หนูเลยไม่อยากบอกก่อน ไม่มีการขอแต่งงานที่เลิศเลออะไรเหมือนใครเขา หนูคงไม่ว่าอะไรป๋าใช่ไหม” มาร์ตินรวบมือนุ่มทั้งสองข้างมาไว้ตรงหัวใจที่เต้นตุบๆ พิศลดาอมยิ้มขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่แก้มสากของคน
“ยังไม่จัดกระเป๋าอีกทำโทษก่อนไปดีไหมเนี่ย หืม” มาร์ตินเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าเมียคนสวยกำลังสาละวนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้า เลยเดินเข้าไปช่วยหยิบในส่วนของตัวเองมาวางเอาไว้ที่เตียงรอให้เมียมาพับเก็บให้ ถ้าพับเองมันคงไม่เรียบร้อยแน่ๆ“ไม่ดีค่ะ” พิศลดาส่ายหน้าหวือ“ตอบแบบไม่คิดเลยนะทูนหัว ผัวเสียใจนะเนี่ย” มาร์ตินเดินมาหย่อนสะโพกลงนั่งบนเตียง มองดูเมียเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างพิถีพิถัน“หนูคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วค่ะ จัดเสร็จเราไปกันเลยนะคะไม่ต้องรอบ่ายหรอกเสียเวลา หนูอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว” ตอนนี้ใจเธอล่องลอยกลับบ้านไปแล้ว และตัวก็อยากจะตามไปเร็วๆ ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาคราวนั้นก็ยังไม่ได้กลับไปอีกเลย“ก็ได้จ้ะ ว่าแต่หนูจะเอาครีมโอไปด้วยไหมคะ ถ้าเอาไปป๋าจะได้ไปเตรียมของให้เจ้าตัวยุ่ง” มาร์ตินมองลูกชายที่นอนหลับอุตุอยู่ข้างเตียงอย่างเอ็นดู“เอาไปค่ะ”“โอเคครับ” มาร์ตินพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจัดการในส่วนของครีมโอ จัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่สุพรรณบุรีทันที“สองคนนั้นเมื่อไหร่จะถึงนะ” แม่นวลพรรณคอยชะเง้อคอมองลูกสาวกับลูกเขยที่บอกว่าจะมาหาที่ร้านทองก่อนเข้าบ้าน“เดี๋ยวก็มาน่าแ
“พ่อกับแม่ไปหาฤกษ์จดทะเบียนมาทำไมไม่ยอมบอกหนูเลยละคะ ปล่อยให้หนูรู้เป็นคนสุดท้ายได้ไง” พิศลดาทำหน้างอน“ก็ไอ้ฝรั่งมันไม่ยอมให้บอก” พ่อสุชาติพูดแล้วก้มลงมองครีมโอที่นอนหลับคาตักอย่างเอ็นดู ตอนนี้กลายป็นขวัญใจของคนทั้งบ้านไปแล้ว“เซอร์ไพรส์ไงตัวเล็ก”“บอกไม่บอกยังไงตอนนี้เราก็จดทะเบียนกับพี่เขาไปแล้ว มาทำหน้าตูมตอนนี้มันไม่ทันแล้วลูก” แม่นวลพรรณยิ้ม ตักปลาหมึกตัวโตใส่จานลูกสาวให้อย่างเอาใจ “กินเข้าไปเยอะๆ เลยเราน่ะ เดี๋ยวพ่อก็แย่งกินหมดหรอก”“อ่าวแม่ พ่อไม่ได้ตระกละถึงขนาดจะกินคนเดียวหมดนี่นะ ถ้าเป็นไอฝรั่งละก็ไม่แน่” พ่อสุชาติโวยวายโบ้ยไปให้ลูกเขยที่นั่งดื่มแต่เบียร์“ผมดื่มแต่เบียร์ยังไม่ค่อยได้กินอย่างอื่นเลยคุณพ่อมาโบ้ยผมได้ไงครับเนี่ย”“หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ แล้วก็หยุดดื่มทั้งคู่เลย ทานอาหารกันบ้าง” พิศลดาแย่งแก้วเบียร์ในมือพ่อและสามีมาไว้ข้างตัวเอง “ทานอย่างอื่นบ้าง ถ้าเมาคืนนี้ได้นอนนอกห้องแน่” มือบางตักกุ้งตักปลาหมึกย่างบริการให้สองหนุ่มที่นั่งประกบเธออยู่“ป้อนด้วยสิ” มาร์ตินกระซิบบอกเมียอย่างอ้อนๆ พิศลดาย่นจมูกแล้วจิ้มปลาหมึกย่างหอมๆ มาจ่อที่ปากคนช่างอ้อนให้ตามคำขอ“ทานเยอะๆน
“นั่งสิวะไอ้ฝรั่งจะยืนนิ่งอีกนานไหม”“ก็กำลังจะนั่งอยู่นี่ไงครับ” มาร์ตินทรุดตัวลงนั่งก้นยังไม่ทันจะแตะโซฟาดี เมียรักก็ทิ้งตัวลงมานั่งบนตักเขา แขนแกร่งเลยรีบกระชับเข้าที่เอวคอดกลัวว่าเมียจะหล่นลงไปแล้วอาจจะกระทบกระเทือนลูก“ทำไมไม่นั่งลงที่โซฟาดีๆ ยัยเฟิร์น ท้องอยู่หัดระวังตัวหน่อย แกจะทำตัวเหมือนปกติไม่ได้แล้วนะ ทำอะไรนึกถึงลูกให้มากๆ” พ่อสุชาติติเตียนลูกสาวที่ทำอะไรไม่รู้จักระวัง“ก็หนูอยากนั่งตักพี่มาร์ติน ไม่ได้จะทำอะไรที่มันอันตรายสักหน่อย” พิศลดาหน้างอ เอียงหน้าเข้าซบที่อกอุ่นของสามีอย่างงอนๆ“แล้วทำไมจะต้องอยากไปนั่งตักมันขนาดนั้นด้วย ยัยลูกคนนี้หนิ ถึงแกกับมันจะจดทะเบียนจนมีหลานให้ฉันแล้ว แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้ต่อหน้าต่อตา ฮึ่ย!”“พ่อก็อย่าไปว่าลูกสิ นี่ก็คงเป็นอาการอย่างหนึ่งของคนท้อง ไม่อย่างนั้นลูกคงไม่ทำแบบนี้ต่อหน้าเราหรอก” แม่นวลพรรณเข้าใจอาการของลูกดีเลยอธิบายใหคุณพ่อจอมหวงได้เข้าใจ“คุณพ่ออย่าดุเมียผมมากนะครับ เดี๋ยวร้องไห้ขึ้นมาจะยุ่ง เมียนั่งตักผัวไม่แปลกหรอกครับเรื่องปกติ ทำใจให้ชินนะครับคุณพ่อคงได้เห็นแบบนี้บ่อยๆแน่” มาร์ตินยิ้ม แล้วเกยคางไว้บนไหล่บาง“เหอะ!
“อือ” เสียงอืออาดังขึ้นอย่างขัดใจเมื่อถูกรบกวน แต่แค่พักเดียวก็หลับสนิทเหมือนเดิม เพราะมีมือใหญ่คอยลูบหลังขับกล่อมผ่านไปไม่นานคนหิวนมเมียก็หลับทั้งที่นมยังคาปาก แม้จะหลับแต่ก็ยังคอยดูดเป็นระยะอย่างกับเด็กติดขวดนม ขาก็เกี่ยวก่ายกันเอาไว้จนแทบจะหลอมเป็นร่างเดียวกัน“เรากำลังจะมีหลานจริงเหรอแม่นวล อย่าหลอกให้ฉันดีใจเล่นนะ” พ่อสุชาติเขย่าแขนเมียอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวดีเร็วขนาดนี้“จริงสิ ตามาร์ตินพาไปตรวจมาแล้ว เรากำลังจะมีหลาน” แม่นวลพรรณย้ำให้ให้สามีที่กำลังจะได้เป็นตาได้ฟังชัดๆ“โอ๊ย! งั้นผมก็เป็นลุงจริงๆ แล้วสิ เมื่อคืนเราพึ่งจะคุยเรื่องนี้กันอยู่เลย วันนี้ความฝันของพวกเราเป็นจริงแล้ว อย่างงี้ต้องขอบคุณพี่มาร์ตินที่ทำให้พวกเราสมหวังกันเร็วแบบนี้” ต้นไม้ยกความดีความชอบให้สามีน้องสาวเต็มที่“แล้วตอนนี้ยัยเฟิร์นกับไอ้ฝรั่งอยู่ไหน”“อยู่บ้าน ตอนนี้คงกำลังนอนพักผ่อนกันอยู่ คนท้องต้องนอนเยอะๆ เราอย่าพึ่งไปกวนเลยไว้ตอนเย็นค่อยกลับไปคุยกัน มาคิดกันดีกว่าว่าเราจะซื้ออะไรบำรุงลูกบำรุงหลานเราบ้าง” สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันคิดของบำรุง พอได้รายการที่ต้องการแล้วแม่นวลพรรณก็รีบไปซื้อมาจัดเ
“หนูเดินเองได้ค่ะ ทำไมจะต้องอุ้มด้วย” พิศลดาหน้าบึ้ง มองชาวบ้านที่มาหาหมออย่างอาย ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องทำให้เธอเป็นจุดน่าสนใจแบบนี้ด้วย มือที่ปิดจมูกไว้ก็ยังไม่ยอมเอาออก จนมาร์ตินเห็นแล้วขัดใจร่ำจะดึงออกอยู่หลายครั้ง“ผัวอุ้มเมียที่ไม่สบายมันผิดตรงไหน อีกอย่างหนูจะปิดจมูกอีกนานไหม กลิ่วผัวมันเหม็นถึงขนาดทนไม่ได้เลยรึไง น่าหงุดหงิดชะมัด โรคห่าโรคเหวอะไรกันวะ” เสียงบ่นดังๆ ทำให้คนรอบข้างที่เดินไปเดินมาภายในโรงพยาบาลหันมามองมาร์ตินเป็นตาเดียว“วางลงได้แล้วค่ะ จะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามารักษาอาการเบื่อผัว” พิศลดาดิ้นลงเพื่อที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่ามาพบหมอ แจ้งเรียบร้อยแล้วพิศลดาและมาร์ตินก็มานั่งรอเวลาให้หมอเรียก แต่ทั้งคู่นั่งห่างกันคนละฝั่ง เพราะพิศลดาไม่ยอมให้นั่งใกล้ๆ สร้างความหงุดหงิดงุ่นง่านให้กับคนรักเมียเป็นอย่างมากรอไม่นานพยาบาลก็เดินมาเรียกให้พิศลดาไปพบคุณหมอ โดยมีมาร์ตินเดินตามติดเข้าไปด้วย แม้เมียจะบอกให้นั่งรอข้างนอกแต่เขาก็ไม่ยอม“ตกลงเมียผมเป็นอะไรครับ บอกผมมาสักทีเถอะมัวแต่นั่งยิ้มอยู่ได้ ผมไม่ขำด้วยหรอกนะ คนจะเป็นจะตายยังมีหน้ามายิ้มรื่นเริงอีก เตะปา
“หนูเป็นอะไรน้องเฟิร์นไปบอกว่าพี่เขาเหม็นได้ยังไง ตัวสะอาดสะอ้านหอมฟุ้งซะขนาดนี้” แม่นวลพรรณจับแขนลูกเขยอย่างเห็นใจ ไม่รู้ว่าลูกสาวนางแกล้งหรือเหม็นจริงๆ กันแน่ พ่อลูกบ้านนี้ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ นี่ก็ไม่รู้ว่าแอบไปวางแผนแกล้งมาร์ตินกันรึเปล่า“เอาล่ะๆ ไอ้ฝรั่งแกนั่งข้างแม่นวลไปโน่น ส่วนยัยเฟิร์นก็นั่งข้างพ่อนี่มา แยกๆ กันนั่งจะได้กินข้าวกันสักที” พ่อสุชาติดึงแขนลูกสาวให้ลงมานั่งข้างตัว“กินข้าวกันลูกมาร์ติน”“ครับคุณแม่” มาร์ตินนั่งลง สายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าสวยของเมียที่แทบจะไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ ตักนั่นตักนี่เอาใจพ่อกับแม่อย่างเดียว“กินเยอะๆ นะจ๊ะพ่อแม่ ทานสิคะพี่มาร์ติน ทำไมยังไม่กินอีก หนูไม่ตักให้หรอกนะ” มือบางคอยตักอาหารให้พ่อกับแม่ แล้วก็ดุตาเฒ่าที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานมองหน้าเธอ“ครับ”หลังกินข้าวเสร็จคนโดนเมินจะเดินเข้าไปหาเมียทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เมียก็เดินหนีไม่ยอมให้เข้าใกล้ ทำอะไรไม่ได้เลยเดินมาที่คอกควายเพื่อระบายความทุกข์“พวกแกรู้ไหมว่าวันนี้ฉันยังไม่ได้หอม ยังไม่ได้จูบเมียเลย จะลงแดงตายอยู่แล้วเนี่ย ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจวะ เมื่อวานยังปกติดีอยู่เลย พอเช้
“โอ๊ย! มึนหัวจังวะ”“ฮื่อ”“เมียจ๋า”“เมี๊ยว เมี๊ยว”พ่อสุชาติลืมตาขึ้นมาก่อนคนแรก ลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเล เมื่อคืนดื่มหนักมากเลยทำให้ปวดหัวตุบๆ อยู่แบบนี้ กวาดสายตามองเพื่อนร่วมห้องนอนที่สะลึมสะลือ ก่อนจะค่อยๆ เอาหมอนไล่ตีลูกชายกับลูกเขยให้ตื่น “ไอ้ฝรั่ง ไอ้ต้นไม้ จะนอนกินบ้านกินเมืองกันอีกนานไหมวะ ตื่นๆ”“เมียจ๋าขอนอนต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากตื่นเลย อืม”“ฉันไม่ใช่เมียแกโว้ย! ไอ้บ้า”“เรียกยากเรียกเย็น ฉันไม่เรียกพวกแกแล้ว ไปกับตาดีกว่าครีมโอ ปล่อยให้ไอ้พวกขี้เซามันนอนกันต่อไปให้พอ”“อ่าว ตื่นแล้วเหรอพ่อ ต้นไม้กับมาร์ตินยังไม่ตื่นใช่ไหมเนี่ย”“ยัง นี่ยัยเฟิร์นก็ยังไม่ตื่นใช่ไหม งั้นแม่นวลก็เอาครีมโอไปก่อน ฉันจะไปอาบน้ำสักหน่อยเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว” แม่นวลพรรณพยักหน้า รับเอาครีมโอมาอุ้มแล้วพาเดินลงไปข้างล่าง“เราไปเดินเล่นกันดีกว่าเนอะลูกเนอะ”พิศลดานอนหลับตาพริ้มอยู่ดีๆ ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อถูกรบกวนการนอน มือบางปัดป่ายสิ่งที่ซุกอยู่แถวๆซอกคอ แต่สิ่งน่ารำคาญก็ยังไม่ยอมออกไป “อื้อ” มาร์ตินไม่สนใจอาการขัดขืนยังคงซุกหน้าเอาไว้แน่น จนพิศลดาทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ “ป๋าออกไ
“พ่อกับแม่ไปหาฤกษ์จดทะเบียนมาทำไมไม่ยอมบอกหนูเลยละคะ ปล่อยให้หนูรู้เป็นคนสุดท้ายได้ไง” พิศลดาทำหน้างอน“ก็ไอ้ฝรั่งมันไม่ยอมให้บอก” พ่อสุชาติพูดแล้วก้มลงมองครีมโอที่นอนหลับคาตักอย่างเอ็นดู ตอนนี้กลายป็นขวัญใจของคนทั้งบ้านไปแล้ว“เซอร์ไพรส์ไงตัวเล็ก”“บอกไม่บอกยังไงตอนนี้เราก็จดทะเบียนกับพี่เขาไปแล้ว มาทำหน้าตูมตอนนี้มันไม่ทันแล้วลูก” แม่นวลพรรณยิ้ม ตักปลาหมึกตัวโตใส่จานลูกสาวให้อย่างเอาใจ “กินเข้าไปเยอะๆ เลยเราน่ะ เดี๋ยวพ่อก็แย่งกินหมดหรอก”“อ่าวแม่ พ่อไม่ได้ตระกละถึงขนาดจะกินคนเดียวหมดนี่นะ ถ้าเป็นไอฝรั่งละก็ไม่แน่” พ่อสุชาติโวยวายโบ้ยไปให้ลูกเขยที่นั่งดื่มแต่เบียร์“ผมดื่มแต่เบียร์ยังไม่ค่อยได้กินอย่างอื่นเลยคุณพ่อมาโบ้ยผมได้ไงครับเนี่ย”“หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ แล้วก็หยุดดื่มทั้งคู่เลย ทานอาหารกันบ้าง” พิศลดาแย่งแก้วเบียร์ในมือพ่อและสามีมาไว้ข้างตัวเอง “ทานอย่างอื่นบ้าง ถ้าเมาคืนนี้ได้นอนนอกห้องแน่” มือบางตักกุ้งตักปลาหมึกย่างบริการให้สองหนุ่มที่นั่งประกบเธออยู่“ป้อนด้วยสิ” มาร์ตินกระซิบบอกเมียอย่างอ้อนๆ พิศลดาย่นจมูกแล้วจิ้มปลาหมึกย่างหอมๆ มาจ่อที่ปากคนช่างอ้อนให้ตามคำขอ“ทานเยอะๆน
“ยังไม่จัดกระเป๋าอีกทำโทษก่อนไปดีไหมเนี่ย หืม” มาร์ตินเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าเมียคนสวยกำลังสาละวนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้า เลยเดินเข้าไปช่วยหยิบในส่วนของตัวเองมาวางเอาไว้ที่เตียงรอให้เมียมาพับเก็บให้ ถ้าพับเองมันคงไม่เรียบร้อยแน่ๆ“ไม่ดีค่ะ” พิศลดาส่ายหน้าหวือ“ตอบแบบไม่คิดเลยนะทูนหัว ผัวเสียใจนะเนี่ย” มาร์ตินเดินมาหย่อนสะโพกลงนั่งบนเตียง มองดูเมียเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างพิถีพิถัน“หนูคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วค่ะ จัดเสร็จเราไปกันเลยนะคะไม่ต้องรอบ่ายหรอกเสียเวลา หนูอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว” ตอนนี้ใจเธอล่องลอยกลับบ้านไปแล้ว และตัวก็อยากจะตามไปเร็วๆ ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาคราวนั้นก็ยังไม่ได้กลับไปอีกเลย“ก็ได้จ้ะ ว่าแต่หนูจะเอาครีมโอไปด้วยไหมคะ ถ้าเอาไปป๋าจะได้ไปเตรียมของให้เจ้าตัวยุ่ง” มาร์ตินมองลูกชายที่นอนหลับอุตุอยู่ข้างเตียงอย่างเอ็นดู“เอาไปค่ะ”“โอเคครับ” มาร์ตินพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจัดการในส่วนของครีมโอ จัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่สุพรรณบุรีทันที“สองคนนั้นเมื่อไหร่จะถึงนะ” แม่นวลพรรณคอยชะเง้อคอมองลูกสาวกับลูกเขยที่บอกว่าจะมาหาที่ร้านทองก่อนเข้าบ้าน“เดี๋ยวก็มาน่าแ
แปดโมงเช้า มาร์ตินก็เดินโอบเอวบางของเมียรักลงมาจากห้องนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในอ้อมกอดของพิศลดามีครีมโอนอนซุกอยู่กับอกนุ่ม ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีเจ้าหน้าที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา สร้างความแปลกใจให้กับพิศลดาเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ทราบมาก่อนว่าวันนี้มีอะไรเป็นพิเศษ ถามแล้วตาเฒ่าก็ไม่ยอมบอกเอาแต่ยิ้มอย่างเดียว จนกระทั่งมาร์ตินบอกว่าวันนี้เป็นฤกษ์ดีที่พ่อและแม่ของเธอได้ไปดูมาให้ สมควรแก่การจดทะเบียนสมรสเป็นที่สุด มาร์ตินจรดปากกาลงไปอย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกับเธอ ตอนนี้กลายเป็นนางพิศลดา บัตเตอร์ มีสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย และในอีกสามเดือนข้างหน้าก็จะเข้าพิธีทางศาสนา ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้วโดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน“ทำไมหนูไม่เคยรู้เรื่องแต่งงานมาก่อนเลยคะ” พิศลดาถามขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องนั่งเล่น หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนสำคัญได้กลับไปแล้ว“ก็ป๋าอยากจะเซอร์ไพรส์หนูเลยไม่อยากบอกก่อน ไม่มีการขอแต่งงานที่เลิศเลออะไรเหมือนใครเขา หนูคงไม่ว่าอะไรป๋าใช่ไหม” มาร์ตินรวบมือนุ่มทั้งสองข้างมาไว้ตรงหัวใจที่เต้นตุบๆ พิศลดาอมยิ้มขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่แก้มสากของคน
หลังจากที่พาพ่อตาและเมียกลับเข้าคอนโดเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ มาร์ตินก็ขอตัวออกไปสังสรรค์กับเพื่อนที่โทรมาชวนตั้งแต่ตอนบ่าย พิศลดาก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้ไป แต่มีข้อแม้ว่าห้ามดื่มหนักและกลับดึก คนรักเมียก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดี สองพ่อลูกจึงได้มีเวลาคุยกันสองคน คุยนั่นคุยนี่กันไปเรื่อยจนกระทั่งสามทุ่มจึงได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำพิศลดานอนอ่านนิยายจนกระทั่งเที่ยงคืนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ร่างบางลุกขึ้นมาแนบใบหูกับบานประตูเพื่อฟังให้แน่ใจว่าเป็นตาเฒ่าของเธอรึเปล่า“เปิดประตูให้หน่อยทูนหัว” มาร์ตินหมุนลูกบิดประตูไปมา ไม่อยากเคาะเสียงดังกลัวว่าพ่อตาจะตื่นขึ้นมา เมื่อกี้แอบเปิดประตูอีกห้องเข้าไปดูก็เห็นว่าพ่อตานอนหลับอยู่ จึงรีบมาที่ห้องเมียแต่ดันมาล็อคประตู ทำให้เขาต้องเคาะเรียกเบาๆ“ไม่ต้องเคาะให้เมื่อยมือหรอกไอ้ฝรั่ง ยัยเฟิร์นมันหลับไปแล้วมานอนกับฉันนี่มา” พ่อสุชาติเปิดประตูห้องนอนออกมาพูดกับลูกเขย มันคงคิดว่าตอนที่เปิดประตูเข้าไปเขาหลับไปแล้ว หึ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย! ใครจะไปหลับลงในเมื่อตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะรอให้มันกลับมาก่อน ลูกสาวเขาไม่มีทางขัดใจหรอกในเมื่อสั่งแล้วว่าถ้าไอ้นี่มาเคาะห้า