การได้ร่วมงานกับผู้อาวุโสโอวหยาง จะทำให้โครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์มีโอกาสพัฒนามากยิ่งขึ้นฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย พยายามควบคุมความรู้สึกยินดีไว้ในใจ และแสดงออกอย่างสงบ“ผู้อาวุโสโอวหยาง ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับคุณ หากสะดวก ฉันอยากนัดพูดคุยเรื่องความร่วมมือแบบพบหน้ากันค่ะ”ในใจฉันเต็มไปด้วยความหวัง อยากให้การเจรจาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงเสียงหายใจที่มั่นคงจากปลายสายทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นขึ้น ก่อนที่เขาจะตอบกลับสั้น ๆ แต่หนักแน่น “ได้ ถ้างั้นมาได้เลย”จากนั้น เขาก็วางสายไป ความยินดีเอ่อล้นในใจฉันอย่างที่สุดการได้โอกาสในการร่วมงานที่หาได้ยากเช่นนี้ ฉันย่อมไม่กล้าทำให้เสียไป ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน ก่อนจะเร่งเดินทางไปยังบ้านของผู้อาวุโสโอวหยางทันทีเมื่อฉันมาถึงบ้านของผู้อาวุโสโอวหยาง พบว่าเขากำลังจิบชาอยู่ ในมือถือภาพบางอย่างไว้ คล้ายกับกำลังศึกษาบางสิ่งอย่างละเอียดฉันไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะ แต่ยืนรออย่างเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ก่อนที่พ่อบ้านจะพาฉันไปนั่งที่ตรงข้ามกับเขา พร้อมกับส่งถ้วยชามะลิที่หอมอบอวลมาให้บางทีคนในวัยนี้อาจจะชื่นชอบการดื
เนื่องจากทะเลสาบมีอายุยาวนาน ทำให้บางส่วนแห้งเหือดไป แต่ภายหลังธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง จนค่อย ๆ กลายเป็นภูเขาเล็ก ๆ ที่มีลำธารไหลผ่าน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจึงค่อนข้างสมบูรณ์หากนำพื้นที่นี้ไปใช้สร้างอาคารสมัยใหม่ คงต้องถมทะเลสาบจนหมด ซึ่งจะทำให้เสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมไปแถมยังต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่าแต่หากสามารถผสมผสานกับสถาปัตยกรรมโบราณได้จะช่วยประหยัดงบประมาณไปได้มาก และยังสร้างกลุ่มอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร“โครงการที่ดีแบบนี้ควรลองดู เรามีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างดั้งเดิม มันสามารถใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างสวนโบราณได้ นอกจากนี้ยังกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนสำหรับย่านการค้าใกล้เคียงได้อีกด้วย”ฉันหยิบดินสอที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา แล้วเริ่มลงรายละเอียดเพิ่มเติมบนแบบโครงร่างเดิมของฉัน สีหน้าของผู้อาวุโสโอวหยางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความพึงพอใจหากความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จ ฉันก็จะสามารถพัฒนาโครงการได้อย่างก้าวกระโดดเมื่อภาพทั้งหมดถูกเติมเต็ม ฉันส่งแบบร่างให้ผู้อาวุโสโอวหยาง เขาดูพึงพอใจเป็นอย่างมาก“ถ้าฉันได้พบเธอเร็วกว่านี้ และเธอสนใจในสาขานี้จริงๆ ฉันคงยินด
“ต่อให้ไม่มีนายโครงการนี้ก็สำเร็จได้ และถึงจะไม่มีความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสโอวหยาง ฉันก็ไม่มีวันยอมแพ้ง่าย ๆ แต่นายที่คอยช่วยเหลืออยู่ลับ ๆ นายต้องการอะไรกันแน่?”เฉินเยวี่ยเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และฉันกับเขาก็แทบไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ อีก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงยังคงปรากฏตัวในโลกของฉันอยู่เรื่อย ๆดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นความเย็นชาของฉัน จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือของฉันไว้แน่น การกระทำแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาไร้มารยาท ฉันจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการจับของอีกฝ่าย ทว่าคำพูดของเขาที่ตามมานั้นกลับทำให้ฉันชะงักไปทันที ราวกับถูกตรึงอยู่กับที่“ฉันรู้ว่าบางเรื่องมันไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ฉันก็แค่อยากไถ่โทษและสารภาพความผิด เธอจะไม่ให้โอกาสฉันเลยเหรอ? หรือเธออยากให้ฉันต้องจมอยู่กับความทรมานในใจไปตลอดชีวิต?”เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของศีลธรรมใช้มันมาผูกมัดฉัน หากไม่ใช่เพราะพวกเขา ฉันก็คงไม่มีชีวิตที่น่าสังเวชแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?หากไม่ใช่เพราะได้รู้จักเขา และไม่เคยหลงรักเขาอย่างไม่คิดชีวิต ชีวิตฉันก็คงไม่ตกต่ำถึงขนาดนี้ คงไม่ต้องถูกกลั่นแกล้งและเหยียดหยามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ฉันเอง
ความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่ความเจ็บที่รุนแรง แต่มันค่อย ๆ แผ่กระจายเหมือนยาพิษเรื้อรังที่กำลังคร่าชีวิตฉันอย่างช้า ๆ จนทำให้จิตวิญญาณของฉันดูพร่องแหว่งไปอย่างสิ้นเชิง“เรื่องของเราสองคนไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะ วันนี้ที่ฉันพานายมาที่นี่ เพราะฉันอยากให้นายได้เห็นว่าคนคนเดียวในโลกนี้ที่รักฉันที่สุด ตอนนี้กำลังนอนอยู่ใต้พื้นดิน คนที่เคยให้ความอบอุ่นกับฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณอันเย็นเยียบ และคนที่นายพยายามปกป้องมาตลอดเธอคือฆาตกร”ฉันใช้ความพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะได้รับความรักเพียงน้อยนิด แต่คนที่มอบความรักนั้นให้ฉันกลับกลายเป็นร่างเย็นชืดที่ถูกฝังลึกอยู่ใต้ผืนดิน ฉันไม่มีทางได้โอบกอดร่างของคุณย่าอีกต่อไป ไม่มีทางได้สัมผัสความอบอุ่นของท่านอีกแล้วฉันเองก็หวังให้ชีวิตของตัวเองจะได้รับการเยียวยาและไถ่บาป แต่ตอนนี้ชีวิตของฉันกลับตกต่ำจนถึงจุดที่ยากจะก้าวผ่าน“นายอยากให้ฉันยกโทษให้ใช่ไหม? ฉันทำได้นะ ขอแค่นายทำให้คุณย่าของฉันกลับมามีชีวิตๆด้อีกครั้ง แค่คุณย่ากลับมาหาฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่ถือสาอะไรอีกเลย ฉันจะเลิกชอบนาย จะออกจากโลกของนายไป และแม้แต่เรื่องของฉันกับเฉินเ
เขายืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับคาดไม่ถึงว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้ และยิ่งคาดไม่ถึงว่าทุกคำพูดของฉันจะทำให้เขาไม่เหลือโอกาสที่จะโต้แย้งใด ๆ“ทุกสิ่งที่ฉันอยากพูด ฉันพูดชัดเจนหมดแล้ว ถ้านายไม่มีอะไรจะพูด งั้นเราจบกันตรงนี้เถอะ”หัวใจที่เหมือนถูกควักออกไป ยังคงเหลือช่องว่างที่ไม่มีวันเติมเต็ม ไม่มีใครสามารถชดเชยสิ่งนั้นได้คุณย่าคือสีสันเดียวในวัยเด็กของฉัน เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของฉัน ราวกับท่าเรือสุดท้ายที่ฉันสามารถพักพิงได้ หลังจากที่ต้องล่องลอยอยู่ในโลกภายนอกมาแสนนานฉันถอนหายใจยาว ก่อนจะพยายามปรับอารมณ์ให้สงบลงอีกครั้ง เมื่อมองไปยังหลุมศพของคุณย่า ความเจ็บปวดในใจกลับถาโถมเข้ามาอย่างไม่อาจต้านทานได้ฉันไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งนี้ยังไง แค่รู้สึกเหมือนท้องฟ้าของตัวเองถล่มลงมา พ่อที่เลวทรามคนนั้นนำพาความเจ็บปวดมาให้ฉันมากมาย เขาใช้ฉันเป็นเครื่องมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ฉันกลับไม่เคยร้องไห้เลยแม้สักครั้งฉันเพียงหวังที่จะใช้วิธีการของตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ และกลับไปสู่จุดที่ควรเป็นของฉันอีกครั้งแต่เมื่อคุณย่ากลายเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ ฉันมีตัวเลือกเดียว คือยอมถอยซ้ำ
“ขอบคุณศาสตราจารย์ที่มอบโอกาสนี้ให้ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ฉันจะทำงานนี้ให้ดีที่สุดและในอนาคตก็จะพยายามตอบแทนประเทศอย่างเต็มกำลังด้วย”ศาสตราจารย์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นฉันก็ได้รับโควตานักเรียนแลกเปลี่ยนนี้อย่างราบรื่น หลังจากกรอกแบบฟอร์มเมื่อกรอกใบสมัครเสร็จฉันก็กลับบ้าน หลังฉันกลับมาที่บ้าน และรีบแจ้งข่าวดีนี้ให้เฉิงเฉิงรู้ แม้ว่าเราสองคนจะยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เรายังคงติดต่อกันผ่านการวิดีโอคอลหรือโทรศัพท์เสมอ ซึ่งช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ของเราไว้ได้ดี“ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอ ฉันได้รับโควตานักเรียนแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยแล้วนะ คราวนี้ฉันจะได้ไปพัฒนาตัวเองที่ต่างประเทศ แถมยังได้ทำงานร่วมกับทีมงานระดับปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย”ฉันเต็มไปด้วยความยินดี เพราะรู้ดีว่าถ้าสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ เส้นทางในอนาคตของฉันจะราบรื่นยิ่งขึ้นการไปต่างประเทศจะเปิดโลกทัศน์ที่กว้างขึ้นให้ฉัน และช่วยให้ฉันสามารถผสมผสานองค์ความรู้จากทั้งตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว แต่ฉันจะไม่มีวันลืมรากเหง้าของตัวเอง เพราะประเทศบ้านเกิดคือแผ่นดินที่หล่อเลี้ยงฉันมา ฉันไม่มีวันเนรคุณด้วยการปักหลักอ
เขาดูเหมือนจะมีความอัดอั้นอยู่บ้าง คาดไม่ถึงว่าฉันจะตัดสินใจแบบนี้แต่ไม่ว่าฉันจะเลือกทำอะไร เขาก็เข้าใจเสมอ เพราะเขารู้ดีว่าฉันไม่เคยทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรอง ฉันมักจะคิดวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียอย่างถี่ถ้วนก่อนเสมอ และไม่มีวันตัดสินใจแบบไร้เหตุผลหรือผลีผลามฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก ในขณะที่ลั่วอี้ฝานยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างเงียบ ๆ“ผู้อาวุโสโอวหยางตกลงที่จะร่วมมือกับเราแล้ว ตอนนี้โครงการของเรากำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แต่กว่าจะสร้างเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์เสร็จก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก”ลั่วอี้ฝานอธิบายความคืบหน้าของโครงการในปัจจุบันให้ฉันฟัง ฉันเองก็รู้ดีว่าโครงการนี้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้าโครงการแบบนี้ไม่สามารถเร่งรีบได้ ต้องใช้เวลาและวางแผนระยะยาวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มั่นคง ดังนั้นฉันจึงวางใจที่จะมอบหมายให้เขาดูแล และในระหว่างที่ฉันไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฉันก็จะคอยติดตามความคืบหน้าของโครงการนี้อยู่เสมอ“ฉันวางใจให้นายดูแลโครงการนี้ นายไม่ต้องกังวลนะ ทำไปตามแผนปกติ ทุกอย่างจะต้องออกมาดีแน่นอน”ฉันให้กำลังใจเขา หวังว่าเขาจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้ และเข
ในขณะที่ฉันกำลังสับสน จู่ ๆ ก็มีรถบรรทุกพุ่งตรงมาจากที่ไกล ๆ อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้ฉันตกใจและประหม่าอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ฉันไม่มีเวลาพอที่จะหลบ รถบรรทุกคันนั้นพุ่งตรงเข้ามาหาฉันอย่างไม่มีท่าทีจะหยุด ในช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดฉันเหมือนจะเห็นใครบางคนเข้ามาเงาร่างนั้นปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ฉันไม่มีเวลาตอบสนองอะไร รู้เพียงว่าชีวิตของฉันอาจมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วในขณะที่ไม่มีทางหนี ฉันก็ถูกช่วยเอาไว้ได้ และในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั้นเอง ฉันมองเห็นกู้จือโม่“นายมาที่นี่ได้ยังไง?”ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเอ่ยถามออกไป แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ บางทีตอนนี้ฉันอาจอยู่ในสภาพที่ยากจะตอบสนองได้ แต่สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้คือใครกันที่เป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้?ฉันรู้สึกได้ว่าสติสัมปชัญญะของตัวเองเริ่มเลือนหายไปทีละน้อย ร่างกายทั้งร่างจมดิ่งเข้าสู่ความมืดมิด ฉันไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งเริ่มรู้สึกว่าสติของตัวเองค่อย ๆ ฟื้นกลับมา พร้อมกับความรู้สึกที่แปลกประหลาดบางอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเมื่อฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง กล
จางเสี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย และเสริมว่า “นอกจากนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เนื้อผ้าและความประณีตในการตัดเย็บ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณภาพและมูลค่าของมันตั้งแต่แรกเห็น”ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราก็รีบลงมือออกแบบอย่างรวดเร็วฉันวางแนวคิดเกี่ยวกับสไตล์โดยรวมและการออกแบบลวดลาย โดยมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกเนื้อผ้าและควบคุมกระบวนการผลิต พยายามทำให้ทุกองค์ประกอบสมบูรณ์แบบที่สุดหากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่โดดเด่นเพียงพอ เราต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และตอนนี้ฉันต้องการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ผสมผสานองค์ประกอบของอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันฉันรู้ดีว่า หากต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถดึงดูดสายตาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังคงรักษาความนิยมในตลาดได้อย่างยาวนาน จำเป็นต้องหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่างความวินเทจและความทันสมัยให้ได้ฉันหลับตาลง จินตนาการถึงองค์ประกอบสุดคลาสสิกจากอดีต กระดุมแบบจีนที่ประณีต เส้นสายอันอ่อนช้อยของกี่เพ้า รวมถึงการตัดเย็บที่เรียบง่ายและการจับคู่สีที่ทันสมัยฉันพยายามผสานองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เสื้อผ้ามีทั้งกลิ่นอายของประวั
“เธอกับฉันต่างก็รู้ดีว่าชื่อเสียงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลาสั่งสมและสะสมผลงาน สำหรับปัญหาที่เธอพูดถึง ฉันมีแนวคิดเบื้องต้นอยู่สองสามข้อ”“ก่อนอื่น เราสามารถเริ่มต้นจากแนวคิด ‘เล็กแต่โดดเด่น’ โดยใช้โซเชียลมีเดียและการกำหนดตลาดเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อดึงดูดกลุ่มแฟนคลับที่ภักดีในช่วงแรก เราสามารถผสมผสานแนวคิดการออกแบบของฉันเข้ากับประสบการณ์ด้านการบริหารของเธอ ร่วมกันสร้างคอลเลกชันแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นหรือซีรีส์แนวคอนเซ็ปต์ ที่ให้แต่ละชิ้นงานมีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะช่วยให้ได้รับความสนใจได้ง่ายขึ้น”“นอกจากนี้ สำหรับปัญหาที่ว่า การออกแบบของเธออาจถูกตั้งคำถามหรือไม่ได้รับความสนใจมากพอ เราสามารถใช้กลยุทธ์ ‘คอนเทนต์คือสิ่งสำคัญ’ โดยการนำเสนอภาพถ่ายคุณภาพสูง บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างละเอียด และให้โมเดลสื่อสารอารมณ์ของเสื้อผ้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้แต่ละชิ้นงานไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่เป็นการส่งต่อวัฒนธรรมและทัศนคติ นอกจากนี้ เราสามารถเชิญแฟชั่นบล็อกเกอร์หรือเคโอแอลที่มีอิทธิพลมาทดลองใส่และช่วยโปรโมต เพื่อใช้พลังของพวกเขาในการขยายอิทธิพลของแบรนด์ให้กว้างขึ้น”“นอ
พวกเรานัดกันที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ“ฉันอยากร่วมมือกับเธอ เพื่อสร้างแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ด้วยกัน”ตอนนี้ฉันมีเงินทุนอยู่บ้าง จึงสามารถออกแบบเสื้อผ้าได้ แล้วเขาจะช่วยฉันบริหารจัดการ พวกเราจะร่วมกันออกแบบและผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ภายในร้านกาแฟ แสงไฟอ่อนโยนส่องกระทบใบหน้าของซูข่ายเหวิน เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น“ร่วมมือกัน? สร้างแบรนด์เสื้อผ้า? ฟังดูเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก!” เขาเอนตัวมาข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ชัดเจนว่าเขาสนใจข้อเสนอของฉันมากฉันพยักหน้าแล้วอธิบายแนวคิดของฉันอย่างละเอียด“ใช่เลย ฉันมีความสนใจอย่างมากในด้านการออกแบบเสื้อผ้า ส่วนเธอเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน สะสมทั้งประสบการณ์และทรัพยากรมากมาย ฉันคิดว่า ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้ มันคงจะสร้างประกายที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาแน่นอน”ซูข่ายเหวินคนกาแฟในถ้วยเบา ๆ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยความคิดของเขาออกมา“นี่เป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ แต่เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ก่อนอื่น เราต้องกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจน ว่าเราจะเดินสายแฟชั่นระดับไฮเอนด์แ
ค่ำคืนค่อย ๆ ล่วงเลย ไฟริมทางในมหาวิทยาลัยเริ่มส่องสว่าง เงาของพวกเราถูกยืดออกยาวใต้แสงไฟฉันเงยหน้ามองกู้จือโม่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความแน่วแน่ ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวเล็กน้อยบางที ฉันอาจให้โอกาสเขา และให้โอกาสตัวเองด้วยเช่นกันมองเข้าไปในดวงตาของเขา อยู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ ว่าทำไมถึงเคยยึดติดกับเขามากขนาดนั้น? บางทีอาจเป็นเพราะความรักของฉันที่มีต่อเขามันลึกซึ้งกว่าที่คิดจริง ๆบางทีความรักอาจค่อย ๆ งอก เงยขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หรืออาจเป็นเพราะบางเหตุการณ์ที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักถูกหว่านลงในใจฉัน พอรู้ตัวอีกที เมล็ดพันธุ์นั้นก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ไปแล้ว“จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าเราสองคนจะมานั่งคุยอะไรกันที่นี่ในวันนี้ ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี ตอนนี้เรายังเด็กกันอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการอะไร บางทีตอนนี้เธออาจจะแค่รู้สึกผิดกับฉัน ถึงได้คิดแบบนี้ แต่พอถึงวันที่เธอเติบโตขึ้นจริง ๆ เธอจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม?”ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเยวี่ยกับเขา ฉันไม่มีวันลืม ดังนั้นฉันรู้ดีว่า ตอนนี้เขายังไม่โตพอ แม้ว่าเขาจะดูเก่งกว่าคนทั่วไปมาก แต่ความคิด
แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่
ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั
ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู
ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่
“บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ