Share

บทที่ 225

Penulis: ลูกพีชแสนสวย
ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับตระกูลกู้เลยสักนิด ฉันลังเลว่าจะไปที่ภัตตาคารจิ่งเฮ่อดีไหม แต่ปลายสายกลับส่งหมายเลขห้องที่จองไว้มาให้เรียบร้อยแล้ว

รวดเร็วขนาดนี้ คุณปู่กู้ดูมั่นใจเหลือเกิน ไม่กลัวว่าฉันจะเบี้ยวนัด

ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วฉันจะกล้าทำลายความหวังดีของเขาได้ยังไงล่ะ?

ฉันปรับอารมณ์ หอบความสงสัยไปที่ภัตตาคารจิ่งเฮ่อ

เมื่อมาถึงห้องสองศูนย์หนึ่งชั้นสาม ก็พบว่ามีสองคนรอฉันอยู่ในนั้น ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย คนหนึ่งคือผู้ดูแลของกู้เซิ่งเหยียน และอีกคนก็คือตัวเขาเอง

จะบอกว่าฉันให้ความเคารพหรือยกย่องเขาน่ะเหรอ? คงไม่มี มีเพียงความไม่ชอบเท่านั้น

“คุณปู่กู้เรียกฉันมาที่นี่โดยเฉพาะ คงไม่ใช่แค่เพื่อมารำลึกความหลังหรอกใช่ไหมคะ?” ฉันพูดเย้ยหยันอย่างเย็นชา

เมื่อรู้ว่ากู้จือโม่ทำให้เขาโมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วมองดูร่างกายที่ร่วงโรยใกล้สิ้นลมของเขาในตอนนี้ ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของโรครุมเร้า

แม้จะอยู่ห่างออกไป ฉันก็ยังได้กลิ่นยาจากตัวเขา

น่าเสียดายที่กู้จือโม่ไม่ได้ทำให้เขาโมโหจนตายไปเสียเลย

คุณปู่กู้ขมวดคิ้ว พยายามใช้อำนาจของเขาเพื่อกดดันฉัน

ฉันหัวเราะเยาะในใจ หยิบกาน้ำชาขึ้นมา เทชาดื่มด้วยท่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 226

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ ฉันกลับรู้สึกสนุก หัวเราะเย้ยเบา ๆ ทำให้สีหน้าที่ไม่พอใจอยู่แล้วยิ่งดูแย่ลงไปอีกบางทีลูกน้องข้างกายเขาอาจรู้สึกว่าคำพูดของฉันล้ำเส้นไป และล่วงเกินคุณปู่กู้เกินงาม จึงได้ก้าวออกมาข้างหน้า“คุณหนูเฉียว ข้อเสนอของคุณท่านนั้นเอื้อเฟื้อมากกว่าคนส่วนใหญ่เยอะ คุณลองคิดดูสิครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาจะให้ได้มากขนาดนี้ไหม?”ฉันส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่”เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นกู้เซิ่งเหยียนเขานี่ช่างใจกว้างจริง ๆแต่ในความเป็นจริงล่ะ?มีแค่คนใกล้ชิดเขาเท่านั้นที่จะรู้ว่าความจริงเขาเป็นคนยังไงเงื่อนไขที่ดูดี?ก็ต้องดูด้วยว่าต้องแลกมากับอะไรบ้างการให้และผลตอบแทนที่มากมายเช่นนี้ สำหรับฉันแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากโจรกู้เซิ่งเหยียนไม่ชอบฉัน และฉันก็เกลียดเขายิ่งกว่าฉันอ่านเอกสารข้อตกลงตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกครั้งที่อ่านผ่านหนึ่งข้อ ความโกรธในใจก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเมื่ออ่านจบ ฉันก็ฉีกมันเป็นชิ้น ๆ ด้วยมือของตัวเอง!กู้เซิ่งเหยียนนิ่งอึ้งไป ก่อนที่ใบหน้าของชราจะขึ้นสีแดงจัดนั่นเพราะเขาโกรธ“คุณท่าน อย่าเพิ่งโกรธเลยครับ!” ลูกน้องรีบปลอบใจ“ใช่ค่ะ ต้องโกรธอยู่แล

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 227

    อัลเลนหมายถึงให้ฉันเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้างั้นเหรอ?ก่อนกลับมาจากเมืองอวิ๋นเฉิง ฉันลาออกจากงานของเขาไปแล้วการออกแบบเสื้อผ้าเป็นความฝันของฉัน แต่ตอนนั้นมีหลายอย่างที่ต้องรีบทำจนต้องพักความฝันไว้ก่อน แล้วตอนนี้ล่ะ?ฉันควรสานต่อไหมนะ?ฉันคว้าหมอนอิงมาหนึ่งใบ เอนตัวขึ้นมานั่ง มองออกไปนอกหน้าต่างทั้งคืนฉันนอนไม่หลับเลย พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น รู้สึกทั้งร่างกายอ่อนล้าและไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิดฉันเดินไปชงกาแฟในครัว หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูกลุ่มแชทของเพื่อนในห้องมีข้อความที่หลี่เสี่ยวอวี่และเจี่ยนซินแท็กฉันไว้ พวกเธอบอกว่าอีกหนึ่งสัปดาห์จะมีการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้า มีกรรมการชื่อดังมากมาย พวกเธอถามฉันว่าจะเข้าร่วมหรือเปล่าฉันกดลิงก์รายละเอียดการสมัครแข่งขันครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดโทรศัพท์ลงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงขณะเหม่อลอยอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นสายจากลั่วอี้ฝานฉันคิดว่าเขาคงโทรมาเรื่องปัญหาโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์จึงกดรับสาย “มีอะไรเหรอ?”“อยู่ไหน?”“อยู่ที่อะพาร์ตเมนต์”“วันนี้วันศุกร์ เธอไม่มีเรียนแล้วใช่ไหม?” เสียงของลั่วอี้ฝานฟังดูสบาย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 228

    ฉันง่วงมากจนไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน พอรู้ตัวอีกที เสียงของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นปลุกฉัน“ซิงลั่ว ตื่นเถอะ”ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างงงงวย มองไปรอบ ๆ อย่างสับสนดูเหมือนว่าเราจะจอดอยู่หน้าร้านเช่าชุดราตรี ฉันเปิดประตูรถลงไปถามว่า “มาที่นี่ทำไม?”“ลืมแล้วเหรอ?”เสียงของลั่วอี้ฝานดังขึ้นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ลืมจริง ๆ เหรอ?”“อ๋อ” ฉันพึ่งจะนึกออก หลังจากที่เขาโทรมาบอกตอนกลางวันว่า ตอนเย็นจะพาฉันไปเจอใครบางคน ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเราคือไปร่วมงานเลี้ยงไม่นานนัก เราก็เลือกชุดราตรีจากร้านเสื้อผ้าได้หนึ่งชุด พร้อมทั้งจัดแต่งทรงผมและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อออกมาจากร้านชุดราตรี รถเบนท์ลีย์สีดำสำหรับนักธุรกิจจอดรออยู่ตรงหน้าฉันลั่วอี้ฝานผายมือเชิญอย่างสุภาพ ฉันหันไปมองเขาพลางถาม “เปลี่ยนรถแล้วเหรอ?”“อืม” เขาดูเวลาที่นาฬิกา จากนั้นเปิดประตูรถ “เร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่ทันเอา”บนรถ เขาเพิ่งเล่าให้ฉันฟังว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เขาได้ขยายทีมงานเพิ่มขึ้น ทั้งจ้างคนขับรถและพนักงานใหม่ อีกทั้งยังเล่าถึงครั้งหนึ่งที่เขาไปเจรจาธุรกิจ แต่ถูกยกเลิกการนัดหมาย เพราะแต่งตัวไม่เป็นทางการและรถที่ใ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 229

    เมื่อแขกที่ผ่านไปมาต่างหยุด ทว่าไม่มีใครออกหน้ามาช่วยพูดแทนชายชราเลยแม้กระทั่งคนที่เห็นชัดเจนว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวเดินไม่ระวังเองชายชราถูกต่อว่าจนหน้าแดง แต่ยังคงกล่าวขอโทษต่อไป “ขอโทษนะ คุณหนู ชุดของเธอราคาเท่าไหร่ ฉันจะชดใช้ให้...”“ผู้หญิงคนนี้นี่น่ารังเกียจจริง ๆ” ลั่วอี้ฝานขมวดคิ้ว มองดูความวุ่นวายตรงหน้าฉันหันไปมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปยืนข้างชายชรา แล้วส่งยิ้มให้คุณหนูคนดังกล่าวพลางพูดว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณปู่นะคะ"จากนั้นฉันหันกลับไปเผชิญหน้าหญิงสาวที่แต่งหน้าอย่างประณีต พร้อมชี้ไปที่กล้องด้านบน “ที่นี่มีกล้องวงจรปิด อยากให้เราเรียกมาตรวจดูไหมว่าใครกันแน่ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ?”หญิงสาวมองฉันด้วยความประหลาดใจ “เธอเป็นใคร?”“ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญคือต้องเรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิด” ฉันหันไปส่งสัญญาณให้ลั่วอี้ฝานลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่พอเห็นฉันส่งสายตามาให้ เขาก็เข้าใจทันที ก่อนเรียกพนักงานคนหนึ่งมา “ไปตามผู้จัดการของพวกคุณมา”สมแล้วที่เป็นหุ้นส่วนของฉัน เข้าขากันได้ดีไม่มีที่ติฉันขยิบตาให้ลั่วอี้ฝานด้วยความพอใจเขาย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 230

    ฉันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบา ๆไม่นานนักฉันกับลั่วอี้ฝานก็เดินมาถึงห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีไพเราะบรรเลงไปทั่ว ผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดคุยหรือเดินถือแก้วแชมเปญไปมา ทั้งหมดต่างต้องการใช้โอกาสในงานเลี้ยงนี้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเองซึ่งฉันกับลั่วอี้ฝานก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันเพราะปกติฉันไม่ค่อยออกสังคม ลั่วอี้ฝานจึงพาฉันไปทำความรู้จักกับคนอื่น ๆเพิ่งแนะนำตัวกับบางคนเสร็จ ลั่วอี้ฝานก็เหลือบมองเป้าหมายอีกคนที่สะดุดตาเข้าอย่างจังเขาใช้ศอกสะกิดฉันเบา ๆ ฉันจึงมองตามสายตาของเขาแล้วพูดว่า "ประธานสวีก็มาเหมือนกัน ไปกันเถอะ เราไปทักทายเขาหน่อย"“ได้สิ”ลั่วอี้ฝานพาฉันเดินไปหาประธานสวี แต่พอเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเราฉันเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ และเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ฉันก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นนี่คงเป็นผลกระทบจากการช่วยเหลือครั้งนั้น“เธอคนนี้แหละ”หญิงสาวผู้ดีคล้องแขนชายคนหนึ่งไว้ แล้วชี้มาที่ฉันพร้อมกับทำเสียงออดอ้อนว่า “ประธานหลี่ต้องช่วยฉันเอาคืนเธอให้ได้นะคะ”“กล้านักนะ กล้ารังแกคนของหลี่ซู่คนนี้ได้ยังไง?” ประธานหลี่มอง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 231

    เมื่อพูดจบผู้อาวุโสหนานก็เดินจากไปสีหน้าของประธานหลี่ย่ำแย่จนเกินจะบรรยาย อีกไม่นานก็มีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้ช่วยเดินเข้ามาหาเขาและกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู จากนั้นเขาก็สะบัดมือออกจากมือของคุณหนูคนนั้นอย่างแรงเพราะสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ คุณหนูคนนั้นจึงถูกสะบัดจนเสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้นทันที แถมยังทำเครื่องดื่มบนโต๊ะข้าง ๆ หกใส่ตัวเองจนเปียกโชกไปทั้งชุดอีกเสื้อผ้าชุดใหม่ของเธอเปียกชุ่มจนดูน่าเวทนา ใบหน้าแสดงออกทั้งความอับอายและความโกรธ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้“นี่มันอะไรกัน! กล้าทำตัวแบบนี้ใส่คนอย่างผู้อาวุโสหนานอีก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอคงไม่ได้เฉียดเข้ามาในงานนี้หรอก!”ประธานหลี่กดเสียงต่ำ คำพูดที่ออกมาล้วนหยาบคายและน่ารังเกียจสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พวกเขา ประธานหลี่รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นคนสุภาพนุ่มนวล ยื่นมือพยุงคุณหนูขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ทำไมถึงไม่ระวังเลย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เสื้อผ้าก็เลอะหมดแล้ว เดี๋ยวผมพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”พูดจบเขาเรียกพนักงานเสิร์ฟมาถามหาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะพาหญิงสาวออกจากงานไปลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วพลางเอ่ยเบา ๆ “ผีเน่ากับโลงผุจริง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 232

    เมื่อเห็นว่าฉันปลอดภัย ลั่วอี้ฝานจึงลากร่างของคนที่สาดน้ำกรดใส่ฉันขึ้นมาฉันเดินเข้าไปใกล้พวกเขา ยกมือขึ้นถอดหน้ากากของคนร้ายทันใดนั้นเองใบหน้าของเฉียวซิงอวี่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน"เฉียวซิงอวี่?"ฉันจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำ เธอตะโกนด้วยเสียงสะอื้น “ทำไมเธอไม่ไปตายซะ! เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ!""แกทำลายพ่อฉัน ทำลายครอบครัวฉันจนพังพินาศ!""เฉียวซิงลั่ว นางสารเลว! ไปตายซะ!""ฉันไม่น่าจะใช้แค่น้ำกรดสาดแก ฉันควรจะเอามีดแทงแกให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!"ใบหน้าฉันเริ่มเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวซิงอวี่ เมื่อเธอพูดจบฉันก็ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มีฉันใส่แรงทั้งหมดลงไปในฝ่ามือนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเฉียวซิงอวี่แดงก่ำและบวมขึ้นทันที หมวกที่เธอสวมหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผมยาวสยายฉันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเหมือนกับฉันเมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ ฉันเคยรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากแผนการของเฉียวเจี้ยนกั๋ว แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจที่ครั้งนั้นฉันไม่ลังเลที่จะลงมือสำหรับคนในตระกูลเฉียว นอกจากคุณ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 233

    ฉันโทรหาหลี่เหม่ยอิงครั้งแรกเธอไม่รับ ฉันจึงโทรซ้ำอีกครั้งเสียงของหลี่เหม่ยอิงเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเธอรับสาย “เฉียวซิงลั่ว นางเด็กสารเลว พ่อเธอตายเพราะเธอแล้ว ยังจะโทรมาหาฉันอีกทำไม!”ฉันไม่ได้ตอบอะไร ทว่าใช้เล็บที่เพิ่งทำใหม่ขึ้นมาแตะใบหน้าที่แดงก่ำจากการถูกตบของเฉียวซิงอวี่เฉียวซิงอวี่ร้องไห้ออกมาทันที “แม่คะ ช่วยหนูด้วย!”หลี่เหม่ยอิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที “ซิงอวี่เหรอ? เฉียวซิงลั่ว เธอทำอะไรลูกสาวฉัน!”“หึ” ฉันหัวเราะเยาะ เอาโทรศัพท์แนบหู “คุณป้าพูดผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ฉันที่ทำอะไรน้องสาวตัวเอง คุณป้าน่าจะถามลูกสาวที่แสนดีมากกว่าว่าเธอทำอะไรฉัน”“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง... ไม่สิ” ฉันหยุดคิดและเผยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้าเก้าโมง เจอกันที่บ้านเดิมตระกูลเฉียว” พูดจบ ฉันก็ตัดสายทันที…… ที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เสี่ยงลั่วอี้ฝานมัดมือและเท้าของเฉียวซิงอวี่ แล้วโยนเธอไว้ที่ระเบียงเฉียวซิงอวี่ยังคงร้องไห้เสียงดัง “เฉียวซิงลั่ว ปล่อยฉันนะ! เธอไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินไปที่ครัว เพื่อหยิบผ้าขี้ริ้วออกมา

Bab terbaru

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 370

    “อย่าให้เธอหนีไปได้!”เสียงคำรามของหัวหน้าชายดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และแฝงความเร่งรีบอย่างชัดเจนแต่ฉันรู้ดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของฉันฉันพุ่งเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลังเล โถมตัวเข้าหาหน้าต่างทันที ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเปิดบานหน้าต่างที่หนักและเก่าไปสุดแรงสายลมเย็นพัดกระทบใบหน้า พร้อมกับกลิ่นอายของค่ำคืน ทำให้ฉันลืมความหวาดกลัวและความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันตัวเตรียมหนีไป แต่ทันใดนั้นเอง ปลายเสื้อของฉันก็ถูกกระชากเอาไว้!“ปล่อยฉันนะ!”ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ พยายามดิ้นรนสุดแรง แต่แรงที่จับฉันไว้นั้นแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ราวกับจะดึงฉันกลับเข้าไปในห้องอย่างไม่ปรานีในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด ฉันเหวี่ยงมีดปอกผลไม้ในมือออกไปอย่างสุดแรง แม้ว่าจะไม่ได้แทงเข้าเป้าตรง ๆ แต่คมมีดก็เฉือนเข้าที่แขนของเขา ทิ้งรอยแผลลึกไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลซึมออกมา!ความเจ็บปวดทำให้เขาเผลอคลายมือโดยไม่รู้ตัว ฉันฉวยโอกาสนี้สะบัดตัวหลุดจากการควบคุม แล้วกระโจนออกไปทันที ร่างของฉันลอยอยู่กลางอากาศ แขวนตัวอยู่เหนือพื้นด้านล่าง!‘กระโดดเร็ว!

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 369

    ในตอนนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของฉันอย่างกะทันหันฉันต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไว้ เพื่อรอโอกาสที่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้แต่ฉันก็นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือพวกเขากำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันฉันเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ไร้ที่พึ่งพาเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ จำเป็นต้องรักษาความสงบและใช้สติปัญญาอย่างถึงที่สุดฉันกวาดตามองชายเหล่านั้นอย่างเงียบ ๆ โดยประมาณแล้วดูเหมือนว่าจะมีเพียงสามคนฉันคำนวณในใจเงียบ ๆ หากจำเป็นต้องลงมือ อย่างน้อยฉันต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาเสียก่อนดังนั้น ฉันจึงจงใจเพิ่มระดับเสียง ทำท่าเหมือนกำลังหาโทรศัพท์ไปด้วย ขณะเดียวกันก็ใช้หางตาสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขาอย่างระมัดระวัง“ขอโทษค่ะ ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของฉันจะอยู่ในห้องนั่งเล่น รอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมา”พูดจบ ฉันค่อย ๆ หมุนตัวทำท่าเหมือนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่แท้จริงแล้ว ฉันใช้ปลายเท้าเกี่ยวเข้ากับกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ตรงขอบประตู กระถางนั้นเป็นเพียงของตกแต่งในชีวิตประจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 368

    ชายคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ยังคงแฝงไปด้วยความหนักแน่นฉันพยักหน้า พยายามทำให้เสียงของตัวเองฟังดูนิ่งสงบที่สุด“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“พวกเราเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปล้นในช่วงเช้าวันนี้ เรามีบางเรื่องที่ต้องสอบถามคุณเพิ่มเติม”ชายที่เป็นผู้นำยื่นบัตรประจำตัวให้ดู น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังที่ไม่อาจมองข้ามได้ฉันชะงักไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเหตุปล้นที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา จะโยงมาถึงตัวฉันได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฉันก็พยายามทำตัวให้สงบที่สุด ก่อนจะขยับตัวหลบไปด้านข้าง เตรียมให้พวกเขาเข้ามาในบ้านแต่ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ดึกขนาดนี้ ตำรวจจะมาหาฉันถึงบ้านได้อย่างไรกัน?ฉันหยุดเดินทันที ความระแวงพุ่งขึ้นสุดขีด สายตากวาดมองไปมาระหว่างชายเหล่านั้น พยายามจับพิรุธจากแววตาของพวกเขาในตอนนั้นเอง เบาะแสเล็กน้อยบางอย่างก็สะดุดตาฉันชายที่เป็นหัวหน้าถึงแม้จะแสดงบัตรออกมา แต่ในสายตาที่พร่ามัวของฉัน บัตรใบนั้นดูเหมือนจะมีแสงสะท้อนที่ผิดปกติ ไม่เหมือนกับวัสดุพลาสติกทั่วไปที่ควรจะเป็นเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 367

    สำหรับกู้จือโม่ ความรักของเขามีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อไปบางที สักวันหนึ่ง เขาอาจยอมทิ้งฉันเพื่อครอบครัวของเขาก็เป็นได้คิดมาถึงตรงนี้ ฉันเผลอแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความปล่อยวางเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเก็บข้าวของเสร็จล่วงหน้าแล้วและออกเดินไปตามทางแสงแดดลอดผ่านกลุ่มเมฆบางเบา โปรยเป็นลวดลายลงบนพื้น เติมความอบอุ่นให้กับเช้าวันนี้ที่เงียบเหงาขึ้นมาเล็กน้อยฉันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปลึก ๆ พยายามปล่อยความหม่นหมองของเมื่อคืนออกไปทั้งหมด และเตรียมตัวต้อนรับวันใหม่บนท้องถนน ผู้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างก้าวเดินอย่างเร่งรีบและวุ่นวายกับชีวิตของตัวเองฉันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ในใจกลับมีทิศทางที่ชัดเจน ฉันจะมุ่งมั่นกับชีวิตและหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้น และจะไม่ให้ความรู้สึกมาผูกมัดฉันอีกต่อไปขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบรอบตัวฉันหันกลับไปมอง เห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาฉันด้วยท่าทางตื่นตระหนก ขณะที่ด้านหลังของเขามีกลุ่มชายฉกรรจ์สีหน้าดุดันไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด เห็นได้ชัดว

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 366

    เมื่อหลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดขึ้น ฉันหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันทีเดินอยู่บนถนนอันเงียบสงัด ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กหนุ่มที่เคยอ่อนโยนและน่ารักในวันวาน กลับมาทะเลาะกันเพราะเรื่องของความรู้สึกในตอนนี้ดูเหมือนจะสามารถสืบทอดกิจการของครอบครัวได้ แต่กลับสูญเสียอิสรภาพในการเลือกความรักของตัวเองไม่รู้ว่าเดินมาได้นานแค่ไหน ฉันก็พบว่าตัวเองมาถึงริมแม่น้ำแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำพอดีสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเบา ๆ นำพาความเย็นเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยพัดพาความหงุดหงิดในใจให้จางหายไปด้วยฉันเดินทอดน่องเพียงลำพังบนถนนที่มีแสงไฟสลัว ในหัวยังคงฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าความรัก ความรับผิดชอบ ผลประโยชน์ของครอบครัว... คำเหล่านี้สานกันเป็นใยซับซ้อนในความคิดของฉัน ทำให้ยากที่จะหลุดพ้นบางเรื่องฉันเคยผ่านมันมาแล้ว แต่บางเรื่องกลับทำให้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน แม้ว่าจะมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดีฉันหยุดเดิน เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 365

    สีหน้าของลู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน เขามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะรีบหลบสายตากลับไป ราวกับกำลังชั่งใจและตัดสินใจบางอย่างในใจฉันรับรู้ได้ถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจของเขา ไม่ใช่แค่เพราะหลินเฉี่ยนที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังเป็นเพราะทางเลือกที่เขาเคยทำ รวมถึงความไม่แน่นอนต่ออนาคตของตัวเอง“หลินเฉี่ยน เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ”น้ำเสียงของลู่เฉินพยายามรักษาความสงบ แต่ความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังที่ซ่อนอยู่กลับไม่อาจปกปิดได้“ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุยเรื่องนี้ เราหาเวลาคุยกันให้ดีอีกทีได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลินเฉี่ยนไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่เธอดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตรงนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเรื่องนี้ เธอจึงสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง“ก็ได้ แต่ฉันต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากคุณตอนนี้เลย เกี่ยวกับการหมั้นของเรา คุณคิดยังไงกันแน่?”ลู่เฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างช้า ๆ ในที่สุด“หลินเฉี่ยน ผมรู้ว่าฉันติดค้างคำอธิบายกับคุณ เกี่ยวกับการหมั้น ผมไม่เคยคิดจะหนี เพียงแต่... ผมต้องใช้เวลาเพื่อจัดการความคิดของตัวเอง ธุรกิจของครอบครัว อนาคตของเราสักหน่อย เร

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 364

    ในคำพูดของเขา มีทั้งความจำใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ความคิดถึงอดีต และความสับสนต่ออนาคตที่ไม่แน่นอนฉันตระหนักได้ว่าหนทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราต่างก็ใช้วิธีของตัวเองในการประนีประนอมกับโลกใบนี้ และพูดคุยกับตัวเองภายในใจฉันแตะหลังมือของเขาเบา ๆ อย่างแผ่วเบา มอบกำลังใจให้เขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“จริง ๆ แล้ว ทุกเส้นทางชีวิตล้วนมีคุณค่าและความหมายในแบบของตัวเอง การที่นายรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว นั่นก็เป็นความรับผิดชอบและความกล้าหาญในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องการแต่งงาน แม้ว่าตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่ชีวิตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ใครจะรู้ได้ล่ะว่า คู่ชีวิตในอนาคตอาจกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนายก็ได้?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาฉายแววคลายกังวลขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ อย่างไม่รู้ตัว“เธอพูดถูกนะ เฉียวเฉียว บางทีฉันอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”ท่ามกลางบทสนทนา กลิ่นหอมของกาแฟอบอวลไปทั่วอากาศ ราวกับพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลามัธยมที่ไร้กังวลอีกครั้ง“จริง ๆ แล้ว นายอาจรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้เหมือนกรงขัง แต่พวกเราที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 363

    ในตอนนั้น หัวใจของฉันเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ยังต้องฝืนยิ้มต่อหน้าผู้คน และเล่นตามบทบาทในพิธีศพอันแสนไร้สาระทุกครั้งที่ฉันมองแผ่นหลังของไอ้สารเลวนั่น ความโกรธและความเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เอ่อล้นขึ้นมาในใจคนที่ควรจะเป็นที่พึ่งพาที่มั่นคงที่สุดของฉัน กลับเลือกที่จะใช้การจากไปของคุณย่าเพื่อตอบสนองความต้องการเห็นแก่ตัวของตัวเอง ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการความเข้าใจและการสนับสนุนมากที่สุดหลังจากพิธีศพจบลง ฉันเดินวนเวียนอยู่เพียงลำพังในสวนหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นเยียบและเงียบเหงาเป็นพิเศษฉันหวนคิดถึงทุกช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นที่เคยใช้ร่วมกับคุณย่า รอยยิ้มของเธอ คำสอนของย่า ราวกับยังคงก้องอยู่ข้างหูน้ำตาไหลรินอย่างเงียบงันในช่วงเวลานี้ ความคับแค้น ความโกรธ และความไม่ยอมรับทุกอย่าง ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุดแต่ตอนนี้ คนที่เจ็บปวดจริง ๆ คือเฉิงเฉิง ฉันรู้สึกทรมานใจเหลือเกินเห็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยากหลังจากการจากไปของคุณย่า ฉันเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันฉันสูดลมหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง แล้วหันไปมองเฉิงเฉิงด้วยความต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 362

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ เฉียวเฉียว การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือน แต่เช่นเดียวกับที่เธอกล่าวไว้ เราทุกคนจำเป็นต้องหาหนทางที่จะก้าวออกจากความเศร้าและกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง คุณทำได้ และฉันเชื่อว่าฉันก็ทำได้เช่นกัน”เสียงของเฉิงเฉิงเต็มไปด้วยความหนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าดวงตาจะยังคงแดงก่ำ แต่ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ“ฉันจำได้ว่า คุณย่าเคยบอกฉันว่า ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง เราจะได้พบเจอผู้คนมากมาย และก็ต้องลาจากกับหลายคนเช่นกัน การจากไปของแต่ละคนมีไว้เพื่อให้เราซาบซึ้งกับคนที่ยังอยู่เคียงข้างเรามากขึ้น และให้เห็นคุณค่าของเส้นทางชีวิตข้างหน้าของตัวเอง ฉันคิดว่า ตอนนี้ย่าคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง มองฉันด้วยความอ่อนโยน และหวังให้ฉันเข้มแข็งก้าวต่อไป”ฉันจับมือเธอเบา ๆ มอบกำลังใจให้เธอโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“เฉิงเฉิง คำพูดของย่าเธอถูกต้องแล้ว เราต้องก้าวต่อไปโดยมีความรักของเธออยู่กับเรา พรุ่งนี้เราจะเผชิญกับพิธีศพด้วยกัน แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็นับเป็นการอำลาย่าของเธอ และเป็นก้าวสำคัญของการเติบโตของเราเอง”คืนนั้น เราคุยกันมากมาย ตั้งแต่ความทรง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status