พริมายังจำคืนคริสต์มาสในปีนั้นได้ดี ทั้งเธอและเขารวมถึงเพื่อนที่เธอได้รู้จักระหว่างเรียนและเพื่อนของเขากำลังเฉลิมฉลองกัน รพีพัฒน์ก็จูงมือเธอออกจากกลุ่มไป ในคืนที่มีความหนาวเย็นเป็นนิจ เสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมเสียงพลุมากมายถูกจุดขึ้นพร้อมกัน ชายหนุ่มก็ขอเธอเป็นแฟน! แม้ว่าเสียงทุกอย่างจะดัง แต่เธอกลับได้ยินคำพูดเขาชัดเจน
‘เป็นแฟนกับพี่นะครับ’
อากาศที่หนาวเย็นในตอนแรกกลายเป็นอุ่นซ่านทันใดทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มอ่อนโยนพูดประโยคนั้น เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อมด้วยทุกอย่างอย่างเขา จะขอผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอเป็นแฟน
คริสต์มาสวันนั้นเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิต มากกว่าวันที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพ่อเสียอีก และเธอก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับเขาอย่างไม่ลังเล
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เธอและเขาก็รู้จักและเป็นคนรักกันนานนับ 6 ปีแล้ว ยิ่งหวนคิดถึงวันวานเก่า ๆ ยิ่งตอกย้ำว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดที่ตอบตกลงคบหากับเขา ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มแววตาทอประกายความสุข ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นในสิ่งที่กำลังจะตัดสินใจ
“พี่พีรักเธอมากขนาดนี้ เธอจะกลัวอะไรอีกพริม รู้จักกันมาก็หกปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพี่พีก็แสดงให้เธอเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเขารักเธอคนเดียว สายตาก็มองแค่เธอ เมื่อเป็นแบบนี้เธอยังจะมัวรอ มัวลังเลอะไรอีก ทำตามความรู้สึกตัวเองได้แล้ว ส่วนเรื่องครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัวก็ปล่อยไปตามแต่ที่มันจะเป็นเถอะ”
พริมาพูดกับตัวเอง พลางนึกถึงคนในครอบครัวด้วยใบหน้าเฉยเมยแล้วหัวเราะหยัน แค่คิดว่าคนพวกนั้นรู้ว่าเธอเป็นคนรักของรพีพัฒน์นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทายาท ‘เลิศเกียรติคุณ’ ก็เห็นภาพเรื่องราวความวุ่นวายออกแล้ว แต่ช่างเถอะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอเป็นฝ่ายถูกกดขี่และยอมมาโดยตลอด ด้วยไม่อยากมีปัญหา แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม หากใครกล้ายุ่งกับคนรักของเธอ เธอจะอาละวาดให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย ให้มันรู้กันไป ว่าของของเธอใครจะมาแย่งชิงไปไม่ได้!
งานนี้ต่อให้ต้องเป็นนางร้ายในสายตาทุกคน เธอก็จะไม่ยอมให้ใครแย่งรพีพัฒน์ไป ไม่สิ สายตาคนอื่นก็มองเธอเป็นนางร้ายอยู่แล้วนี่ แล้วเธอจะไปสนใจทำไมล่ะ? เหอะ
งานนี้ต่อให้เสียทองท่วมหัวเธอจะไม่ยอมเสียผัวให้ใคร!
“อุ๊ย! ไม่ได้สิ ทองมันแพง! ช่างเถอะ ไม่ว่าจะทองหรือผัวฉันก็ไม่ยอมเสียมันให้ใครทั้งนั้นแหละ ฉันยอมมามากพอแล้ว นับจากนี้ฉันจะไม่ยอมอีกต่อไป” พริมาพูดออกมาอย่างมาดมั่นก่อนจะรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้วออกจากห้องน้ำไปนอนกอดกับชายคนรักบนเตียงอย่างมีความสุข
รถหรูแล่นเข้าไปจอดในรั้วคฤหาสน์หลังงามของตระกูลเลิศเกียรติคุณ พริมามองไปรอบบริเวณคุ้นตาอย่างคนคุ้นเคยไม่ได้มีแววตาตื่นเต้นแต่อย่างใด เนื่องจากเธอมาที่บ้านของรพีพัฒน์บ่อย ๆ ใช่แล้วละ ทางครอบครัวของชายหนุ่มรับรู้ว่าบุตรชายคนเดียวของบ้านมีคนรัก เเละสั่งให้บุตรชายพาแฟนสาวมาเปิดตัวตั้งนานแล้วครั้งแรกที่พริมาได้เจอกับครอบครัวของรพีพัฒน์คือวันที่ชายหนุ่มสำเร็จปริญญาโท ในวันเดียวกันเจ้าตัวได้แนะนำหญิงสาวกับครอบครัวให้รู้จักกันในฐานะคนรักทันทีในตอนนั้นพริมาตื่นเต้นมากทั้งยังกังวล เกรงว่าจะถูกครอบครัวของชายหนุ่มตั้งแง่รังเกียจ แต่เมื่อได้รู้จักกันจริง ๆ แล้วถึงได้รู้ว่า เป็นเธอคิดมากเกินไป เพราะนอกจากครอบครัวของรพีพัฒน์จะไม่รังเกียจเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูต่อเธออย่างมาก หนำซ้ำยังหวงเธอกับบุตรชาย ราวกับว่าพริมาเป็นบุตรสาวอีกคนของครอบครัวเลิศเกียรติคุณเลยทีเดียว“คิดอะไรอยู่ครับ” รพีพัฒน์ถามขึ้นหลังจอดรถหน้าประตูทางเข้าบ้านพริมาหันมาส่งยิ้มหวานพร้อมตอบว่า “คิดถึงตอนที่ได้รู้จักกับคุณพ่อคุณแม่พี่พีครั้งแรกค่ะ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ พวกท่านน่ารักและดีกับพริมเสมอเลยค่ะ”“ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่
ด้านพริมาหลังจากเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ทักทายมารดาของชายคนรักทันที แต่ยังไม่ทันได้คุยกันมาก รพีพัฒน์ก็เดินตามเข้ามาพร้อมทั้งมองค้อนทั้งแฟนสาวและมารดาตนทันที“มองแม่แบบนี้หมายความว่ายังไงกันตาพี นี่แกหวงน้องกับแม่เหรอ ฉันเป็นแม่แกนะ!”“แต่คนที่แม่กอดอยู่เป็นแฟนผมนะครับ!” ชายหนุ่มประท้วงเล็กน้อย รู้ว่าเป็นแม่แต่มันก็อดหวงไม่ได้ ก็ใครใช้ให้แฟนเขาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้กันเล่า มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะหวงเอาไว้กอดไว้หอมคนเดียว...คุณรพีกลอกตามองบนเล็กน้อยให้กับความขี้หวงของบุตรชาย นิสัยแบบนี้คงเอามาจากใครไม่ได้นอกจากคุณพิพัฒน์บิดาของชายหนุ่มเอง “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ เหมือนพ่อแกไม่มีผิด”“อ้าวคุณ! เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ ผมอยู่ของผมดี ๆ นะ” คุณพิพัฒน์ถามอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งคุณรพีก็ตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่รู้แหละ คุณเป็นพ่อลูกกันก็ต้องเหมือนกันนั่นแหละ ถูกแล้ว”“แต่ผมก็ลูกแม่เหมือนกันนะครับ”“หยุด! ฉันบอกว่าแกเหมือนพ่อของแกก็ต้องเหมือนสิ ฮึ่ม! หงุดหงิดจริง ๆ ไม่น่ารักว่าง่ายเหมือนหนูพริมของฉันเลย” คุณรพีพูดเสียงเขียวใส่บุตรชายก่อนหันมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างพริมา“ว่าแต่ว่าหนูพริมล
พริมาเปิดประตูเข้าไปในห้องภายในคอนโดมิเนียมของเธอ พลันนั้นกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยเข้ามาในโพรงจมูก หญิงสาวสูดกลิ่นหอมแสนอร่อยชวนหิวพาลให้พยาธิในท้องส่งเสียงร้องเบา ๆ เธอจัดการล็อกประตูแล้วเดินตามกลิ่นหอมไปยังโซนของห้องครัว เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววยืนอยู่หน้าเตา รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย มือบางวางกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนเดินเข้าไปใกล้แล้วสวมกอดเอวสอบอย่างเต็มรักคนถูกกอดตอบรับสัมผัสอ่อนโยนอย่างเต็มใจก่อนถามเสียงนุ่ม “กลับมาแล้วเหรอครับ หิวไหม นี่พี่ทำของโปรดพริมเลยนะ”“อืม... ตอนแรกพริมก็ไม่หิว แต่พอกลับมาได้กลิ่นอาหารหอม ๆ ฝีมือคนรักแล้ว พริมก็หิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ” พริมาเอี้ยวตัวแหงนหน้ามองคนตัวสูงจากด้านข้างโดยที่แขนยังกอดเอวสอบอยู่รพีพัฒน์หลุบตามองคนตัวเล็กด้วยสายตารักใคร่ ปากหยักแย้มยิ้มกว้างจนพริมาใจเต้นแรง ไม่ชินสักที ขนาดอยู่ด้วยกันออกบ่อย เธอก็ไม่เคยชินกับรอยยิ้มพิฆาตของเขาได้เลย“หยุดส่งยิ้มพิฆาตนารีมาให้พริมได้แล้วค่ะ หัวใจพริมทำงานหนักเต้นแรงจะตายอยู่แล้ว” ริมฝีปากบางกระจับยู่ใส่คนในอ้อมแขน กระนั้นแววตากลับระยิบระยับแห่งความสุข“ก็พี่อยากให้พริมรั
พริมาที่เร่งรีบหนีอายเข้ามาในห้องก็หุบยิ้มไม่ได้ มือเล็กยกขึ้นทาบหน้าอกเพื่อจับจังหวะการเต้นของหัวใจ“พี่พีบ้า! ไม่แผ่วลงเลยรึไง จีบกันได้ทุกวัน คนเขินจะตายอยู่แล้วเนี่ย” หญิงสาวกัดปากพูดกับตัวเองทั้งเขินทั้งอาย กระนั้นกลับพึงพอใจกับพฤติกรรมที่เขามีต่อเธอที่สุด พริมาคิดถึงความเสมอต้นเสมอปลายที่รพีพัฒน์มีให้ ตั้งแต่วันแรกที่ตกลงเป็นแฟนกันจนถึงปัจจุบันนี้ ความรักความเอาใจใส่ของเขามันไม่มีลดลงเลย นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น จนตอนนี้พริมาเข้าใจแล้วว่า คำพูดที่ใครหลายคนเอ่ยไว้ว่าการมีแฟนที่จีบเราในทุก ๆ วันนั้นราวกับถูกรางวัลที่หนึ่ง เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะว่าคุณจะมีความสุขในทุก ๆ วันได้อย่างไรละ!คิดดูสิว่าคู่รักหลายคู่ที่เลิกรากันไปมันเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่ความหวานที่มีมันลดน้อยลงไปหรือไร? จริงอยู่ที่ปัจจัยในการเลิกรามันมีหลายอย่าง แต่การเติมความหวานให้กันและกันมันก็ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ไม่ใช่เหรอ?เพราะฉะนั้นพริมาจึงรู้สึกโชคดีและมีความสุขมากที่รพีพัฒน์จีบเธอในทุก ๆ วัน เพราะนอกจากมันจะทำให้มีความสุขมากแล้ว ยังกระชุ่มกระชวยเหมือนย้อนไปในช่วงที่เพิ่งคบกันแรก ๆ ด้วยนะ ทั้งที่คบหากันมานานกว่า 6
แกร็ก!เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกก่อนเรือนร่างสมบูรณ์แบบสมชายชาตรีของรพีพัฒน์จะก้าวเท้าออกมา พริมาไล่สายตาตั้งแต่ปลายเท้าค่อย ๆ เลื่อนไปข้างบนเอวสอบถูกพันไว้ด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ ซิกแพ็คเป็นลูก ๆ แผงอกแน่นปึก ลำแขนเป็นมัด ๆ มีหยดน้ำเกาะพราวตามร่างกาย ยิ่งรพีพัฒน์สะบัดศีรษะไปมาไล่หยดน้ำพร้อมทั้งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกชื้นไปด้วยก็ยิ่งเซ็กซี่!So Hot! อึก! พริมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คิดถึงบทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ยามทั้งสองใช้เวลาร่วมกันก็ยิ่งร้อนผ่าวไปทั้งร่างจะวูบ!ความรู้สึกร้อนรุ่ม วูบวาบ ปฏิกิริยาแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นของร่างกาย ไม่ต้องให้ใครบอกก็รู้ด้วยตัวเอง ว่าเธอ...กำลังมีอารมณ์! “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ” นานนับนาทีกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ“อืม” ชายหนุ่มรับคำในลำคอมองหญิงสาวด้วยสายตารู้ทัน ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยแล้วกระชากยิ้มมุมปากอ่านกินเขาอยู่แน่ ๆ... พริมาเดินเข้าไปใกล้พร้อมแย่งผ้าขนหนูผืนเล็กมาถือไว้ จับจูงมือชายหนุ่มไปนั่งบนเตียง แล้วจัดการเช็ดกลุ่มผมดกด่ำให้เขาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนวดขมับไปด้วยในตัว เพื่อให้ชายหนุ่มได้ผ่อนคลายบ้างมือเล็กค่อย ๆ เลื่อนจากขมับมาที่ต้น
ภายในห้องประชุมบริษัทเลิศลักษณ์ จอโปรเจคเตอร์กำลังฉายภาพชุดรูปแบบใหม่ ของ Project everyday look ซึ่งถูกออกแบบโดยทีมออกแบบของพริมาบริษัท เลิศลักษณ์ จำกัด เป็นบริษัทของบิดาหญิงสาวเอง ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้า ผลิต และจัดจำหน่าย โดยมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเอง ชื่อแบรนด์ว่าเลิศลักษณ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศ เพราะมักจะมีคอลเล็กชันใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอร่างบอบบางของพริมายืนอยู่หน้าห้องประชุมพร้อมพรีเซนต์โพรเจกต์ใหม่ของบริษัทอย่างคล่องแคล่ว โดยคอนเซ็ปต์ของโพรเจกต์นี้คือ ‘ทันสมัย สวมใส่สบาย ใส่ได้ทุกวัน’ ยิ่งกล่าวใบหน้าสวยยิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ“อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปไกลมาก เต็มไปด้วยการแข่งขัน ทุกคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบ ซึ่งในแต่ละวันจะมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องชุด จะดีสักแค่ไหนถ้าเราสามารถตัดปัญหาความยุ่งยากใจ และลดระยะเวลาในการเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ในแต่ละวันออกไปได้ และที่ทุกท่านเห็นด้านหน้าอยู่นี้คือสิ่งที่ดิฉันพูดถึงค่ะ”“เธอจะบอกว่า โปรเจกต์ชุดที่เธอกำลังนำเสนออยู่นี้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้คน
ณ คอนโดมิเนียมสุดหรูย่านกลางเมือง ภายในห้องห้องหนึ่งมีสองร่างเปล่าเปลือยตระกองกอดแนบชิดผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างถึงพริกถึงขิง อุณหภูมิภายในห้องร้อนผ่าวประหนึ่งอยู่ในกองเพลิงทั้งที่แอร์ดิชันเนอร์เปิดอยู่ที่ 23 องศา เสียงครวญครางสุขสมคละเคล้าเสียงหอบเหนื่อยดังก้องห้อง ก่อนที่หญิงสาวจะเป็นฝ่ายยกธงขาวยอมแพ้ไป “อื้อ พอแล้วค่ะ พริมเหนื่อย” ไม่พูดเปล่า เจ้าของเรือนร่างอวบอิ่มงดงามยกมือผลักยันแผงอกคนตัวสูงไว้พร้อมส่งสายตาออดอ้อน ทว่าไหนเลยเรือนร่างสูงที่คร่อมกายงามอยู่ตอนนี้จะเชื่อฟัง“อีกครั้งเดียวนะครับคนดี พี่ยังไม่อิ่มเลย นะครับ” เสียงทุ้มนุ่มลึกชวนเสน่หากล่าวออดอ้อนโน้มใบหน้าคลอเคลียดวงหน้างามใต้ร่างตนไม่ผละหนี“แต่ครั้งเดียวของพี่พีมันสี่ครั้งแล้วนะคะ ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ตายอดตายอยากมาจากไหนคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดจนคู่สนทนาอดไม่ได้ต้องกดจูบหนัก ๆ ที่ริมฝีปากบางช่างเจรจาหนึ่งที“อดอยากมาจากพริมไงครับ ก็ใครใช้ให้พริมทิ้งพี่ไปทำงานต่างจังหวัดนานนับอาทิตย์เล่า รู้ไหมเจ็ดวันที่เราไม่ได้เจอหน้ากันพี่ทรมานขนาดไหน ปกติเวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว”“แล้วทำไมไม่ช่วยตัวเองล่ะค
เพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมาพวกตนจะมีชีวิตเล็ก ๆ อีกหนึ่งชีวิตที่ต้องรับผิดชอบดูแล แม้ว่าเขาจะพร้อมมากก็ตาม แต่ของแบบนี้ใช่ว่าเขาพร้อมแล้วฝ่ายหญิงจะพร้อมด้วย อีกทั้งตอนนี้ทั้งตนและคนรักยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่อดทนอดกลั้นสวมถุงยางอนามัยต่อไป“เลิกมองได้แล้วค่ะ มองทุกครั้งไม่เบื่อหรือไงคะ” หญิงสาวพูดแกมขำชายหนุ่มปรายตามองคนบนเตียงที่ตอนนี้สวมผ้าขนหนูปิดนวลเนื้อขาวผ่องชวนลิ้มลองเรียบร้อยแล้วก็ทอดถอนใจออกมากล่าวว่า “จะให้เบื่อได้ยังไงครับ ก็นี่มันลูก ๆ ของพี่ทั้งนั้นเลยนะ พี่ฆ่าลูกตัวเองนะครับ มันก็ต้องยืนไว้อาลัยกันหน่อยสิครับ”จบคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็หัวเราะร่าออกมาอย่างไม่เก็บอาการ เล่นเอาเจ้าของคำพูดถลึงตาใส่เป็นยกใหญ่“ไม่ตลกเลยนะครับ ถ้าพริมยังไม่หยุดขำรอบหน้าพี่ไม่ใส่ถุงยางนะบอกเลย พี่จะปล่อยลูก ๆ ของพี่เข้าไปในท้องพริมทุกหยาดหยดเลย ดีไหมครับ” ใบหน้าหล่อเหลาทำสีหน้าขึงขังจริงจังกอปรกับเสียงเข้ม ๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้หญิงสาวกลัวเลยสักนิด“แหม... พูดอย่างกับพี่พีไม่เคยปล่อยในพริมอย่างนั้นแหละ”“มันไม่เหมือนกัน! ทุกทีที่พี่ปล่อยใน พริมอยู่ในระยะป
ภายในห้องประชุมบริษัทเลิศลักษณ์ จอโปรเจคเตอร์กำลังฉายภาพชุดรูปแบบใหม่ ของ Project everyday look ซึ่งถูกออกแบบโดยทีมออกแบบของพริมาบริษัท เลิศลักษณ์ จำกัด เป็นบริษัทของบิดาหญิงสาวเอง ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้า ผลิต และจัดจำหน่าย โดยมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเอง ชื่อแบรนด์ว่าเลิศลักษณ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศ เพราะมักจะมีคอลเล็กชันใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอร่างบอบบางของพริมายืนอยู่หน้าห้องประชุมพร้อมพรีเซนต์โพรเจกต์ใหม่ของบริษัทอย่างคล่องแคล่ว โดยคอนเซ็ปต์ของโพรเจกต์นี้คือ ‘ทันสมัย สวมใส่สบาย ใส่ได้ทุกวัน’ ยิ่งกล่าวใบหน้าสวยยิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ“อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปไกลมาก เต็มไปด้วยการแข่งขัน ทุกคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบ ซึ่งในแต่ละวันจะมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องชุด จะดีสักแค่ไหนถ้าเราสามารถตัดปัญหาความยุ่งยากใจ และลดระยะเวลาในการเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ในแต่ละวันออกไปได้ และที่ทุกท่านเห็นด้านหน้าอยู่นี้คือสิ่งที่ดิฉันพูดถึงค่ะ”“เธอจะบอกว่า โปรเจกต์ชุดที่เธอกำลังนำเสนออยู่นี้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้คน
แกร็ก!เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกก่อนเรือนร่างสมบูรณ์แบบสมชายชาตรีของรพีพัฒน์จะก้าวเท้าออกมา พริมาไล่สายตาตั้งแต่ปลายเท้าค่อย ๆ เลื่อนไปข้างบนเอวสอบถูกพันไว้ด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ ซิกแพ็คเป็นลูก ๆ แผงอกแน่นปึก ลำแขนเป็นมัด ๆ มีหยดน้ำเกาะพราวตามร่างกาย ยิ่งรพีพัฒน์สะบัดศีรษะไปมาไล่หยดน้ำพร้อมทั้งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกชื้นไปด้วยก็ยิ่งเซ็กซี่!So Hot! อึก! พริมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คิดถึงบทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ยามทั้งสองใช้เวลาร่วมกันก็ยิ่งร้อนผ่าวไปทั้งร่างจะวูบ!ความรู้สึกร้อนรุ่ม วูบวาบ ปฏิกิริยาแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นของร่างกาย ไม่ต้องให้ใครบอกก็รู้ด้วยตัวเอง ว่าเธอ...กำลังมีอารมณ์! “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ” นานนับนาทีกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ“อืม” ชายหนุ่มรับคำในลำคอมองหญิงสาวด้วยสายตารู้ทัน ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยแล้วกระชากยิ้มมุมปากอ่านกินเขาอยู่แน่ ๆ... พริมาเดินเข้าไปใกล้พร้อมแย่งผ้าขนหนูผืนเล็กมาถือไว้ จับจูงมือชายหนุ่มไปนั่งบนเตียง แล้วจัดการเช็ดกลุ่มผมดกด่ำให้เขาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนวดขมับไปด้วยในตัว เพื่อให้ชายหนุ่มได้ผ่อนคลายบ้างมือเล็กค่อย ๆ เลื่อนจากขมับมาที่ต้น
พริมาที่เร่งรีบหนีอายเข้ามาในห้องก็หุบยิ้มไม่ได้ มือเล็กยกขึ้นทาบหน้าอกเพื่อจับจังหวะการเต้นของหัวใจ“พี่พีบ้า! ไม่แผ่วลงเลยรึไง จีบกันได้ทุกวัน คนเขินจะตายอยู่แล้วเนี่ย” หญิงสาวกัดปากพูดกับตัวเองทั้งเขินทั้งอาย กระนั้นกลับพึงพอใจกับพฤติกรรมที่เขามีต่อเธอที่สุด พริมาคิดถึงความเสมอต้นเสมอปลายที่รพีพัฒน์มีให้ ตั้งแต่วันแรกที่ตกลงเป็นแฟนกันจนถึงปัจจุบันนี้ ความรักความเอาใจใส่ของเขามันไม่มีลดลงเลย นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น จนตอนนี้พริมาเข้าใจแล้วว่า คำพูดที่ใครหลายคนเอ่ยไว้ว่าการมีแฟนที่จีบเราในทุก ๆ วันนั้นราวกับถูกรางวัลที่หนึ่ง เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะว่าคุณจะมีความสุขในทุก ๆ วันได้อย่างไรละ!คิดดูสิว่าคู่รักหลายคู่ที่เลิกรากันไปมันเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่ความหวานที่มีมันลดน้อยลงไปหรือไร? จริงอยู่ที่ปัจจัยในการเลิกรามันมีหลายอย่าง แต่การเติมความหวานให้กันและกันมันก็ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ไม่ใช่เหรอ?เพราะฉะนั้นพริมาจึงรู้สึกโชคดีและมีความสุขมากที่รพีพัฒน์จีบเธอในทุก ๆ วัน เพราะนอกจากมันจะทำให้มีความสุขมากแล้ว ยังกระชุ่มกระชวยเหมือนย้อนไปในช่วงที่เพิ่งคบกันแรก ๆ ด้วยนะ ทั้งที่คบหากันมานานกว่า 6
พริมาเปิดประตูเข้าไปในห้องภายในคอนโดมิเนียมของเธอ พลันนั้นกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยเข้ามาในโพรงจมูก หญิงสาวสูดกลิ่นหอมแสนอร่อยชวนหิวพาลให้พยาธิในท้องส่งเสียงร้องเบา ๆ เธอจัดการล็อกประตูแล้วเดินตามกลิ่นหอมไปยังโซนของห้องครัว เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววยืนอยู่หน้าเตา รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย มือบางวางกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนเดินเข้าไปใกล้แล้วสวมกอดเอวสอบอย่างเต็มรักคนถูกกอดตอบรับสัมผัสอ่อนโยนอย่างเต็มใจก่อนถามเสียงนุ่ม “กลับมาแล้วเหรอครับ หิวไหม นี่พี่ทำของโปรดพริมเลยนะ”“อืม... ตอนแรกพริมก็ไม่หิว แต่พอกลับมาได้กลิ่นอาหารหอม ๆ ฝีมือคนรักแล้ว พริมก็หิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ” พริมาเอี้ยวตัวแหงนหน้ามองคนตัวสูงจากด้านข้างโดยที่แขนยังกอดเอวสอบอยู่รพีพัฒน์หลุบตามองคนตัวเล็กด้วยสายตารักใคร่ ปากหยักแย้มยิ้มกว้างจนพริมาใจเต้นแรง ไม่ชินสักที ขนาดอยู่ด้วยกันออกบ่อย เธอก็ไม่เคยชินกับรอยยิ้มพิฆาตของเขาได้เลย“หยุดส่งยิ้มพิฆาตนารีมาให้พริมได้แล้วค่ะ หัวใจพริมทำงานหนักเต้นแรงจะตายอยู่แล้ว” ริมฝีปากบางกระจับยู่ใส่คนในอ้อมแขน กระนั้นแววตากลับระยิบระยับแห่งความสุข“ก็พี่อยากให้พริมรั
ด้านพริมาหลังจากเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ทักทายมารดาของชายคนรักทันที แต่ยังไม่ทันได้คุยกันมาก รพีพัฒน์ก็เดินตามเข้ามาพร้อมทั้งมองค้อนทั้งแฟนสาวและมารดาตนทันที“มองแม่แบบนี้หมายความว่ายังไงกันตาพี นี่แกหวงน้องกับแม่เหรอ ฉันเป็นแม่แกนะ!”“แต่คนที่แม่กอดอยู่เป็นแฟนผมนะครับ!” ชายหนุ่มประท้วงเล็กน้อย รู้ว่าเป็นแม่แต่มันก็อดหวงไม่ได้ ก็ใครใช้ให้แฟนเขาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้กันเล่า มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะหวงเอาไว้กอดไว้หอมคนเดียว...คุณรพีกลอกตามองบนเล็กน้อยให้กับความขี้หวงของบุตรชาย นิสัยแบบนี้คงเอามาจากใครไม่ได้นอกจากคุณพิพัฒน์บิดาของชายหนุ่มเอง “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ เหมือนพ่อแกไม่มีผิด”“อ้าวคุณ! เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ ผมอยู่ของผมดี ๆ นะ” คุณพิพัฒน์ถามอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งคุณรพีก็ตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่รู้แหละ คุณเป็นพ่อลูกกันก็ต้องเหมือนกันนั่นแหละ ถูกแล้ว”“แต่ผมก็ลูกแม่เหมือนกันนะครับ”“หยุด! ฉันบอกว่าแกเหมือนพ่อของแกก็ต้องเหมือนสิ ฮึ่ม! หงุดหงิดจริง ๆ ไม่น่ารักว่าง่ายเหมือนหนูพริมของฉันเลย” คุณรพีพูดเสียงเขียวใส่บุตรชายก่อนหันมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างพริมา“ว่าแต่ว่าหนูพริมล
รถหรูแล่นเข้าไปจอดในรั้วคฤหาสน์หลังงามของตระกูลเลิศเกียรติคุณ พริมามองไปรอบบริเวณคุ้นตาอย่างคนคุ้นเคยไม่ได้มีแววตาตื่นเต้นแต่อย่างใด เนื่องจากเธอมาที่บ้านของรพีพัฒน์บ่อย ๆ ใช่แล้วละ ทางครอบครัวของชายหนุ่มรับรู้ว่าบุตรชายคนเดียวของบ้านมีคนรัก เเละสั่งให้บุตรชายพาแฟนสาวมาเปิดตัวตั้งนานแล้วครั้งแรกที่พริมาได้เจอกับครอบครัวของรพีพัฒน์คือวันที่ชายหนุ่มสำเร็จปริญญาโท ในวันเดียวกันเจ้าตัวได้แนะนำหญิงสาวกับครอบครัวให้รู้จักกันในฐานะคนรักทันทีในตอนนั้นพริมาตื่นเต้นมากทั้งยังกังวล เกรงว่าจะถูกครอบครัวของชายหนุ่มตั้งแง่รังเกียจ แต่เมื่อได้รู้จักกันจริง ๆ แล้วถึงได้รู้ว่า เป็นเธอคิดมากเกินไป เพราะนอกจากครอบครัวของรพีพัฒน์จะไม่รังเกียจเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูต่อเธออย่างมาก หนำซ้ำยังหวงเธอกับบุตรชาย ราวกับว่าพริมาเป็นบุตรสาวอีกคนของครอบครัวเลิศเกียรติคุณเลยทีเดียว“คิดอะไรอยู่ครับ” รพีพัฒน์ถามขึ้นหลังจอดรถหน้าประตูทางเข้าบ้านพริมาหันมาส่งยิ้มหวานพร้อมตอบว่า “คิดถึงตอนที่ได้รู้จักกับคุณพ่อคุณแม่พี่พีครั้งแรกค่ะ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ พวกท่านน่ารักและดีกับพริมเสมอเลยค่ะ”“ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่
พริมายังจำคืนคริสต์มาสในปีนั้นได้ดี ทั้งเธอและเขารวมถึงเพื่อนที่เธอได้รู้จักระหว่างเรียนและเพื่อนของเขากำลังเฉลิมฉลองกัน รพีพัฒน์ก็จูงมือเธอออกจากกลุ่มไป ในคืนที่มีความหนาวเย็นเป็นนิจ เสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมเสียงพลุมากมายถูกจุดขึ้นพร้อมกัน ชายหนุ่มก็ขอเธอเป็นแฟน! แม้ว่าเสียงทุกอย่างจะดัง แต่เธอกลับได้ยินคำพูดเขาชัดเจน‘เป็นแฟนกับพี่นะครับ’อากาศที่หนาวเย็นในตอนแรกกลายเป็นอุ่นซ่านทันใดทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มอ่อนโยนพูดประโยคนั้น เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อมด้วยทุกอย่างอย่างเขา จะขอผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอเป็นแฟนคริสต์มาสวันนั้นเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิต มากกว่าวันที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพ่อเสียอีก และเธอก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับเขาอย่างไม่ลังเลตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เธอและเขาก็รู้จักและเป็นคนรักกันนานนับ 6 ปีแล้ว ยิ่งหวนคิดถึงวันวานเก่า ๆ ยิ่งตอกย้ำว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดที่ตอบตกลงคบหากับเขา ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มแววตาทอประกายความสุข ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นในสิ่งที่กำลังจะตัดสินใจ “พี่พีรักเธอมากขนาดนี้ เธอจะกลัวอะไรอีกพริม รู้จักกันมาก็หกปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพี่
ภายในห้องอาบน้ำเรือนร่างระหงเปลือยเปล่าเผยผิวขาวนวลของหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ภายในอ่างอาบน้ำจากุชชี่ หญิงสาวหลับตาพริ้มพอใจกับอุณหภูมิที่พอเหมาะของน้ำ ปล่อยให้ความอุ่นของน้ำชำระล้างความคิด ความเหนื่อย ความเมื่อยล้าไปเมื่อน้ำที่อุ่นในตอนแรกเริ่มมีอุณหภูมิต่ำลง เปลือกตาของหญิงสาวก็เปิดขึ้น เธอมองไปด้านหน้าด้วยสายตาเฉยเมย‘อย่าคิดมากสิครับ พี่รอได้ ขอแค่วันนี้พริมยังอยู่กับพี่ก็พอ ขอแค่พริมไม่ทิ้งพี่ไปไหนพี่ก็มีความสุขแล้วครับ’ จู่ ๆ ใบหน้าและคำพูดของชายคนรักก็ค่อย ๆ แทรกเข้ามาในห้วงความคิด ราวกับตระหนักได้ถึงเรื่องราวบางอย่างที่ถ่วงรั้งเธอมานาน แปรเปลี่ยนสายตาเฉยเมยของหญิงสาวกลายเป็นสายตาแห่งความมุ่งมั่นทันที มัวรีรอกังวลอะไรอยู่พริมา มีคนที่รักเธอมากขนาดนี้อยู่เคียงข้าง ยังจะกลัวอะไรอีก? นั่นคือความคิดแรกที่แวบเข้ามา ภาพความรักความเอาใจใส่ที่ชายหนุ่มมีให้ตั้งแต่รู้จักกันวันแรกในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง จนความสัมพันธ์ค่อย ๆ พัฒนา ผลิบานกลายเป็นความรักฉันหนุ่มสาว ยิ่งคิดรอยยิ้มของเธอก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆพริม พริมา ย้อนคิดถึงวันวานอย่างมีความสุข หญิงสาวรู้จักกับรพีพัฒน์มา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่เ
เพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมาพวกตนจะมีชีวิตเล็ก ๆ อีกหนึ่งชีวิตที่ต้องรับผิดชอบดูแล แม้ว่าเขาจะพร้อมมากก็ตาม แต่ของแบบนี้ใช่ว่าเขาพร้อมแล้วฝ่ายหญิงจะพร้อมด้วย อีกทั้งตอนนี้ทั้งตนและคนรักยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่อดทนอดกลั้นสวมถุงยางอนามัยต่อไป“เลิกมองได้แล้วค่ะ มองทุกครั้งไม่เบื่อหรือไงคะ” หญิงสาวพูดแกมขำชายหนุ่มปรายตามองคนบนเตียงที่ตอนนี้สวมผ้าขนหนูปิดนวลเนื้อขาวผ่องชวนลิ้มลองเรียบร้อยแล้วก็ทอดถอนใจออกมากล่าวว่า “จะให้เบื่อได้ยังไงครับ ก็นี่มันลูก ๆ ของพี่ทั้งนั้นเลยนะ พี่ฆ่าลูกตัวเองนะครับ มันก็ต้องยืนไว้อาลัยกันหน่อยสิครับ”จบคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็หัวเราะร่าออกมาอย่างไม่เก็บอาการ เล่นเอาเจ้าของคำพูดถลึงตาใส่เป็นยกใหญ่“ไม่ตลกเลยนะครับ ถ้าพริมยังไม่หยุดขำรอบหน้าพี่ไม่ใส่ถุงยางนะบอกเลย พี่จะปล่อยลูก ๆ ของพี่เข้าไปในท้องพริมทุกหยาดหยดเลย ดีไหมครับ” ใบหน้าหล่อเหลาทำสีหน้าขึงขังจริงจังกอปรกับเสียงเข้ม ๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้หญิงสาวกลัวเลยสักนิด“แหม... พูดอย่างกับพี่พีไม่เคยปล่อยในพริมอย่างนั้นแหละ”“มันไม่เหมือนกัน! ทุกทีที่พี่ปล่อยใน พริมอยู่ในระยะป