หลินเฟยที่ตอนนี้นั่งให้ซิ่วอิงจัดแต่งทรงผมให้ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนงดงามดูตื่นเต้นนัก วันนี้นางต้องไปคำนับน้ำชาบิดามารดาของสามีที่จวนอ๋องจึงต้องแต่งกายอย่างประณีตและดูดีที่สุดเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้สูงศักดิ์ทั้งสอง เมื่อเรียบร้อยดีแล้วก็ยืนขึ้นสำรวจตัวเองอีกครั้งอย่างพึงพอใจนัก ก้าวเดินออกจากห้องด้วยใบหน้างดงามสดใสยิ่งนัก อาจเพราะเมื่อคืนได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่กระมังเมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ที่มีบุรุษนั่งใบหน้าบึ้งตึงรอคอยอยู่จึงเอ่ยทักทายเสียงหวาน"ท่านพี่เหตุใดถึงทำหน้าอย่างนั้นเจ้าคะ เรากำลังจะไปคำนับน้ำชาท่านพ่อท่านแม่นะเจ้าคะ หรือว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับ" ได้ฟังคำกล่าวของสตรีงดงามตรงหน้าเขาแทบอยากจะร้องไห้"เฟยเอ๋อ เจ้าช่างใจร้ายนัก ทำกับสามีแบบนี้ได้อย่างไรกัน" เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าร่วมหอกันแค่คืนเดียวก็โดนภรรยาวางยา นางกล้าวางยานอนหลับเขา ให้ตายเถอะ หากเขาหลับไม่ตื่นขึ้นมาจะทำเช่นไร ตอนรู้สึกตัวก็เห็นนางนั่งรับสำรับเช้าส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้" หากข้าไม่ทำเช่นนั้นวันนี้เราก็คงไม่ได้ไปยกน้ำชาอีกเป็นแน่""เฟยเอ๋อ ท่านพ่อท่านแม่ไม่ว่าอะไรหรอกนะ พี่บอกเจ้าแล้วไงว่าพวกท่านเข้า
หลินเฟยและแม่สามีนั้นเข้ากันได้ดีนักยิ่งกับเสี่ยวหลานยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเพราะทั้งสองคนนั้นอายุไล่เลี่ยกันจึงทำให้สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เมื่อทั้งสามหญิงงามได้อยู่ด้วยกันแล้วสองพ่อลูกก็ได้แต่นั่งมองตากันปริบๆ จะหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก ได้แต่มองด้วยสายตาละห้อยนัก ท่านแม่ท่านอยากจะอุ้มหลานไม่ใช่หรือไรหากยังรั้งตัวภรรยาข้าอยู่อย่างนี้ท่านจะมีหลานทันใช้ได้อย่างไรกันแม่ทัพหยางหรงได้แต่รำพึงรำพันในใจ "ท่านพ่อข้าจะพาภรรยากลับจวนแล้ว"ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นบิดา ที่คงจะช่วยอะไรไม่ได้เช่นกันเพราะจวนนี้เขารู้ดีที่สุดว่าใครใหญ่"หยางหรง เจ้าอยากให้พ่อระเห็จออกมานอนนอกจวนหรือ ถึงได้คิดให้พ่อสอดมือไปแย่งชิงลูกสะใภ้มาคืนให้เจ้า""ท่านพ่อ ท่านจะยอมให้มารดาข่มเหงท่านหรือ ท่านดูข้า ข้าจะไม่ยอมให้ภรรยาใหญ่กว่าผู้เป็นสามีแน่ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น"กล่าวพร้อมยืนขึ้นเต็มความสูง "อืม เอาเลยลูกรัก พ่อจะเอาใจช่วยเจ้าเอง"แม่ทัพหยางหรงก้าวเท้าอย่างมั่นคงเดินไปหาภรรยาที่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกจากกองเสื้อผ้าและเครื่องประดับไร้สาระพวกนั้นได้"น้องหญิง พี่ว่าเรากลับจวนกันได้
เมื่อแสงอาทิตย์มาเยือนหลินเฟยที่รู้สึกตัวตื่นเพราะรู้สึกถึงความเสียวซ่านแปลกๆทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตานัก นึกว่าตัวเองกำลังฝันไปพยายามลืมตาสู่แสงสว่างที่ลอดช่องหน้าต่างเข้ามา มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาจนสามารถปรับสายตาและรู้สึกตื่นมากขึ้นความรู้สึกซ่านกระสันก็ยังคงไม่หายไปแต่กลับทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีก นางรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวใต้ผ้าห่มต้นเหตุของความซ่านเสียวจึงดึงผ้าห่มออกจากกาย"ท่านพี่ อ๊าาาาส์""หืม"ขานรับทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ยอมผละจากบุปผางามเรียวลิ้นร้อนชื้นยังคงดูดดึงไล้เลียกลีบบุปผาอวบอูมอย่างเร่าร้อนนัก ความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่วทั้งร่างจนสะโพกงามร่อนขึ้นจากเตียงนุ่ม คนตัวโตยังคงส่งลิ้นร้อนสากเข้าไปในช่องทางรักคับแน่นกวาดต้อนน้ำหวานที่หลั่งไหลจนชื้นแฉะ ส่งเรียวลิ้นดุนดันจนร่างงามร้อนผ่าวไปทั้งร่างผิวเนื้อนวลละเอียดแดงระเรื่อ มือหนาแข็งแกร่งจับเรียวขางามอ้าออกกว้าง ห่อปลายลิ้นส่งเข้าหาช่องแคบสีชมพูระเรื่อที่เต้นตุบตุบนิ้วเรียวยาวยังบีบบี้ขยี้เกสรนูนเด่น จนร่างเล็กกรีดร้องลั่นสองมือกดขย้ำศีรษะที่อยู่กลางหว่างขางามอย่างต้องการระบายความซ่านเสียวที่ปะทุอย่างรุนแรง กายหนาเลื่อนขึ้นมาค
หลินเฟยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในจวนแม่ทัพได้ร่วมสองเดือนแล้วเวลาช่างผ่านไปเร็วนัก ช่วงนี้นางรู้สึกเจริญอาหารเป็นอย่างมากกินเยอะขึ้นกว่าปกติจนเรือนร่างที่งดงามมากอยู่แล้ว ดูอวบอิ่มเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้นมากนัก จนสามีนางไม่มีอันทำอะไรตัวติดนางตลอด วันนี้เห็นอากาศดีจึงมารับสำรับที่ศาลากลางน้ำที่รายล้อมไปด้วยดอกบัวบานสะพรั่ง โอ้ก!!โอ้ก!!เสียงอาเจียนที่ดังลั่นนั่นทำให้คนงามทะลึ่งพรวดกำลังชมความงามของมวลบุปผาอย่างอารมณ์ดีนัก ผู้ใดมาทำบรรยากาศดีๆ ของนางเสียกัน คิดแล้วก็ก้าวเท้าพาร่างเย้ายวนไปหาต้นเหตุของเสียง สภาพท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นดูไม่จืดเท่าไหร่นัก ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวริมฝีปากหนาแห้งผาก แผ่นหลังแข็งแรงพิงผนังห้องอย่างหมดสภาพ "ท่านพี่!!!""เป็นอะไรไปเจ้าคะ"ร่างบางรีบเข้าไปประคองให้ร่างสูงที่ดูหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นไปนั่งบนเตียง คนตัวโตที่พอได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยก็หันมาเอามือหนากอดรัดเอวบางและยื่นจมูกไปซุกซบลำคอหอมกรุ่นสูดหายใจเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่เขาเป็นอะไรกันเมื่อเช้ารู้สึกวิงเวียนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจึงนอนต่อเผื่ออาการวิงเวียนศีรษะจะหายแต่เมื่อสักครู่พอลุกขึ้นก็มีอาการวิง
หลินเฟยที่ตอนนี้ครรภ์ของนางย่างเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว และเป็นสองเดือนที่ผ่านมาอย่างทุลักทุเลนัก นางพึ่งจะรู้ซึ้งถึงคำว่าร้องก็ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออกในเวลาสองเดือนที่ผ่านมานี้ ทำไมน่ะหรือ เพราะสามีนางแพ้หนักมากตัวติดนางตลอดเวลาจนนางไม่สามารถกระดิกตัวไปไหนได้เลย พอห่างจากนางอาการวิงเวียนศีรษะคลื่นไส้ อาเจียนก็จะกำเริบ ส่วนนางไม่มีอาการแพ้อะไรเลยนอกจากกินเก่งขึ้นและแม่สามีนั้นก็ขยันหาของมาบำรุงนางเหลือเกินจนตอนนี้นางดูอวบอิ่มขึ้นมากนัก และเป็นสองเดือนที่ทําให้รู้ด้วยเช่นกันว่าสามีนางนั้นรักและถนอมนางกับบุตรมากแค่ไหนเพราะเขาไม่ล่วงเกินนางเลยเนื่องจากท่านหมอได้แจ้งว่า ห้ามไม่ให้กระทบกระเทือนและงดการร่วมรัก เพราะจะทำให้ครรภ์ที่ยังเป็นครรภ์อ่อนมีอันตรายได้ ซึ่งท่านแม่ทัพก็ปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดีไม่ยอมร่วมรักกับนางแม้จะทรมานนักได้แต่ลูบไล้แต่กอดแต่หอมจุมพิตนางบ้างเท่านั้น บางครั้งก็หายไปเข้าห้องน้ำเป็นนานสองนานกว่าจะกลับออกมา บางคืนถึงกับนอนไม่หลับตื่นมาก็มีอาการเวียนศีรษะอย่างมากจนนางรู้สึกสงสารและตื้นตันใจนักที่เขายอมทรมานตัวเองเพื่อนางและลูกขนาดนี้ จนเมื่ออาการที่ว่านั่นหายไปนางอยากเก็บควา
หลินเฟยที่เห็นสายตาของสามีนั้นรู้สึกขนลุกนัก คนเจ้าเล่ห์ต้องคิดจะทำอะไรอีกแน่ สายตาแบบนี้ย่อมไว้ใจไม่ได้ วันนี้ทั้งวันสามีของนางนั้นรู้สึกว่าจะเอาอกเอาใจนางผิดปกติ เมื่อเช้ายังงอนนางหน้าดำคล้ำอยู่เลยมาตอนนี้กลับส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาให้ ไม่ว่านางจะกล่าวอะไรก็เออออไปเสียหมด เมื่อตะวันบ่ายคล้อยบิดามารดาของสามีก็ขอตัวกลับตำหนัก นางจึงได้ก้าวเท้ากลับเรือน เห็นหลังสามีไวๆ ตรงไปยังห้องตำราก็ไม่ได้ใส่ใจอันใดนัก รีบตรงไปยังเรือนนอนของตัวเองเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้องซิ่วอิงก็เตรียมน้ำอุ่นไว้รอท่าอย่างรู้ใจนางนักจึงเดินเข้าไปหลังฉากกันปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายขาวผ่องที่ดูอวบอิ่มขึ้นมากนัก หน้าท้องที่ยังคงแบนราบรับกับสะโพกผายหนั่นแน่น หน้าอกที่ดูฟูขาวเต่งตึงเหมือนซาลาเปาสองลูกใหญ่มีแต้มสีชมพูระเรื่อแข็งชูชัน ผิวกายขาวเนียนละเอียดดูผุดผ่องเปล่งปลั่งยิ่งนักซิ่วอิงที่กำลังเตรียมเสื้อนอนไว้ให้นายตนถึงกับชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่โตของท่านแม่ทัพที่ทำตัวคล้ายโจรเด็ดบุปผาย่องเข้ามาแอบมองภรรยาตัวเอง ชู่วแม่ทัพอู๋หยางหรงที่หันมามองสาวใช้คนสนิทของชายาตน ส่งสัญญาณให้นางเงียบแล้วรีบโบกมือไล่ให้นางออกไป
"เจ้าตัวเล็กเห็นหรือไม่ว่าบิดารักเจ้าเพียงใดยอมกินน้อยๆ เพราะกลัวเจ้าเจ็บรู้หรือไม่ หากคิดถึงบิดาเจ้าต้องบอกมารดาให้บิดากินบ่อยๆ รู้หรือไม่เล่า"เมื่อวันใหม่มาเยือนผู้ที่กินน้อยแต่ก็ได้กินตื่นขึ้นมายิ้มร่ามุดเข้าผ้าห่มไปนอนพูดอยู่กับหน้าท้องแบนราบจนร่างบางสะดุ้งตกใจจนขนลุกซู่กับริมฝีปากร้อนผ่าวที่นาบลงมาบนหน้าท้องแบนราบ"ท่านพี่ทำอะไรเจ้าคะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ"ร่างบางที่เห็นคนหน้าไม่อายไม่ยอมผละจากกลับพรมจูบจากหน้าท้องแบนราบลงต่ำมาเรื่อยๆ จนรู้สึกเสียววูบวาบในช่องท้อง มือหนาก็จับกระชับสะโพกงามงอนไว้แน่นไม่ให้ขยับหนีริมฝีปากร้อนผ่าว"พี่แค่อยากสวัสดีตอนเช้าลูกเท่านั้น เจ้าอย่าใจร้ายกีดกันพี่เลยน่ะน้องหญิง"กล่าวออกมาเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าก่อนที่เสียงครวญหวานของร่างบางจะดังลั่น คนหน้าไม่อายท่านจะหน้าหนาเกินไปแล้วคิดได้แค่นั้นในหัวก็ขาวโพลนคำต่อว่าทั้งหมดทั้งมวลถูกความซ่านกระสันกลืนกินไปเสียหมดบ่าวรับใช้ที่เตรียมมาปรนนิบัติเจ้านายในตอนเช้ารีบถอยออกมาจากบริเวณหน้าห้องนอนด้วยใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงใบหู ซื่อจื่อทรงหลงลืมไปหรือไม่ว่าพระชายาทรงตั้งครรภ์อยู่เหตุใดจึงขยันนักแบบนี้คาดว่าต่อไปจวนแม
เมื่อรับสำรับเรียบร้อยจึงได้พากันมาขึ้นรถม้า ความจริงวันนี้แม่ทัพหยางหรงได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วเพื่อพาภรรยาตัวน้อยไปเที่ยวเล่นด้านนอกเพราะสงสารที่นางอุดอู้อยู่แต่ในจวนและเขาอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างตามที่ท่านพ่อให้คำแนะนำ ซึ่งความจริงอยากไปกับภรรยาเพียงแค่สองคนแต่โชคไม่เข้าข้างหลานเอ๋อที่บังเอิญรู้เข้าหรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจนักจะขอไปด้วยจึงจำใจต้องปล่อยเลยตามเลย แต่ได้นัดแนะกับเสี่ยวหลานให้ไปเจอกันที่วัดบนเขาเพื่อพาภรรยาไปขอพรและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรือเหตุใดนางถึงมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ แถมยังมีบุรุษสูงศักดิ์ผู้ไร้มารยาทยืนทำหน้ามึนยิ้มระลื่นอยู่ด้านข้างอีกคน การเดินทางที่คิดจะออดอ้อนออเซาะภรรยาเป็นอันต้องพังไม่เป็นท่า เมื่อรถม้าใหญ่โตที่สั่งให้บ่าวจัดเตรียมอย่างดีถูกครอบครองโดยเสี่ยวหลานความจริงต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือที่จะได้นั่งซุกซบภรรยา แต่กลับต้องมาอยู่บนหลังอาชาอย่างโดดเดี่ยว ข้างๆยังมีแขกที่ไม่ได้เชิญเสนอหน้าตามมาอีก เขาอยากจะบ้าตายนักเมื่อพาภรรยารักไปขอพรและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยก็มาหาโรงเตี๊ยมให้นางได้พัก และรับสำรับเพื่อได้ไปเที่ยวชมเทศกาลหยวนเซียวที่ป
ร่างบอบบางบนชุดมงคลสีแดงของเจ้าสาวที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงด้วยความตื่นเต้นนัก วันนี้เป็นวันที่นางเฝ้ารอคอยมาอย่างใจจดใจจ่อตลอดการเดินทางในระยะเวลาสองเดือนท่านพี่ฉีฟงดูแลนางเป็นอย่างดีและให้เกียรตินางมาตลอดไม่เคยล่วงเกินนางอีกเลยจะมีก็แต่กอดหอมแก้มและจูบนิดหน่อยเท่านั้น ในวันมงคลของนางนางอยากให้สามีของนางมีความสุขที่สุดและคืนเข้าหอของนางจะต้องเร่าร้อนที่สุดสามีนางจะต้องอยู่ในกำมือนาง จนลืมการร่วมหอครั้งแรกไปเลยถึงเขาจะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยาปลุกกำหนัดและเล่ห์กลของสตรีเท่านั้นแต่นางไม่มีทางยอมเด็ดขาด เสี่ยวหลานที่นั่งคิดอย่างหมายมั่นนัก มีอยู่ครั้งหนึ่งนางได้ช่วยเหลือนางคณิกานางหนึ่งไว้ด้วยความบังเอิญจากการโดนฉุด นางจึงให้ตำราไว้เล่มหนึ่งบอกว่าเป็นตำราหายากมากเป็นสินน้ำใจ นางจึงรับไว้แต่พอเปิดดูนางเกือบจะหยุดหายใจเพราะเป็นตำราวสันต์จึงได้เก็บซ่อนเอาไว้และไม่เคยเปิดอ่านอีกเลย จนเมื่อไม่นานมานี้นางได้นำออกมาศึกษาจนแตกฉานเพื่อใช้ในคืนเข้าหอของนางโดยเฉพาะและที่สำคัญนางยังได้ถ่ายทอดเคล็ดลับให้พี่สะใภ้คนงามของนางอีกด้วย เมื่อนึกถึงพี่สะใภ้เสี่ยวหลานถึงกับหัวเราะออกมาอย่างล
กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งข้อเท้าและเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังใกล้เข้าทำให้ปาอ๋องและพระชายาซือเซียน บุตรชาย บุตรเขย ที่กำลังนั่งจิบชาสนทนากันอยู่นั้นหันไปมองสาวน้อยวัยสี่หนาวและสามหนาวที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูนัก ร่างกลมป้อมสองร่างที่จูงมือกันวิ่งเข้ามาพร้อมใบหน้าแดงก่ำชื้นเหงื่อเพราะพากันวิ่งเล่นจนเหนื่อย"ท่านย่าหลานอยากกินขนมจังเจ้าค่ะ"อู๋ไป๋หลินที่มาถึงก็ป่ายปีนขึ้นมานั่งข้างพระชายาซือเซียนออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดูนัก"หลานก็อยากกินนักเจ้าค่ะท่านยาย"หานหลันซี บุตรีวัยสามหนาวของกุนซือฉีฟงและเสี่ยวหลานที่ปีนมานั่งอีกด้านก็ไม่น้อยหน้าช่างออดอ้อนเหมือนญาติผู้พี่มิมีผิดเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนกับความน่ารักน่าชังของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี"ช่างน่าน้อยใจนักไม่มีใครสนใจคนแก่ผู้นี้เลยหรือ หลินเอ๋อก็ไม่สนใจปู่ ซีเอ๋อก็ไม่สนใจตา มันน่าน้อยใจจริงๆ ไม่มีใครรักข้าเลยหรือนี่" เสียงตัดพ้อไม่ค่อยจริงจังที่เอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนอมยิ้มกับท่าทางของคนแก่ที่น่าโหดแต่พยายามทำเสียงเล็กเสียงน้อยเรียกร้องความสนใจจากหลานๆ ที่พอได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้าไปโอบกอดและหอมแก้มฟอดใหญ่ ให้คนแก่ชื่นใจนัก "หลินเอ๋อรักท่
หลินเฟยที่คล่อมอยู่เหนือร่างหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่งสะบัดผมยาวสลวยไว้ด้านหลังมองคนใต้ร่างด้วยสายตายั่วยวนนัก ใช้นิ้วเรียวเล็กไล้ตั้งแต่จมูกโด่งได้รูปมายังริมฝีปากหนาที่นางรู้ว่าร้ายกาจเพียงใดบดคลึงแผ่วเบาจนคนใต้ร่างครางอือแม่ทัพหยางหรงหรี่ตามองภรรยารักด้วยสายตาเร่าร้อนนักทั้งตื่นเต้นว่านางจะทำอะไรและแปลกใจหนักหนาว่าเฟยเอ๋อของเขาไปได้ท่าทางแสนยั่วยวนนี้มาจากที่ใดกันแม้จะดูขัดเขินแต่เขากลับพอใจนัก มองดูนิ้วเล็กขาวผ่องลากไล้สันกรามแกร่งมาตามลำคอล่ำสันใช้สองมือบอบบางแหวกชุดคลุมตัวในออกเผยให้เห็นแผงอกแกร่งกำยำหนั่นแน่นแต่งแต้มด้วยรอยแผลประปรายดูน่าหลงใหลนัก มือเรียวเล็กนุ่มนิ่มลูบไล้แผ่นอกกว้างกำยำจนร่างหนากล้ามเนื้อหดเกร็งกัดกรามแกร่งแน่นด้วยความซ่านเสียว เห็นมือบางยกขึ้นปลดชุดนอนบางเบาออกจากร่างงามเย้ายวนเหลือแค่เอี๊ยมบังทรงสีแดงตัวน้อยที่แทบไม่ช่วยอะไรเลยตัดกับผิวขาวผ่องนวลเนียนทำให้เขาแทบหยุดหายใจ มือใหญ่จึงรีบเอื้อมไปเพื่อดึงเอี๊ยมตัวน้อยที่ช่างเกะกะนักแต่ถูกมือเล็กตะครุบไว้"ไม่เอาจะถอดเอง"เสียงอ่อนหวานเอ่ยขึ้นอย่างสั่นไหวจนเขารู้สึกได้หึหึ เสียงหัวเราะของคนใต้ร่างจึงดัง
อู๋ไป๋หลินอายุเข้าสองเดือนพอดิบพอดีกับที่จวนอ๋องจะมีงานมงคลของท่านอาหญิงของเจ้าตัวเล็ก จึงทำให้ทุกคนต่างวุ่นวายกันยกใหญ่ พระชายาซือเซียนแม่สามีดูจะตื่นเต้นกว่าใครเพราะบุตรสาวจะได้ออกเรือนเสียทีหลังจากรอคอยอย่างหวาดผวาว่าบุตรสาวจะมิได้ออกเรือนเพราะนางนั้นทโมนนักไม่เหมือนบุตรีจวนอื่นที่เรียบร้อยอ่อนหวาน เย็บปักถักร้อยล้วนเป็นเลิศแต่บุตรของนางเอาเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ไปทั่ว ผิดกับปาอ๋องพ่อสามีที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด หนวดกระตุกเพราะความไม่ยินยอมแต่ทำอันใดไม่ได้เพราะภรรยาได้ใส่พานถวายเสียอย่างนั้น หึ เจ้าฉีฟงไม่นึกว่าเจ้านั่นจะมาเป็นบุตรเขยพระองค์ ช่างแสบนัก แล้ววันมงคลก็มาถึงแม่ทัพหยางหรงที่มองภรรยาที่แต่งตัวงดงามนักตาปรอย ร่างที่ดูอวบอิ่มขึ้นอยู่ในชุดสีส้มอมแดงที่พออยู่บนร่างสมส่วนนั้นช่างขับผิวให้ดูขาวผ่องนวลเนียนนัก"เฟยเอ๋อ คืนนี้เราเข้าหอกันนะ"หลินเฟยหันมองร่างสูงตาโต พลันใบหน้าร้อนผ่าว"ท่านพี่พูดอะไรเจ้าคะ""ก็ท่านหมอบอกว่าสามารถทำได้แล้ว แต่พี่เห็นเจ้ายุ่งๆ อยู่กับงานมงคลของหลานเอ๋อ เลยไม่อยากให้เจ้าเหนื่อยนัก วันนี้ก็เสร็จเรียบร้อยดีทุกอย่าง เข้าหอพร้อมกันดีงามนัก"พูดขึ้นตาหวานฉ่
หลินเฟยที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมารู้สึกได้ถึงมืออุ่นที่กอบกุมมือเล็กของนางอยู่ หันไปมองก็เห็นเป็นร่างคุ้นตาที่นอนฟุบหลับอยู่ข้างๆ นางโชคดีที่สุดที่มีบุรุษที่แสนดีผู้นี้อยู่เคียงข้าง"ท่านพี่" แม่ทัพหยางหรงที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมองเจ้าของเสียงเรียกอย่างดีใจนักหลังจากคลอดบุตรคนแรกของทั้งสองนางก็สลบไปท่านหมอแจ้งว่านางเสียเลือดมากแต่ไม่เป็นอันตรายแค่หมดแรงเท่านั้น พักสักครู่ก็รู้สึกตัวแต่นางกลับหลับไปถึงหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันเต็มๆ เขาจึงร้อนใจนัก มานั่งเฝ้านางไม่ยอมห่างเพราะกลัวว่านางจะเป็นอะไรไป เขาคงอยู่ไม่ได้แน่"เฟยเอ๋อเจ้าฟื้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บที่ใดอีกหรือไม่ ซิ่วอิง ซิ่วอิงตามท่านหมอเร็วเฟยเอ๋อฟื้นแล้ว" คนตัวโตที่ดูร้อนรนนัก ส่งเสียงเรียกบ่าวคนสนิทของชายารักจนคนตัวเล็กต้องรีบจับมือใหญ่ไว้"ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะท่านพี่ แค่รู้สึกอ่อนแรงเท่านั้น" สิ้นเสียงอ่อนแรงท่านหมอก็เข้ามาตรวจชีพจรร่างบาง" ไม่มีอะไรน่าห่วงพ่ะย่ะค่ะดื่มยาบำรุงสักสามเทียบอาการอ่อนแรงก็จะหายหลังจากนั้นก็ดื่มยาสำหรับสตรีหลังคลอดร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติ" ท่านหมอจึงขอตัวกลับไปจัดยาสำหรับพระชายา" ลูกของเราเล่าเ
แม่ทัพหยางหรงที่ได้รับสาส์นด่วนจากกุนซือฉีฟงทั้งที่เขาพึ่งกลับมาถึงและต้องกุมขมับเพราะอู๋เสี่ยวหลานน้องสาวหายตัวไป และต้องกุมขมับอีกครั้งเมื่อเปิดอ่านสาส์นฉบับนั้นของสหายดี ดียิ่งเจ้าสหายน่าตายแล้วเขาจะแจ้งบิดามารดาว่าอย่างไร หลินเฟยที่เห็นสามีอารมณ์ไม่สู้ดีนักจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง"มีอะไรร้ายแรงหรือไม่เจ้าคะท่านพี่" หยางหรงจึงหันมาส่งยิ้มให้ร่างอวบอิ่มที่มองมายังเขาอย่างห่วงใย จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ภรรยาฟัง หลินเฟยถึงกับหัวเราะออกมา ท่านกุนซือฉีฟงช่างร้ายกาจจริงๆ นับถือ นับถือ"ถึงว่าท่านพี่กับท่านกุนซือถึงคบหาเป็นสหายกันได้"แม่ทัพหยางหรงได้ฟังถึงกับคิ้วกระตุกหรี่ตามองภรรยารัก"ร้ายกาจเหมือนกันมิมีผิด" พร้อมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของสามี "โอ้ะ!!!!"เสียงหัวเราะที่หยุดลงกะทันหัน พร้อมกับมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดมากมายทำให้หลินเฟยตกใจนัก"ท่านพี่ ข้าปวดท้องเจ้าค่ะ"หยางหรงที่ตกใจนักเมื่อเห็นภรรยาเจ็บปวด บั่นคอศัตรูมาเป็นร้อยเป็นพันเห็นความเจ็บปวดทรมานจนชาชิน แต่พอเห็นภรรยาเจ็บปวดหัวใจรู้สึกบีบรัดนัก รีบร้อนเรียกบ่าวไพร่ตามหมอกันจ้าละหวั่น ช้อนร่างอุ้ยอ้ายขึ้นอุ้มตรงไ
เสี่ยวหลานที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นปลายยามซื่อลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมองพอดีกับที่บุรุษร่างสูงเปิดประตูห้องเข้ามาในมือถือถาดสำรับเข้ามาสองสามอย่าง"หลานเอ๋อตื่นแล้วหรือลุกกินอะไรเสียหน่อยเถิดเมื่อวานก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น เสี่ยงหลานมองบุรุษหน้าตาหล่อเหลาดูอบอุ่นที่นางมอบหัวใจรักให้ตั้งแต่แรกพบ แต่ทุกอย่างกลับพังลงเพราะเขาแต่งสตรีอีกคนเข้าจวนเมื่อสามปีก่อน แต่วันนี้คนที่นางไม่คิดจะหวนคืนอีกกลับกลายเป็นสามีนางตั้งแต่วันแรกที่พานพบ ร่างบางจึงหลับตาลงอีกครั้ง ครุ่นคิดว่านางจะทำอย่างไรต่อจากนี้ จะยอมแต่งเป็นภรรยารองของเขาหรือปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างไม่เคยเกิดขึ้นเห็นร่างบางเอาแต่หลับตานิ่งไม่ยอมขยับ ร่างสูงจึงเดินมาว่างถาดอาหารไว้บนโต๊ะแล้วมานั่งลงข้างๆ ร่างบาง"หลานเอ๋อ พี่ไม่อยากรังแกเจ้าหรอกนะ" "..........." "หรืออยากให้ทำแบบเมื่อคืนนี้อีก" ฉีฟงเห็นนางยังคงเอาแต่เงียบ จึงขู่ออกไปพร้อมโน้มไปหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าเล็กเป่ารดลมหายใจอุ่นร้อน จนนางลืมตาแล้วถอยหนี"โอ้ย" ร่างบางถึงกับสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะกึ่งกลางร่าง จนน้ำตาเล็ด" หลานเอ๋อ เป็นอย่าง
อู๋เสี่ยวหลานหัวใจเต้นแรงมากนางจะยอมใจอ่อนให้บุรุษผู้นี้ไม่ได้ เขามีภรรยาไปแล้ว นางกับเขาไม่สามารถเดินร่วมเส้นทางกันอีก แม้บุรุษนั้นสามารถมีสองภรรยาสี่อนุได้แต่ไม่ใช่สำหรับนาง ครอบครัวของนางยึดมั่นในรักเดียวมาตลอดนางคงทำใจให้ยอมรับการใช้สามีร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ เท้าบางที่ไม่ถูกพันธนาการจึงยกขึ้นกระทืบเท้าใหญ่เต็มแรง ร่างหนาที่ไม่ทันตั้งตัวและไม่คิดว่านางจะกล้าทำจึงเสียหลักปล่อยร่างบอบบางออกจากอ้อมแขนและถูกแขนเล็กตบจนหน้าหัน หูอื้อไปเลยทีเดียว ร่างบอบบางที่กำลังจะวิ่งออกไปถูกกระชากเต็มแล้วร่างสูงใหญ่ก็อุ้มนางขึ้น พาเดินไปยังเตียงใหญ่เสี่ยวหลานที่รู้ว่าฉีฟงคิดจะทำอะไรจึงดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนแข็งแกร่ง"ปล่อยข้า คนสารเลวปล่อยข้า ท่านคิดจะข่มเหงว่าที่ภรรยาผู้อื่นหรืออย่างไร" ฉีฟงกัดกรามแน่นโยนร่างบางลงบนเตียงนุ่มอย่างโกรธเคืองนัก"ว่าที่ภรรยาหรือก่อนเจ้าจะร่วมหอกับชายอื่นก้าวขาออกจากห้องนี้ให้ได้เสียก่อนเห็นเป็นอย่างไร" ร่างหนาโถมเข้าใส่ร่างเล็กเต็มแรง คิดจะร่วมหอกับชายอื่นหรืออย่าได้ฝันกรี๊ดดดด" ปล่อยข้าหานฉีฟงเจ้าคนชั่วปล่อยข้า" เสียงก่นด่าถูกริมฝีปากหนากดทับไม่ให้แปร่งออกมาให้ระค
อู๋เสี่ยวหลานที่เดินวนไปเวียนมาอยู่นั้นรีบเดินไปหลบเพราะสังเกตเห็นพี่ชายตัวเองเดินออกมาจากห้องๆ หนึ่ง รออยู่สักครู่ก็ไม่เห็นมีใครเดินออกมา หรือว่าจะหมดแรงจนเดินไม่ไหว หึ ขอเข้าไปดูหนังหน้าสตรีแพศยานั่นหน่อยเถอะ ว่าแล้วก็เดินตรงไปยังห้องเป้าหมายทันทีเสียงกุกกักหน้าประตูที่ดังขึ้นทำให้ฉีฟงที่นอนคิดถึงอดีตอยู่นั้นเกร็งตัว ผู้ใดคิดเหยียบจมูกเขากัน ใบหน้าที่ดูอบอุ่นอยู่เสมอพลันเย็นชาขึ้นทันที อู๋เสี่ยวหลานที่ย่องเข้ามานั้นรีบเดินตรงเข้ามาที่เตียงด้วยฝีเท้าเบาเห็นผู้ที่อยู่บนเตียงนอนคลุมผ้าจึงใช้มือเล็กดึงผ้าออกแต่กลับเป็นเพียงหมอนข้างเสียนี่ ยังไม่ทันตั้งตัวก็มีเงาร่างสูงใหญ่เข้ามาประชิดทางด้านหลังพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชานักจนร่างบางแข็งทื่ออย่างตกใจ "เจ้าเป็นใคร แล้วมีจุดประสงค์อันใดบอกมา"พร้อมกระชับกริชในมือ ฉีฟงรู้ว่าบุคคลที่เขาจับอยู่นั้นเป็นสตรีอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะตัวเล็กถึงเพียงนี้ แต่สตรีนี่แหละเป็นเพศที่น่าหวั่นกลัวที่สุด เขาจะไม่ประมาทอีก "ขะ ข้าแค่เข้าห้องผิดเจ้าค่ะ ปล่อยข้านะเจ้าคะ ข้าแค่มาตามสามีเท่านั้น เห็นเขาพาสตรีมาที่นี่จึงตามมาแต่ดันเข้าผิดห้อง"เสียงหวานที่ดูค