"มาถึงแล้ว"เสียงแม่ทัพตอบอย่างเรียบง่าย ไร้ความรู้สึก"ห๊ะ!! มาถึงแล้ว"นายกองตวนเผลอตะโกนออกมา ทำให้ทุกสายตาหันไปมองเขา "เอ่อ...ข้าแค่ดีใจที่พวกเราจะมีอาหารกินแล้วขอรับ""เรียนท่านแม่ทัพ เรื่องเสบียงที่หายไป..."เสียงทหารนายหนึ่งดังขึ้น แต่ถูกท่านแม่ทัพตัดบทเสียก่อน"เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ตอนนี้ไปเรียกทหารให้มารวมตัวกัน เพื่อรับอาหารก่อน"หลินหลินหันไปมองท่านแม่ทัพ นางเข้าใจความต้องการของเขา จึงพยักหน้าให้เล็กน้อย "รองแม่ทัพเจียง พาคู่หมั้นข้าไปรอที่กระโจมของข้าก่อน"สิ้นคำสั่ง ทุกคนก็หยุดหายใจ หลินหลินสบตากับเทียนชุน นางเชื่อใจเขา จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปหาเจียงเหวิน เจียงเหวินลังเล เขากลัวว่าใครจะมองน้องสาวเขาไม่ดี แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง ไม่อาจขัดได้เจียงเหวินโค้งตัว ก่อนจะพาน้องสาวออกมา เขาเดินนำหน้านางไปยังกระโจมของท่านแม่ทัพด้วยหัวใจหนักอึ้ง เมื่อมาถึง เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะมีกระโจมหลังใหม่ตั้งอยู่ติดกับกระโจมของท่านแม่ทัพ คงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นางโดยเฉพาะทหารเฝ้ากระโจมไม่ใช่ทหารระดับล่าง แต่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนคุ้มกันนางมาแดนเหนือ เจียงเหวินมองเห็นความใส่ใจที่ท
หลินหลินคำนวณในใจ ข้าวต้มหนึ่งหม้อสามารถตักแบ่งได้มากถึงหนึ่งร้อยถ้วย นางต้องนำออกมาอีกห้าสิบหม้อจึงจะเพียงพอกับเหล่าทหารทั้งหมดนางจึงตัดสินใจให้ท่านรองแม่ทัพ ผู้เป็นพี่ชายของนาง เป็นคนเติมอาหารให้ทหารแทนนาง นางเก็บหม้อข้าวต้มทั้งหมดไว้ในถุงมิติที่เชื่อมต่อกับครอบครัว และไม่ลืมเขียนข้อความแจ้งบิดามารดาของนางว่าข้าวต้มนี้เป็นของท่านแม่ทัพมอบให้แก่ทหาร เพื่อที่พวกท่านจะได้ไม่นำออกไปที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะท่านแม่ทัพไม่อนุญาตให้นางอยู่ในโรงอาหารในช่วงเวลาที่ทหารทยอยกันเข้ามารับอาหาร นางจึงไม่สามารถเติมข้าวต้มได้ ซึ่งนางก็เข้าใจเขาดีในฐานะสตรี นางไม่ควรก่อความวุ่นวายในค่ายทหารแม้ว่านางจะไม่ได้มีความผิดอันใด เพียงแต่เกิดมามีรูปโฉมงดงามก็เท่านั้นหลินหลินกลับไปรอที่กระโจมก่อนนางมีเวลาเหลือเฟือ คืนนี้ท่านแม่ทัพจะพานางไปเติมเสบียงที่หายไป ภารกิจของนางก็จะเสร็จสิ้น กว่าจะถึงเวลานั้น นางต้องการจะสำรวจสถานที่แห่งนี้ จากที่ท่านแม่ทัพเล่าให้ฟังว่า ที่นี่ไม่สามารถปลูกพืชผักได้ นางคิดว่านอกจากสภาพอากาศแล้ว ปัญหาอาจเกิดจากสภาพดิน แต่จะให้เดินสำรวจในค่ายทหารในเวลากลางวันก็คงไม่เหมาะ
เวลานี้ท่านแม่ทัพพานางมายังคลังเก็บเสบียงของกองทัพ หลินหลินสำรวจดูแล้ว เห็นว่าที่นี่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ผู้ที่ลักลอบขโมยเสบียงคงต้องวางแผน เริ่มลงมือตั้งแต่การขนย้ายระหว่างเดินทาง เพราะหากเป็นของจำนวนมาก คงไม่มีทางที่ผู้ใดจะล่วงรู้เห็น ดูท่าแล้ว คนร้ายน่าจะมีพวกพ้องอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญ พวกมันต้องมีถุงมิติ จึงจะสามารถขนย้ายของจำนวนมาก โดยที่ทหารคนอื่นๆ ไม่รู้เห็นนางมองไปยังโรงเก็บเสบียง ซึ่งในตอนนี้ว่างเปล่า ราวกับไม่เคยมีสิ่งใดอยู่ มีเพียงกองมันเทศกองหนึ่งเท่านั้น"ข้าจะนำเสบียงมาเติมให้ รบกวนพวกท่านรออยู่ด้านนอกก่อนนะเจ้าคะ"เทียนชุนพยักหน้า ส่งสัญญาณให้ทหารคนอื่นๆ ออกไป แต่ตัวเขากลับไม่ขยับเขยื้อน หลินหลินไม่ได้ใส่ใจ นางเพียงแค่ไม่อยากให้ผู้อื่นเห็น ในขณะที่นางนำสิ่งของออกมาจากมิติเท่านั้นหลินหลินเริ่มต้นด้วยการนำข้าวสารออกมา 1,000 กระสอบ ตามด้วยของแห้ง เช่น เกี่ยมฉ่าย หัวไชโป๊ว ผักกาดดอง เปรี้ยวซึงฉ่าย อย่างละ 200 กระสอบ ไข่เค็ม 1,000 แผง เนื้อตากแห้ง หมูรมควันสำเร็จรูป อย่างละ 1,000 ห่อใหญ่ และผักดองอีก 1,000 ไห ส่วนของสด เช่น ไข่ไก่ ผ
"เอ่อ... ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพสอนข้าแล้ว เพียงแต่แค่อยากมาชมฝีมือคนอื่นดูบ้างเท่านั้น" สีหน้าประหม่าของหลินหลินยิ่งทำให้นายกองตวนชอบใจยิ่งนักนายกองตวนส่งสัญญาณให้ลูกน้องทางสายตา และพยายามเดินเข้าใกล้หลินหลิน หลินหลินที่รู้จุดประสงค์ของเขาดีอยู่แล้ว จึงส่งสัญญาณให้ผู้คุ้มกันไม่ต้องทำอะไร"คุณหนูเชิญที่สนามนี้ขอรับ"แม้นายกองตวนจะพยายามเดินเข้าใกล้หลินหลิน แต่ก็ติดผู้คุ้มกันเข้ามาขวางตลอด ทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดใจ"ข้าได้ยินมาว่าคุณหนูบริจาคอาหารมากมายมาเติมเสบียงที่หายไป..."เขาจงใจเว้นระยะเพื่อจับสังเกตสีหน้าของหลินหลิน แต่ก็พบเพียงความเขินอายของสตรีทั่วไป"ใช่เจ้าค่ะ พี่ชายข้ากำลังตกที่นั่งลำบาก เงินทองที่บิดามารดาข้าทิ้งไว้ให้ก็มีมากมายจนไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หมดหรือไม่ ไหนๆ เก็บไว้ก็ใช้ไม่หมด จึงอยากทำอะไรให้เกิดประโยชน์บ้างเจ้าค่ะ""อ๊ะ... ตรงนั้นมีคนฝึกธนูกันอยู่ ไปกันเถอะ"หลินหลินพูดกับผู้คุ้มกันของตนเมื่อหลินหลินเดินมาถึง ทหารหลายนายก็หยุดการฝึกซ้อม นางจึงรีบกล่าว"พวกท่านฝึกซ้อมต่อได้เลยเจ้าค่ะ"หลินหลินนั่งลงบนเก้าอี้สำหรับผู้คุม นายกองตวนไม่รอช้า รีบสาวเท้าเข้ามานั่งข
หลินหลินมองไปยังคนของนายกองตวนด้วยสายตาเย็นชา และแล้วเกมก็เริ่มขึ้น เชลยที่ถูกโซ่ตรวนไว้ที่แขนขา ไม่สามารถวิ่งหลบได้ พวกเขาทำใจไว้แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจก็คือ สตรีตรงหน้าไม่ได้เล็งธนูมาที่พวกเขาเลยแม้แต่น้อยปัก! ดอกแรกปักเข้ากลางเป้า คนของนายกองตวนที่วิ่งหนีไปไกลแล้วปัก! ปัก! ปัก! 3 ดอกที่ยิงออกไปไม่พลาดเป้าแม้แต่ดอกเดียว "นี่... นี่... ข้าฝันไปหรือเปล่า? นางเก่งกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ?"ผู้คนเริ่มฮือฮาขึ้นมาคนของนายกองตวนเริ่มวิ่งสับหลีกไปมา หลินหลินปล่อยให้พวกมันวิ่งเล่นไปก่อน นางค่อยๆ หยิบลูกธนูขึ้นมา ง้างคันศรอย่างมั่นคง ปัก! ปัก! ปัก!3 เป้าล้มลง ลูกธนูของนางเข้าเป้าทุกดอก หลินหลินหันไปมองนายกองตวนแล้วยิ้มเยาะ"อีก 3 ดอกเท่านั้นนะ นายกอง"ทุกคนในสนามที่กำลังส่งเสียงเชียร์ กลับเงียบลง พวกเขาไม่คาดคิดว่าทหารของนายกองตวนจะเอาเด็กน้อยมาบังเป้า"พวกท่านภูมิใจนักหรือ ที่เอาชีวิตคนอื่นมาเป็นโล่กำบัง? นี่หรือ พี่น้องร่วมรบของพวกท่าน?"หลินหลินถามด้วยสายตาเย็นยะเยือกเมื่อคนของนายกองตวนเห็นเช่นนั้น ก็โยนเด็กทิ้ง แล้วชักมีดออกมา หลินหลินเห็นดังนั้นก็หัวเราะลั่น"ได้! พวกเจ้าเล่
หลินหลินนั่งมองพี่ชายที่อาบน้ำแต่งตัวให้น้องสาวอย่างทะนุถนอม เด็กคนนี้เข้มแข็งมาก แม้สูญเสียบิดามารดา แต่ก็อดทนเลี้ยงน้องมาอย่างดีที่สุด ปกป้องสุดกำลังที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ ไม่สิ ไม่ใช่เด็กคนหนึ่งหรอก แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนยังทำไม่ได้เลย วันนี้นางคงต้องเลื่อนการสำรวจป่าไปก่อน ไว้ไปพรุ่งนี้แล้วกันสองพี่น้องหลี่จิน หลี่หวาหวา จูงมือกันออกมาจากฉากกั้น นางกวักมือเรียกพวกเขาให้มานั่งตรงโต๊ะอาหาร นางเอาไข่ตุ๋น ต้มจืดหมูสับ และข้าวสวยออกมาให้เด็กๆ กินทั้งสองแม้หิวแต่ก็ไม่มีท่าทีมูมมามให้เห็น พวกเขาค่อยๆ ทานไป มองหน้านางไป รอยยิ้มมุมปากของหลินหลินยกขึ้นด้วยความเอ็นดูหนูน้อยทั้งสองคน เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยกินข้าวหมดแล้ว หลินหลินจึงเก็บทุกอย่างเข้ามิติ"เรามาคุยกันก่อนดีไหม""อาจิน หวาหวา ตอนที่หนีออกมา เจ้าอยากไปที่ใดหรือ?"หลี่จินเอียงคอครุ่นคิด เขาไม่รู้....ขอรับเพียงแค่อยากหนีออกมาให้ไกลจากบ้านเท่านั้น" ข้าพเจ้าไม่ได้คิดไว้ขอรับ""เรียกข้าว่าพี่หลิน ดีไหม? เจ้ามาเป็นน้องสาวน้องชายของข้าไหม? ข้าจะปกป้องเจ้าเอง"น้ำตาเด็กทั้งสองไหลอย่างไม่อาจกั้น นานเท่าใดแล้วที่ไม่ได้ยินคำนี้ ....แม่จะปกป้องพ
หลินเอ๋อร์ เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น "เจ้าบอกว่านางยินดีแต่งงานกับพี่ เจ้ามั่นใจใช่หรือไม่""ข้า...ข้ามั่นใจเจ้าค่ะ ข้าจะคืนของหมั้นให้ท่าน เรื่องระหว่างเรา...""เจ้ารับปาก!"เสียงร่างหนากล่าวอย่างลืมตัว เขาเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่(นางยังไม่ทันที่จะพูดจบ แต่เขากลับยินดีให้นางรับปาก เจ็บเกินไปแล้ว)"ข้ารับปากเจ้าค่ะ""ดี ดีมาก หลินเอ๋อร์ เจ้าคิดถูกแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ เจ้ายินดีแต่งงานกับพี่ เจ้าพูดแล้วนะ พรุ่งนี้พี่จะส่งข่าวให้ท่านแม่ของพี่เจ้าอย่าลืมแจ้งทางครอบครัวให้เตรียมตัวไว้ เพราะมารดาของพี่คงไปที่ครอบครัวของเจ้าเร็วๆ นี้แน่นอน"เทียนชุนไม่เคยดีใจอะไรเท่านี้มาก่อน เขาจูบที่หน้าผากหญิงสาวเบาๆ หลายครั้ง"ข้า... ไม่ใช่..ข้าเจ้าค่ะ ข้าบอกให้ท่านไปสู่ขอนาง ไม่ใช่ข้า ท่านฟังผิดหรือไม่เจ้าคะ""ไม่ผิดหรอก เจ้ามองที่ผ้าผูกผมดีๆ หลินเอ๋อร์"หลินหลินงุนงง แต่ก็ยอมมองไปที่ผ้าผูกผม มันเป็นผ้าผูกผมเรียบง่าย นางเลื่อนสายตาจนไปสะดุดกับคำว่า"เจียงฮวา"ที่ปลายผ้าของอีกด้าน"ผ้านี้เป็นของนาง? นางกับเขาเคยเจอกันมาก่อน?""เจ้าบอกว่าฮวาฮวาคือเจ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้ารับปากแล้ว พี่จะรีบแจ้งข่าวไปที่ท่านแม่..."
ยามเหม่า (05.00 น.) หลินหลินค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองคนที่นอนกอดนางไว้ไม่ปล่อยตลอดทั้งคืน นางชอบใบหน้าคมคายนี้ ชอบเวลาที่เขาเป็นห่วง ชอบเวลาที่เขาหึงหวง สายตาที่มองมาด้วยความรัก นางชอบมันทุกอย่าง หากเป็นเช่นนี้ไปตลอดก็คงดี...หลินหลินขยับตัวลุกขึ้น จูบลงบนหน้าผากของเขาแผ่วเบา"ท่านทำให้ข้าหลงรักท่านได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ..."เมื่อหลินหลินออกจากกระโจมไปแล้ว บุรุษผู้ถูกเอ่ยถึงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น... ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาเขามิเคยคิดว่านางจะยอมรักเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้... แต่ตัวเขารู้หัวใจตัวเองดี เขายังจดจำอดีตได้ เขารู้ว่าตนเองผิดต่อนาง และเฝ้ารอคอยนางมานานแสนนาน...เขาไม่อาจสูญเสียนางไปอีก... เขาพร้อมยอมตายเพื่อหญิงสาวตรงหน้า โดยไม่รู้สึกเสียดาย ขอเพียงตราบชั่วชีวิตนี้... ได้มีนางอยู่เคียงข้าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในทุกๆ วัน ได้เห็นนางในชีวิตของเขา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วร่างหนาค่อยๆ ลุกขึ้น เอื้อมมือไปปลดผ้าพันแผลออก เขามองรอยแผลที่เริ่มตกสะเก็ดภายในคืนเดียว และที่สำคัญ เขาไม่ได้กระอักเลือดเพียงเพราะพิษจากดาบเล่มนั้น หากแต่พิษที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขามาตั้งแต่เด
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา