ยามเหม่า (05.00 น.) หลินหลินค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองคนที่นอนกอดนางไว้ไม่ปล่อยตลอดทั้งคืน นางชอบใบหน้าคมคายนี้ ชอบเวลาที่เขาเป็นห่วง ชอบเวลาที่เขาหึงหวง สายตาที่มองมาด้วยความรัก นางชอบมันทุกอย่าง หากเป็นเช่นนี้ไปตลอดก็คงดี...หลินหลินขยับตัวลุกขึ้น จูบลงบนหน้าผากของเขาแผ่วเบา"ท่านทำให้ข้าหลงรักท่านได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ..."เมื่อหลินหลินออกจากกระโจมไปแล้ว บุรุษผู้ถูกเอ่ยถึงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น... ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาเขามิเคยคิดว่านางจะยอมรักเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้... แต่ตัวเขารู้หัวใจตัวเองดี เขายังจดจำอดีตได้ เขารู้ว่าตนเองผิดต่อนาง และเฝ้ารอคอยนางมานานแสนนาน...เขาไม่อาจสูญเสียนางไปอีก... เขาพร้อมยอมตายเพื่อหญิงสาวตรงหน้า โดยไม่รู้สึกเสียดาย ขอเพียงตราบชั่วชีวิตนี้... ได้มีนางอยู่เคียงข้าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในทุกๆ วัน ได้เห็นนางในชีวิตของเขา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วร่างหนาค่อยๆ ลุกขึ้น เอื้อมมือไปปลดผ้าพันแผลออก เขามองรอยแผลที่เริ่มตกสะเก็ดภายในคืนเดียว และที่สำคัญ เขาไม่ได้กระอักเลือดเพียงเพราะพิษจากดาบเล่มนั้น หากแต่พิษที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขามาตั้งแต่เด
เมื่อหลินหลินใกล้ถึงตำแหน่งของทั้งสอง หัวใจก็กระตุกวาบ ดวงตาตรวจสอบแจ้งกลุ่มคนมากมายห้อมล้อมตำแหน่งของไป๋หูและเสี่ยวเฮย นางไม่อาจช้าได้อีกต่อไป หลิวเคอข้าจะนำหน้าไปก่อน พวกเจ้าจงตามผงสีแดงที่ข้าโรยไว้ตามทาง เมื่อพูดจบหลินหลินจึงใช้ความไวของสายลมระดับ8 นางหายวับไปกับตาหลิวเคอและกลุ่มผู้คุ้มกันจึงเร่งฝีเท้ารีบติดตามนางไปเสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของเหล่าชายฉกรรจ์ดังก้องป่า ราวกับปีศาจที่กำลังสนุกสนานกับความทุกข์ทรมานของผู้อื่น คำพูดเย้ยหยันดูถูก ราวกับดาบที่กรีดลึกเข้าไปในหัวใจหลินหลิน "ข้าจะตัดหัวของไอ้หมีบ้านี้ไปให้ทุกคนในกลุ่มเห็นว่าพวกเราเก่งกาจเพียงใด""ฮ่าๆๆๆเราค่อยๆแร่เนื้อมันออกมากินดีหรือไม่?ข้าอยากลองเนื้อมันยิ่งนัก! "ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กของสตรีนางหนึ่งก็ดังขึ้น "ไม่ต้องรีบ...ปล่อยให้พวกมันตายช้าๆ ข้าว่ามันสนุกดี จริงหรือไม่เพคะองค์ชาย? ข้าชอบสายตาสิ้นหวังของศัตรู สายตาไม่ยอมจำนน แต่ไม่มีทางสู้ แบบนี้ข้าชอบ...เป็นที่สุด ฮ่าๆๆๆๆ"หลินหลินรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงหัวใจ ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปด้วยม่านน้ำตา ไป๋หู...ที่นางรักบัดนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือด
ท้องฟ้าเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง... ตอนนี้นางต้องพาคนของนางออกจากป่าให้ไวที่สุด! สัตว์อสูรบุกมาเยอะมาก พวกมันคงกำลังต่อสู้แย่งชิงอาหารกันอย่างดุเดือด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่เหลือจะต้องเจอกับอะไร ก็คงไม่ต่างจากเสี่ยวเฮย นางใจดีเตือนพวกมันแล้วแท้ๆ"ไปทางนั้น! เราต้องไปทางนั้น!"ทุกคนไม่รีรอ ความเร็วของกลุ่มหลินหลินเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือ ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วยาม พวกเขาก็ออกจากป่าได้สำเร็จ หลินหลินพาทุกคนอ้อม จึงใช้เวลานานขึ้น แต่พวกเขาจะปลอดภัย ไม่ต้องต่อสู้กับอะไรเลย หลินหลินมุ่งหน้าไปยังกระโจมท่านแม่ทัพทันที เมื่อเข้าไปในกระโจมได้ หลินหลินก็หายตัวเข้ามิติไปเลย ไม่ได้สนใจคนที่นั่งรออยู่ด้วยความกระวนกระวายใจแม้แต่น้อย"รายงานมา!"หลิวเคอเข้ามารายงานทุกอย่างไม่มีตกหล่น ตั้งแต่เข้าป่าจนกระทั่งออกจากป่า สายตาท่านแม่ทัพน่ากลัวจนเขาแทบไม่กล้าหายใจแรง ความเงียบบ่งบอกว่าเรื่องนี้ควรเป็นความลับ... หลิวเคอรู้ว่าควรทำอะไร เขาเป่านกหวีดลับเพื่อเรียกให้คนทั้งหมดเข้ามาในกระโจม ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมเพรียงกัน... พวกเขารู้ว่าถูกเรียกมาด้วยเรื่องอะไร พวกเขาดันไปรู้ความลับของคุณหนูเข
นางแนะนำอาจินกับหวาหวาให้กับระบบ และพาพวกเขาเข้านอน ตอนนี้ถึงเวลานอนแล้ว เด็กน้อยทั้งสองก็หลับลงอย่างรวดเร็วตอนนี้ไป๋หูกับเสี่ยวเฮยยังไม่ฟื้น ไว้นางจะมาหาพวกเขาใหม่" ออกจากมิติ " พรึ่บ!พี่ใหญ่ หลินหลินเดินเข้าไปหาพี่ชายทันทีที่ออกมา"ไปทานข้าวกันเจ้าค่ะ...ท่านแม่ทัพคงรอนานแล้ว" หลินหลินเดินนำออกไปก่อน จึงไม่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของพี่ชายไม่รู้ทำไม ใจเขารู้สึกไม่สบายใจเลยหลินหลินเดินออกมาหน้ากระโจม ก็เจอหลิวเคอยืนดักอยู่ก่อนแล้ว"คุณหนู ท่านแม่ทัพสั่งว่าให้คุณหนูเดินทางไปหาไป๋หูตอนนี้ได้เลยขอรับ"สายตานางมองเห็นเงาในกระโจม ที่ไม่ได้มีเพียงท่านแม่ทัพ นางเข้าใจความหมายที่ท่านแม่ทัพต้องการจะสื่อ หากให้นางเดาคนในกระโจมคงหนีไม่พ้น...รัชทายาท เขามาก่อนกำหนด!ข้อมือของนางถูกดึงเข้าไปยังกระโจมอีกครั้ง...."หลินเอ๋อร์ เข้ามิติตอนนี้เลย....พี่ใหญ่จะส่งข้อความหาเจ้า เจ้าอย่าลืมตอบจดหมาย และอย่าได้ปรากฏตัวออกมาเด็ดขาด พี่เกรงว่าอาจจะเกิน 2 วัน พี่จะส่งข้อความบอกเจ้าอีกที""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะรอ หากพี่ใหญ่ให้ข้าออกมาได้วันไหน ก็ส่งข้อความบอกนะเจ้าคะ"แม้นางจะสงสัยว่า เหตุใดพวกเขาต้องกลัวองค์
หลินหลินกดสั่งซื้อหยกเวทสื่อสารรุ่นใหม่มา 19 อัน นางจ่ายเงินไปถึง 1,900 เหรียญทอง หลินหลินรู้สึกได้ว่าตัวนางเบาเลย เดี๋ยวนางคงต้องไปปล้นท่านแม่ทัพคืน...ของท่านแม่ทัพ 10 ชิ้น แบ่งไว้สำหรับลงประมูล 5 ชิ้น อีก 4 ชิ้น คือของครอบครัวนาง นางจะเอาไว้ให้ท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านพี่ มันสะดวกกว่ามาก.....หลังจากนี้ จะได้ไม่ต้องคอยมองว่ามีใครทิ้งจดหมายไว้บนโต๊ะหรือไม่เอ...ว่าไปแล้ว นางลองกับพี่ใหญ่และท่านพ่อ ท่านแม่ก่อนเลยดีกว่า นางเขียนจดหมายระบุวิธีใช้ไว้ให้ทุกคนแล้ว.....นางเน้นย้ำว่า ก่อนใช้อย่าลืมหยดเลือด 1 หยด ส่วนนางหยดเลือดไปแล้ว จะได้สื่อสารกันได้หลินหลินรู้ว่า...กว่าคนที่บ้านของนางจะอ่านจดหมายนี้ ก็คงอีกหลายวันในมิติ นางจึงกลับเรือนไปหาหวาหวากับอาจินก่อนดีกว่า ระบบแจ้งว่า พวกเขาทั้งสองลืมตาตื่นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"ฮ่าๆๆๆ" เสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังมาแต่ไกล ทำให้หลินหลินยิ้มเต็มใบหน้า"อาจิน หวาหวา พี่รองมาแล้ว"เสียงที่มาก่อนตัว ทำให้หวาหวาหันซ้ายหันขวาจนหัวยุ่งไปหมดเมื่อหวาหวาเห็นหลินหลิน ก็วิ่งไปหาหลินหลินทันที สองแขนที่กางออกของเด็กน้อย ทำให้หลินหลินใช้มืออุ้มตัวนางลอยขึ้น และหมุ
มื้อนั้นทุกคนอิ่มกันจนลุกไม่ไหว เดือดร้อนเสี่ยวเฮย ต้องแบกหวาหวาไปส่งนางถึงห้องนอน ในมิติไม่มีกลางคืน นางจึงไม่สามารถนั่งชมจันทร์อย่างที่ชอบได้ นางอยู่ในนี้มา 3 เดือนแล้วดีที่มีหยกสื่อสาร นางจึงได้คุยกับบิดามารดาทุกวัน ส่วนพี่ชายของนาง ทิ้งจดหมายไว้ว่าไม่ควรติดต่อกันตอนนี้ นางก็เข้าใจเขาทั้งๆ ที่นางอยากบอกเขาเหลือเกินว่า การซ่อนนางไว้ มันไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะพวกเขาไม่สามารถซ่อนนางได้ตลอดไป....แต่นางก็รอ..รอพวกเขาพร้อม ซึ่งตัวนางนั้น พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาทุกรูปแบบ นางไม่กลัวรัชทายาท นางมีหลายต่อหลายวิธี ที่ทำให้เขาไม่กล้ามายุ่งกับนาง แต่คงต้องขอดูก่อนว่า บุรุษคนนี้มาดีหรือมาร้าย ไว้วันนั้นค่อยว่ากันอีกทีชีวิตของหลินหลินในมิติไม่ได้มีอะไรมาก ตื่นมานางก็กินข้าว เก็บเด็กๆ สายหน่อยก็พากันไปศึกษาตำราเวทกัน มีครั้งหนึ่ง นางพาเด็กๆ ไปเข้าทางหน้าผา เพื่อเปิดประสบการณ์เรียกได้ว่า หวาหวาน้อยก๊อบปี้ นางมาไม่มีผิดเพี้ยน ฮ่าๆๆๆๆ นางมีเพื่อนกรี๊ดแล้ว"ตอนเที่ยง เราจะกินข้าวที่กลางทุ่งเลี้ยงม้ากัน"นางตั้งใจรออาหารย่อยก็จะพาเด็กๆ ขี่ม้าเล่น นางให้พวกเขาฝึกใช้พลังเวทให้คุ้นชินตกเย็นก็มานั่งกิ
เย่เล่อชินก้าวถอยหลังแบบไม่รู้ตัว นางมองใบหน้าของท่านแม่ทัพ ที่บัดนี้มีแต่ความไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้า เหมือนกับว่า... หากนางอยู่ใกล้เขาอีกนิด นางอาจขาดอากาศจนตาย สองขาที่เริ่มโอนเอน ทำให้นางล้มลงไปกองอยู่กับพื้น นางก้มหน้าลงมองพื้น ไม่กล้าสบตาคู่นั้น มันน่ากลัวมาก สายตาที่กำลังบอกนางว่า... หากนางพูดอีกแค่ครึ่งคำ เขาจะสังหารนางจริงๆหลินหลินเดินเข้าไปจับแขนของท่านแม่ทัพ นางรู้ว่าเวลานี้ เขาไม่พอใจและเก็บอาการมากมายขนาดไหน การที่เขาต้องส่งนางมารักษาองค์รัชทายาทนั้น ก็เต็มกลืนของเขาแล้ว"ท่านแม่ทัพ ข้าไม่อาจปิดตารักษาคนไข้ได้เจ้าค่ะ แต่.... ข้าสามารถรักษาให้หายโดยไวได้เจ้าค่ะ รัชทายาทจะได้สามารถเดินทางกลับเมืองหลวงได้โดยเร็วเจ้าค่ะ"เพียงไม่กี่คำของสตรีตรงหน้า ก็สามารถคลี่คลายความกดดันของท่านแม่ทัพออกไปได้"พี่จะเข้าไปกับเจ้า หลินเอ๋อร์ ไปเถอะ ทุกอย่างจะได้จบสิ้นกันสักที พี่อยากฟังสิ่งที่เจ้าจะเล่าแล้ว"น้ำเสียงอ่อนโยนนี้ เห็นได้ชัดว่ามันมีไว้แค่น้องสาวของเขาคนเดียว เจียงเหวินมองคุณหนูเล่อชินอย่างสงสารนางเป็นแค่เด็กสาวอายุแค่ 17-18 ที่ไม่ได้รับรู้แผนการอันซับซ้อน.... ที่นางมาที่นี่ ก็เป็น
รุ่งเช้าหลินหลินตื่นมาด้วยอาการสดชื่น เมื่อคืนนางฝันดีมากๆ หลินหลินมองคนตัวใหญ่ที่หลับอยู่ด้านข้างของนางอย่างอารมณ์ดีจุ๊บริมฝีปากบางจูบลงไปที่หน้าผากของคนที่หลับไม่ยอมตื่น"ข้าไปกระโจมก่อนนะเจ้าคะ"ว่าจบหลินหลินก็ก้าวเท้าลงจากเตียงแต่ขายังไม่ทันได้แตะพื้น ร่างของนางก็หมุนคว้างไปกับที่นอน"ห้ามเจ้ายิ้มให้มัน..."เอาอีกแล้ว! อาการหวงเกินเบอร์ของคนตรงหน้า หน้าจะกำเริบหลินหลินรีบขานรับ "เจ้าค่ะ" ก่อนวิ่งออกนอกกระโจมไปดูจากสายตาเขาแล้ว หากนางไม่รับปาก อย่าหวังจะได้ก้าวเท้าออกจากกระโจมเลยหลินหลินเข้ามิติมาอาบน้ำแต่งตัว น่าแปลกที่วันนี้อากาศในมิติปรวนแปร อากาศหนาวเย็นขึ้นผิดปกติ ตอนนี้น่าจะ 20-23 องศานางรั้งอยู่ในมิติรอดูอากาศที่แปรปรวนก็พบว่าอุณหภูมิลดลงต่อเนื่องอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ตอนนี้อุณหภูมิลดลงไปเหลือ 15 องศาแล้วนางรีบหาชุดกันหนาวมาให้เด็กๆ หลายชุด"ระบบในมิติเกิดอะไรขึ้น?""ระบบยังตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติที่เป็นอันตรายขอรับ""อาจิน หวาหวา ออกไปนอกมิติกับพี่ก่อนเถอะ พวกเจ้าจะออกไปกับข้าด้วยหรือไม่?"หลินหลินหันไปถามครอบครัวไป๋หูและเสี่ยวเฮย"ไม่..ข้าอยู่ในที่อากาศหนาวได้ ข้าช
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา