เหยนก่วงได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองแม่ลูกจ้าวเฉียวอวิ๋น เวลานี้ สถานที่นี่หรือว่ามาเพื่อตระกูลหลินเหรอ?เขาคิดไปคิดมาก็ตัดสินใจที่จะพบหน้าสักหน่อยไม่นานนัก จ้าวเทียนหวาก็เดินเข้ามาเขาประสานมือแสดงความเคารพจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ผู้จัดการเหยนได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วครับ”เหยนก่วงกลับไม่ได้ลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ ในเมื่ออีกฝ่ายก็เป็นแค่พ่อค้า ต่อให้มีความสามารถแค่ไหนแล้วจะทำไมกัน?“เถ้าแก่จ้าวจู่ ๆ มาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”จ้าวเทียนหวายิ้มพูด: “ตัวผม รับคำสั่งจากคุณชายของผมให้เดินทางมาเพื่อปกป้องคุณหลินเสวี่ยฮุ่ยกับคุณนายจ้าวครับ”“หึหึ...”เหยนก่วงพูดด้วยความเหยียดหยาม: “หึหึ ตอนนี้พวกเธอสองคนคือตัวประกัน ต้องให้คุณปกป้องด้วยเหรอ?”“ผู้จัดการเหยน ผมเตือนคุณว่าอย่ามั่นใจตัวเองมากเกินไป คุณกล้ามุ่งเป้าไปที่คุณหนูหลิน คุณชายของผมโมโหเป็นอย่างมาก”จ้าวเทียนหวาพูดอย่างมีระเบียบแบบแผน: “ผมหวังว่าคุณจะปล่อยคนไปเดี๋ยวนี้ ถึงเวลาผมจะช่วยผู้จัดการเหยนขอความเมตตา ไม่ถึงกับทำให้ความสัมพันธ์บาดหมางกัน”ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าหลินเฟิงได้จัดการเหยนซู่เรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงลงมือไป
หลินเฟิงที่กำลังอยู่ในขีดโมโห ไม่มีความสงสาร และไม่มีความลังเลแม้แต่นิดเขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไปเหยนก่วงตกตะลึงจนหน้าถอดสี เขาไม่สามารถจับเงาของหลินเฟิงได้ด้วยซ้ำอีกฝ่ายก็มาถึงตรงหน้าของเขาแล้วยังไม่รอให้เขาตั้งตัวได้ ก็รู้สึกเจ็บปวดที่แขนขึ้นมาเหมือนกับถูกค้อนเหล็กที่แข็งแกร่งทุบเข้าให้ด้วยความรุนแรงกระบี่กายสิทธิ์ในมือก็หลุดออกจากมือทันทีหลินเฟิงกลับไม่มีความคิดที่จะยั้งมือจากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไปอีก หมัดกระแทกไปที่หน้าผากของเขาเหยนก่วงไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของหลินเฟิงได้ด้วยซ้ำ คนทั้งคนกลิ้งไปบนพื้นหลายรอบถึงจะหยุดร่างกายลงได้“แม่ง ปล่อยคนซะ” หลินเฟิงจับคอของเขาเอาไว้แล้วพูดข่มขู่ลูกศิษย์ของสำนักอวี้เจี้ยนก็ตกตะลึงยิ่งกว่า“นี่...คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการเหยนจะรับการโจมตีไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว?”ลูกศิษย์คนอื่น ๆ เห็นเหยนก่วงพ่ายแพ้การต่อสู้ พวกเขากลุ่มนี้ก็ไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอกสู้ตายกับหลินเฟิงเกรงว่าไม่มีจุดจบที่ดีอะไร ในตอนที่พวกเขาเตรียมจะปล่อยคนเหยนก่วงก็ตะโกนด้วยสีหน้าดุดัน: “ห้ามปล่อย ฆ่าพวกเธอซะ”ลูกชายของเขาตายไปแล
จ้าวเทียนหัวตกตะลึง ดูท่าจะหลีกเลี่ยงการเปิดศึกกับสำนักอวี้เจี้ยนไม่ได้แล้ว “เสี่ยวฝาน วันนี้ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” จ้าวเฉียวอวิ๋นดวงตาแดงก่ำเธอรีบเดินไปด้านข้างลูกชายของเธอและถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลินฝานพูดไม่ออกชั่วขณะ จากนั้นก็ก้มหน้าพูดขึ้น: “แม่ ขอโทษด้วย ผม...ฆ่าคนแล้วจริง ๆ”“นี่...นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน? เมื่อก่อนลูกไม่ใช่คนแบบนี้นะ” จ้าวเฉียวอวิ๋นพูดด้วยความเจ็บปวดหลินฝานพูดด้วยดวงตาที่ขมขื่น: “แม่ ผมขอโทษ ผมขอโทษครับ”ในตอนนี้หลินเฟิงพูดขึ้นมา: “หวงเสี่ยวม่านเป็นชู้กับเซี่ยสือซิน หลินฝานโมโหจึงได้ฆ่าพวกเขา”ได้ยินคำพูดนี้ จ้าวเฉียวอวิ๋นก็ชะงักงันอยู่กับที่ทันทีไม่รู้ว่าควรจะสั่งสอนลูกชายของเธออย่างไร ลูกชายตัวเองถูกสวมเขา เธอก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายอดกลั้นเอาไว้สิ่งที่หลินเสวี่ยฮุ่ยเป็นกังวลมากที่สุดก็คืออนาคตของพี่ชายของเธอ: “พี่ใหญ่ งั้นต่อไปพี่จะทำอย่างไร?”หลินฝานก้มหน้าลง เขาก็ไม่รู้ว่าต่อไปควรจะทำอย่างไรดีในตอนนี้หลินเฟิงพูดขึ้นอีก: “ผมจะส่งให้พี่ชายของคุณไปหลบซ่อนที่ต่างประเทศ นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เขาจะมีชีวิตอยู่ได้”จากนั้
เหยนก่วงเศร้าโศกเป็นอย่างมาก เขากอดศพของลูกชายเอาไว้และร้องโฮออกมาอย่างเจ็บปวดเสียลูกชายในวัยชรา ส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมากคนตระกูลเหยนมองดูแล้วไม่มีใครที่ไม่โศกเศร้าเหยนจวิ้นตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงโมโห: “แม่งเอ๊ย เป็นไอ้หลินเฟิงคนนี้อีกแล้ว ข่มเหงรังแกกันจนเกินไปแล้ว”“ไอ้หมอนี่วันนี้ก็แย่งวัตถุดิบยาของคุณพ่อผมไป แถมยังกล้าฆ่าลูกพี่ลูกน้องของผมอีก? ความแค้นนี้ไม่แก้แค้นก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว”คนตระกูลเหยนคนอื่น ๆ ก็แค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ภายใต้การบอกเล่าของเหยนก่วง หลินเฟิงได้กลายเป็นนักโทษที่มีความผิดร้ายแรงไปแล้ว“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พี่ต้องช่วยผมล้างแค้นนะครับ วิทยายุทธของผมถูกไอ้หมอนั่นทำลายแล้ว ลูกชายของผมนอนตายตาไม่หลับนะครับ”เหยนก่วงกอดขาพี่ใหญ่ของเขาแล้วร้องโหยหวนเหยนควานที่นั่งอยู่ตรงต่ำแหน่งด้านบนหรี่ตาลง ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่“พ่อ ไม่ต้องคิดแล้ว พวกเราไปฆ่าไอ้หลินเฟิงคนนั้นกันตอนนี้เถอะ” เหยนจวิ้นพูดกับพ่อเหยนควานถลึงตาใส่เขาแล้วพูดอย่างเรียบเฉย: “ฆ่าหลินเฟิง? ใครไป? แกจะไปเหรอ?”“คนผู้นี้ความสามารถไม่ธรรมดา อีกอย่างแกก็เห็นแล้
สองวันต่อมา งานเลี้ยงตระกูลเหยนจัดขึ้นตามเวลาถังหว่านยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินเฟิงในช่วงสองวันนี้เธอยังคงขับรถมารับหลินเฟิงไปร่วมงานเลี้ยงหลินเฟิงเดินออกมาจากคฤหาสน์แต่คิดไม่ถึงว่านอกจากถังหว่านแล้วก็มีฉินอิ๋งอยู่ด้วยเพียงแต่ว่าเมื่อคิดดูแล้วก็ถูกต้อง ไม่ว่าอย่างไรฉินอิ๋งก็คือคุณหนูของตระกูลฉิน ถือว่าเป็นลูกคนร่ำรวยของเมืองเจียงโจวถูกเชิญก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหลังจากที่หลินเฟิงขึ้นรถก็พูดขึ้น: “งานเลี้ยงของลูกคนร่ำรวยเมืองเจียงโจวอย่างพวกคุณทำไมต้องพาผมไปด้วย?”“โอ๊ย อย่างไรซะคุณก็ถือว่าเป็นผู้ร่ำรวยรุ่นที่หนึ่งของวัยรุ่นเมืองเจียงโจวนะ อีกอย่างยังไปพร้อมกับคุณหนูอย่างฉัน ไม่ขายหน้าหรอก”แขนข้างหนึ่งของถังหว่านวางไปที่ลำคอของหลินเฟิงแล้วหัวเราะคิกคัก“อีกอย่างงานเลี้ยงในครั้งนี้ก็เป็นวัยรุ่นทั้งหมด ไม่มีพวกคนแก่เหล่านั้น พวกเราสามารถเที่ยวสนุกได้เต็มที่”“บริษัทของพวกเราก่อตั้งมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่ได้สังสรรค์กันสักครั้ง”หลินเฟิงมุมปากกระตุก: “ดีจริง ๆ คุณใช้เงินของคนอื่นเพื่อมาเลี้ยงผมเหรอ?”“ไม่ต้องใส่ใจกับรายละเอียดขนาดนั้นหรอก อิ๋งอิ๋งออกรถ”ทั้งสามค
“คุณหลินไม่มีชิปแล้วเหรอคะ?”ไป๋ชิงเฉี่ยนมองดูหลินเฟิงที่แพ้จนหมดเกลี้ยงแล้วถามขึ้น“ที่ฉันยังมีอยู่เล็กน้อย คุณเอาไปใช้ก่อนก็ได้ค่ะ”หลินเฟิงรีบโบกมือแล้วพูดขึ้น: “ไม่จำเป็นครับ ผมก็แค่เล่นผ่าน ๆ ไปเท่านั้นเองครับ”“ชิงเฉี่ยน คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรครับ?” ในตอนนี้มีเสียงที่โดดเด่นดังขึ้นเห็นแค่ว่าชายสวมชุดสูทคนหนึ่งสาวเท้าเดินเข้ามาหลินเฟิงจ้องมองไป เขาก็คือเหยนจวิ้นคุณชายของตระกูลเหยน“หลินเฟิง? คิดไม่ถึงว่าคุณก็มาด้วย”เหยนจวิ้นแสร้งทำเป็นตกตะลึง: “เที่ยวเล่นที่นี่พึงพอใจไหมครับ?”ในตอนนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนพูดอธิบาย: “งานเลี้ยงในวันนี้เหยนจวิ้นเป็นคนจัดงานค่ะ”หลินเฟิงได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นถิ่นของตระกูลเหยนในตอนนี้เหยนจวิ้นพูดขึ้นกับไป๋ชิงเฉี่ยน: “ชิงเฉี่ยน ผมพาคุณไปรู้จักเพื่อนคนอื่น ๆ นะครับ”ไป๋ชิงเฉี่ยนกลับพูดเสียงเบา: “ไม่เอาดีกว่า คนพวกนั้นฉันไม่รู้จักสักเท่าไหร่”เหยนจวิ้นพูดต่อ: “ไม่เอาสิครับ คุณเป็นถึงบุคคลสำคัญในวันนี้ อีกอย่างมีเพื่อนเยอะก็มีเส้นสายเพิ่มมากขึ้น”“ในอนาคตคุณเป็นถึงคนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลเหยน รู้จักเพื่อนของผมเอาไ
“คุณก็แค่ถือว่ามีตระกูลถังค้ำหนุนคุณอยู่เบื้องหลัง ถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?”หลินเฟิงมองเขาอย่างเหยียดหยามแล้วพูดดูถูก: “แล้วจะทำไม? ไม่เหมือนคุณ คุณไป๋เธอไม่อยากสนใจคุณ คุณกลับเป็นเหมือนกับหมาที่ประจบสอพลอ”“นาย...”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็โมโหเป็นอย่างมากเหยนจวิ้นอดกลั้นความโมโหในใจแล้วพูดขึ้น: “หึ เป็นแบบนั้นแล้วจะทำไม ไป๋ชิงเฉี่ยนจะเป็นผู้หญิงของฉันไม่ช้าก็เร็ว รอให้ฉันแต่งงานกับไป๋ชิงเฉี่ยนเรียบร้อย ฉันจะทำอย่างไรกับเธอก็ทำอย่างนั้น”“ถึงเวลาฉันจะมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกมากมายเท่าไหร่ เธอก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”“ส่วนนายกลับเป็นได้แค่หมาของตระกูลถังตลอดไป”หลินเฟิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา: “คำพูดประโยคนี้ถ้าให้คุณไป๋ได้ยิน เกรงว่าเธอคงจะผิดหวังอย่างมากนะ”“ฮ่าฮ่าฮ่า...การแต่งงานเกี่ยวดองของฉันกับตระกูลไป๋เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”เหยนจวิ้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากสองตระกูลแต่งงานเกี่ยวดองกัน พวกเราไม่เห็นตระกูลถังอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ”“ตอนนี้นายมอบหัวใจมังกรใต้พื้นดินออกมา ถึงเวลาฉันยังสามารถพิจารณาไว้ชีวิตแกได้”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะ
“เกิดอะไรขึ้น?” ในตอนนี้เองถังหว่านกับฉินอิ๋งรีบตามกลับมาพบว่าที่ชั้นสองมีคนล้อมรอบอยู่มากมาย จึงตามเข้ามาร่วมครึกครื้นด้วยเหยนจวิ้นจึงพูดขึ้นทันที: “คุณถัง เพื่อนที่คุณพามายั่วยุสำนักอวี้เจี้ยนของผมแถมยังลงมือทำลายวัตถุโบราณของตระกูลเหยนของเราด้วย”“ผมลงมือห้าม เขาก็ยังกล้าทำร้ายคน เรื่องนี้เกรงว่าวันนี้คุณจะต้องให้คำอธิบายที่เหมาะสมกับผมหน่อยแล้วล่ะ”“อะไรนะ?”ถังหว่านได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากจึงรีบมองไปทางหลินเฟิงรู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอรู้จักนิสัยของหลินเฟิงเป็นอย่างดี จึงไม่เชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของเหยนจวิ้นอยู่แล้ว“หลินเฟิงนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”หลินเฟิงสองแขนกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน: “ไอ้หมอนี่อยากได้หัวใจมังกรใต้พื้นดินของผม ผมไม่ให้ เขาก็เลยแย่งชิงกันซึ่ง ๆ หน้า”“ผมไม่ลงมือจัดการเขาแล้วจะจัดการใคร?”ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็พากันมองหน้ากัน สองคนนี้มีคำพูดของตัวเอง พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครชั่วขณะถังหว่านเชื่อคำพูดของหลินเฟิงอยู่แล้ว จึงขมวดคิ้วมองไปทางเหยนจวิ้น“คุณชายเหยน มีเรื่องแบบนี้ไหมคะ?”เหยนจวิ้นส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ: “ไอ้หมอนี่ก