Share

บทที่ 3

Author: หนีเต๋อซู
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่า ครั้งนี้ เมื่อฉันถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่ชื้นแฉะนั้น ฉันได้ตายจากไปจริง ๆ

วิญญาณของฉันล่องลอยไปในโลกนี้อย่างแผ่วเบา ราวกับควันจาง ๆ ที่ไม่มีเสียงและไร้ร่องรอย

ฉันมองดูแม่และหวังโอวหัวเราะกันอย่างมีความสุขที่ริมทะเล แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนตัวพวกเธอ ราวกับมอบพรอันอบอุ่นที่สุดให้กับพวกเธอ

ส่วนฉันกลับเป็นเพียงฝุ่นผงที่ถูกลืมอยู่ในมุมหนึ่งของโลกนี้ แม้แต่แสงอาทิตย์สักเสี้ยวก็ยังไม่อาจสัมผัสถึง

“ลูกรัก ชอบสร้อยเส้นนี้ไหม? ถ้าชอบก็ซื้อเลย”

แม่พูดกับหวังโอวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู

สร้อยคอที่ประดับด้วยประกายเพชรระยิบระยับดูโดดเด่นและเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์

“ขอบคุณค่ะ แม่!” หวังโอวรับสร้อยคออย่างมีความสุข แล้วจู่ ๆ ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

“แม่คะ ซือซือตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า? เราควรจะวิดีโอคอลให้เธอดูวิวทะเลสวย ๆ นี้ดีไหม?”

ข้อเสนอที่ดูไร้เดียงสาของเธอกลับแฝงไว้ด้วยความประชดประชันอยู่เล็กน้อย

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดอย่างแรง

แต่สิ่งที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้นยังรออยู่ข้างหน้า

“จะโทรหาเธอทำไม! อย่าเอ่ยถึงไอ้ตัวไร้ค่านั่นเลย! พอพูดถึงเธอทีไร แม่ก็อดนึกถึงหรงหรงที่น่าสงสารของแม่ไม่ได้ หรงหรงหนีเรียนไปกับยัยนั่นแล้วเสียชีวิตเพราะเธอ ที่แม่ยังให้เธออยู่ในบ้านก็เพราะเธอเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแม่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่...”

น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความรังเกียจและเย็นชาอย่างลึกซึ้ง

“เมื่อเทียบกับยัยเด็กนั่น ลูกคือผู้กอบกู้ของแม่อย่างแท้จริง แม่ดีใจเหลือเกินที่ตัดสินใจรับลูกมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนนั้น”

ทุกถ้อยคำราวกับลูกศรคมกริบที่พุ่งทะลุผ่านวิญญาณของฉัน และดังก้องสะท้อนอยู่ในอากาศ

“ถ้ารู้แบบนี้ แม่ก็คงไม่ให้กำเนิดเธอตั้งแต่แรก ไอ้ตัวนำภัย...” แม่พูดเสริมขึ้นมาอีก

สายตาของฉันเริ่มพร่ามัว แม้ในฐานะวิญญาณฉันจะไม่สามารถร้องไห้ได้ แต่ในใจกลับเจ็บปวดราวกับถูกลูกศรนับพันพุ่งทะลุผ่าน

ความทรงจำทั้งหมดถาโถมเข้ามาเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก

ตอนที่พี่สาวพาฉันหนีเรียน และแอบปีนกำแพงออกไปข้างนอก แล้วเกิดเหยียบพลาดจนเสียชีวิตโดยไม่คาดคิด

ตัวฉันในวัยเด็ก แววตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและไร้หนทาง และต้องเผชิญกับเงาหลังอันเย็นชาของครอบครัวที่โยนความผิดทั้งหมดมาที่ฉัน และตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นที่เป็นความรักจากแม่อีกเลยตลอดชีวิตนี้

ภาพของพวกเขาที่กำลังยืนอยู่ริมทะเล สนุกสนานกับชีวิตอันแสนสุขในวันหยุด ตัดกับฉันที่เคยเดินตามหลังพวกเขาอย่างเงียบ ๆ คอยแบกรับความเจ็บปวด และแสวงหาการยอมรับและความรัก แต่ไม่เคยได้รับความอบอุ่นหรือความห่วงใยแม้สักครั้งเดียว

ในความเป็นจริง ภาพเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเหล่านี้ซึ่งเคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังคงปรากฏขึ้นในความทรงจำ

ทุกครั้งที่แม่พาหวังโอวออกไปเที่ยวอย่างมีความสุข และทิ้งฉันไว้คนเดียวที่บ้านอย่างโดดเดี่ยว กระสับกระส่ายและไร้ที่พึ่ง

ทุกครั้งที่ฉันกลับมาจากโรงเรียนด้วยความหวังว่าจะได้แบ่งปันเรื่องราวในแต่ละวัน แต่กลับได้รับเพียงคำพูดเย็นชา หรือบางครั้งก็ถูกเมินเฉยอย่างสิ้นเชิง

ภาพเหล่านี้ทั้งหมดสลับกันวนเวียนเข้ามา จนกลายเป็นข้อพิสูจน์สุดท้ายว่า แม้กระทั่งหลังความตาย การมีอยู่ของฉันก็ยังคงถูกปฏิเสธและถูกลืม

เสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งดังชัดเจนในอากาศ แต่ฉันกลับไม่ได้ยินเสียงอบอุ่นใด ๆ จากโลกใบนี้อีกแล้ว มีเพียงเสียงแห่งการดิ้นรนและเสียงร้องไห้สะท้อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเท่านั้น...

แม่ยังดูเหมือนไม่รู้ว่าฉันตายไปแล้ว เธอยังคงคิดว่าฉันดื้อรั้นเหมือนเมื่อก่อน และมักจะขัดแย้งกับเธออยู่เสมอ

แต่แม่ลืมไปนานแล้วว่า ฉันไม่ได้เถียงกับเธอมาหลายปีแล้ว และไม่เคยทำให้หวังโอวโกรธเลย แถมยังทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานในบ้านหลังนี้ที่ควรจะเป็นของฉันเอง ราวกับเป็นคนรับใช้

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะฉันไม่ได้ห้ามพี่สาวไม่ให้ปีนกำแพงในวันนั้น ความรู้สึกผิดที่ฉันมีต่อครอบครัวทำให้ถึงแม้ว่าแม่จะปฏิบัติกับฉันไม่ดีเพียงใด ฉันก็ยังคงอดทนมาตลอด

ในใจฉันได้แต่บอกตัวเองเงียบ ๆ ว่า แม่เพียงแค่รักพี่สาวมากเกินไป ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดฉัน แต่ถ้าฉันเข้าใจเธอมากขึ้น ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น

แต่หลังจากการมาถึงของหวังโอว แม่ก็ยิ่งห่างเหินจากฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงที่เคยอุ้มฉันไว้ในอุ้งมือเมื่อครั้งยังเด็ก บัดนี้กลับทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโหดร้าย

แม้กระทั่งตอนที่ฉันตายไปแล้ว ฉันก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากพวกเธอได้ ได้แต่เฝ้ามองแม่แสดงความรักกับลูกบุญธรรมที่ไม่มีสายเลือดเกี่ยวพันกันอย่างสนิทสนม

“เสี่ยวโอว คราวนี้พอกลับไปแล้ว ผลการตรวจการเข้ากันของไตก็น่าจะออกแล้วนะ ถ้าผ่าตัดได้ล่ะก็ แม่จะให้ลูกได้เปลี่ยนไตที่แข็งแรงแน่นอน ลูกรักของแม่!”

แม่ลูบผมของหวังโอวอย่างอ่อนโยน ขณะที่หวังโอวเผยรอยยิ้มที่ปิดไม่มิดด้วยความดีใจ เธอกอดแม่แน่นพร้อมกล่าวขอบคุณ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความดูถูก

บางทีในใจเธออาจจะคิดว่า แม่ที่แม้กระทั่งกับฉันซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ที่เชื่อฟัง ยังปฏิบัติเหมือนเป็นคนผิด แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่แม่จะรักและปฏิบัติต่อลูกบุญธรรมที่ไม่มีสายเลือดอย่างเธอเหมือนลูกแท้ ๆ ได้?

Related chapters

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 4

    ฉันมองดูทั้งสองคนใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกลางอากาศ จนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล และแจ้งว่าการตรวจการเข้ากันของไตนั้นสำเร็จ และฉันสามารถบริจาคไตให้หวังโอวได้แม่ให้หวังโอวโทรหาฉัน และแจ้งให้ฉันเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด และบอกให้รอจนพวกเธอกลับมาถึงแต่ไม่ว่าหวังโอวจะโทรหาฉันกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสายฉันตายไปแล้ว จะไปรับโทรศัพท์ได้ยังไงล่ะ?“แม่คะ ซือซือไม่รับโทรศัพท์เลย! หรือว่าเธอไม่อยากบริจาคไตให้หนูแล้ว แม่...หนูฮือ ๆ...” หวังโอวแกล้งร้องไห้ และซบไหล่แม่ น้ำตาเธอไหลพรากราวกับดอกหลีฮวาที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน“ไอ้ตัวไร้ค่านั่น แม้แต่โทรศัพท์ยังไม่มีปัญญารับ! ไม่รู้ไปตายที่ไหน! ถ้าแม่ติดต่อเธอได้ แม่จะจัดการให้เข็ดหลาบแน่!”เสียงแม่ดังก้องไปทั่วบ้านพักริมทะเลด้วยความโกรธ เธอพยายามโทรหาฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีใครรับสาย และทุกครั้งที่ไม่มีคนตอบรับก็ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟในใจของเธอมากขึ้น“แม่ว่าเธอคงเบื่อชีวิตเต็มทีแล้ว!”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วแน่น “แม่คะ คิดว่าซือซือจะโกรธจริง ๆ แล้วไม่ยอมบริจาคไตให้หนูหรือเปล่า? เมื่อก่อนเรา...” ยังไม่ทันพูดจบ แม่ก็หันมาจ้องหวังโอ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 5

    “เป็นเรื่องจริงค่ะคุณผู้หญิง! ผู้เสียชีวิตเบื้องต้นถูกวินิจฉัยว่าเป็นการตายจากการแตกของเนื้องอกในสมองที่เกิดจากบาดแผล!”“มันจะเป็นไปได้ยังไง! เธอยังเป็นคนที่แข็งแรงและกระฉับกระเฉงอยู่เลย แล้วจะมีเนื้องอกในสมองได้ยังไง? ทำไมถึงตายแบบนี้ได้?!”เสียงของแม่ดังก้องไปทั่วทางเดินของโรงแรมซึ่งเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและความโกรธ“พวกคุณที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญต้องทำอะไรผิดพลาดแน่ ๆ!”หวังโอวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้ำตาคลอเบ้า แต่ในแววตากลับเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่“แล้ว...แล้วซือซือตายจริง ๆ เหรอ? แล้วไตของหนู...” เธอยังพูดไม่ทันจบ แม่ก็จ้องเธอด้วยสายตาดุดัน“หยุดพูด! ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้!”แม่ของฉันหันไปถามหมอทางโทรศัพท์ต่อด้วยน้ำเสียงคาดคั้น “พวกคุณตรวจละเอียดแล้วหรือยัง? อยู่ดี ๆ จะเป็นเนื้องอกในสมองได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ก็ยังสบายดีอยู่เลย!”หมออธิบายอย่างอดทนว่า “พวกเราได้ยืนยันหลายครั้งแล้ว ขอแสดงความเสียใจจริง ๆ ค่ะ การเสียชีวิตเกิดจากการที่เนื้องอกในสมองลุกลามจากการบาดเจ็บ หากคุณมีข้อสงสัย สามารถขอให้ทำการชันสูตรศพได้ค่ะ!”“ชันสูตรศพ?” แม่ของฉันหัวเราะอย่างเย็

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 6

    หากไม่ใช่เพราะฉันตายไป หวังโอวก็คงไม่มีวันเผยธาตุแท้ของเธอออกมาหลังจากกลับถึงบ้าน แม่ของฉันทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเริ่มทำโน่นทำนี่อย่างไม่ใส่ใจ “ลูกรัก คืนนี้อยากกินอะไร? แม่จะทำให้”น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนหากเป็นฉันในวัยเด็ก ฉันคงจะรู้สึกมีความสุขกับภาพเช่นนี้แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขันเหลือเกินหวังโอวยืนอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบสนองและพูดขึ้นว่า “แม่...หนู...ไม่หิวค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเร่งเดินขึ้นไปชั้นบนภายใต้แสงไฟแผ่นหลังของเธอดูเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูกส่วนวิญญาณของฉันก็ติดตามเธอเข้าไปในห้องทันทีที่หวังโอวปิดประตูหน้าต่าง เธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน “ใช่แล้ว! ซือซือตายแล้ว! ตอนนี้ไม่มีไตที่เหมาะสมอีกแล้ว!”เสียงถามอย่างเร่งรีบดังมาจากปลายสาย แต่หวังโอวกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? มันหมายความว่าฉันต้องทำการฟอกไตต่อไป! สัปดาห์ละสามครั้ง! คุณรู้ไหมว่ามันรู้สึกอย่างไร?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของฉันก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่มแทงที่แท้ ในสายตาของพวกเขา ฉันก็เป็นเพีย

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 7

    หวังโอวกลับเข้าห้องนอน ทันทีที่ปิดประตู เธอเผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองออกมาในพริบตาเธอหยิบโทรศัพท์จากลิ้นชักข้างเตียงออกมา แล้วรีบกดหมายเลขโทรออกอย่างรวดเร็ว“พ่อคะ หนูโอนเงินให้พวกพ่อแล้ว”น้ำเสียงของเธอดูเย็นชาและเร่งรีบปลายสายมีเสียงแหบแห้งของชายคนหนึ่งดังขึ้น “เสี่ยวโอว ขอบใจมากนะ แต่เธอก็รู้นี่ พวกเจ้าหนี้ของพ่อ…”“พอเถอะ!” หวังโอวพูดตัดบททันที “นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! อย่ามาขอเงินจากหนูอีก หนูเองก็ป่วยอยู่! ทำไมไม่รู้จักเป็นห่วงหนูบ้างเลย?”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความประชดประชันและความโกรธชายที่อยู่ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นว่า "เสี่ยวโอว อย่าทำแบบนี้เลย พวกเราก็ไม่มีทางเลือก เธอจะไม่ให้เงินพ่อไม่ได้นะ ถ้าเธอไม่ให้เงินพ่อล่ะก็ เชื่อไหมว่าพ่อจะบอกความจริงว่าเธอเป็นคนทำให้หวังหรงตาย..."“หุบปาก!!” หวังโอวกัดฟันพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภไม่รู้จักพอของพวกพ่อ หนูคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้!”เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วลดเสียงลงแต่แฝงไปด้วยความข่มขู่ “ถ้าพ่อกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป หนูจะให้เจ้าหนี้ของพ่อโยนพ่อไปให้หมากิน…”ปลายสายเงียบสนิทไปทันทีผ่านไปเนิ่นนานก็ได้ยินเสียง

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 8

    หากไม่ใช่เพราะวันนั้นที่แม่บังเอิญพบเข้า บางทีเธออาจจะไม่มีวันเชื่อเลยว่า ลูกสาวบุญธรรมที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทุ่มเทจะทำกับเธอเช่นนี้“ขอแค่เรื่องสำเร็จแล้วเธอให้ฉันตามจำนวนนี้! ฉันก็จะส่งมอบความลับสำคัญของบริษัทให้ทั้งหมดทันที!”หวังโอวโอ้อวดเสียงดังในร้านอาหาร ราวกับว่าเธอเห็นภาพตัวเองกำลังถือเงินก้อนโตอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองเธอด้วยความสงสัย “คุณหนูหวัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมคุณถึงอยากทำลายบริษัทที่แม่ของคุณสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองล่ะ?”สายตาของหวังโอวฉายแววดูถูก “เธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแม่ของฉันเสียด้วยซ้ำ!”คำพูดนี้เหมือนค้อนหนักที่กระแทกลงกลางใจของแม่ที่แอบฟังอยู่หลังประตูความโกรธและความผิดหวังปะทุขึ้นในใจของแม่ เธอไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเหล่านั้นได้อีกต่อไปจึงผลักประตูเข้ามา“เสี่ยวโอว! นี่มันหมายความว่ายังไง? นี่ลูกต้องการผลักธุรกิจของครอบครัวเราลงเหวจริง ๆ เหรอ?”แม่ของฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เด็กสาวผู้เคยอ่อนโยนและน่ารักคนเดิม ตอนนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่แสนเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด เธอแค่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา“โอ้โห ‘แม่’ ที่รักของฉันนนน”

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 9

    บรรยากาศภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบงันอันแปลกประหลาดอีกครั้ง ราวกับเป็นความสงบสุดท้ายก่อนพายุจะโหมกระหน่ำแม่ของฉันนั่งอยู่บนพื้น กุมหัวร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างกายที่สั่นเทาและเสียงสะอื้นที่ขาดช่วง ฟังดูแหลมแทงใจยิ่งนักในบ้านที่ควรจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น“ซือซือ...ซือซือ...” แม่ของฉันพึมพำชื่อฉันซ้ำไปซ้ำมา ทุกคำที่เปล่งออกมาราวกับมีเบ็ดเกี่ยวลึกลงไปในใจของเธอ ดึงเอาความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดออกมา“ซือซือ...แม่ขอโทษ...”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ และมองภาพนี้โดยไร้ความรู้สึกเห็นใจใด ๆเธอหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “หึ! ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าผิดเหรอ? เพิ่งคิดได้ว่าจะยอมรับความผิดอย่างนั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”แม่ของฉันเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปื้อนน้ำตาจ้องมองหวังโอว “แต่แม่สำนึกผิดจริง ๆนะ แม่รู้ว่าตัวเองทำผิดมามาก...”“สำนึกผิดอย่างนั้นเหรอ?” หวังโอวขัดแม่ของฉันทันที “คิดว่าแค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่กี่คำจะลบล้างเรื่องราวที่ผ่านมาได้เหรอ? คิดว่ามันจะทำให้คนตายฟื้นคืนมาได้งั้นเหรอ?”“อย่างน้อยฉันก็ยอมรับว่าฉันผิด!” แม่ของฉันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “อย่างน้อยฉันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! แทนที่จะมัวเย็นชาและก

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 10

    หวังโอวหนีไปพร้อมกับของมีค่าทั้งหมดในบ้านส่วนแม่ของฉันนั่งอยู่ในห้องใต้ดินมืด ๆ ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ สายตาของเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดเธอร้องไห้พลางนึกถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยทำกับฉันในอดีต คำว่าขอโทษหลุดออกจากปากของเธอซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดฉันที่ลอยอยู่ในอากาศ มองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกชินชาจนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์ เธอกำมือถือไว้แน่น มือสั่นระริกขณะที่รอฟังเสียงตอบกลับจากปลายสายเป็นเสียงอันเย็นชาของพ่อแท้ ๆ ของหวังโอว ผู้ที่เต็มไปด้วยความละโมบ“สิบห้าล้าน ไม่มากไปไม่น้อยไป ถ้าคุณจ่ายมา ฉันก็จะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้”เสียงของเขาดูเหมือนดังมาจากเหวลึก เต็มไปด้วยความเย็นชาและการคิดคำนวณมาอย่างเจ้าเล่ห์แม่ของฉันกำโทรศัพท์แน่น “ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง? ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้? หรือคุณไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย?” เธอแทบจะตะโกนออกมา“ความเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ?” พ่อของหวังโอวพูดขึ้นราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก “เมื่ออยู่ต่อหน้าเงินแล้ว คำว่าความเป็นมนุษย์มันก็ถูกโยนทิ้งไปนานแล้ว”แม่ของฉันพิงกำแพงด้วยความอ่อนล้า “ได้...ฉันตกลง แต่คุ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 11

    เมื่อแม่ของฉันหาหวังโอวจนพบ หวังโอวกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตบนเรือยอชต์แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อเห็นว่าแม่ของฉันพาคนมาด้วยเธอสั่งบอดี้การ์ดรอบตัวให้จัดการคนที่แม่ของฉันพามาจนหมดและจับตัวแม่ของฉันพากลับไปยังบ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดและชื้นซึ่งเคยขังฉันมาก่อน หวังโอวผลักแม่ของฉันเข้าไปอย่างไร้ความปรานีผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยเชื้อราที่เกาะแน่น อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นอับชื้นและคาวเลือดผสมกันนี่คือสถานที่ที่ทำให้คนสิ้นหวัง และเป็นกรงขังที่ฉันเคยต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อนหวังโอวหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาแล้วปิดประตูเหล็ก ในมือของเธอถือไม้เบสบอล ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความวิปริต“คุณรู้ไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงได้เปลี่ยนไตใหม่ไปนานแล้ว! ฉันคงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้!”เสียงของเธอแหลมคมและบาดหูแม่ของฉันนั่งพิงผนัง แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเธอยังคงมั่นคง “หวังโอว...เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้?”“หุบปาก!” หวังโอวตะโกนพร้อมกับยกไม้เบสบอลขึ้น“เป็นเพราะคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณในตอนนั้น ชีวิตของ

Latest chapter

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 11

    เมื่อแม่ของฉันหาหวังโอวจนพบ หวังโอวกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตบนเรือยอชต์แต่สีหน้าของเธอกลับดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อเห็นว่าแม่ของฉันพาคนมาด้วยเธอสั่งบอดี้การ์ดรอบตัวให้จัดการคนที่แม่ของฉันพามาจนหมดและจับตัวแม่ของฉันพากลับไปยังบ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดและชื้นซึ่งเคยขังฉันมาก่อน หวังโอวผลักแม่ของฉันเข้าไปอย่างไร้ความปรานีผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยเชื้อราที่เกาะแน่น อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นอับชื้นและคาวเลือดผสมกันนี่คือสถานที่ที่ทำให้คนสิ้นหวัง และเป็นกรงขังที่ฉันเคยต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อนหวังโอวหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาแล้วปิดประตูเหล็ก ในมือของเธอถือไม้เบสบอล ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความวิปริต“คุณรู้ไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงได้เปลี่ยนไตใหม่ไปนานแล้ว! ฉันคงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้!”เสียงของเธอแหลมคมและบาดหูแม่ของฉันนั่งพิงผนัง แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเธอยังคงมั่นคง “หวังโอว...เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้?”“หุบปาก!” หวังโอวตะโกนพร้อมกับยกไม้เบสบอลขึ้น“เป็นเพราะคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณในตอนนั้น ชีวิตของ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 10

    หวังโอวหนีไปพร้อมกับของมีค่าทั้งหมดในบ้านส่วนแม่ของฉันนั่งอยู่ในห้องใต้ดินมืด ๆ ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ สายตาของเธอพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดเธอร้องไห้พลางนึกถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยทำกับฉันในอดีต คำว่าขอโทษหลุดออกจากปากของเธอซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดฉันที่ลอยอยู่ในอากาศ มองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกชินชาจนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์ เธอกำมือถือไว้แน่น มือสั่นระริกขณะที่รอฟังเสียงตอบกลับจากปลายสายเป็นเสียงอันเย็นชาของพ่อแท้ ๆ ของหวังโอว ผู้ที่เต็มไปด้วยความละโมบ“สิบห้าล้าน ไม่มากไปไม่น้อยไป ถ้าคุณจ่ายมา ฉันก็จะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้”เสียงของเขาดูเหมือนดังมาจากเหวลึก เต็มไปด้วยความเย็นชาและการคิดคำนวณมาอย่างเจ้าเล่ห์แม่ของฉันกำโทรศัพท์แน่น “ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง? ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้? หรือคุณไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย?” เธอแทบจะตะโกนออกมา“ความเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ?” พ่อของหวังโอวพูดขึ้นราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก “เมื่ออยู่ต่อหน้าเงินแล้ว คำว่าความเป็นมนุษย์มันก็ถูกโยนทิ้งไปนานแล้ว”แม่ของฉันพิงกำแพงด้วยความอ่อนล้า “ได้...ฉันตกลง แต่คุ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 9

    บรรยากาศภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบงันอันแปลกประหลาดอีกครั้ง ราวกับเป็นความสงบสุดท้ายก่อนพายุจะโหมกระหน่ำแม่ของฉันนั่งอยู่บนพื้น กุมหัวร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างกายที่สั่นเทาและเสียงสะอื้นที่ขาดช่วง ฟังดูแหลมแทงใจยิ่งนักในบ้านที่ควรจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น“ซือซือ...ซือซือ...” แม่ของฉันพึมพำชื่อฉันซ้ำไปซ้ำมา ทุกคำที่เปล่งออกมาราวกับมีเบ็ดเกี่ยวลึกลงไปในใจของเธอ ดึงเอาความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดออกมา“ซือซือ...แม่ขอโทษ...”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ และมองภาพนี้โดยไร้ความรู้สึกเห็นใจใด ๆเธอหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “หึ! ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าผิดเหรอ? เพิ่งคิดได้ว่าจะยอมรับความผิดอย่างนั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”แม่ของฉันเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปื้อนน้ำตาจ้องมองหวังโอว “แต่แม่สำนึกผิดจริง ๆนะ แม่รู้ว่าตัวเองทำผิดมามาก...”“สำนึกผิดอย่างนั้นเหรอ?” หวังโอวขัดแม่ของฉันทันที “คิดว่าแค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่กี่คำจะลบล้างเรื่องราวที่ผ่านมาได้เหรอ? คิดว่ามันจะทำให้คนตายฟื้นคืนมาได้งั้นเหรอ?”“อย่างน้อยฉันก็ยอมรับว่าฉันผิด!” แม่ของฉันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “อย่างน้อยฉันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! แทนที่จะมัวเย็นชาและก

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 8

    หากไม่ใช่เพราะวันนั้นที่แม่บังเอิญพบเข้า บางทีเธออาจจะไม่มีวันเชื่อเลยว่า ลูกสาวบุญธรรมที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทุ่มเทจะทำกับเธอเช่นนี้“ขอแค่เรื่องสำเร็จแล้วเธอให้ฉันตามจำนวนนี้! ฉันก็จะส่งมอบความลับสำคัญของบริษัทให้ทั้งหมดทันที!”หวังโอวโอ้อวดเสียงดังในร้านอาหาร ราวกับว่าเธอเห็นภาพตัวเองกำลังถือเงินก้อนโตอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองเธอด้วยความสงสัย “คุณหนูหวัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมคุณถึงอยากทำลายบริษัทที่แม่ของคุณสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองล่ะ?”สายตาของหวังโอวฉายแววดูถูก “เธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแม่ของฉันเสียด้วยซ้ำ!”คำพูดนี้เหมือนค้อนหนักที่กระแทกลงกลางใจของแม่ที่แอบฟังอยู่หลังประตูความโกรธและความผิดหวังปะทุขึ้นในใจของแม่ เธอไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเหล่านั้นได้อีกต่อไปจึงผลักประตูเข้ามา“เสี่ยวโอว! นี่มันหมายความว่ายังไง? นี่ลูกต้องการผลักธุรกิจของครอบครัวเราลงเหวจริง ๆ เหรอ?”แม่ของฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เด็กสาวผู้เคยอ่อนโยนและน่ารักคนเดิม ตอนนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่แสนเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด เธอแค่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา“โอ้โห ‘แม่’ ที่รักของฉันนนน”

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 7

    หวังโอวกลับเข้าห้องนอน ทันทีที่ปิดประตู เธอเผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองออกมาในพริบตาเธอหยิบโทรศัพท์จากลิ้นชักข้างเตียงออกมา แล้วรีบกดหมายเลขโทรออกอย่างรวดเร็ว“พ่อคะ หนูโอนเงินให้พวกพ่อแล้ว”น้ำเสียงของเธอดูเย็นชาและเร่งรีบปลายสายมีเสียงแหบแห้งของชายคนหนึ่งดังขึ้น “เสี่ยวโอว ขอบใจมากนะ แต่เธอก็รู้นี่ พวกเจ้าหนี้ของพ่อ…”“พอเถอะ!” หวังโอวพูดตัดบททันที “นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! อย่ามาขอเงินจากหนูอีก หนูเองก็ป่วยอยู่! ทำไมไม่รู้จักเป็นห่วงหนูบ้างเลย?”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความประชดประชันและความโกรธชายที่อยู่ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นว่า "เสี่ยวโอว อย่าทำแบบนี้เลย พวกเราก็ไม่มีทางเลือก เธอจะไม่ให้เงินพ่อไม่ได้นะ ถ้าเธอไม่ให้เงินพ่อล่ะก็ เชื่อไหมว่าพ่อจะบอกความจริงว่าเธอเป็นคนทำให้หวังหรงตาย..."“หุบปาก!!” หวังโอวกัดฟันพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภไม่รู้จักพอของพวกพ่อ หนูคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้!”เธอหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วลดเสียงลงแต่แฝงไปด้วยความข่มขู่ “ถ้าพ่อกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป หนูจะให้เจ้าหนี้ของพ่อโยนพ่อไปให้หมากิน…”ปลายสายเงียบสนิทไปทันทีผ่านไปเนิ่นนานก็ได้ยินเสียง

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 6

    หากไม่ใช่เพราะฉันตายไป หวังโอวก็คงไม่มีวันเผยธาตุแท้ของเธอออกมาหลังจากกลับถึงบ้าน แม่ของฉันทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเริ่มทำโน่นทำนี่อย่างไม่ใส่ใจ “ลูกรัก คืนนี้อยากกินอะไร? แม่จะทำให้”น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนหากเป็นฉันในวัยเด็ก ฉันคงจะรู้สึกมีความสุขกับภาพเช่นนี้แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขันเหลือเกินหวังโอวยืนอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบสนองและพูดขึ้นว่า “แม่...หนู...ไม่หิวค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเร่งเดินขึ้นไปชั้นบนภายใต้แสงไฟแผ่นหลังของเธอดูเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูกส่วนวิญญาณของฉันก็ติดตามเธอเข้าไปในห้องทันทีที่หวังโอวปิดประตูหน้าต่าง เธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน “ใช่แล้ว! ซือซือตายแล้ว! ตอนนี้ไม่มีไตที่เหมาะสมอีกแล้ว!”เสียงถามอย่างเร่งรีบดังมาจากปลายสาย แต่หวังโอวกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? มันหมายความว่าฉันต้องทำการฟอกไตต่อไป! สัปดาห์ละสามครั้ง! คุณรู้ไหมว่ามันรู้สึกอย่างไร?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของฉันก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่มแทงที่แท้ ในสายตาของพวกเขา ฉันก็เป็นเพีย

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 5

    “เป็นเรื่องจริงค่ะคุณผู้หญิง! ผู้เสียชีวิตเบื้องต้นถูกวินิจฉัยว่าเป็นการตายจากการแตกของเนื้องอกในสมองที่เกิดจากบาดแผล!”“มันจะเป็นไปได้ยังไง! เธอยังเป็นคนที่แข็งแรงและกระฉับกระเฉงอยู่เลย แล้วจะมีเนื้องอกในสมองได้ยังไง? ทำไมถึงตายแบบนี้ได้?!”เสียงของแม่ดังก้องไปทั่วทางเดินของโรงแรมซึ่งเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและความโกรธ“พวกคุณที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญต้องทำอะไรผิดพลาดแน่ ๆ!”หวังโอวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้ำตาคลอเบ้า แต่ในแววตากลับเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่“แล้ว...แล้วซือซือตายจริง ๆ เหรอ? แล้วไตของหนู...” เธอยังพูดไม่ทันจบ แม่ก็จ้องเธอด้วยสายตาดุดัน“หยุดพูด! ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้!”แม่ของฉันหันไปถามหมอทางโทรศัพท์ต่อด้วยน้ำเสียงคาดคั้น “พวกคุณตรวจละเอียดแล้วหรือยัง? อยู่ดี ๆ จะเป็นเนื้องอกในสมองได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ก็ยังสบายดีอยู่เลย!”หมออธิบายอย่างอดทนว่า “พวกเราได้ยืนยันหลายครั้งแล้ว ขอแสดงความเสียใจจริง ๆ ค่ะ การเสียชีวิตเกิดจากการที่เนื้องอกในสมองลุกลามจากการบาดเจ็บ หากคุณมีข้อสงสัย สามารถขอให้ทำการชันสูตรศพได้ค่ะ!”“ชันสูตรศพ?” แม่ของฉันหัวเราะอย่างเย็

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 4

    ฉันมองดูทั้งสองคนใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกลางอากาศ จนกระทั่งแม่ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล และแจ้งว่าการตรวจการเข้ากันของไตนั้นสำเร็จ และฉันสามารถบริจาคไตให้หวังโอวได้แม่ให้หวังโอวโทรหาฉัน และแจ้งให้ฉันเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด และบอกให้รอจนพวกเธอกลับมาถึงแต่ไม่ว่าหวังโอวจะโทรหาฉันกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสายฉันตายไปแล้ว จะไปรับโทรศัพท์ได้ยังไงล่ะ?“แม่คะ ซือซือไม่รับโทรศัพท์เลย! หรือว่าเธอไม่อยากบริจาคไตให้หนูแล้ว แม่...หนูฮือ ๆ...” หวังโอวแกล้งร้องไห้ และซบไหล่แม่ น้ำตาเธอไหลพรากราวกับดอกหลีฮวาที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน“ไอ้ตัวไร้ค่านั่น แม้แต่โทรศัพท์ยังไม่มีปัญญารับ! ไม่รู้ไปตายที่ไหน! ถ้าแม่ติดต่อเธอได้ แม่จะจัดการให้เข็ดหลาบแน่!”เสียงแม่ดังก้องไปทั่วบ้านพักริมทะเลด้วยความโกรธ เธอพยายามโทรหาฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีใครรับสาย และทุกครั้งที่ไม่มีคนตอบรับก็ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟในใจของเธอมากขึ้น“แม่ว่าเธอคงเบื่อชีวิตเต็มทีแล้ว!”หวังโอวยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วแน่น “แม่คะ คิดว่าซือซือจะโกรธจริง ๆ แล้วไม่ยอมบริจาคไตให้หนูหรือเปล่า? เมื่อก่อนเรา...” ยังไม่ทันพูดจบ แม่ก็หันมาจ้องหวังโอ

  • หลังฉันตาย คุณแม่ก็รู้ความจริง   บทที่ 3

    แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่า ครั้งนี้ เมื่อฉันถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่ชื้นแฉะนั้น ฉันได้ตายจากไปจริง ๆวิญญาณของฉันล่องลอยไปในโลกนี้อย่างแผ่วเบา ราวกับควันจาง ๆ ที่ไม่มีเสียงและไร้ร่องรอยฉันมองดูแม่และหวังโอวหัวเราะกันอย่างมีความสุขที่ริมทะเล แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนตัวพวกเธอ ราวกับมอบพรอันอบอุ่นที่สุดให้กับพวกเธอส่วนฉันกลับเป็นเพียงฝุ่นผงที่ถูกลืมอยู่ในมุมหนึ่งของโลกนี้ แม้แต่แสงอาทิตย์สักเสี้ยวก็ยังไม่อาจสัมผัสถึง“ลูกรัก ชอบสร้อยเส้นนี้ไหม? ถ้าชอบก็ซื้อเลย”แม่พูดกับหวังโอวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูสร้อยคอที่ประดับด้วยประกายเพชรระยิบระยับดูโดดเด่นและเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์“ขอบคุณค่ะ แม่!” หวังโอวรับสร้อยคออย่างมีความสุข แล้วจู่ ๆ ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้“แม่คะ ซือซือตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า? เราควรจะวิดีโอคอลให้เธอดูวิวทะเลสวย ๆ นี้ดีไหม?”ข้อเสนอที่ดูไร้เดียงสาของเธอกลับแฝงไว้ด้วยความประชดประชันอยู่เล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงแต่สิ่งที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้นยังรออยู่ข้างหน้า“จะโทรหาเธอทำไม! อย่าเอ่ยถึ

DMCA.com Protection Status