สองอาทิตย์ต่อมาไคล์ตัลมาอยู่ที่บ้านสวนกับอมีนาตลอด ทำงานเสร็จก็รีบกลับมาบ้านสวนหาเธอ โดยที่เขาไม่ได้กลับบ้านตัวเองหรือกลับบ้านไปหาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเลยสักครั้งบางครั้งเขาก็ไม่ได้คิดถึงคนรอบข้างหรือบางครั้งเขาอาจจะละเลยความรู้สึกของคนรอบข้างไปโดยไม่รู้ตัว เพราะเขากำลังมีความสุขกับอมีนาจนลืมคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างไปตอนนี้เขาไม่ได้ติดแค่เรือนร่างสวยงามของอมีนา แต่คุณชายยังคงติดทั้งอาหารที่อมีนาทำอีกด้วย เรียกได้ว่าติดใจจนทานอาหารทั้งเช้าทั้งเย็น พอไปทานที่อื่นก็ยังคิดถึงอาหารฝีมือของอมีนาอยู่ดี“วันนี้คุณชายจะกลับมาทานอาหารที่บ้านไหมคะ” เมษาถามขึ้นมาในระหว่างที่คุณชายมาเฟียกำลังทานอาหารเช้าอยู่“ทำไม” ไคล์ตัลถามขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางโกรธหรือโมโหให้เมษาแต่อย่างใด“อมีนาจะได้เตรียมอาหารเอาไว้ค่ะ คุณชายจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอนานๆ” เมษาตอบอย่างเอาใจคุณชายมาเฟียอมีนานั่งเงียบและรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ ถึงเธอจะไม่ได้เป็นคนถาม แต่คำถามของเมษาก็เป็นคำถามที่เธออยากรู้เหมือนกัน“มาสิ ฉันชอบรสชาติอาหารที่นี่” ใบหน้าหล่อยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ ทว่าคำตอบของเขาก็ทำเอาหญิงสาวอีกคนนั่งเข
หลังจากที่ส่งแขกเสร็จไคล์ตัลก็ตั้งท่าจะกลับบ้านทันที โดยที่ยังไม่ได้บอกอะไรใครเลยซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ผู้เป็นแม่เห็น“ลูกจะไปไหน”“คอนโดครับ” ไคล์ตัลเลือกที่จะโกหกคำโตออกไป“ทำไมไม่นอนที่บ้านกับหนูแพง ไหนๆ ก็มาถึงบ้านแล้ว” คุณแม่ยังคงดึงรั้งและอยากจะให้ลูกชายนอนที่บ้านกับภรรยา“พรุ่งนี้ผมมีประชุมตอนเช้าครับ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน” เหตุผลของไคล์ตัลก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องงานกับเรื่องประชุม“แต่หนูแพง…” คุณแม่เหมือนจะไม่ยอมและพยายามพูดเพื่อดึงลูกชายเอาไว้“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ แพงนอนคนเดียวได้ค่ะ” พะแพงที่ยืนอยู่ด้วยจึงพูดขึ้นมา“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เมื่อมีคนเข้าข้างและช่วยพูดให้ไคล์ตัลจึงขอตัวเดินออกมาทันทีคุณชายมาเฟียนั่งนิ่งอยู่บนรถที่กำลังขับเคลื่อนออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในใจเอาแต่คิดถึงหญิงสาวที่รอเขาอยู่ที่บ้าน“มีรถขับตามเรามาสักพักแล้วครับ” ลูกน้องคนสนิทรายงานผู้เป็นเจ้านายหลังจากที่สังเกตเห็นรถคันดังกล่าวมาสักระยะจนแน่ใจแล้ว“คันสีดำ ขับตามมาตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วครับ” ลูกน้องอีกคนรายงานพร้อมกับรอฟังคำสั่งจากผู้เป็นเจ้านาย“ไปคอนโด”คุณชายมาเฟียสั่งลูกน้องด้วยท่าทางนิ่งเรียบไม่ได้ตกใจ
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถของบ้านสวนหลังใหญ่ในเวลาตีห้า บรรยากาศเงียบสงบซึ่งเป็นเสน่ห์ของที่นี่ที่ต่างจากในเมืองอย่างลิบลับและเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาเลือกมาซื้อบ้านหลังนี้ร่างสูงสง่าเดินตรงไปยังห้องนอนของหญิงสาวที่เขาคุ้นเคยอย่างไม่รีรอ ไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาตอนนี้จะเรียกว่ายังไงดี เพราะเขาเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันหญิงสาวนอนหลังอยู่บนเตียงกว้างงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรบกวน แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรจึงนอนหลับต่อไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนหลับฝันดีแต่แล้วอมีนาก็ต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวตามร่างกายของเธอ ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยสายตาพล่ามัวไม่สามารถจับจุดโฟกัสกับภาพตรงหน้าได้“อือ” อาการของคนพึ่งตื่นนอนอาจจะต้องใช้เวลาให้สมองได้ปรับจูนกันบ้าง มือบางขยี้ตาเพื่อที่จะมองภาพตรงหน้าให้ชัดขึ้นชายหนุ่มก้มหน้าอยู่ตรงกลางหว่างขาของหญิงสาว ซึ่งเป็นภาพที่มองแล้วคิดในทางที่ดีไม่เลยได้นอกจาก…“คุณชาย…” อมีนาเรียกคนตรงหน้าเสียงเบา แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจว่าภาพตรงหน้าคือความฝันหรือความจริงในขณะที่สมองกำลังประมวลผลและคิดอ
บทรักดำเนินไปจนเกือบเที่ยงคุณชายมาเฟียก็นอนพักผ่อน เพราะเมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน พอมาถึงก็จัดหนักจัดเต็มจนเกือบจะไม่ได้พักอมีนามองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนนอนเธออยากเจอเขา ตื่นนอนเธอก็อยากตื่นมาเจอเขานอนอยู่ข้างๆ แบบนี้ทุกวันนับวันเธอก็ยิ่งมีความสุขและอยากจะอยู่กับเขาตลอดเวลา เธอคิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากวันหนึ่งเธอตื่นมาไม่เจอเขาชีวิตของเธอจะเป็นยังไงจะให้เธอนอนมองเขาไปทั้งวันก็ยังได้ แค่ได้มองเธอก็ดีใจและมีความสุขแล้ว ถ้าเขามาอยู่กับเธอทุกวันแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย และเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด“จะไปไหน” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายขยับตัว“มีนจะไปทำอาหารค่ะ นี่ก็จะเย็นแล้ว” หน้าที่การทำอาหารเป็นหน้าที่ของเธอและเธอก็อยากจะเอาใจเขาให้มากๆ“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มรีบห้ามเอาไว้ทันที“ทำไมล่ะคะ” หญิงสาวมองใบหน้าหล่อด้วยความสงสัย“เดี๋ยวฉันจะพาออกไปทานข้างนอก” คุณชายมาเฟียตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ“เอ่อ… คือมีน…” เมื่อได้ยินคำตอบของคุณชายทำเอาหญิงสาวอ้ำอึ้งเพราะเธอไม่พร้อมที่จะออกไปกับเขา เธอรู้ตัวและรู้ส
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ลูกว่ายังไงนะ!!” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวคนเล็กขึ้นมาด้วยท่าทางตกใจในขณะที่กำลังนั่งทานอาหารด้วยกันอย่างพร้อมหน้าอยู่ภายในบ้านหลังเล็ก“ท้องค่ะ หนูได้ยินมาว่าเมียคุณชายท้อง” เมษาตอบผู้เป็นแม่พร้อมกับพูดเน้นย้ำตามที่เธอรู้ข่าวจากแม่บ้านในตึกใหญ่มา“ข่าวจริงหรือเปล่าลูก” นวลจันทร์หันไปถามลูกสาวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ“จริงสิคะ หนูเข้าไปเอาของที่ห้องแล้วได้ยินแม่บ้านในตึกใหญ่พูดกัน” เมษาตอบผู้เป็นแม่ด้วยท่าทางมั่นใจเพราะเธอได้ยินมาแบบนี้จริงๆ“ไม่น่าล่ะถึงได้จัดงานแต่งเร็วแบบนี้” นวลจันทร์คิดสงสัยในใจมาตั้งแต่แรก“มีนจะไปไหนไม่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวหันหลังเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร“มีนยังไม่หิวค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ไม่อยากทำให้ผู้เป็นพ่อเป็นห่วง“ไม่หิวหรือทนฟังความจริงไม่ได้” เมษาหันไปแขวะพี่สาวต่างแม่ด้วยท่าทางหมั่นไส้ในความใสซื่อของอมีนา“แกนี่มันโง่จริงๆ เมื่อไหร่แกจะท้องแบบเมียคุณชายบ้าง!” แม่เลี้ยงพูดขึ้นมาด้วยความอารมณ์เสียเมื่ออมีนาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง“….” อมีนาเลือกที่จะยืนเงียบไม่พูดจาตอบโต้แต่อย่างใด“อีกหน่อ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นอมีนาก็ไม่เจอคุณชายอีกเลย เธอไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะอะไรคุณชายถึงไม่มาที่บ้านสวน บางทีเขาอาจจะยังอารมณ์ไม่ดีและโกรธเรื่องวันนั้นอยู่ก็เลยหายไปหลายวัน แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะไปอยู่เอาใจภรรยาที่กำลังท้องอยู่ก็ได้ เพียงแค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เจ็บปวดขึ้นมาทันทีหญิงสาวได้แต่นั่งน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ผู้หญิงต่ำต้อยไร้ค่าแต่กลับได้มาใกล้ชิดและผูกพันกับคุณชายผู้สูงส่ง ทว่าตอนนี้กลับต้องมาอยู่ในสถานะเมียเก็บซึ่งฟังดูไร้ค่าไร้ราคาร่างบางตั้งหน้าตั้งตารอคุณชายมาหาอยู่หลายวันแต่กลับไร้วี่แวว ไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยใดๆ อมีนาทำได้เพียงแค่เฝ้ารอให้เขากลับมาหาเธอด้วยความคิดถึง“มีนมาทานข้าวสิลูก” เสียงผู้เป็นพ่อเรียกลูกสาวให้มาทานอาหารด้วยกัน หลังจากที่สังเกตว่าตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ลูกสาวยังไม่ได้กินอะไรเลย“คุณพ่อทานก่อนเลยค่ะ มีนยังไม่หิว” หญิงสาวตอบเสียงเบาพร้อมกับนั่งรอฟังเสียงรถยนต์เผื่อว่าวันนี้คุณชายจะมาหาเธอบ้าง“ช่วงนี้คุณชายไปไหนทำไมไม่เห็นมาหาแกบ้างเลย” แม่เลี้ยงที่นั่งทานข้าวอยู่จึงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ถึงคุณชายจะไม่ได้มาที่นี
เช้าวันต่อมาหลังจากที่อมีนาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเธอก็รู้สึกว่าคนรอบข้างดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม่เลี้ยงที่เคยกดขี่ข่มเหงก็ดูเปลี่ยนไป ใจดีแถมยังพูดจากับเธอดีอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน“ตื่นแล้วเหรอลูก” นวลจันทร์เดินเข้าไปหาลูกเลี้ยงพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร“ค่ะ” อมีนาพยักหน้าตอบอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมแม่เลี้ยงถึงได้ดูเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้“มากินข้าวก่อน ดูสิอาหารเยอะแยะเลย” นวลจันทร์พาลูกเลี้ยงมายังโต๊ะอาหารเพื่อดูอาหารที่เธอทำเอาไว้รอ“นั่งก่อนสิลูก”ผู้เป็นพ่อเลื่อนเก้าอี้ให้ลูกสาวนั่งยังที่ประจำ ซึ่งอมีนาก็ยอมทำตามทุกอย่างถึงแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ทุกคนทำก็ตาม“กินข้าวกันเถอะ” นวลจันทร์เอ่ยชวนทุกคน“แล้วเมษาล่ะคะ” มีนาถามหาน้องสาวต่างแม่ขึ้นมาเมื่อไม่เห็นเธอออกมาสักที“ไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” ผู้เป็นพ่อตอบด้วยท่าทางหงุดหงิด“รีบกินข้าวเถอะ เราจะได้ออกไปข้างนอกกัน” นวลจันทร์รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวว่าสามีจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้“ไปทำไมคะ” อมีนาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ก็ไปหาหมอไง”“ใครจะไปหาหมอคะ” หญิงสาวยังคงถามต่อ“มีนไงลูก” ผู้เป็นพ่อเป็นฝ่ายต
“ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วครับ”เมื่อเห็นเจ้านายคุยโทรศัพท์เสร็จคชาจึงก้มหัวรายงานเจ้านาย เพราะวันนี้มีงานสำคัญที่คุณชายจะต้องเดินทางไปดูด้วยตัวเองในขณะเดียวตัลกันไคล์ตัลก็ยืนนิ่งราวกับมีเรื่องราวอะไรบางอย่างให้คิดขึ้นมาในหัว“ไปกันเถอะครับ” คชาพูดย้ำขึ้นมาอีกครั้งเมื่อต้องรีบทำเวลาให้ทัน“เลื่อนงานนี้ออกไปก่อน”เป็นคำพูดที่ไม่คิดว่าจะออกจากปากขอบคุณชาย เพราะปกติแล้วงานต้องมาก่อนทุกอย่างเสมอ ถ้าหากเป็นงานสำคัญแบบนี้ยิ่งไม่มีทางที่จะปฏิเสธหรือเลื่อนงานออกไปก่อนอย่างแน่นอน“แต่งานนี้สำคัญมากเลยนะครับ” คชาลูกน้องคนสนิทรีบพูดดึงสติผู้เป็นเจ้านายเพราะถึงยังไงงานนี้ก็สำคัญมาก“ก็บอกให้เลื่อนไปก่อน” คุณชายเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทางที่ดุดันมากขึ้น“แต่ว่า…” คชาไม่อยากให้เจ้านายเสียงาน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้แสดงความคิดเห็นอะไร ผู้เป็นเจ้านายก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน“เตรียมรถด้วย ฉันจะไปบ้านสวน” ถึงงานจะสำคัญแต่ไคล์ตัลก็อยากจะรู้ความจริงว่าอมีนาท้องตามที่นวลจันทร์บอกหรือเปล่า และเขาจะต้องไปดูด้วยตาของเขาเองในตอนนี้“ไม่ได้นะครับ” คชาปฏิเสธผู้เป็นเจ้านาย“ไปเตรียมรถ!” ไคล์ตัลสั่งเสียงแข็งก่อนจะเดิน
อมีนานั่งเงียบอยู่สักพักเพื่อคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น บางทีเธอก็มีส่วนผิดที่แกล้งพูดให้เขาอยากรู้ จนเขาต้องรีบขับรถมาหาเธอแบบนี้และในครั้งนี้เธอก็มีส่วนผิดไปด้วย จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้“มีนมีเรื่องอะไรจะบอกพี่เหรอครับ”หลังจากที่นั่งเงียบและรอให้หญิงสาวใจเย็นลงสักพัก เขาจึงเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งเพื่อว่าเธอจะยอมบอกหญิงสาวไม่ตอบอะไรมีเพียงความเงียบที่เป็นสิ่งปกคลุมบรรยากาศภายในห้อง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเดินไปหยิบอะไรบางอย่างออกมา“มีนมีของจะให้ค่ะ”มือบางยื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีน้ำเงิน ภายนอกดูเรียบหรูแต่ขนาดกล่องกลับเล็กจนน่าแปลกใจใบหน้าหล่อมองกล่องที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัยและแปลกใจในเวลาเดียวกัน แต่ภายในใจเขาก็คิดไปด้วยว่าอะไรจะอยู่ในกล่อง“เปิดดูสิคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม เธอนั่งมองชายหนุ่มที่กำลังแกะกล่องของขวัญอย่างตั้งใจ“มีนท้องใช่ไหม”ทันทีที่แกะออกและได้เห็นแท่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านในไคล์ตัลก็เดาได้ทันทีว่าต้องใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้อย่างแน่นอน“ค่ะ พี่ไม่ตื่นเต้นเหรอคะ” หญิงสาวพยักหน้าตอบก่อนจะถามกลับด้วยความแปลกใจ“ไม่ตื่นเต้น แต่พี่
เช้าวันต่อมาเป็นอีกวันที่อมีนาตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย มีเพียงกระดาษโน้ตใบเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียงนอนมือบางยื่นไปหยิบกระดาษมาอ่าน เพราะคิดว่าคงจะเป็นข้อความจากชายหนุ่มที่เขียนฝากไว้ให้เธออย่างแน่นอน‘วันนี้พี่มีงานด่วน แล้วจะรีบกลับมาหานะครับ’ทันทีที่อ่านจบใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาเคยบอกเธอเอาไว้ว่าถ้าหากเขามีงานด่วนเขาจะเขียนข้อความเอาไว้จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลานอนพักผ่อนของเธอหญิงสาวเก็บกระดาษไว้ในลิ้นชักก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะลงไปเล่นกับไมเนอร์ลูกชายคนเล็กลงมาเล่นกับไมเนอร์ได้สักพักอมีนาก็ขอตัวออกมาซื้อของข้างนอก โดยที่มีคนขับรถพาออกมาเช่นเคย เพราะเป็นคำสั่งของคุณชายที่สั่งเอาไว้ว่าห้ามให้เธอออกไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด“ให้ผมลงไปซื้อให้ไหมครับ” คนขับรถเอ่ยถามเหมือนกับทุกครั้งตามหน้าที่ เพราะข้างนอกอากาศค่อนข้างร้อนมาก“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธก่อนจะเดินลงจากรถและตรงไปยังร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกล“ซื้อที่ตรวจครรภ์หน่อยค่ะ” อมีนาเอ่ยบอกสิ่งที่เธอต้องการอย่างไม่ลังเล“ค่ะ”เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็หยิบของใส่ในกระเป๋าส
ห้าวันต่อมาและแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนจะต้องเดินทางกลับ หลังจากที่การเดินทางถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เพราะเด็กๆ ติดใจอยากอยู่ต่อ งอแงไม่ยอมกลับ แต่อมีนาก็พูดคุยกับลูกๆ ให้เข้าใจ จนในที่สุดเด็กๆ ก็ยอมกลับแต่โดยดีคฤหาสน์หลังใหญ่กำลังวุ่นวายและทำอาหารรอต้อนรับเจ้าของบ้านหลังจากที่ไปเที่ยวกันนานหลายวัน ก่อนจะเดินทางกลับคุณหญิงได้โทรบอกแม่บ้านจัดเตรียมอาหารไทยเอาไว้ทั้งคาวและหวาน เพราะรู้ดีว่าทุกคนนั้นคิดถึงอาหารไทยมากแค่ไหนเดินทางมาถึงบ้านในช่วงบ่ายเด็กๆ ก็นอนหลับสบายมาตลอดทาง แต่ทว่าหน้าที่ของคนเห็นแม่เมื่อมาถึงบ้านก็ต้องเก็บของออกจากกระเป๋าให้เรียบร้อย“ทำอะไรอยู่ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องนอน“มีนเก็บของอยู่ค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำเพื่อลูกๆ และสามี“เหนื่อยไหมครับ พักก่อนก็ได้นะ” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่เธอไม่จำเป็นต้องทำเองด้วยซ้ำ แค่เรียกแม่บ้านมาทำให้ก็จบแล้ว“นิดหน่อยค่ะ”“หิวไหมครับ”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบช่วงนี้เธอกินข้าวไม่ค่อยอร่อย ส่วนใหญ่จะเน้นของทานเล่นมากกว่าอาหาร“วัน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาการเดินทางไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับไคล์ตัลอีกต่อไป เพราะการทำงานเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อย แต่การได้พาลูกๆ และคนในครอบครัวเที่ยวนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าทำงานเพียงไม่กี่วันแต่อยู่เที่ยวต่อเกือบหนึ่งอาทิตย์ นานๆ จะได้พาลูกมาเที่ยวก็ต้องอยู่เที่ยวนานๆ ให้คุ้มค่ามากที่สุด“สนุกไหมครับ” ไคล์ตัลหันไปถามลูกๆ ที่เดินตามหลัง หลังจากที่พาไปเที่ยวสวนสนุกที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก“สนุกครับ” มาร์เวลตอบเสียงดัง“สนุกมากเลยค่ะ” ตามด้วยเสียงของมิราที่ยิ้มกว้างมาแต่ไกล“วันนี้เที่ยวสวนสนุกมาทั้เรางวันแล้ว เรากลับบ้านพักกันก่อนดีกว่านะคะ”“ค่ะ รอไมเนอร์โตก่อนแล้วเราค่อยพาไมเนอร์มาเที่ยวสวนสนุกกันอีกนะคะ” มิราสนุกจนอยากจะมาเที่ยวอีกครั้ง แต่ก็ติดตรงที่ว่าอยู่ไกล คงต้องรอน้องโตก่อนค่อยมาเที่ยวด้วยกันคงจะสนุกมากแน่ๆ“ได้ครับ ไว้พ่อจะพามาอีกนะ” ไคล์ตัลตอบลูกสาว“ถ้าคุณพ่อไปทำงานต่างประเทศแบบนี้อีกชวนมิรากับมาร์เวลไปเป็นเพื่อนได้นะครับ” มาร์เวลรีบเสนอตัวเองกับน้องสาวขึ้นมาทันที วันนี้อากาศหนาวหิมะตก ไมเนอร์ยังเด็กก็เลยต้องรอพี่ๆ อยู่ที่บ้านพัก“ได้ครับ” ไคล์ตัลหัวเร
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่ชายหนุ่มไม่ไปทำงานอยู่นานหลายเดือน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานอย่างหนักหน่วงกันแล้ว เนื่องจากบริษัทเติบโตไปในทางที่ดีมากขึ้นและมีคู่ค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ไคล์ตัลก็เลยต้องได้ออกงานและเดินทางไปพบปะและพูดคุยกับคู่ค้าใหม่ๆ อยู่บ่อยครั้ง“เลิกงานแล้วเหรอคะ” อมีนาเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ“วันนี้งานเยอะเหรอคะหรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า” อมีนายังคงถามต่อเพราะสีหน้าและท่าทางของไคล์ตัลยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนกับว่าเขากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง“เปล่าครับ” ไคล์ตัลปฏิเสธ“แล้วทำไมถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้ด้วยคะ” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม เพื่อจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง“พอดีมีงานที่ต่างประเทศที่พี่จะต้องไปเคลียร์ แต่พี่ไม่อยากไป” ร่างหน้าดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนจะตอบหญิงสาว“ทำไมถึงไม่อยากไปล่ะคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเรื่องงานเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร“ถ้าไปก็ต้องไปหลายวัน พี่ไม่อยากห่างลูก” ไคล์ตัลตอบเสียงเบาตั้งแต่มี
เช้าวันต่อมาหลังจากกิจกรรมปั้มลูกคนสุดท้ายจบลงอมีนาก็หมดแรงและนอนหลับสบายจนลืมเวลาตื่น จนกระทั่งได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งเอาไว้ในเวลาเก้าโมงเช้ามือบางยื่นไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังรบกวนโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว“พี่ไคล์ตัล” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มในขณะที่เธอนอนหลับตาอยู่และไม่รู้เลยว่าภายในห้องมีใครอยู่หรือเปล่า แต่ปกติในห้องนอนตอนเช้าก็มีแค่เธอกับเขาที่นอนด้วยกันทว่าในห้องกลับเงียบไร้เสียงตอบรับใดๆ อมีนาจึงลุกขึ้นนั่งและมองสำรวจรอบๆ ห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ในห้อง“หายไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ทำไมวันนี้เธอถึงได้นอนตื่นสายขนาดนี้นะ“สงสัยจะไปทำงานแล้วแน่เลย”อมีนาคิดไปในทางที่ดีเพราะเมื่อวานได้ยินชายหนุ่มบ่นว่าจะต้องไปทำงาน เธอรีบลุกจากเตียงนอนแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวทันทีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยอมีนาก็ลงมาหาลูกที่ห้องนั่งเล่น เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไมเนอร์นั่งกำลังเล่นอยู่กับพี่เลี้ยง ส่วนมิราก
หนึ่งปีต่อมาบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ มีลูกๆ หลานๆ คอยเติมเต็มความสุขให้กันในครอบครัว“ไมเนอร์นอนหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังกล่อมลูกนอนอยู่ แต่เอขก็ไม่มั่นใจว่าลูกหลับหรือยังเพราะมองไม่ค่อยถนัดชู่ววว~อมีนาส่งสัญญาณเพื่อให้อีกฝ่ายเงียบก่อน เพราะลูกกำลังจะเคลิ้มหลับถ้าหากมีเสียงดังรบกวนลูกอาจจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้คุณแม่คนสวยกล่อมลูกน้อยนอนจนหลับสนิทก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปหาชายหนุ่มที่ออกไปรออยู่ด้านนอกโชคดีที่อมีนาฝึกไมเนอร์ให้นอนและตื่นเป็นเวลา เธอพาลูกเข้านอนตอนสองทุ่ม ไมเนอร์ก็นอนยาวจนถึงเช้าได้อย่างสบาย ไม่ตื่นมางอแงกลางดึก“มีอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนรออยู่“พี่มีของจะให้” มือหนาจูงมือหญิงสาวเข้าห้องนอนตัวเองทันทีใบหน้าสวยขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยและแปลกใจในการกระทำของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรและยอมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย“ชุดอะไรคะ”เมื่อเปิดดูของที่อยู่ในถุงแบรนด์เนมอมีนาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที ซึ่งเป็นชุดที่ดูไม่เหมือนชุดเลยสักนิด เนื้อผ้าก็บางโปร่งเวลาที่ใส่ก็คงจะเหมือนกับไม่ได้ใส่ เพราะถ้าใส
สองวันต่อมา“เก็บของเสร็จหรือยังลูก” คุณหญิงเดินเข้ามาถามเมื่อวันนี้อมีนาจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว“เสร็จแล้วครับ กำลังรอมีนเปลี่ยนชุดอยู่ครับ” ไตล์ตัลตอบคุณแม่ ไม่นานอมีนาก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสยาวคลุมเข่า“งั้นแม่ลงไปรอข้างล่างนะ จะไปจ่ายค่าโรงพยาบาลให้” คุณหญิงบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป“คุณแม่ท่านใจดีกับมีนมากเลยนะคะ” อมีนาอดที่จะท้วงขึ้นมาไม่ได้และรู้สึกเกรงใจที่คุณหญิงทำทุกอย่างให้เธอขนาดนี้“ก็คุณแม่รักและเอ็นดูมีนไง” ไคล์ตัลกอดหญิงสาวแล้วช่วยพยุงเธอเดินมายังรถเข็นเนื่องจากแผลผ่าคลอดยังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่และอมีนาก็ยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ อยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จึงมาช่วยเข็นรถให้เธอนั่ง“มีน…” เสียงใครบางคนเรียกอมีนาขึ้นมาในระหว่างที่มายืนรออยู่ที่หน้าห้องกุมารเวชกรรม“เพียงดาว” อมีนายิ้มกว้างออกมาเมื่อได้เห็นเพื่อนรักอย่างเพียงดาวหลังจากที่ไม่ได้เจอและไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปี“สวัสดีค่ะคุณชาย” เพียงดาวยกมือขึ้นไหว้อดีตเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อนรัก“มาทำอะไรเหรอ” อมีนาถามเพื่อนรักด้วยความสงสัยเพราะตรงนี้เป็นตึกเด็กและเธอก็มายืนรอรับลูกชายกลับบ้าน“พาหลานมาหาหมอน่ะ
วันต่อมาหลังจากที่เมื่อวานทุกคนได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ก็ดีใจและตื่นเต้นกันใหญ่ ทำเอามิรากับมาร์เวลไม่อยากกลับบ้าน เพราะอยากจะเล่นกับน้องมากกว่า แต่ทุกคนก็ช่วยกันพูดให้เด็กๆ เข้าใจจนยอมกลับบ้านกันได้“ทำไมใส่ชุดนี้กันล่ะ” คุณตาถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนทั้งๆ ที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด“มาร์เวลจะไปหาน้องครับ” มาร์เวลตอบขึ้นมาก่อนใคร“แต่วันนี้ต้องไปโรงเรียนนะครับ” คุณตาพยายามพูดด้วยเหตุผล“ไม่ไปครับ มาร์เวลอยากไปหาน้อง” มาร์เวลยังคงยืนยันคำตอบเดิม“มิราก็อยากไปหาน้องค่ะ” ตามมาด้วยเสียงของมิรา“งั้นเราไปหาน้องกันนะ ย่าไลน์บอกคุณครูให้แล้วว่าวันนี้มิรากับมาร์เวลไม่ไปโรงเรียน” คุณย่าพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี สรุปว่าวันนี้ทุกคนจะต้องไปที่โรงพยาบาลกันหมด“เย้ๆ ไปหาน้องกันครับ” มาร์เวลกับมิรากระโดดดีใจกันยกใหญ่ที่จะได้ไปหาน้องคุณตาได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับท่าทางของคุณย่ากับหลานๆ ที่ดูตามใจกันสุดๆ ไม่ว่าหลานจะพูดอะไรก็ตามใจทุกอย่างใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องวีไอพีที่เคยมาเมื่อวาน โดยที่มีมิรากับมาร์เวลเดินนำทางอยู่ตลอด“มาร์เวลกับมิรามาหาน้องแ