หลายวันต่อมา หยางเสี้ยวนั่งมองเหล่าบรรดาพี่ชายน้องชายบ้านหยาง ทั้งบ้านปู่ใหญ่และบ้านท่านปู่ มองไปทางไหนก็ขัดหูขัดตา มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น น้องสาวไม่มี พี่สาวก็ยิ่งไม่มี รุ่นของท่านพ่อ มีอาเล็กที่เป็นลูกสาวคนเดียว บ้านปู่ใหญ่ มีลุงเฟิงเป็นลูกคนเดียวอีก นี่มันอะไรกัน “อาเสี้ยวเป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น
หยางเสี้ยวเดินนำหน้าทุกคนออกจากบ้าน เดินลัดเลาะไปตามชายป่าเช่นเคย วันนี้เขาคงไม่แวะที่ป่าละเมาะอีก ตั้งใจจะขึ้นไปบนภูเขาชิงหลงเลย ไม่รู้ว่าภูเขาชิงหลงจะมีความอุดมสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน ชาวบ้านในหมู่บ้านต้าเหลียนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ไม่ชอบขึ้นภูเขาล่าสัตว์สักเท่าไหร่ มีชาวบ้านส่วนน้อยที่จะเข้าป่าเพื่อหา
“ทำไมเหรออาเสี้ยว เกิดอะไรขึ้นต้าไป๋เห็นอะไรหรือ” หยวนเป่า“ไม่มีอะไร ต้าไป๋แค่ได้กลิ่นน้ำผึ้งน่ะ”“อ่อ สงสัยต้าไป๋อยากจะกินน้ำผึ้งกระมัง”ต้าไป๋ชายตามองหยวนเป่าแวบหนึ่ง มันได้แต่ก่นด่าว่าหยวนเป่าเจ้าโง่งม มันเป็นหมาไม่ใช่หมีมันจะอยากกินของหวาน ๆ เช่นน้ำผึ้งไปทำไมกัน“ทำไมมันมองหน้าข้าแบบนั้นล่ะ หรื
“ตกลง ขอบใจเจ้ามากอาเสี้ยว”เฮยเช่อที่ไปไม่นานก็กลับมา มันเรียกหยางเสี้ยวให้ไปช่วยลูกหมาจิ้งจอก แม่ของพวกมันเพิ่งคลอดพวกมันออกมา ก็ถูกงูเจ้าถิ่นจะมาขโมยลูกของมันไปกิน แม่หมาจิ้งจอกจึงสู้กับมันจนตาย ตอนที่เฮยเช่อไปถึงนั้น ได้ช่วยไล่งูเจ้าถิ่นไป แม่หมาจิ้งจอกเองก็ขาดใจตายไปแล้ว ส่วนลูกหมาทั้ง 3 ตัว ยั
เช้าวันต่อมา หยางเสี้ยวต้องเข้าเมืองไปขายโสม ส่วนจิ้งจอกน้อยทั้งสามตัว นอกจากไปขอแบ่งนมมาจากภรรยาของท่านลุงลู่จื้อแล้ว หน้าที่การดูแลเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยทั้งสามตัวล้วนเป็นหยางเสียนเด็กชายตัวน้อยยืนยันว่าจะดูแลก้อนขนทั้งสามเอง เสี่ยวไป๋ทำหน้าที่พี่ชายที่ดีเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเสี่ยวไป๋จะไม่ใช่เผ่าพั
“ข้ารู้แล้วน่า ไปกันเถอะ”ทางด้านพวกของหยางเฟยที่ไปจับปลากลับมาจากหลุมดักปลาที่ภูเขาชิงหลง วันนี้ได้ปลามามากกว่าเมื่อวาน ทั้ง 6 คนช่วยกันขนปลากลับมาด้วยความทุลักทุเล นอกจากปลาแล้วยังมีกุ้งกับปูภูเขาอีกจำนวนหนึ่งหลังจากกลับมาถึงบ้านของหยางเสี้ยวแล้ว พวกเขาเอาปลาทั้งหมดมารวมกัน จากนั้นก็แบ่งออกเป็น 7
เช้าวันนี้ หยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เด็กชายเดินไปเปิดหน้าต่าง ก็ถูกลมหนาวระลอกหนึ่งกระทบผิวหน้า เขาสะดุ้งจนตัวโยน นี่เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วอากาศเริ่มเย็นลงมากตั้งแต่หลายวันก่อน สัตว์ป่าล้วนแล้วแต่เข้าสู่ฤดูจำศีล ยกเว้นสัตว์ป่าที่พยายามทำตัวเป็นสัตว์บ้าน ที่ยังใช
“ท่านปู่อยู่บ้านหรือไม่ขอรับ"“อาเสี้ยวมาแล้วหรือ ท่านปู่ของเจ้ากำลังกินมื้อเช้าอยู่ เจ้ากินข้าวเช้ามาหรือยัง” หลินซื่อถามหลานชาย“ป้าสะใภ้ ข้ากินมาแล้ว ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับท่านปู่สักหน่อยขอรับ”“เข้าไปหาท่านปู่ของเจ้าที่โถงกินข้าวเถอะ”“ขอรับป้าสะใภ้”หยางเสี้ยวเดินเข้าไปในโถงกินข้าว ตอนนี้ทุกคน
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี