หลังจากอิ่มอร่อยกับน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวนุ่มละมุนแล้ว หยางเสี้ยวเก็บโหวจื่อเข้าถุงเฉียนคุน ต้าไป๋คาบถังหอยนางรมเดินนำหน้าหยางเสี้ยว มุ่งหน้าตรงไปยังหินโสโครกเพื่อเก็บหอยนางรมให้ได้มากที่สุด หยางเสี้ยวต้องการทดลองทำซอสหอยนางรมในวันนี้ หากว่าทำสำเร็จถือว่าโชคดีมาก หลังจากพวกเขาเดินตระเวนเก็บหอยนา
“ข้าต้องการของพวกนี้ ไม่ได้ต้องการปลาของท่าน ว่าอย่างไร พี่ชายพวกนี้ขายให้ข้าได้หรือไม่”“น้องชาย เจ้าจะซื้อมันจริง ๆ หรือ แต่ว่าไม่มีใครเขากินกันหรอกนะ ถึงแม้ข้าจะเคยกินแล้วสำหรับข้าคิดว่ามันอร่อยดีก็ตามที” หูเอ้อร์หลางเตือนหยางเสี้ยวด้วยความจริงใจ“พี่ชาย เจ้านี่กินได้ ที่บ้านของข้าเรียกตัวนี้ว่าก
หูเอ้อร์หลางลากรถเข็นที่เต็มไปด้วยปลา อาหารทะเล ตามหลังหยางเสี้ยวไป จนถึงบ้านเชิงเขา พวกของหยวนเป่าที่ไปเก็บหอยนางรมก็กลับมาถึงพอดี ที่ลานหลังบ้านหยางเฟยกับเจียงเว่ยสองคนช่วยกันทำชั้นสำหรับตากอาหารแห้ง “ว้าว อาเสี้ยว เจ้าไปซื้ออะไรมา มีกุ้งมากมายเลย มีปลาหมึกด้วย นั่นยังมีกุ้งตัวใหญ่อีก ว้าว ปูตัว
“หลังจากกินมื้อกลางวันแล้ว ข้าอยากจะลองทำเกลือสักหน่อย”“ทำเช่นใดหรืออาเสี้ยว” หยางเฟย“ตักน้ำทะเลมาต้มให้น้ำแห้ง ข้าคิดว่าน่าจะได้เกลือ ถ้าเราทำสำเร็จเราจะมีเกลือทะเลใช้เอง”“เช่นนั้นดีเลย ข้าจะช่วยไปตักน้ำทะเลมาให้เอง” หยางเฟย“พวกข้าด้วย พวกข้าจะไปช่วยตักด้วยเช่นกัน” เหวินข่ายมื้ออาหารจบลงอย่างร
เดินทางลัดเลาะขึ้นมาจนถึงยอดเขา ในจุดนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้านไห่ถังได้และสามารถมองเห็นชายทะเลได้เช่นเดียวกัน นับว่าเป็นทัศนียภาพที่งดงามมากทีเดียว หยางเสี้ยวยืนชมความงดงามของธรรมชาติอยู่เนิ่นนาน ในใจก็อดที่จะเสียดายไม่ได้ที่ตัวเองไม่สามารถรั้งอยู่ที่นี่ได้ตลอด ไม่รู้ว่าท่านพ่อ ท่านแม่ และน้องชายน้
“ฟ่อ งูไม่ได้เม้มนะ ก็แค่ลืมคืนให้เท่านั้นเอง เอาไปเลย เชอะ”หยางเสี้ยวเดินลงมาจากยอดเขา เดินมาได้ไม่ไกลก็มีหมีควายพุ่งเข้ามาจะตะปบหยางเสี้ยว เด็กชายเบี่ยงตัวหลบเดินออกมาไม่อยากจะทำร้ายมัน แต่เจ้าหมีเหมือนจะไม่ยินยอมให้หยางเสี้ยวได้จากไปอย่างง่ายดาย เมื่อมันเห็นว่าเด็กเพียงตัวนิดเดียวสามารถหลบกรงเล็
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางเสี้ยวยังคงเดินไปตามชายหาด เพื่อหาสถานที่ทดลองทำนาเกลือ วันนี้เขาจะไม่กลับมากินมื้อกลางวันเพราะจะไปเยี่ยมบ้านหลันเช่อที่ใต้ท้องทะเล เดินเลียบชายหาดมาเรื่อย ๆ ห่างจากบ้านพักประมาณ 10 ลี้ได้ ในที่สุดก็ได้สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำนาเกลือแล้ว ที่นี่ห่างไกลและลับตาคน เป็นที่ราบและ
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยองค์ราชาพะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นพวกลูกทูลลาพะย่ะค่ะ”หลันเช่อพาหยางเสี้ยวกลับขึ้นมาข้างบน จากนั้นก็กลายร่างเป็นที่รัดผมตามเดิม หยางเสี้ยวดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเลเพื่อเก็บอาหารทะเล เจ้าดำกับเจ้าเขียวไม่ชอบลงน้ำทะเล หยางเสี้ยวทำได้แค่เก็บพวกมันเข้าถุงเฉียนคุนไป หลังจากไ
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี